ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 308

ไป๋ฉีหลบเลี่ยง มือของขันทีไม่ได้ตบหน้าของเขา ขันทีโกรธขนกรีดร้องเสียงแหลมเหมือนหญิงสาว “บังอาจ!” เจ้ากล้าหลบอย่างนั้นหรือ!”

นายของข้าคือนายท่านแห่งชิงหยวน เจ้ากำลังยั่วยุไม่มีเหตุผล ต้องการสิ่งใด”

เหล่าผู้อารักขาคนอื่นต่างมองหน้ากัน ไป๋ฉีตะโกนเสียงดัง

พอนายไม่อยู่ เหล่าผู้อารักขาต่างพากันเก็บห่างของตัวเอง เพราะกลัวว่าจะพลาดไปยั่วยุให้ใครไม่พอใจ ถึงอย่างไรผู้อารักขาสถานะนี้ก็ไม่ได้รับการต้อนรับอยู่แล้ว

แต่ไป๋ฉีช่างกล้าโต้กลับ?

ผู้อารักขาของเซียวเฉวียนนั้นแตกต่าง!ว่ากันว่านายเป็นอย่างไรบ่าว็เป็นเช่นนั้น!

เจ้านายอวดดี ผู้อารักขาก็อวดดี!

ไป๋ฉีสูงกว่าคนทั่วไป แม้แต่ผู้อารักขาด้วยกันก็ยังไม่มีใครแข็งแกร่งกว่าเขา ตะโกนเสียงดัง ก็เพื่อยกตนข่มท่าน!

ขันทีทั้งสองคนเหมือนลูกเจี๊ยบเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเขา พวกเขาอกสั่นขวัญแขวน ไม่อยากเชื่อ เป็นแค่ผู้อารักขาแต่กล้าทำกิริยาสามหาวเช่นนี้!

“เจ้าขโมยของ!” ขันทีตะโกนเสียงแหลม “เอาออกมาเดี๋ยวนี้!”

ตามหลักเหตุผลแล้ว คุณสมบัติของผู้อารักขาคือทหารคนสนิทของนาย ได้หลุดพ้นจากการเป็นทาส เพียงแต่มาจากครอบครัวยากจน ดังนั้นสังคมจึงไม่สูงมากนัก

แต่ขันทีเป็นถึงทาสรับใช้ของฮ่องเต้ ถือว่ายังไม่หลุดพ้นจากการเป็นทาส ก็ยังเป็นทาสรับใช้อยู่วันยังค่ำ

ดังนั้นสถานะของไป๋ฉีย่อมสูงกว่าขันทีสองคนนี้ ยิ่งไปกว่านั้นผู้เป็นนายของไป๋ฉีก็เป็นถึงเจ้าแห่งชิงหยวน เจ้าของห้องหนังสือห้องแรกของราชสำนัก ถ้าเซียวเฉวียนอยู่ แล้วขันทีสองคนนี้แสดงกิริยาหยาบตคายเช่นนี้ ไป๋ฉีจะเหวี่ยวหมัดให้พวกเขากินสักสองสามหัด ก็คงเป็นเรื่องปกติ

แต่เซียวเฉวียนกำลังประลอง ตามกฎแล้ว ผู้อารักขาห้ามชกต่อยคนอื่นหากไม่มีคำสั่งจากผู้เป็นนาย

ดังนั้น ไป๋ฉีจึงทำได้แค่หลบเลี่ยง

ขันทีสองคนนี้ตั้งใจมาช่วงชิงภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิของคุณหลุน แต่ก็จนปัญญาเพราะไป๋ฉีเย่อหยิ่ง เขาชูแขนขึ้นฟ้า ขันทีสองคนนี้กลับเอื้อมไม่ถึง!

ขันทีสองคนนี้ทั้งดึงทั้งกระชาก เหมือนลิงที่กระโดดขึ้นลง อย่าว่าแต่ภาพวาดเลย แม้แต่มือของไป๋ฉีก็ยังแตะไม่ถึง!

