สรุปตอน บทที่ 349 ความสุขอันล้นหลาม – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
ตอน บทที่ 349 ความสุขอันล้นหลาม ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ดวงตาของทุกคนเบิกกว้าง หูของพวกเขามีเสียงพึมพำดังขึ้นมา สุราที่อยู่ในปากของสวีซูผิงเองก็พุ่งออกมาอย่างไม่ตั้งใจ
หย่าร้าง?
ฝ่าบาทต้องการให้เซียวเฉวียนหย่ากับฉินซูโหรว?
ในสมัยโบราณ การหย่าร้างมีทั้งหมดสามประเภท หย่าร้างแบบภรรยาออกไป หย่าร้างแต่โดยดี และหย่าร้างอย่างชอบธรรม
หย่าร้างแบบภรรยาต้องถูกขับไล่ออกไป เกิดขึ้นในกรณีที่ฝ่ายหญิงทำผิดทั้งหมดเจ็ดครั้งจึงถูกฝ่ายชายขับไล่ออกไป
หย่าร้างแต่โดยดีคือการปล่อยภรรยาไป มันมักจะเกิดขึ้นในการปกปิดปัญหาที่ฝ่ายชายเป็นคนทำ เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ผู้ชายนำมาใช้เพื่อปกปิดเหตุผลในการ "ทิ้งภรรยา" และหลีกเลี่ยง "เรื่องอื้อฉาวในครอบครัว"
หย่าร้างอย่างชอบธรรม หากมีอาชญากรรมเกิดขึ้นระหว่างสามีและภรรยา เช่น การทะเลาะวิวาท การฆ่ากัน รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับญาติของทั้งสองฝ่าย ความสัมพันธ์ของสองสามีภรรยาจะต้องสลายไปเหมือนไม่เคยมีมาก่อน
หย่าร้างแบบชอบธรรมเป็นข้อบังคับ หากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษตามมา
หรือพูดอีกอย่างก็คือ ระหว่างเซียวเฉวียนและฉินซูโหรว หย่าร้างแบบชอบธรรมเป็นการหย่าร้างที่เหมาะสมที่สุด หรือก็คือเซียวเฉวียนเป็นผู้ต้องการหย่า เนื่องจากวันนี้ไม่ว่าอย่างไรเซียวเฉวียนก็มีสถานะแน่นอน นั่นก็คือผู้นำของชิงหยวน
และฉินซูโหรวก็เป็นหญิงสาวจากตระกูลราชวงศ์ เวลานี้ได้เป็นท่านหญิง เพื่อใบหน้าของทั้งสองฝ่าย การหย่าร้างแต่โดยดีจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ฉินซูโหรวถูกถามออกมาโดยไม่ได้ตั้งตัว มันทำให้นางสับสนจนไม่สามารถไปต่อได้!
นางแค่ต้องการให้ฝ่าบาทลงโทษเซียวเฉวียน นางไม่เคยคิดที่จะหย่ากับเซียวเฉวียนเลยแม้แต่น้อย!
นางตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก ไม่ เหตุใดนางถึงมาหย่าร้างแต่โดยดีกับเซียวเฉวียนได้?
พ่อฉินเหลือบมองลูกสาวด้วยสายตาแห่งความหงุดหงิด เวลานี้ฉินซูโหรวถึงจะเข้าใจว่าเหตุใดเมื่อครู่พ่อของนางจึงห้ามนางเอาไว้!
แต่คำพูดที่พูดออกไปแล้วมันก็ยากที่จะเรียกกลับคืนมา เวลานี้เหล่าขุนนางและแม่ทัพต่างรับรู้โดยทั่วหน้าว่านางรังเกียจเซียวเฉวียนมาแค่ไหน เช่นนั้นนางจะกลับคำพูดได้อย่างไร?
สวีซูผิงมีความสุขเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นท่าทางและใบหน้าที่ทำอะไรไม่ถูกของฉินซูโหรว เขาก็แอบดีใจ!
เมื่อสักครู่ยังบอกอยู่เลยว่าไม่ต้องการ พูดจาดูถูกใต้เท้าเซียวต่าง ๆ นานา เวลานี้ฝ่าบาทมอบโอกาสในการหย่าร้างแต่โดยดีให้กับนาง เหตุใดท่านหญิงถึงไม่มีความสุข?
