บทที่ 335 สงครามผูกจิต – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย
ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 335 สงครามผูกจิต จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ฉินซูโหรวพูดออกมาราวกับพูดไร้สาระ แม้แต่แม่ของท่านยังโดนตบ เหมิงเอ้ายังต้องกลัวที่จะพูดสิ่งใดอีกหรือ!
ฉินซูโหรวที่ปกป้องท่านแม่ในตอนนี้ ไม่ต่างจากเซียวจิงที่ปกป้องท่านแม่ของนางเมื่อครู่
เซียวจิงปกป้องไม่ได้ แน่นอนว่าฉินซูโหรวก็ปกป้องไม่ได้เช่นกัน
มือข้างหนึ่งของเหมิงเอ้าผลักฉินซูโหรวเต็มแรง ทำให้ฉินซูโหรวไถลออกไปราวสี่ห้าเมตรเห็นจะได้ หากไม่ใช่เพราะว่านางเป็นผู้หญิง เหมิงเอ้าคงเตะซ้ำเข้าที่ก้นนาง ให้นางล้มหน้าคะมำพื้นไปเสียเลย!
ฉินซูโหรวล้มลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง เหล่าคนรับใช้ที่ตกใจกลัวรีบรุดเข้าไปพยุงร่างของนางไว้ เกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุกับลูกในครรภ์ของคุณหนู
แม่ฉินเป็นผู้ที่เคยผ่านสนามรบมาก่อน นางพอมีวิทยายุทธและพละกำลังอยู่บ้าง แต่โคลงกลอนของเซียวเฉวียนแกร่งเกินไป ความสามารถของเหมิงเอ้าเหนือกว่าผู้อารักขาทั่วไปมาเนิ่นนาน
ในอดีตเซียวเฉวียนเคยท่องกวีศักดิ์สิทธิ์ แม่ฉินก็ได้พ่ายแพ้ให้กับเซียวเฉวียน
ในวันนี้ เซียวเฉวียนได้บรรลุขั้นระดับเทพกวีที่น่าสะพรึงแล้ว แม่ฉินยังเหมาะกับการเป็นคู่ต่อสู้ของเซียวเฉวียนอีกหรือ?
เสนียด!
เสนียดจริง ๆ!
ใจของแม่ฉินก็สั่นหงึก ๆ นางจ้องไปที่เหมิงเอ้าโดยที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
เหมิงเอ้าและไป๋ฉี่สูงใหญ่กว่าผู้อารักขาคนอื่นๆ อยู่มาก แก่นแท้ พลัง และจิตวิญญาณก็แกร่งกว่ามาก
ในต้าเว่ยมีผู้ที่สามารถประพันธ์กวียอดเยี่ยมได้ และส่วนมากจะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิหรือขุนนางระดับสูง
เพียงแต่ในตอนแรกเซียวเฉวียนยังไม่มีรากจิตอักษร แต่กลับสามารถประพันธ์กวียอดเยี่ยมออกมาได้
หลังจากมีรากจิตอักษรแล้ว เซียวเฉวียนจัดสังเวียนประลองฝีมือ ในระหว่างการประลองกับเตงงาย เขากลายเป็นคนแรกที่สามารถเขียนบทกวีที่น่าสะพรึงได้
ความจริงเรื่องนี้เป็นที่น่าตกใจในสังคมผู้มีอำนาจ
เพียงแต่ในตอนนั้นกลุ่มสังคมผู้มีอำนาจต่างกำลังยุ่งวุ่นวายกับเรื่องพระราชบุตรเขย เรื่องบทกวีที่น่าสะพรึงของเซียวเฉวียนจึงถูกชะงักไว้ออก
ในวันนี้เซียวเฉวียนก่อเรื่องใหญ่ในการประลองยุทธเลือกคู่ ผู้คนไม่น้อยฉวยโอกาสสังหารเซียวเฉวียน! การที่ให้เซียวเฉวียนคอยอยู่เช่นนั้น ไม่รู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง!