ภาพวาดผืนนี้ น่าขันยิ่งนัก!

“พรวด!”

ในที่สุดก็มีคนทนไม่ไหว แอบหัวเราะเยาะหนึ่งเสียง

เสียงหัวเราะนี้เหมือนการจุดถังดินปืน ทุกคนต่างพากันหัวเราะเสียงดัง

“ฮ่า ๆ!”

“ฮ่า ๆๆๆ!”

ขันทีถูกหัวเราะเยาะจนหน้าแดง รีบยืดตัว ไม่กระโดดยื้อแย่งอีก แต่พยายามใช้สถานะข่มผู้อื่น “หัวเราะอะไร!ในบรรดาพวกเจ้าหากใครแย่งภาพวาดผืนนี้ได้!ท่านอ๋องจะทรงพระราชทานรางวัลให้อย่างงาม!”

ผู้อารักขาคนอื่นไม่สนใจขันที พวกเขาจะฟังคำสั่งของผู้เป็นนายเท่านั้น ต่อให้ขันทีสองคนนี้จะเป็นคนของท่านอ๋อง พวกเขาก็ทำลายกฎเด็ดขาด

ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนที่อยู่ที่นี่ ไม่มีใครเอาชนะไป๋ฉีได้!

ทุกคนต่างรู้ดีว่าเซียวเฉวียนแต่งกวีได้น่าทึ้งเพียงใด ไป๋ฉีและเหมิงเอ้าได้กลายเป็นผู้อารักขาที่เก่งที่สุดไปด้วย!

พวกเขาทั้งอิจฉาและกลัว

อิจฉาที่ตัวเองไม่ได้ติดตามนายที่มีความสามารถเช่นนี้

กลัวศึกระหว่างนายของตัวเองและเซียวเฉวียน ถึงตอนนั้นหากนายของตนสู้กับเซียวเฉวียน พวกเขาจะต้องสู้ไป๋ฉีไม่ได้แน่นอน นายไม่เป็นไร แต่พวกเขาต้องตายแน่นอน

“พวกเจ้า...พวกเจ้า....” ขันทีกระทืบเท้าด้วยความโกรธ “ไม่มีขันทีคนไหนในเมืองหลวงไม่สนิมสนมกับท่านอ๋อง !พวกเจ้ากล้านิ่งเฉย!”

“รอให้นายของพวกเจ้าออกมาก่อนเถอะ ดูสิว่าพวกเขาจะสั่งสอนเจ้าอย่างไร!”

ขันทีดุด่าเสียงดัง ผู้อารักขาของแต่ละตระกูลก็ยังไม่สนใจ กฎก็ต้องว่าไปตามกฎ ไม่มีคำสั่งจากผู้เป็นนายห้ามทะเลาะกัน

ไป๋ฉีถอนหายใจ

เวลานี้ไป๋ฉียังเป็นคนมีเมตตา ไม่ได้เปล่งกลิ่นอายจิตสังหารออกมา ตอนนี้เขาไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนร่วมทาง

ถ้าจะต้องสู้กันจริง ๆ เกิดนองเลือดคงไม่ดีกับใครทั้งนั้น

ขันทีสองคนนี้กลัวว่าโลกไม่วุ่นวาย จึงพยายามปลุกปั่น กระทั่งมีเสียงตะโกนดังขึ้น “บังอาจ!ใครบังอาจกสร้างปัญหา!”

ทุกคนต่างกันกลับมา กระทั้งพบกับหญิงสาวที่แต่งกายด้วยชุดราคาแพง ใบหน้าดูเป็นผู้ดีมีสกุล น่าเกรงขาม ข้างกายมีสาวใช้อีกหนึ่งคน!

ไป๋ฉีตะลึงงัน ฉินซูโหรวและอาเซียงมาทำอะไรที่นี่?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย