“ฝ่าบาทอยู่ที่ใด?”
เซียวเฉวียนหยิบตราประทับเหวินอิ้นขึ้นมา จงกุ้ยมองไปที่เขาด้วยความตื่นตระหนก ทำความเคารพพร้อมกล่าวว่า “ใต้เท้าเซียว ฝ่าบาทอยู่ในพระราชวัง”
“เอ๋?” เซียวเฉวียนขมวดคิ้วขึ้นมา “ต้าเว่ยของพวกเจ้ามีการกระจายเสียงงั้นหรือ?”
ฮ่องเต้อยู่ในพระราชวัง ซึ่งห่างไกลจากหอปี๋เซิ่งเป็นอย่างมาก เหตุใดเสียงของเขาถึงส่งมาที่แห่งนี้ได้?
“การกระจายเสียงงั้นหรือ?” จงกุ้ยไม่เข้าใจความหมายของมัน เขาจึงอธิบายออกมาว่า “ใต้เท้า ตราประทับเหวินอิ้นสามารถส่งเสียงผ่านอากาศได้ ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องมาที่หอปี๋เซิ่งก็สามารถพูดคุยกับพวกท่านได้”
“นั่นมันก็เหมือนกับลำโพงตัวใหญ่ไม่ใช่หรือ?” เซียวเฉวียนจับจ้องไปที่ตราประทับเหวินอิ้นในมือของเขา “ของเล่นชิ้นนี้ของพวกเจ้า ช่างน่าสนใจยิ่งนัก”
จงกุ้ยตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก “ใต้เท้าเซียว ตราประทับเหวินอิ้นเป็นสมบัติล้ำค่าของราชวงศ์จักรพรรดิ ไม่สามารถเอามาเป็นของเล่นได้ ได้โปรดมอบมันคืนให้ข้า”
“รับไว้” เซียวเฉวียนโยนมันไปด้วยความรังเกียจ ทำให้จงกุ้ยตกใจเป็นอย่างมาก มือทั้งของข้างของเขาสับสนวุ่นวาย “แย่แล้ว แย่แล้ว”
“ฝ่าบาทจะปฏิบัติตามพระดำรัสของตนเองหรือไม่?”
“อะไร?” จงกุ้ยตะลึงงัน ตอนนี้เซียวเฉวียนถึงได้เข้าใจ คนที่อยู่ด้านนอกของหอปี๋เซิ่งนั้นไม่ได้ยินในสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกับฮ่องเต้เมื่อครู่
“ฝ่าบาทตรัสว่าจะจัดการกับพวกเร่ร่อนในยุทธภพ”
จงกุ้ยพยักหน้า “ปีศาจกวีและกองทัพตระกูลฉินร่วมมือกัน พวกเร่ร่อนในเมืองหลวงทั้งหมดถูกจัดการไปเรียบร้อยแล้ว”
เซียวเฉวียนตกตะลึง เขากับเว่ยชิงอยู่ที่นี่ยังไม่ถึงหนึ่งชั่วยามเลยด้วยซ้ำ ฮ่องเต้ลงมือได้อย่างรวดเร็วเสียจริง!
“คุณชายใหญ่ฉินไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
ร่างกายของจงกุ้ยสั่นเทาเล็กน้อย ราวกับว่ากำลังหวาดกลัวอะไรบางอย่าง
“ไม่เป็นไร ยังอยู่ดี” เซียวเฉวียนหันศีรษะ มองไปที่ฉินเฟิงซึ่งกำลังนอนกะโผลกกะเผลกอยู่บนพื้น โชคดีที่มีพู่กันจินหลุนเฉียนคุนอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นฉินเฟิงคงตายไปแล้ว
จงกุ้ยชำเลืองมองพู่กันสีแดงในอ้อมแขนของเซียวเฉวียน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย “พู่กันนี้ ใต้เท้าเซียวได้มันมาจากที่ใด?”