“นายท่านของพวกเจ้ามีอันตรายอยู่ด้านหน้า พวกเจ้ายังกล้ามาตบข้าอีกรึ?”
แน่นอนว่า สิ่งที่ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าได้กระทำลงไปนั้น เป็นคำสั่งของเซียวเฉวียน
แม่ฉินแทบไม่อยากจะเชื่อ เซียวเฉวียนไม่กลัวตายหรืออย่างไร?
วันนี้มีเพียงจวนฉินที่สามารถช่วยเซียวเฉวียนได้ เขาให้ผู้อารักขาทำเช่นนี้ เซียวเฉวียนไม่กลัวตายงั้นหรือ!
เหมิงเอ้ามองนางด้วยสายตาที่เยือกเย็น “นายท่านมีคำสั่งว่า ความเป็นความตายของเขาไม่เกี่ยวกับท่าน เขามีวิธีจัดการของเขาเอง”
พูดจบ เหมิงเอ้าก็ยกมือขึ้นมาตบแม่ฉินอีกครั้ง!
ครั้งนี้ แม่ฉินถูกบีบให้จนมุมแล้วจริง ๆ นางถูกเหมิงเอ้าสกัดไว้อย่างเอาเป็นเอาตาย
“เจ้าจะตบข้าไปถึงไหนกัน!” แม่ฉินโกรธเสียจนแทบเป็นบ้า นางเป็นถึงองค์หญิงผู้มีเกียรติ เป็นถึงบุตรสาวบุญธรรมของฮ่องเต้องค์ก่อน แต่กลับถูกผู้อารักขาชั้นต่ำตบอยู่เช่นนี้?
“หยุด!”
ขณะนี้ ขุนพลยี่สิบนายมายังจวนฉินพร้อมกับดาบในมือ!
ขุนพลเป็นทหารส่วนตัวของกองทัพตระกูลฉิน ผ่านสนามรบหลายร้อยครั้งและมีทักษะที่ยอดเยี่ยม
ไม่มัวพูดไร้สาระ พวกเขากำลังจะถามว่า พวกเจ้าปฏิบัติเช่นนี้ต่อฮูหยินฉินได้อย่างไร?
ไป๋ฉี่ไม่แม้แต่จะให้โอกาสพวกเขาได้เอ่ยปากพูด ชักดาบจิงหุนออกมา ดาบจิงหุนสวบผ่านขุนพลไป ขุนพลทั้งสิบสองเจ็บปวดที่หัวเข่าในทันทีทันใด ต่างพากันลงไปนอนกองอยู่ที่พื้นเสียงดังตูม
ดาบจิงหุนและความว่องไวของมัน เฉือนหัวเข่าของพวกเขาแยกออกจากกัน เลือดสดก็พุ่งพล่านออกมาทันที
บาดแผลนี้ไม่ถึงแก่ชีวิต แต่มันก็แย่มากพอที่จะทำให้พวกเขาไม่สามารถยืนขึ้นได้
ความว่องไวของไป๋ฉี่ ทำให้แม่ฉินและฉินซูโหรวตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
ไป๋ฉี่มองไปที่เหมิงเอ้า สีหน้าที่เย็นชากำลังสื่อว่า เจ้ารับช่วงต่อด้วย
นี่เป็นครั้งแรกที่ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าปฏิบัติต่อจวนฉินอย่างโหดเหี้ยม
ปัญหาที่จวนฉินต้องประสบในอดีต เป็นเพียงการลงโทษเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเซียวเฉวียน หากไม่ใช่การทำลายข้าวของในบ้าน ก็เป็นเพียงแค่การเผาห้องครัวเท่านั้น
นั่นเป็นเพราะเซียวเฉวียนครุ่นคิดอย่างหนักว่า อย่างไรก็ครอบครัวเดียวกัน และยังเป็นลูกหลานของฉินปาฟาง เขาจึงไม่ถือสาอะไร
