"ยังไม่ลากออกไปอีก!" แม่ฉินส่งเสียงหึหนึ่งเสียง "ตัวข้าองค์หญิงทำเรื่องราวอะไร ยังต้องให้นางแพศยาผู้หนึ่งมาชี้แนะด้วยหรือ?"
"ฮูหยินผู้เฒ่าเซียว! ไม่ต้องคุกเข่า!"
ตอนนั้นเอง เด็กรับใช้สองคนลากอาเซียงออกไป อาเซียงดิ้นรนขัดขืนและหันไปร้องต่อคนอื่น ๆ อยู่ตลอดเวลาว่า "พวกท่านต้องขัดขวาง! ต้องขัดขวางเอาไว้สิ!"
แม่เซียวยังคงชะงักนิ่งอยู่ที่เดิม หากทำให้เด็กรับใช้เหล่านี้เดือดร้อนไปด้วยแล้วละก็ เช่นนั้นมันจะต่างกับการสังหารคนที่ใดกัน?
แม่เซียวที่จะไปทางไหนก็ลำบากทั้งสองทางกัดฟันแน่น ลุกขึ้นมาแล้ว
แม่ฉินดวงตาเย็นยะเยือกตั้งตรงทันที "ไม่โขลกหรือ? กดศีรษะนางให้ข้าเอาไว้ โขลกจนกว่าจะครบหนึ่งร้อยครั้ง!"
"ท่านแม่!" เซียวจิงขวางอยู่ตรงหน้าแม่เซียวเอาไว้ กล่าวด้วยโทสะว่า "ฮูหยิน ท่านจะรังแกท่านแม่ของข้าได้อย่างไร?"
"แม่ของเจ้าหรือ?" แม่ฉินเย็นชาราวกับก้อนน้ำแข็งก็ไม่ปาน "ถือว่าเป็นตัวอะไรกัน"
สนามฝึก
ระเกะระกะยุ่งเหยิงไปทั้งหมด
ครึ่งหนึ่งของผู้ที่หมายมั่นจะชนะล้มลงไปกองอยู่กับพื้น ทุกคนต่างกระอักโลหิตสดออกมากันทั้งหมด หลั่งหยาดน้ำตาโลหิตออกมาเป็นสาย
อาวุธเองก็กระจัดกระจายเต็มพื้นด้วยเช่นเดียวกัน เซี่ยวเฟิงหอบหายใจหนัก ส่งเสียงหึหนัก ๆ ออกมาหนึ่งเสียง มันกำลังเดินเตร่อยู่ในสนามฝึก ในทุกที่ที่ไปถึง ผู้ที่เห็นถึงความร้ายกาจของมันต่างก็เป็นฝ่ายถอยหลังออกไปก่อนกันทั้งสิ้น
เซี่ยวเฟิงคำรามหนึ่งเสียงก็สามารถทำให้คนร้อยกว่าคนบาดเจ็บภายในได้
กรงเล็บฟาดลงมาหนึ่งหน ทั้งก็สามารถกวาดคนนับร้อยได้เช่นเดียวกัน
กระโดดหนึ่งครั้ง ทั้งก็สามารถเหยียบคนนับร้อยให้กระดูกหักได้เช่นเดียวกัน
อาวุธในมือของพวกเขา เดิมทีก็เข้าไปในร่างกายของเซี่ยวเฟิงไม่ได้เลย!
พอเซี่ยวเฟิงเขาคำรามด้วยโทสะหนึ่งเสียง คนก็ปลิวกระเจิงไปหมด อาวุธเองก็ย่อมกระจัดกระจายด้วยเฉกเช่นเดียวกัน!
มีเพียงแค่สองสามคนเท่านั้นที่กลับมา คนครึ่งหนึ่งต่างก็ล้มลงกันไปหมดแล้ว ทุก ๆ คนต่างก็พากันร้องครวญครางอย่างเจ็บปวด น่าเวทนาอย่างไรเทียบเทียม
ทว่าเซี่ยวเฟิงก็แค่ทำให้พวกเขาล้มลงไปก็เท่านั้น ให้พวกเขากลับขึ้นมายืนไม่ได้ แต่กลับไม่ได้สังหารใครเลยแม้แต่คนเดียว
เซียวเฉวียนได้ภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิมา สีหน้างุนงงไม่เข้าใจทันที
ไป๋ฉี่นี่ช่างเป็นตัวอย่างที่ประเสริฐเสียจริง นำภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิมายัดใส่มือเขาก็วิ่งหนีไปเสียแล้ว เซียวเฉวียนเอ่ยถามเขาว่าภาพนี้ใช้การอย่างไร ไป๋ฉี่พลันส่ายศีรษะไม่รู้ไม่ชี้เป็นพลันวัน กล่าวว่าเขาไม่ทราบ
ไม่ทราบ?
