แต่ฉินซูโหรวเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง นางจะไปเข้าใจหัวใจของฮ่องเต้ได้อย่างไร
ฉินซูโหรวที่ภาคภูมิใจในตัวเองรู้สึกเพียงแค่ว่าวันนี้นางถูกแต่งตั้งให้เป็นท่านหญิง และฮ่องเต้ก็เป็นเสด็จลุงของนาง ดังนั้นจึงต้องรักจวนฉินและนางมากกว่า
ในเมื่อฮ่องเต้ถามออกมาเช่นนี้ เช่นนั้นนางจะไม่ฟ้องเซียวเฉวียนงั้นหรือ?
เวลานี้ความฝันของพระราชบุตรเขยอย่างเซียวเฉวียนแตกสลายไปแล้ว ก่อนที่ฝ่าบาทจะฟ้องร้องเขา ฝ่าบาทจะต้องให้คำแนะนำกับของก่อน และหลังจากนี้เซียวเฉวียนจะได้อยู่ในจวนฉินอย่างไม่จองหองหรือหยิ่งผยองอีกต่อไป
“กราบทูลฝ่าบาท เรื่องนี้เป็นความจริง เซียวเฉวียนเป็นคนที่มีนิสัยบ้าบิ่น วันนี้เขาได้ส่งราชองครักษ์สองคนไปยังจวนฉิน สุดท้ายไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น พวกเขาถึงได้ทะเลาะกับท่านแม่ของข้า”
แม่ของฉินซูโหรวทำให้แม่และลูกสาวตระกูลเซียวต้องอับอาย แต่ฉินซูโหรวกลับไม่พูดถึงเรื่องนี้เลย
นาพูดออกมาเพียงเรื่องการร่วมมือกันระหว่างเซียวเฉวียนและราชองครักษ์ที่ทำให้แม่ของนางต้องอับอาย
แน่นอน แม่ว่าฉินซูโหรวจะเป็นคนโง่เขลา แต่นางก็ไม่ได้โง่เขลาถึงเพียงนั้น นางไม่ได้บอกว่าใบหน้าแม่ของนางนั้นบวมหลังจากถูกตบ เรื่องจากอย่างไรเสียใบหน้าของตระกูลราชวงศ์และตระกูลฉินยังมีความสำคัญ
เพียงแค่ต้องการให้ทุกคนรู้ว่า เซียวเฉวียนผู้นี้ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่รู้จักอะไรคือความสูงศักดิ์ และอะไรคือความน่าอับอาย
เป็นอย่างที่คิด เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้นก็ต่างพากันส่ายหน้า เซียวเฉวียนอาศัยความสามารถและพรสวรรค์ของเขาในการทำเรื่องเช่นนี้อย่างนั้นหรือ?
ไม่ใช่สุภาพบุรุษ!
นี่มันไม่ใช่สุภาพบุรุษ!
“แต่แม่ของข้าก็มีเมตตาและใจกว้างเป็นอย่างมาก นางไม่ได้ตอบโต้เซียวเฉวียนเลยแม้แต่น้อย” ฉินซูโหรวยังคงกล่าวเสริมออกมา เหล่าขุนนางและทหารต่างถอนหายใจ เซียวเฉวียนผู้นี้ไม่ไหวจริง ๆ
คนที่ไปบ้านผู้อื่น แต่กลับไร้ซึ่งจิตสำนึก ไม่มีแม้แต่มารยาทและความถ่อมตัว แล้วเช่นนั้นชายผู้นี้จะเป็นสุภาพบุรุษและคนที่ซื่อสัตย์ได้อย่างไรกัน?
แม้แต่ความเมตตาที่เขามียังสู้กับแม่ของฉินซูโหรวที่เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
ทุกคนต่างถอนหายใจออกมา ฉินซูโหรวได้ยินไม่ค่อยชัดว่าพวกเขากำลังพูดคุยอะไรกันอยู่ แต่ก็รู้ว่าพวกเขากำลังไม่พอใจในตัวของเซียวเฉวียน นางจึงยิ้มออกมาด้วยความพอใจ
คนพวกนี้จะไปรู้ได้อย่างไรว่าแม่ฉินที่พวกเขาคิดว่าเป็นคนใจกว้างและมีเมตตา มีใจคิดที่จะสังหารเซียวเฉวียนและองค์หญิง เพียงแค่นางไม่อาจเอาชนะเซียวเฉวียน และองค์หญิงก็ตายไปแล้ว แม่ฉินจึงยอมวางมือแต่เพียงเท่านี้
การฟ้องร้องเช่นนี้ ฝ่าบาทจะต้องโกรธเป็นแน่ หลังจากพูดเรื่องราวทั้งหมดเรียบร้อย ฉินซูโหรวค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น จ้องมองใบหน้าอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นอย่างที่คิด ใบหน้าของฮ่องเต้เต็มไปด้วยความเยือกเย็น “นี่มันช่างไร้เหตุผลยิ่งนัก เซียวเฉวียนเป็นเพียงผู้น้อย เขาพูดจาสามหาวและไม่ให้เกียรติผู้ที่อาวุโสมากกว่าเขาได้อย่างไร!”