ในวันนี้ เซียวเฉวียนไม่ถือสาไม่ได้อีกแล้ว
เซียวเฉวียนอยู่ในสนามฝึกที่ห่างไกล กลับผูกจิตกับไป๋ฉี่และเหมิงเอ้า
เซียวเฉวียนพูดประโยคหนึ่งที่สนามฝึก เหมิงเอ้าก็พูดตามประโยคหนึ่ง นี่ก็คือสาเหตุที่สายตาและน้ำเสียงของเหมิงเอ้า เหมือนกับเซียวเฉวียนราวกับแกะเช่นนี้
เพราะว่า นี่คือเจตนารมณ์ของเซียวเฉวียน
ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าเห็นว่าแม่ลูกตระกูลเซียวหายตัวไป ในใจก็กังวลอย่างมาก จึงต้องผูกจิตกันเพื่อแจ้งให้นายท่านทราบ
หลังจากผูกจิตแล้ว เซียวเฉวียน ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าทั้งสามก็ได้รวมเป็นร่างเดียวกันในระดับหนึ่งแล้ว
ด้วยร่างกายของเทพเจ้าแห่งสงคราม และหัวใจของปัญญาชนผู้รู้หนังสือ ทั้งสามคนจึงมีความเข้าใจกันไปโดยปริยาย พวกเขาสามารถแสดงความแข็งแกร่งที่ผู้อารักขาและนายท่านคนอื่นไม่มี
“ตบนางต่อไป” แม้ระยะห่างจะไกลกันมาก แต่เมื่อเซียวเฉวียนเอ่ยปากเบา ๆ เหมิงเอ้าก็รู้สึกเหมือนว่านายท่านอยู่ข้างกายเขา เขาทำสายตาเคร่งขรึม ยื่นมือออกไปตบแม่ฉินต่อ เพี๊ยะ ๆ ๆ!
นับตั้งแต่เซียวเฉวียนมายังต้าเว่ย ความรู้ด้านประวัติศาสตร์และสมัยใหม่ทำให้เซียวเฉวียนมีความมั่นใจอย่างมาก มันถูกส่งต่อให้ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าในขณะเดียวกันกับตอนผูกจิต
ดังนั้น แม้แม่ฉินจะโหวกเหวกโวยวาย ตะโกนด่าปาว ๆ ก็ไม่มีประโยชน์แม้แต่น้อย
สถานะและตำแหน่งของนาง ไม่ได้ทำให้ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าเกรงกลัวเลยสักนิด!
วันนี้เซียวเฉวียนได้แหกกฎตัวเอง เดิมทีเขาไม่ตบตีทำร้ายผู้หญิง แต่คนอย่างแม่ฉินถือว่าเป็นผู้หญิงแบบไหนกัน?
เซียวเฉวียนจะตบหญิงใจหยาบไปเรื่อย ๆ ตบจนกระทั่งหญิงใจหยาบผู้นี้จะขอร้องให้ยกโทษให้!
แม่ฉินยังใช้อำนาจบาตรใหญ่ในฐานะบุตรสาวบุญธรรมของฮ่องเต้องค์ก่อน คำก็องค์หญิง สองคำก็องค์หญิง องค์หญิงบ้าอะไรกัน!
เซียวเฉวียนตาย ฉินซูโหรวเป็นหญิงหม้ายเป็นเพียงเรื่องเล็ก แต่เหตุใดท่านแม่จึงมีปัญหาได้?
เซียวเฉวียนตายแล้วก็คือตายแล้ว แต่ท่านแม่เป็นถึงราชวงศ์ผู้สูงศักดิ์!
ต่อให้วันนี้เซียวเฉวียนมีฐานะเป็นเจ้าของชิงหยวน แต่ก็ไม่อาจอยู่เหนือราชวงศ์ได้!
ฝ่ามือของเหมิงเอ้า ตบ! ตบ! และก็ตบ!