ไม่ทราบแล้วส่งภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิมาทำไม?
เล่นอะไรฟะ?
เซียวเฉวียนคาดเดาอยู่ครึ่งนาทีแล้ว อ้างอิงจากอุปนิสัยแสนสุดยอดของต้าเว่ยแล้ว เกรงว่าจะต้องท่องกลอนแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เซียวเฉวียนจึงท่องกลอนจากฉูเหอรื่อตังอู่ไปจนถึงหมิงเย่ว์จี่สือโหย่ว ก่อนจะไปจบที่ชุนเหมี่ยนปู้เจวี่ยเสี่ยวบทกวีคลาสสิก ภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับอะไรเลย
"นายท่าน เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?" ไป๋ฉี่กระวนกระวายเป็นอย่างมาก แม่ทัพฉินไม่ได้กล่าวอะไรกับเขามาก่อนเลยจริง ๆ ว่าภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลินี้ใช้การอย่างไร!
เป็นในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ไม่กี่นาทีเท่านั้น เซี่ยวเฟิงก็กวาดคนไปครึ่งหนึ่งแล้ว
เหยดเข้!
พละกำลังของเซี่ยวเฟิงดุร้ายเช่นนี้ ไป๋ฉี่มองเห็นแล้วหัวใจล้วนแข็งค้างเล็กน้อย!
"ไป๋ฉี่ เจ้าไม่ต้องสนใจข้า รีบกลับไปเร็วเข้า ไปปกป้องฮูหยินกับคุณหนูพร้อมกันกับเหมิงเอ้า เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครอาศัยจังหวะที่ข้ากำลังประลองไปรังแกพวกนาง"
เซียวเฉวียนส่งมอบตราประทับมือของสถานศึกษาชิงหยวนให้กับเขา "มีตรานี้อยู่ก็เสมือนกับมีข้าอยู่ที่ตรงนั้นด้วย เจ้ากับเหมิงเอ้าสามารถทำอะไรเองได้เลย"
ก่อนหน้าที่เซียวเฉวียนไม่อยู่ ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าเองก็เสียเปรียบที่นายท่านไม่อยู่ที่ตรงนั้นมามากแล้ว บัดนี้เซียวเฉวียนเองก็เป็นผู้ที่มีตราประทับแล้วเช่นเดียวกัน เหล่าองครักษ์กระทำการเรื่องราวใด ๆ ต่างก็สะดวกสบายกันมากขึ้น
"ขอรับ! พวกข้าจะต้องปกป้องคุณหนูเอาไว้เป็นอย่างดีแน่นอน!"
"แต่ว่านายท่าน...หากคนตระกูลฉินเป็นผู้รังแกเล่าขอรับ?"
"เล่นมันเลย!" เซียวเฉวียนจ้องไปที่เซี่ยวเฟิงเขม็ง บัดนี้เขาเป็นประมุขแห่งสถานศึกษาชิงหยวน คนของตระกูลฉินเองก็ไม่ถือว่าเป็นอะไรด้วยเหมือนกัน
"ขอรับ รับบัญชา"
ไป๋ฉี่รับตราประทับมือ ก่อนจะเคลื่อนย้ายหายไปทันที
"โฮก!"