“ท่านอาจารย์เป็นคนมอบให้ข้า”
มันเป็นพู่กันที่ยอดเยี่ยม พู่กันที่สามารถทนต่อแรงกดดันและแรงข่มขี่ของตราประทับเหวินอิ้นได้ มันจะต้องเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนคลั่งไคล้อย่างแน่นอน
ท่าทางของจงกุ้ยเต็มไปด้วยความหมาย “ใต้เท้าเซียว จะให้ผู้อื่นรับรู้ถึงความยอดเยี่ยมของพู่กันเล่มนี้ไม่ได้”
“โดยเฉพาะพวกของเว่ยเจียนกั๋ว......”
“หากเว่ยชิงไม่พูดก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เป็นแน่” เซียวเฉวียนขุดหลุมฝังให้เว่ยชิงอย่างสง่างาม
เขาต้องการบอกเรื่องราวเหล่านี้ผ่านจงกุ้ยไปยังฮ่องเต้ หากเว่ยเจียนกั๋วรับรู้เรื่องนี้ เช่นนั้นเว่ยชิงก็เป็นผู้เปิดเผยความลับแต่เพียงผู้เดียว
“เช่นนั้นข้าขอตัวนำตราประทับเหวินอิ้นกลับไปตามคำสั่งของฝ่าบาท”
จงกุ้ยทำความเคารพอีกครั้ง จากนั้นก็ย่างก้าวออกไปอย่างเคร่งขรึม เมื่อก้าวออกไปได้สามก้าว เขาหันกลับมามองพู่กันเล่มนั้นของเซียวเฉวียนอีกครั้ง จากนั้นก็จากไปอย่ารวดเร็ว
ประตูของหอปี๋เซิ่งถูกเปิดออก เหล่าสาวกในตระกูลขุนนางที่ยืนรออยู่ด้านนอกต่างก็ส่งเสียงตะโกนออกมา “ท่านอ๋องออกมาแล้ว!”
“ยินดีกับท่านอ๋องด้วย!”
“ยินดีกับท่านอ๋องด้วย!”
เหล่าสาวกในตระกูลขุนนางก้มหน้าเหมือนกับสุนัขที่นอบน้อม ประสานมือกันร้องเรียกให้เว่ยชิงปรากฏตัวออกมา
“ไม่จำเป็นต้องมากพิธี!”
“เหตุใดวันนี้ถึงดูสุขุมยิ่งนัก ถึงขั้นตอบรับพวกเราอย่างสุภาพ? ฮ่าฮ่าฮ่า!”
เหล่าสาวกในตระกูลขุนนางได้ยินเสียงนั้นต่างตะลึงงัน เงยหน้าขึ้นมาทันใด เหตุใดจึงเป็นเซียวเฉวียน? หรือว่าผีหลอก?
เห็นเซียวเฉวียนเดินออกมา ประสานมือให้ทุกคนพร้อมกับจ้องมองมาที่พวกเขาด้วยความสนใจ “ลุกขึ้นเถิด ไม่จำเป็นต้องสุภาพถึงเพียงนี้”
“นี่เจ้า!”
เหล่าคุณชายเห็นเพียงคราบเลือดที่มุมปากของเซียวเฉวียน จุดอื่นบนร่างกายไม่มีร่องรอยของการได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ศีรษะไม่ได้ถูกบดขยี้ ร่างกายทุกส่วนยังคงสมบูรณ์พร้อม
ใบหน้าของพวกเขาซีดขาว เซียวเฉวียนยังมีชีวิตอยู่!
“เอือก......”
เสียงร้องแห่งความเจ็บปวดดังขึ้นมาในทันใด เซียวเฉวียนยิ้มออกมา ตอนนั้นเขาถึงตระหนักได้ว่ามีคนสองคนกำลังนอนอยู่บนพื้น
คนหนึ่งคือขันที กระดูกทั่วทั้งร่างกายของเขาแหลกสบาย นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นไม่ต่างอะไรกับคนตาย
ส่วนอีกคน......โย่วควน?
โย่วควนมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
เซียวเฉวียนก้าวออกมาด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้เหล่าคุณชายตกใจจนก้าวถอยกลับไปด้านหลัง!
“โย่วควน!” เซียวเฉวียนพยุงร่างของเขาขึ้นมา แต่พบว่ากระดูกแขนของเขาทั้งสองข้างแหลกสลายไปแล้ว! ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยแผล!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...