แม่ฉินหน้าตาบิดเบี้ยว เหล่าคนรับใช้ของจวนฉินต่างตกใจกับการกระทำเช่นนี้
พ่อฉินยังไม่กลับมาจากในวัง ฉินเฟิงบาดเจ็บสาหัสนอนอยู่บนเตียง ฉินหนานและฉินเป่ยออกไปข้างนอก ในบ้านเหลือเพียงท่านยายฉินเป็นผู้ตัดสินใจ
แต่หากท่านยายฉินมา นางก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหมิงเอ้าอยู่ดี!
“เซียวเฉวียน! เจ้าจะเอาอย่างไรกันแน่?”
ฉินซูโหรวเห็นว่าเหมิงเอ้าไม่มีท่าทีจะยั้งมือลง ทั้งโกรธทั้งลน พร้อมกับร้องไห้ออกมา “เจ้าจะเอาอย่างไรกันแน่?”
ไม่ใช่ว่าเซียวเฉวียนคิดจะทำอะไร
แต่เซียวเฉวียนต้องการให้แม่ฉินขอร้องให้ยกโทษให้
เหมิงเอ้าทำตามคำสั่ง ตบจนกระทั้งแม่ฉินขอร้องให้ยกโทษให้
แต่แม่ฉินเป็นคนแบบไหนกัน ถูกเหมิงเอ้าสกัดเข้ามุมตบอย่างเอาเป็นเอาตาย กลับไม่ยอมร้องขอให้ยกโทษให้เลยแม้แต่คำเดียว
ไม่ขอก็ไม่ขอ เซียวเฉวียนยังตบต่อไปได้อีกหลายทีอย่างสะใจ!
แม่ฉินมองเหมิงเอ้าด้วยสายตาที่เย็นชา ดวงตาเคล้าไปด้วยน้ำตา ตีได้เจ็บปวดมากเสียจริง แม่xสิ!
แม่ฉินพูดข่มขู่ “เดิมทีนายท่านของเจ้ายังมีโอกาสรอดชีวิต แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว!”
เริ่มทำกับเว่ยชิงก่อน ตอนนี้ยังกล้ามาทำกับองค์หญิงใหญ่อย่างนาง ต่อให้เหล่าเทพลงมายังโลก ก็ไม่อาจช่วยเหลือเซียวเฉวียนได้! เขาก็แค่หินดื้อด้านก้อนหนึ่ง! สุดจะเยียวยา!
“เทพงั้นรึ?” เหมิงเอ้าพูดขึ้นอย่างเย็นชา พลางจ้องไปที่แม่ฉิน “นายท่านของข้ามอบบทประพันธ์ให้ท่านได้เชยชม”
“อะไรนะ?” แม่ฉินหัวเราะเสียงเยือกเย็น เขายังมีจิตใจที่เอ้อระเหยมาท่องกลอนอีกหรือ?
เหมิงเอ้านิ่งเงียบ ท่องบทประพันธ์ของเซียวเฉวียน “หินถูกกระแทกจึงได้แตกจากหุบเขา แม้นโดนแผดเผาโดนขัดเกลาตามกาลเวลา”
แม่ฉินตะลึง
ฉินซูโหรวขมวดคิ้วแน่น
ความหมายของเซียวเฉวียน เขากำลังสื่อเจตนาว่าเป็นก้อนหินแล้วเป็นไรเล่า ผ่านการขุดเจาะ ผ่านการเผาไหม้ ก็ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด ไม่ต้องให้ทวยเทพลงมาช่วย เขาก็ผ่านความลำบากนี้ได้
ขณะนี้ ด้านนอกจวนฉินมีเสียงควบม้าดังขึ้น ขันทีผู้หนึ่งตะโกนเสียงดัง “มีราชโองการ!”
แม่ฉินที่เลือดไหลออกจากปากยิ้มอย่างดีใจ ผู้ช่วยชีวิตมาแล้ว มาแล้ว
คาดไม่ถึงว่า ข้างหูของเหมิงเอ้ากลับได้ยินคำสั่งที่แสนเยือกเย็นของเซียวเฉวียน “เหมิงเอ้า ไม่ต้องสนใจ ตบ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...