เซี่ยวเฟิงกระวนกระวายเป็นอย่างมาก นายท่านอยู่ที่นี่แต่กลับหาไม่พบ
คนกลุ่มหนึ่งถือกระบี่จี้ไปที่มัน มันรู้สึกแค่ว่าไม่ชมชอบเป็นอย่างมากก็เท่านั้น
"ท่านอ๋อง ท่านดูสิขอรับ วิถีการโจมตีของเซี่ยวเฟิงนั้นก็แค่ไม่กี่วิธีเท่านั้น ขอเพียงแค่พวกเราหลบหลีกทิศทางกรงเล็บและเสียงคำรามของมัน พุ่งโจมตีจากทางด้านหลังก็คงจะสามารถจับเป็นมันได้แน่"
จ้าวซิ่นกล่าวพูดอย่างออกท่าออกทาง
เว่ยชิงพยักหน้าเล็กน้อย กระบี่หลงยวนของเขายังไม่ได้ขยับมาโดยตลอด
คนทุกคนที่กล่าวว่าจะปกป้องท่านอ๋องเป็นอย่างดี พอมองเห็นเซี่ยวเฟิงคำรามออกมาต่างก็สบตามองกันอย่างไม่ได้นัดหมาย เพราะอันที่จริงแล้วไม่กล้าเคลื่อนไหว
เซี่ยวเฟิงแข็งแกร่งเกินไปแล้ว
แข็งแกร่งเกินกว่าที่เว่ยชิงคาดการณ์เอาไว้
เซี่ยวเฟิงของท่านอาจารย์ ช่างประเสริฐดังที่คาดการณ์เอาไว้จริง ๆ
เว่ยชิงในตอนนี้ แม้จะมีกระบี่หลงยวนเป็นของวิเศษอยู่ ทว่ากลับไม่กล้าบุ่มบ่ามโดยพลการ
แม้เว่ยชิงจะไม่กล้าเคลื่อนไหว ทว่ากลับสั่งการคนอยู่ตลอด "เช่นนั้นพวกเจ้าไปล้อมจากทางด้านหลัง ระมัดระวังให้มากด้วย"
"ข้าต้องไปด้วยหรือไม่ขอรับ?" จ้าวซิ่นชะงักนิ่งไปทันที ข้างล่างยังมีคนอยู่มากมายขนาดนั้น เหตุใดท่านอ๋องจึงไม่เรียกพวกเขาไปเล่า?
"ขยะไร้ค่ากลุ่มนั้น ใช้เป็นก็เพียงแค่พละกำลังเท่านั้น! ปัญญาชนต้องไปต่างหากจึงจะมีประโยชน์!" เว่ยชิงขมวดคิ้วแน่นทันที "ทำไม เจ้ากลัวหรือ?"
จ้าวซิ่งถูกกระตุ้นเช่นนี้จึงไม่พอใจทันที เพื่อแสดงความกล้าหาญชาญชัยของตนเองแล้วนั้น "ข้าไป ข้าจะไปเดี๋ยวนี้"
อีกนิดเดียวเซียวเฉวียนก็ขบขันจนจะตายอยู่แล้ว กลุ่มคนตาขาวกันทั้งหมด!
ตะกี้นี้ยังมีท่าทีพูดจาอวดเบ่งใหญ่โตอยู่เลย!
เซียวเฉวียนจับจ้องการเคลื่อนไหวของเซี่ยวเฟิงไปพลางพิจารณาภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิแห่งเขาคุนหลุนไป
ในหนนี้เอง ภาพวาดนี้สามารถเปิดออกได้แล้ว
ทว่าทางด้านในกลับไม่มีสิ่งใดเลย
ว่างเปล่า
ไม่ได้กล่าวว่าภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิแห่งเขาคุนหลุนนี้มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากหรอกหรือ วาดเป็นภาพทิวทัศน์ของรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิแห่งเขาคุนหลุน?
เหตุใดจึงว่างเปล่าเช่นนี้ได้กันนะ?
ไม่สนใจแล้ว เช่นนั้นคงต้องใช้วิธีที่โง่เง่าเต่าตุ่นที่สุดแล้ว กลยุทธ์รบเร็วจบเร็ว!
เซียวเฉวียนถือดาบขึ้น มองซ้ายมองขวา เลือกโต๊ะสูงตรงข้างแล้วกระโดดขึ้นไปทางด้านบน ถือภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิแห่งเขาคุนหลุนกล่าวคำรามลั่นว่า "เซี่ยวเฟิง! นายท่านของเจ้าอยู่นี่! รีบมาเร็วเข้าสิ!"
...
ณ สนามประลองเช่นเดิม
เสียงคำรามหนึ่งเสียงนี้ เซี่ยวเฟิงไม่ได้ยิน แต่คนอื่น ๆ ต่างก็ได้ยินแล้ว
ทุกคนต่างกุมท้องหัวร่อใหญ่โต "ฮ่า ๆ ๆ!"
"เซียวเฉวียนโง่ไปแล้วหรือไง!"
"โอ้โหเฮ้ย ตอนนี้เซี่ยวเฟิงยังไม่ถูกจับเป็น เขาก็คิดจะเป็นนายท่านเสียแล้ว!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...