พ่อฉินจับจ้องมาที่ลูกสาวเพื่อบอกให้ลูกสาวของตนเองเลิกพูดได้แล้ว
แต่ฉินซูโหรวกลับไม่สนใจ นางจะยอมแบกรับความโกรธของเซียวเฉวียนไว้เพียงฝ่ายเดียวได้อย่างไร “ฝ่าบาท เซียวเฉวียนใช้ความสามารถที่มีอยู่ของตนเอง ประพฤติตนไม่เหมาะสมในจวนฉิน กระโดดโลดเต้นไปมา ทำให้จวนฉินไร้ซึ่งความสงบ”
“อย่างไรก็ตาม จวนฉินปกครองบ้านเมืองอย่างเป็นธรรมและมีเมตตามาโดยตลอด เช่นนั้นจะไปควบคุมเซียวเฉวียนไว้ได้อย่างไร?”
คำพูดนี้ของฉินซูโหรวก็มีความหน้าไม่อายแอบแฝงอยู่ไม่น้อย ยังจะบอกว่ายุติธรรม ในคืนก่อนวันขึ้นปีใหม่ ฉินเฟิงเกือบจะสังหารเซียวเฉวียน เช่นนี้แล้วความยุติธรรมมันอยู่ที่ไหน?
บนที่นั่งในงานเลี้ยง สวีซูผิงที่รู้เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นก็กลอกตาขาว
เจ้าเด็กเซียวเฉวียนต่างหากที่เป็นฝ่ายให้ความเมตตากับจวนฉิน ดูอย่างอัครเสนาบดี แค่ยั่วยุเซียวเฉวียนเพียงเล็กน้อย เขาก็ต้องจากไปอย่างไม่ควร
ดูอย่างเว่ยชิง หากไม่ใช่เพราะเป็นเชื้อพระวงศ์ เขาเป็นแค่คนพิการอย่างนั้นหรือ? ชีวิตของเขาคงจะแหลกสลายไปตั้งนานแล้ว!
หากเซียวเฉวียนต้องการมีเรื่องกับจวนฉินจริง ๆ เช่นนั้นคนในตระกูลฉินคงต้องตายไปแล้วประมาณคนละสามสี่รอบ!
ประชาชนต่างเชื่อว่าอัครเสนาบดีเสียชีวิตลงเพราะโกรธหลานชายของตนเอง หากบอกไปว่าเขาเห็นกับตาของตัวเอง เช่นนั้นจะมีขุนนางหรือทหารคนไหนเชื่อเขา?
ชายชราอย่างอัครเสนาบดีจู แม้จะมีอายุมาก แต่ร่างกายของเขาก็แข็งแรงมาโดยตลอด ไม่อย่างนั้นจะแอบสร้างปัญหามากมายในราชวงศ์ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาได้อย่างไร?
แต่จู่ ๆ อัครเสนาบดีกลับตายเพราะความโกรธที่มีต่อหลายชาย เกรงว่าก่อนหน้านี้เขาคงได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับมา ประกอบกับเรื่องที่เว่ยชิงกลายเป็นผู้พิการ อัครเสนาบดีจึงโกรธจนร้อนใจ คิดว่าเซียวเฉวียนน่าจะเป็นผู้เติมไฟให้กับเขาจนอัครเสนาบดีไม่อาจรับไหวและตายไปในที่สุด
และอัครเสนาบดีจะได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร มันจะต้องเกิดจากความพ่ายแพ้ที่ได้รับจากเซียวเฉวียนเป็นแน่! ในตอนที่อยู่ในจวนว่าการ มีเพียงแค่เซียวเฉวียนและอัครเสนาบดีสองคนอยู่ที่นั่น!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...