ไม่ใช่แค่ไม่มีความสุขเท่านั้น แต่ใบหน้าของฉินซูโหรวยังเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
หากไม่ใช่เพราะมีคนจำนวนมากอยู่ที่นี่ เกรงว่าฉินซูโหรวคงร้องไห้ออกมาแล้ว
แม้ว่าฉินซูโหรวจะเป็นคนที่มีนิสัยเอาแต่ใจมาโดยตลอด แต่อย่างไรนางก็เป็นผู้หญิงบริสุทธิ์คนหนึ่ง คำพูดที่ฮ่องเต้กล่าวออกมา แน่นอนว่านางไม่เข้าใจ
ต่อให้นางเข้าใจ นางก็ไม่สามารถจัดการกับมันได้
ทุกคำพูดที่ฮ่องเต้พูดออกมา ทั้งหมดล้วนทำเพื่อให้ฉินซูโหรวได้หย่าร้างแต่โดยดีกับเซียวเฉวียน
ฉินซูโหรวมองไปที่ฮ่องเต้ด้วยท่าทางที่ตกตะลึง ฮ่องเต้เองก็มองลงมาที่นางเช่นกัน
ที่จริงฮ่องเต้ไว้หน้าจวนฉินมากพอแล้ว และยอมเสียสละชื่อเสียงของเซียวเฉวียน ไม่อย่างนั้นเขาจะยอมให้ผู้หญิงอย่างฉินซูโหรวเพียงคนเดียวมาพูดจาว่าร้ายเซียวเฉวียนต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ได้อย่างไร?
ทุกวันนี้ เซียวเฉวียนเป็นถึงผู้นำของชิงหยวน ลูกศิษย์ของปีศาจกวี เป็นคนที่ไม่จำเป็นต้องคุกเข่าเมื่ออยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ ปล่อยให้ฉินซูโหรวดูหมิ่นเซียวเฉวียนในที่สาธารณะ จากนั้นก็ปล่อยให้ฉินซูโหรว “ยินยอม” หย่าร้างแต่โดยดีด้วยความสมัครใจ นี่ก็ถือเป็นเกียรติอันสูงสุดที่ฮ่องเต้มีต่อตระกูลฉินแล้ว
“ข้า......ฝ่าบาท ข้า......”
ฉินซูโหรวพูดติดอ่างออกมา ท่าทางดูหมิ่นเมื่อครู่หยุดลงในทันใด
นางไม่กล้าโกหกต่อหน้าฮ่องเต้เหมือนกับเซียวเฉวียน หากนางพูดเรื่องตั้งครรภ์ออกมา นั่นจะถือเป็นความผิดในข้อหาหลอกลวงฮ่องเต้!
ในตอนนั้น ฉินซูโหรวที่คิดจะปฏิเสธฮ่องเต้ก็ไม่สามารถหาเหตุผลในการปฏิเสธหย่าร้างแต่โดยดีออกมาได้!
ทั้งหมดเป็นความผิดของนาง ผิดที่เมื่อครู่นางพูดจาเหลวไหลออกมามากมาย!
แต่ฉินซูโหรวจะมาเสียใจตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว ดวงตาหลายร้อยคู่จับจ้องมาที่นาง เสียงกระซิบของคนเหล่านั้นดังขึ้น ทำให้ฉินซูโหรวรู้สึกเขินอายและลำบากใจเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อเหล่าขุนนางกลับมามีสติอีกครั้ง สิ่งแรกที่พวกเขากล่าวออกมาก็คือ “เยี่ยมไปเลย! นี่ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง!”
“ข้าได้ยินมาตั้งนานแล้วว่าจวนฉินรังเกียจนายท่านผู้นี้ ดูจากสิ่งที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้ สิ่งที่ได้ยินมาทั้งหมดล้วนเป็นความจริง เวลานี้ท่านหญิงสามารถหย่าร้างแต่โดยดีกับเซียวเฉวียนได้แล้ว มันจะต้องเป็นเรื่องที่น่าดีใจอย่างไม่ต้องสงสัย!”
