ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 304

“มีคำสั่งจากกองราชองครักษ์! ผู้อารักขารับคำสั่ง!”

หมายค้นถูกกระจายไปตามถนน มีคนถูกส่งไปขี่ม้าตีฆ้องเป็นสัญญาณ ผู้อารักขาทุกคนในเมืองหลวงละทิ้งนายของตนทันที

หมายค้นระบุว่าหากทราบที่อยู่หรือข่าวคราวที่ชัดเจนของปีศาจกวี ผู้อารักขาจะได้รับรางวัล

รางวัลนี้คือการถอดสถานะของผู้อารักขาและเปลี่ยนสถานะเป็นพลเรือน

หากเขาได้รับสถานะพลเรือนเขาจะไม่ต้องพึ่งพาเจ้านายอีกต่อไป นอกจากนี้เขายังสามารถมีส่วนร่วมการทดสอบขุนนางเพื่อเป็นขุนนางในราชสำนักได้อีกด้วย

เช่นเดียวกับหลี่มู่ที่เขากลายเป็นขุนนางในราชสำนักเนื่องจากความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของเขา

แน่นอนว่าค่าตอบแทนที่ดีเช่นนี้ เหล่าผู้อารักขาย่อมมีความสุขมากเป็นธรรมดา

ไม่ว่าจะเป็นในจวนสุดหรูหรือลานเรือนชาวบ้าน เหล่าผู้พิทักษ์ล้วนหลั่งไหลออกมาทีละคน

นายของพวกเขายอมตกใจมาก เกิดเรื่องอะไรขึ้น?

ไม่ต้องพูดว่าเซียวเฉวียนไม่รู้ แม้แต่ปัญญาชนที่มีอำนาจต่างก็ไม่รู้ว่าผู้อารักขาของตนยังต้องฟังอาณัติแห่งสวรรค์

ท้ายที่สุดแล้วในใจของทุกคน ผู้อารักขาเป็นอาชีพที่ต่ำต้อย และผู้อารักขาก็มาจากภูมิหลังที่ต่ำต้อยเช่นกัน ทาสคุนหลุนเทียบไม่ได้กับทาสทั่วไปด้วยซ้ำ ดังนั้นฮ่องเต้ย่อมไม่มีเวลาสนใจพวกเขา

กองราชองครักษ์เป็นเพียงหน่วยงานที่ไม่มีความมั่นคง

วันนี้หลี่มู่ออกหมายค้นเพื่อตามหาปีศาจกวีทำให้ทุกคนตกตะลึงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

สงครามที่ดุเดือดของหลี่มู่ต้องได้รับอนุญาตจากฮ่องเต้ เซียวเฉวียนเคยล้มเหลวในการเข้าไปในวังหลวงมาก่อนหลายครั้ง เนื่องจากองค์ฮ่องเต้ไม่รู้ว่าปีศาจกวีไปอยู่ที่ใด พระองค์จึงไม่เรียกเซียวเฉวียนเข้าวัง

วันนี้นับตั้งแต่ก่อตั้งกองราชองครักษ์นี่เป็นครั้งแรกสำหรับการต่อสู้ครั้งใหญ่เช่นนี้ เซียวเฉวียนคิดว่าต้องมีอะไรผิดปกติกับการสรรหาจอมยุทธ์ในรัฐไป๋ลู่ของฮ่องเต้

เป็นเรื่องง่ายมากสำหรับองค์ฮ่องเต้ในการสรรหาจอมยุทธ์ในเมืองหลวง ท้ายที่สุดนี่คืออาณาเขตของพระองค์

แต่รัฐไป๋ลู่นั้นอยู่ไม่ไกลหรือใกล้กับเมืองหลวงมากนัก ถึงแม้ฮ่องเต้จะทรงเหยียดพระหัตถ์ก็คงไม่มีผลเท่าในเมืองหลวง

ดังนั้นวันนี้ฮ่องเต้จึงทำให้เหล่าจอมยุทธ์ตกใจด้วยการตามหาปีศาจกวี

นอกจากนี้ยังสร้างความตื่นตระหนกให้กับปรมาจารย์ที่อยู่เบื้องหลังจอมยุทธ์อีกด้วย

ปัจจุบันเมืองหลวงของต้าเว่ยมีประชากรหกแสนคน ต้าเว่ยบูชาวรรณกรรมมาโดยตลอดและยังมีปัญญาชนมากกว่านักรบหลายเท่า

