สุนัขป่าตัวนั้นส่งเสียงคำราม กระโจนไปด้านหน้าพร้อมฟันที่แยกเขี้ยว!
ไว!
จะต้องว่องไว!
มิเช่นนั้น หากไม่รีบฆ่าสุนัขป่า เซียวเฉวียนจะต้องเสียเปรียบแน่นอน!
เซียวเฉวียนโบกสะบัดดาบจิงหุนขึ้น!
จะต้องคร่าชีวิตสุนัขป่าด้วยคมดาบ!
ท่าไม่ดี!
สุนัขตัวนี้กระโจนแรงเกินไป!
ดาบจิงหุนไม่โดนตัวของมัน!
“โฮก!”
สุนัขป่าโจมตีเซียวเฉวียนราวกับกำลังบ้าคลั่ง แม้ว่าดาบจิงหุนจะสร้างบาดแผลแก่มัน แต่มันก็ไม่ยอมถอยแม้เพียงนิดเดียว!
“ไป!”
“ไป!”
“ไป!”
ทุกวันนี้เซียวเฉวียนมีหน้าตาในสังคม ทุกคนต่างตะโกนร้องให้บุกเข้าไป คนที่ไม่รู้คงคิดว่าพวกเขาเหล่านี้ส่งแรงใจให้กับเซียวเฉวียน!
ความจริงทุกคนรู้อยู่เต็มอก พวกเขากำลังส่งแรงใจให้สุนัขตัวนั้น!
กัด!
กัด!
กัดจนเซียวเฉวียนยอมแพ้!
การประลองเป็นไปอย่างดุเดือด และทั้งสิบสองกลุ่มก็ส่งเสียงให้กำลังใจอย่างดุดัน ดึงดูดความสนใจของผู้ชมทั้งหมด
กลางสนามฝึก มีกระท่อมน้อยที่ถูกสร้างขึ้นมา และมีเหล่าขุนนางนั่งกันอยู่
หลังจากที่แต่ละกลุ่มจากยี่สิบแปดกลุ่มมีผู้ชนะหนึ่งคน คนยี่สิบแปดคนก็ทำการประลองกัน จากนั้นขุนนางเหล่านี้ก็ก้าวเข้ามาเป็นผู้ตัดสิน
ขุนนางที่ใหญ่ที่สุดในนั้น ก็คืออัครเสนาบดีจูและจ้าวไท่ชิง
เสียงจากกลุ่มที่สิบสองดังขนาดนั้น เหล่าขุนนางต้องรู้แจ้งอยู่แล้ว
“ได้ยินมานานว่า คุณชายรองของจ้าวไท่ชิงมีฝีมือมาก ได้เห็นกับตาวันนี้แล้ว ช่างห้าวหาญเสียจริง”
“จริงด้วย คนหนุ่มเก่งนำหน้าคนรุ่นก่อนเสียแล้ว”
“ใต้เท้าจ้าวมีวาสนาจริง ๆ มีลูกชายอย่างคุณชายใหญ่จ้าวที่สอบจอหงวนได้ และยังมีคุณชายรองจ้าวที่องอาจห้าวหาญเช่นนี้ ตระกูลนี้เก่งทั้งบู๊และบุ๋นเลยทีเดียว”
วันนี้เป็นการประลองยุทธเลือกคู่ขององค์หญิง ซึ่งไม่อาจละเลยได้ ขุนนางในสนามต่างก็มียศระดับสามขึ้นไป ไม่มีขุนนางผู้น้อย
พวกเขาเยินยอจ้าวซิ่น ก็เป็นการชื่นชมอย่างจริงใจ
จ้าวไท่ชิงไม่ชอบให้ผู้อื่นพูดจาประจบสอพลอ เมื่อได้ยินผู้ที่ตำแหน่งน้อยกว่าเยินยอ เขาเพียงแต่พยักหน้า ไม่ได้เสียใจ แต่ก็ไม่ได้ดีใจด้วย
ปกติสวีซูผิง รัฐมนตรีการคลังมักจะพูดจนน้ำไหลไฟดับ และรักการนินทาอย่างที่สุด แต่วันนี้กลับไม่พูดแม้แต่คำเดียว
เขาไม่ได้พบเซียวเฉวียนมานานแล้ว เพราะว่าตัวเขาเองค่อนข้างยุ่ง ในช่วงนี้การฟื้นฟูของระบบผู้อารักขา ทำให้รัฐมนตรีการคลังต้องแจ้งชื่อเข้ากรมของเหล่าผู้อารักขาอยู่ทุกวัน จนแทบไม่มีแม้แต่เวลาจะเข้าห้องน้ำ
เขาเองก็รู้ดีว่า ช่วงนี้เซียวเฉวียนก็ไม่ว่าง
เซียวเฉวียนรับปีศาจกวีเป็นอาจารย์ เดี๋ยวเป็นอัมพาต เดี๋ยวก็ดีขึ้น และได้มาเป็นเจ้าของชิงหยวน แม้แต่เซียวเฉวียนเผาครัวตระกูลฉิน เรื่องที่กินอาหารสำหรับเทศกาลปีใหม่ของตระกูลฉินจนหมดเกลี้ยง สวีซูผิงก็รู้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม เดิมทีสวีซูผิงเป็นคนที่ว่างงานที่สุดในต้าเว่ย สุดท้ายกลายมาเป็นคนที่ยุ่งที่สุดเซียวเฉวียนเป็นอัมพาต เขาก็ไม่มีเวลาไปเยี่ยมหรือถามไถ่สักคำสองคำ แต่นี่ไม่ใช่ความผิดของเขา เป็นเพราะฮ่องเต้ที่ทำให้เขายุ่งมากถึงเพียงนี้!
ความจริงแล้ว เขาก็อยากไปไถ่ถามอาการ แม้แต่อาหารแกล้มสุราก็ซื้อเตรียมไว้แล้ว แต่สุดท้ายก็ได้ยินว่าเซียวเฉวียนหายดีแล้ว!
คนผู้นี้เดี๋ยวเป็นอัมพาต เดี๋ยวก็หายดีได้งั้นหรือ?
สวีซูผิงที่ถืออาหารแกล้มสุรามาแล้วแท้ ๆ เขาทำได้เพียงหยุดเดิน และกลับไปทำงานต่อที่การคลัง
หากวันนี้ไม่ใช่เพราะสวีซูผิงต้องมาคุมการประลองพร้อมกับขุนนางท่านอื่น ตอนนี้เขายังคงวุ่นอยู่กับการลงชื่อเข้ากรมของผู้อารักขาที่การคลัง
เขาท่องคำสาบานเข้ากรมหลายร้อยครั้งในทุก ๆ วัน เสียงในลำคอของเขาแหบแห้ง เขาจะเอาเสียงที่ไหนมาพูดประจบประแจงและซุบซิบกับขุนนางเหล่านี้?
สวีซูผิงถือแก้วชาไว้ในมือ มองดูเซียวเฉวียนประลองกับจ้าวซิ่นอยู่ไกล ๆ
อัครเสนาบดีเห็นว่าเขาจริงจัง จึงเอ่ยปากถาม “รัฐมนตรีสวี ท่านคิดว่าเซียวเฉวียนและคุณชายจ้าวใครจะเป็นผู้ชนะ?”
ขานนามจ้าวซิ่นว่าคุณชายจ้าว แต่กลับเรียกเซียวเฉวียนด้วยชื่อจริง
สวีซูผิงเป็นคนที่หูดีมาก แต่เหตุใดจึงฟังไม่ออกว่าอัครเสนาบดีไม่พอใจในตัวเซียวเฉวียน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...