บทที่ 347 คำถามของฮ่องเต้ – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย
ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 347 คำถามของฮ่องเต้ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
แม่ฉินตกใจในการเสียชีวิตของอัครเสนาบดีจูเป็นอย่างมาก และยังเห็นเซี่ยวเฟิงอยู่ด้านข้างอีกครั้ง หล่อนมิสามารถฆ่าเซียวเฉวียนได้ แต่ถ้าหากฆ่าองค์หญิงต้าถงล่ะก็ นางยังพอมีโอกาสฆ่าได้อยู่บ้าง
แม่ฉินขบฟัน ถือดาบตรงไปที่หอจืออี้
แต่กลับมีคนๆหนึ่ง อย่างลุกลี้ลุกรน “สิ้นแล้ว! สิ้นแล้ว!”
“องค์หญิงต้าถงถูกรอบปลงพระชนม์แล้ว!”
แม่ฉินดีใจ ฟ้าดินเข้าข้าง!
ฟ้าดินช่างเข้าข้างเสียจริง!
ทุกคนตะโกนอย่างดุเดือด! เซียวเฉวียนก็ไม่ได้เป็นพระราชบุตรเขยแล้ว!
อย่างนั้นพวกเขาคงชนะเงินเดิมพันแล้วรึไม่?
จูโชงร้องไห้โฮออกมา ท่านปู่ของท่านแม่สิ้นชีวิตแล้ว อีกทั้งเซียวเฉวียนยังไม่ได้ตั้งเป็นพระราชบุตรเขยอีกตั้งหาก?
เซียวเฉวียนหน้าซีดเผือก ในเวลานี้ บุคคลหนึ่งปรากฏขึ้นในฝูงชนกระซิบอยู่ไม่ไกล”ท่านปู่น้อย!รีบเข้าวังเถอะ!”
อี้กุยมองดูเขา เป็นแววตาแห่งความสุข
เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว “องค์หญิงมิเป็นไรใช่หรือไม่!”
อี้กุยพยักหน้า “ใช่!”
คนสองคนไม่มีเสียงพูดคุยกันสักแอะ ต่างคนต่างเข้าใจกันเท่านั้น
หัวใจที่เป็นกังวลของเซียวเฉวียนโล่งใจ
เขาคาดไว้ตั้งนานแล้วว่าองค์หญิงจะต้องเกิดเรื่อง ถ้าเขาเป็นพระราชบุตรเขย องค์หญิงจะต้องทุกข์ทรมานแน่นอน หากผู้มีอำนาจเหล่านั้นไม่เข้าใจ พวกเขาคงจะโหดร้ายและติดตามองค์หญิงไป
เพราะฉะนั้น เขาและองค์หญิง ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้
อยู่ด้วยกันแล้ว อาจจะเป็นภัยต่อหล่อนได้!
องค์หญิงต้าถงเป็นหญิงสาวที่อ่อนโยนและใจดีคนหนึ่ง เซียวเฉวียมิสามารถทำให้หล่อนพบเจออันตรายได้ และมันไม่ใช่นสมัยปัจจุบัน หากต้องการรักอย่างอิสระจงตกหลุมรัก
แววตาที่เซียวเฉวียนมองไปทางอีกุ้ยเต็มไปด้วยขอบคุณ ข่าวดีของอี้กุ้ยนี้ ทำให้ใจของเขาสงบขึ้น
แต่ทว่า เจอแม่ฉินที่ฝูงชน
“ขอรับ!”
“ไป!”
เซียวเฉวียนยกแส้ขี่ม้าขึ้นเซี่ยวเฟิงก็ตามเขาไปข้างๆ ทำให้เกิดฝุ่นตลบไปทั่ว
ความเร็วขอวเซี่ยวเฟิงนั่นช่างเร็ว ฝุ่นที่เพิ่มขึ้นทำให้ใบหน้าของทุกคนสำลักพวกเขาทั้งหมดต้องการที่จะดูสัตว์ร้ายของทหาร แต่แสงมืดเกินไป พวกเขามองเห็นได้เพียงขนสีขาวและตัวอ้วนเท่านั้น ไม่มีอะไรอื่นที่
สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
แม่ฉินดีใจจนออกหน้าออกตา เมื่อเซียวเฉวียนเข้าวัง จะเห็นได้แค่ศพขององค์หญิงต้าถง ยังจะได้มาเป็นพระราชบุตรเขยได้อย่างไรอีก!
คิดอยากจะห่างจากลูกสาวตนงั้นหรือ ไม่มีทางเสียหรอก!
การตายของเด็กสาวในวัยหนุ่มสาว ไม่คุ้มที่จะพูดถึงกับคนกลุ่มนี้
พวกเขาแค่สนใจผลประโยชน์ของตนก็เท่านั้น
เสี่ยวฉวนกลายเป็นเรื่องตลกในหมู่คนในเมืองหลวงอีกครั้ง
ไม่ง่ายเลยที่ก็ปีนขึ้นไปบนกิ่งไม้สูงได้ แต่กิ่งก้านกลับหักลง
นี่ไม่เป็นเรื่องตลกขบขันอย่างงั้นหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า!
โดยเฉพาะผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันและพ่ายแพ้ต่างก็ดีใจกันมาก!
องค์หญิงสิ้นแล้ว แน่นอนว่าพระราชบุตรเขยก็คงไม่จำเป็นอีกแล้ว
ในตอนแรกพวกเขายังคงเสียใจ โดยคิดว่าเหตุใดเซียวเฉวียนจึงได้สาวงามกลับมา แต่ตอนนี้พวกเขาเสมอกันแล้ว!