ปัญญาชนจากทั่วต้าเว่ยนิยมเดินทางมาเมืองหลวง ในเมืองจึงมีปัญญาชนประมาณเจ็ดหมื่นคนที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงอย่างถาวร

มีปัญญาชนเจ็ดหมื่นคน ย่อมต้องมีผู้อารักขามากกว่าเจ็ดหมื่น

ผู้คนกว่าเจ็ดหมื่นคนหลั่งไหลออกมา วิ่งพล่านไปทั่วทั้งในและนอกเมืองหลวง คนมากย่อมแข็งแกร่งมาก ในไม่ช้าย่อมได้ข่าวคราวของปีศาจกวี

ขณะที่ผู้อารักขาวิ่งไปทั่ว ความสนใจของคนทั่วไปที่มีดีแค่การนินทาก็ถูกดึงออกมาทันที

วันนี้เมืองหลวงคึกคักจริงๆ มีทั้งเรื่องของปีศาจกวีและประลองยุทธเลือกคู่ขององค์หญิง

ไอโย เหล่าคนทั่วไปไม่รู้ว่าควรสนใจฝ่ายไหนดี

ในวันนี้บ่อนพนันมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น คราวที่แล้วก็คึกคักเช่นนี้เมื่อเดิมพันว่าเซียวเฉวียนจะคว้าอันดับหนึ่งในการแข่งขันหรือไม่

ครั้งที่แล้วเซียวเฉวียนอารมณ์เสียอย่างมากจนทำให้หลายคนขาดกางเกง คราวนี้นักพนันได้รับบทเรียนในการเลือกผู้ชนะแล้ว

มีไม่น้อยที่เลือกเซียวเฉวียน

เซียวเฉวียนค่อนข้างได้รับความนิยมในบ่อนพนัน แต่สุดท้ายเขาก็แต่งงานแล้ว และยังมีคนที่เลือกเซียวเฉวียนน้อยมาก

ดังนั้นผู้สมัครที่ได้รับความนิยมสูงสุดสามอันดับแรกสำหรับฐานะพระราชบุตรเขยคือเว่ยชิง เหลียงไหวโหรวและจ้าวหลาน

เดิมทีสามอันดับแรกนี้เป็นฉินเฟิงที่อยู่ในอันดับที่สาม แต่ปรากฏว่าฉินเฟิงได้รับบาดเจ็บสาหัสและสมัครใจออกจากการประลองยุทธเลือกคู่ ดังนั้นชื่อของฉินเฟิงจึงถูกลบออก

น่าเสียดาย ช่างน่าเสียดาย

เป็นผลให้ผู้ที่สนับสนุนฉินเฟิงหันไปสนับสนุนจ้าวหลาน

ในบรรดาสามอันดับแรก เหลียงไหวโหรวชายหนุ่มจากครอบครัวที่ยากจน มีเพียงคนเดียวที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งใหม่ขึ้นไปอยู่ในอันดับสอง ในขณะที่อีกสองคนเป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในบรรดาผู้มีอำนาจ

เว่ยชิงเป็นอ๋องแห่งรัฐไป๋ลู่

แม้ว่าจ้าวหลานจะไม่ดีเท่าเว่ยชิง แต่สถานะของเขายังคงมีค่ามาก

ตำแหน่งซานกงอันได้แก่อัครเสนาบดี สมุหพระกลาโหม และสมุหพระอาลักษณ์

แซ่ของสมุหพระกลาโหมคือจ้าว ชื่อของเขาคือจินไหล ตำแหน่งอย่างเป็นทางการของเขาถึงระดับสูงสุดแล้ว และจ้าวหลานเป็นลูกชายคนโตของจ้าวจินไหล

จ้าวจินไหลไม่ได้เข้าข้างเขา เขาไม่ได้มาจากฝ่ายเว่ยเจียนกั๋วและเขาไม่ฟังคำพูดของฮ่องเต้

เขาไม่ต่างจากเฉาสิงจือที่เป็นคนตรงไปตรงมาและหงุดหงิดยิ่งกว่า

หากคนจากฝ่ายเว่ยเจียนกั๋วสับสนระหว่างความถูกผิด จ้าวจินไหลจะตำหนิและต่อต้านพวกเขาอย่างรุนแรง

หากฮ่องเต้ผิด จ้าวจินไหลจะพูดออกมา

กล่าวได้ว่าจ้าวจินไหลจะสู้กับใครก็ตามที่เขาคิดว่าผิด

อย่างไรก็ตามองค์ฮ่องเต้ชอบความภักดีและเที่ยงธรรมของจ้าวจินไหล ดังนั้นจ้าวจินไหลจึงดำรงตำแหน่งได้อย่างมั่นคงเสมอมา