“ใช่แล้ว! จะไม่น่าดีใจได้อย่างไร! ท่านหญิงจะต้องมีความสุขมาก ๆ เซียวเฉวียนเกิดมาจากครอบครัวที่ยากจน ไม่ได้เป็นคุณชายของตระกูลขุนนางแต่อย่างใด เมื่อเทียบกับตระกูลขุนนางอย่างตระกูลฉิน เซียวเฉวียนไม่เหมาะสมเลยแม้แต่น้อย”
“ใช่ ผู้นำของชิงหยวนแล้วอย่างไร มันก็แค่อาจารย์คนหนึ่งเท่านั้น ก็แค่ผู้ดูแลปัญญาชน ไม่มีอำนาจแต่อย่างใด และไม่ได้มีเส้นทางที่สดใสในอนาคต”
ทุกคนต่างคิดว่า วันนี้จะเป็นวันที่เซียวเฉวียนสูญสิ้นอำนาจ
เนื่องจากองค์หญิงต้าถงจากไปแล้ว และงานเลี้ยงอภิเษกสมรสที่ฝ่าบาทจัดขึ้นในวันนี้ ทั้งหมดก็เพื่อให้เกียรติซินเจียงเท่านั้น
เนื่องจากได้พูดออกมาแล้ว ทั้งดินแดนต้าเว่ยต่างรู้กันดีว่าวันนี้จะได้พระราชบุตรเขยเพิ่มอีกหนึ่งคน ดังนั้นต่อให้มันเป็นเรื่องไร้สาระมากเพียงใด แต่ฝ่าบาทก็ต้องปล่อยให้เซียวเฉวียนแต่งงานกับคนที่ตายไปแล้วถึงได้จัดงานเลี้ยงอภิเษกสมรสนี้ขึ้น
องค์หญิงที่ตายไปแล้ว จะนำพาประโยชน์อะไรมาให้กับเซียวเฉวียนได้?
เถ้ากระดูก?
ฮ่าฮ่าฮ่า!
หลังจากที่เซียวเฉวียนอภิเษกกับองค์หญิงต้าถง เขาจะต้องเฝ้าอยู่ในสุสานเป็นเวลาสามปีหรือเปล่า?
เดิมทีผู้ชายไม่จำเป็นต้องเฝ้าสุสานของภรรยา แต่องค์หญิงต้าถงเป็นเชื้อพระวงศ์ เซียวเฉวียนเป็นขุนนาง อย่างไรเสียงเซียวเฉวียนก็เป็นเพียงแค่นายท่านผู้หนึ่ง ทุกอย่างก็แค่เปลี่ยนสถานที่เท่านั้น
ในช่วงเวลาสามปี แม้ว่าเซียวเฉวียนจะเป็นผู้นำของชิงหยวนและลูกศิษย์ของปีศาจกวี แต่เข้าจะไปประสบความสำเร็จอะไรได้?
ซึ่งต่างจากจวนฉิน จวนฉินอยู่ในจุดสูงสุดของตระกูลขุนนาง พวกตอนนี้พวกเขาไม่ประจบประแจงตระกูลฉิน เช่นนั้นพวกเขาจะต้องรอไปถึงเมื่อไหร่!
และการที่ฝ่าบาทให้เซียวเฉวียนแต่งงานกับองค์หญิงที่ตายไปแล้ว มันก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเซียวเฉวียนได้สูญเสียความโปรดปรานของเขาไปแล้ว
ชีวิตหลังจากนี้ของเซียวเฉวียน มันไม่เหลือเส้นทางให้เขาก้าวเดินอีกต่อไป!
เหล่าขุนนางและแม่ทัพ พวกเขาไม่เพียงเก่งแค่เรื่องการวางกลอุบายเท่านั้น แต่ยังเก่งเรื่องการระดมความคิด
เมื่อฮ่องเต้ไม่พูดอะไร เหล่าขุนนางและแม่ทัพต่างก็มีความคิดอันยิ่งใหญ่อยู่ในใจของพวกเขาแล้ว!
ดังนั้นเซียวเฉวียนที่ไร้ซึ่งอนาคตจึงตกเป็นขี้ปากของพวกเขา ซึ่งไม่ต่างอะไรกับวิญญาณแห่งหายนะ
“แม่ทัพฉิน อย่าหาว่าพวกเรายุ่งไม่เข้าเรื่อง” ขุนนางผู้หนึ่งก้าวออกมา “การหย่าร้างครั้งนี้ถือเป็นเรื่องดี! ตั้งแต่เซียวเฉวียนได้เป็นนายท่านแห่งจวนฉิน จวนฉินก็ได้พบเจอกับเรื่องเลวร้ายต่าง ๆ มากมาย ทั้งหมดจะต้องเป็นเพราะเซียวเฉวียน!”
“ใช่ เขาคือผู้โชคร้ายที่นำมาซึ่งหายนะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...