พวกเขาจับหน้าอกที่เจ็บจากเสียงคำรามของเซี่ยวเฟิงอย่างมีความสุข
ไม่มีใครคิดว่าองค์หญิงจะเสียใจ
มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่กำหมัดแน่น
เว่ยชิงโกรธเป็นอย่างมาก อัครเสนาบดีตายแล้วตายไป ยังหาคนอื่นมาแทนได้
แต่ทว่าองค์หญิงของเขา
dตอนนี้เจ้าหญิงสิ้นพระชนม์แล้วเว่ยชิงไม่รู้จริงๆว่าเขากำลังทำอะไรโดยเข้าร่วมประลองยุทธเลือกคู่!
แต่ก็ไม่สามารถได้รับอะไรกลับมาแต่ตนเองกลับเป็นอัมพาต!
เว่ยชิงโกรธจนแก้วที่อยู่แตกลงเป็นเสียงๆลงบนพื้น ขโมยไก่ไม่ได้ยังเสียข้าวสารอีกกำมือก็แย่พอแรงยู่แล้ว แต่ตอนนี้แม้แต่ไก่สักตัวก็ไม่เหลือ!
เซียวเฉวียน!
ทุกอย่างเป็นความผิดของเซียวเฉวียน!
“ท่านอ๋อง ทางวังได้ส่งมาหลวงมาขอรับ”
ในเวลานี้ ได้มีนายทหารมารายงานด้วยท่าทีสั่นระริก
หมอหลวง?
มีแค่หมอหลวงงั้นรึ?
หล่อนเองก็อยากจะถามพ่อของตน แต่พ่อของตนกลับดูเหมือนไม่มีความสุข คนเยอะเช่นนี้ หล่อนเองก็ไม่กล้าปริปากถาม
“องค์หญิง”
ณ ตอนนี้ผู้คนต่างก็รอเซียวเฉวียนถึง ทันใดนั้นฮ่องเต้ก็ได้เรียกชื่อฉินซูโหรว “หิวแล้วล่ะสิ กินอะไรสักหน่อยเถิด”
“ขอบพระทัยเพคะฝ่าบาท”
ฉินซูโหรวทักทายอย่างสง่างามและมีน้ำใจ ในสายตาผู้คน ต่างก็ซุบซิบนินทา
“เจ้าเซียวทำบุญแต่ปางใดช่างโชคดีเสียจริง ถึงได้องค์หญิงที่ดีขนาดนี้”
“ใช่น่ะสิ อ่อนโยนใจกว้าง ทั้งมีคุณธรรม”
“เสียดาย ช่างน่าเสียดายนัก”
“เสี่ยวเฉวียนเป็นคนที่ไม่ดูตัวเองเสียเลย มีองค์หญิงเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้วแท้ๆ ยังจะไปประลองยุทธเลือกคู่อีก”
“ชู่ว!ไม่ต้องพูดแล้ว!เขาเป็นถึงพระราชบุตรเขยแล้ว ไม่อยากมีชีวิตต่อแล้วหรือไร!”
เหล่าขุนนางทั้งหลายต่างซุบซิบนินทา จนลืมไปโดยสิ้นเชิงว่าฉินซูโหรวมีข่าวลือว่าเคยมีเรื่องสัมพันธ์กับชายนอกมาก่อน
บัดนี้ฉินซูโหรวได้เป็นถึงองค์หญิง แน่นอนว่าคนเหล่านี้ที่ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปไม่กล้าพูดอะไรผิดกับฉินซูโหรว
บัดนี้องค์หญิงได้สิ้นพระชนม์แล้ว การแต่งงานที่เซียวเฉวียนหวังไว้ก็ล้มไม่เป็นท่า เขาแค่มีตำแหน่งเป็นพระราชบุตรเขยก็เท่านั้น แน่นอนว่าพวกเขาต้องช่วยฉินซูโหรวพูด
พอฉินซูโหรวได้ยิน หล่อนก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
ใครๆต่างก็พูดว่าเซียวเฉวียนนั้นไม่คู่ควรกับหล่อน
แน่นอนว่าถูกต้อง แม้ว่าฉินซูโหรวจะไม่ใช่องค์หญิง เซียวเฉวียนก็ไม่เหมาะสมกับหล่อนอยู่ดี
ไม่ต้องพูดถึง บัดนี้ฉินซูโหรวเป็นถึงพระราชธิดาที่มีชื่อเสียง และเผซียวเฉวียนก็โชคดีอย่างที่คนเหล่านั้นพูดจริงๆ
ครั้งนี้ทำไมเซียวเฉวียนยังไม่มาประจบประแจงหล่อนอีก?
“องค์หญิง ข้าได้ยินมาว่ามีความขัดแย้งระหว่างเซียวเฉวียนกับองค์หญิงคนโตในวันนี้?”
ฮ่องเต้ถามด้วยเสียงเบาๆ แต่มันทรงพลังมากจนหัวใจของฉินซูโหรวเต้นรัว
ทำไมจู่ๆฝ่าบาททรงถามถึงเรื่องนี้?
คำว่าอ้ายชิงสองคำ (เป็นคำที่ฮ่องเต้ใช้เรียกเสนาบดี) ก็เพียงพอแล้วที่จะอธิบายทัศนคติของฮ่องเต้
ทุกคนยืนข้างอยู่ตระกูลฉิน
ฮ่องเต้ยืนข้างเซียวเฉวียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...