จ้าวจินไหลสอนลูกๆ ของเขาได้ดีและเข้มงวดกับจ้าวหลานมาก

จ้าวหลานอ่านหนังสือเก่งและมีอุปนิสัยที่ดี

เซียวเฉวียนกระสับกระส่ายและถามหลี่มู่เป็นครั้งคราว

“ยังไม่มี พักผ่อนเถอะ”

หลี่มู่ไม่เข้าใจเลย ปากของเซียวเฉวียนบอกว่าเขาเกลียดปีศาจกวีมาก แต่ในช่วงเวลาสำคัญเซียวเฉวียนกลับใส่ใจอาจารย์ของเขามากที่สุด

ขณะที่เว่ยชิงกำลังเตรียมการประลองยุทธเลือกคู่จึงไม่มีความเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย

เป็นเหตุผลที่ว่าเนื่องจากกองราชองครักษ์ได้ออกหมายค้นและมีการต่อสู้ครั้งใหญ่ ก็สามารถเดาได้ด้วยปลายเท้าว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับปีศาจกวี

เว่ยชิงกล่าวว่าปีศาจกวีคือความฝันของเขา แต่กลับกลายเป็นว่าเขาไม่คิดแยแส

หลี่มู่จะรู้ได้อย่างไรว่าองค์หญิงคือความฝันของเว่ยชิงเช่นกัน

เมื่อต่างก็ล้วนเป็นความฝัน การประลองยุทธเลือกคู่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ย่อมมีลำดับความสำคัญอยู่เสมอ

และเว่ยชิงก็คิดเช่นนั้นจริงๆ ในขณะนี้เว่ยชิงกำลังอบอุ่นร่างกายในสนามฝึกของราชวงศ์เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขัน

“ท่านอ๋อง เซียวเฉวียนไม่อยู่ที่นี่” จูโชงมองไปรอบๆ แล้วรับหน้าที่ให้กำลังใจเว่ยชิง

ในหูของเว่ยชิง ดูเหมือนว่าจูโชงจะพูดว่า ท่านอ๋องไม่ต้องกังวล ครั้งล่าสุดท่านไม่สามารถเอาชนะเซียวเฉวียนได้ แต่คราวนี้ เซียวเฉวียนไม่อยู่ที่นี่ ท่านสามารถชนะได้

เว่ยชิงมองจูโชงด้วยรูปลักษณ์ที่หาได้ยากและไม่สุภาพนัก “ไปให้พ้น”

จูโชงรีบก้มหัวลงอย่างรวดเร็ว “พะ พ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยผิดพลาดไปแล้ว”

อย่างไรก็ตามคำพูดของเซียวเฉวียนยังคงทำให้หัวใจของเว่ยชิงเต้นรัว

ไม่ใช่เซียวเฉวียนบอกว่าอยากให้เขาชดใช้ชีวิตของตระกูลสวี่ทั้งสามคนหรือ แต่หลังจากการต่อสู้กับตราประทับเหวินอิ้นครั้งล่าสุดก็ไม่มีการเคลื่อนไหวจากเซียวเฉวียนอีก

นี่ไม่เหมือนนิสัยของเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนกล่าวว่าตนยอมสละชีวิตเพื่อตระกูลสวี่ ยามนี้เป้าหมายของเขายังไม่บรรลุเขาจะไม่ยอมแพ้เป็นแน่

บางทีเซียวเฉวียนอาจกลัวตราประทับเหวินอิ้น ดังนั้นจึงไม่กล้าที่จะลงมือกับเขา ฮืม ช่างเป็นคนขี้ขลาดจริงๆ!

เขาคิดว่าเซียวเฉวียนไม่กลัวฟ้าดิน แต่ดูเหมือนเซียวเฉวียนยังคงกลัวตราประทับเหวินอิ้นมาก!

ไม่เป็นไร วันนี้ต้องขอองค์หญิงแต่งงานก่อน!

เว่ยชิงเต็มไปด้วยความมั่นใจ ชายที่ร่ำรวยเช่นเขาคือตัวเลือกที่ดีที่สุดขององค์หญิง

ส่วนเซียวเฉวียน?

เซียวเฉวียนเป็นเพียงเศษเสี้ยวที่ถูกตราประทับเหวินอิ้นปราบปราม!

ตราบใดที่ตราประทับเหวินอิ้นยังอยู่ เซียวเฉวียนจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงใต้หล้าได้!