ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 317

สุนัขป่าตัวนั้นส่งเสียงคำราม กระโจนไปด้านหน้าพร้อมฟันที่แยกเขี้ยว!

ไว!

จะต้องว่องไว!

มิเช่นนั้น หากไม่รีบฆ่าสุนัขป่า เซียวเฉวียนจะต้องเสียเปรียบแน่นอน!

เซียวเฉวียนโบกสะบัดดาบจิงหุนขึ้น!

จะต้องคร่าชีวิตสุนัขป่าด้วยคมดาบ!

ท่าไม่ดี!

สุนัขตัวนี้กระโจนแรงเกินไป!

ดาบจิงหุนไม่โดนตัวของมัน!

“โฮก!”

สุนัขป่าโจมตีเซียวเฉวียนราวกับกำลังบ้าคลั่ง แม้ว่าดาบจิงหุนจะสร้างบาดแผลแก่มัน แต่มันก็ไม่ยอมถอยแม้เพียงนิดเดียว!

“ไป!”

“ไป!”

“ไป!”

ทุกวันนี้เซียวเฉวียนมีหน้าตาในสังคม ทุกคนต่างตะโกนร้องให้บุกเข้าไป คนที่ไม่รู้คงคิดว่าพวกเขาเหล่านี้ส่งแรงใจให้กับเซียวเฉวียน!

ความจริงทุกคนรู้อยู่เต็มอก พวกเขากำลังส่งแรงใจให้สุนัขตัวนั้น!

กัด!

กัด!

กัดจนเซียวเฉวียนยอมแพ้!

การประลองเป็นไปอย่างดุเดือด และทั้งสิบสองกลุ่มก็ส่งเสียงให้กำลังใจอย่างดุดัน ดึงดูดความสนใจของผู้ชมทั้งหมด

กลางสนามฝึก มีกระท่อมน้อยที่ถูกสร้างขึ้นมา และมีเหล่าขุนนางนั่งกันอยู่

หลังจากที่แต่ละกลุ่มจากยี่สิบแปดกลุ่มมีผู้ชนะหนึ่งคน คนยี่สิบแปดคนก็ทำการประลองกัน จากนั้นขุนนางเหล่านี้ก็ก้าวเข้ามาเป็นผู้ตัดสิน

ขุนนางที่ใหญ่ที่สุดในนั้น ก็คืออัครเสนาบดีจูและจ้าวไท่ชิง

เสียงจากกลุ่มที่สิบสองดังขนาดนั้น เหล่าขุนนางต้องรู้แจ้งอยู่แล้ว

“ได้ยินมานานว่า คุณชายรองของจ้าวไท่ชิงมีฝีมือมาก ได้เห็นกับตาวันนี้แล้ว ช่างห้าวหาญเสียจริง”

“จริงด้วย  คนหนุ่มเก่งนำหน้าคนรุ่นก่อนเสียแล้ว”

“ใต้เท้าจ้าวมีวาสนาจริง ๆ มีลูกชายอย่างคุณชายใหญ่จ้าวที่สอบจอหงวนได้ และยังมีคุณชายรองจ้าวที่องอาจห้าวหาญเช่นนี้ ตระกูลนี้เก่งทั้งบู๊และบุ๋นเลยทีเดียว”

วันนี้เป็นการประลองยุทธเลือกคู่ขององค์หญิง ซึ่งไม่อาจละเลยได้ ขุนนางในสนามต่างก็มียศระดับสามขึ้นไป ไม่มีขุนนางผู้น้อย

พวกเขาเยินยอจ้าวซิ่น ก็เป็นการชื่นชมอย่างจริงใจ

จ้าวไท่ชิงไม่ชอบให้ผู้อื่นพูดจาประจบสอพลอ เมื่อได้ยินผู้ที่ตำแหน่งน้อยกว่าเยินยอ เขาเพียงแต่พยักหน้า ไม่ได้เสียใจ แต่ก็ไม่ได้ดีใจด้วย

ปกติสวีซูผิง รัฐมนตรีการคลังมักจะพูดจนน้ำไหลไฟดับ และรักการนินทาอย่างที่สุด แต่วันนี้กลับไม่พูดแม้แต่คำเดียว

เขาไม่ได้พบเซียวเฉวียนมานานแล้ว เพราะว่าตัวเขาเองค่อนข้างยุ่ง ในช่วงนี้การฟื้นฟูของระบบผู้อารักขา ทำให้รัฐมนตรีการคลังต้องแจ้งชื่อเข้ากรมของเหล่าผู้อารักขาอยู่ทุกวัน จนแทบไม่มีแม้แต่เวลาจะเข้าห้องน้ำ

เขาเองก็รู้ดีว่า ช่วงนี้เซียวเฉวียนก็ไม่ว่าง

เซียวเฉวียนรับปีศาจกวีเป็นอาจารย์ เดี๋ยวเป็นอัมพาต เดี๋ยวก็ดีขึ้น และได้มาเป็นเจ้าของชิงหยวน แม้แต่เซียวเฉวียนเผาครัวตระกูลฉิน เรื่องที่กินอาหารสำหรับเทศกาลปีใหม่ของตระกูลฉินจนหมดเกลี้ยง สวีซูผิงก็รู้ทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม เดิมทีสวีซูผิงเป็นคนที่ว่างงานที่สุดในต้าเว่ย สุดท้ายกลายมาเป็นคนที่ยุ่งที่สุดเซียวเฉวียนเป็นอัมพาต เขาก็ไม่มีเวลาไปเยี่ยมหรือถามไถ่สักคำสองคำ แต่นี่ไม่ใช่ความผิดของเขา เป็นเพราะฮ่องเต้ที่ทำให้เขายุ่งมากถึงเพียงนี้!

ความจริงแล้ว เขาก็อยากไปไถ่ถามอาการ แม้แต่อาหารแกล้มสุราก็ซื้อเตรียมไว้แล้ว แต่สุดท้ายก็ได้ยินว่าเซียวเฉวียนหายดีแล้ว!

คนผู้นี้เดี๋ยวเป็นอัมพาต เดี๋ยวก็หายดีได้งั้นหรือ?

สวีซูผิงที่ถืออาหารแกล้มสุรามาแล้วแท้ ๆ เขาทำได้เพียงหยุดเดิน และกลับไปทำงานต่อที่การคลัง

หากวันนี้ไม่ใช่เพราะสวีซูผิงต้องมาคุมการประลองพร้อมกับขุนนางท่านอื่น ตอนนี้เขายังคงวุ่นอยู่กับการลงชื่อเข้ากรมของผู้อารักขาที่การคลัง

เขาท่องคำสาบานเข้ากรมหลายร้อยครั้งในทุก ๆ วัน เสียงในลำคอของเขาแหบแห้ง เขาจะเอาเสียงที่ไหนมาพูดประจบประแจงและซุบซิบกับขุนนางเหล่านี้?

สวีซูผิงถือแก้วชาไว้ในมือ มองดูเซียวเฉวียนประลองกับจ้าวซิ่นอยู่ไกล ๆ

อัครเสนาบดีเห็นว่าเขาจริงจัง จึงเอ่ยปากถาม “รัฐมนตรีสวี ท่านคิดว่าเซียวเฉวียนและคุณชายจ้าวใครจะเป็นผู้ชนะ?”

ขานนามจ้าวซิ่นว่าคุณชายจ้าว แต่กลับเรียกเซียวเฉวียนด้วยชื่อจริง

สวีซูผิงเป็นคนที่หูดีมาก แต่เหตุใดจึงฟังไม่ออกว่าอัครเสนาบดีไม่พอใจในตัวเซียวเฉวียน?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย