คำพูดของเซียวเฉวียนเหมือนกับการขว้างก้อนหินขนาดใหญ่ลงในทะเลสาบอันเงียบสงบ
ทุกคนขมวดคิ้ว และมองไปที่เซียวเฉวียนที่มีสีหน้ามั่นคง น่าขัน! ช่างน่าขันเสียจริง!
ท่านหญิงยังไม่ทันได้พูดอะไร เซียวเฉวียนกลับพูดขึ้นว่ายินยอม?
ตอนนี้ ผู้มียศถาบรรดาศักดิ์อยู่กันถ้วนหน้า นายท่านที่แต่งเข้าอย่างเซียวเฉวียนสามารถออกความเห็นได้ด้วยงั้นหรือ!
เจตนารมณ์ของฝ่าบาทชัดเจนมาก คงต้องดูที่เจตนารมณ์ของท่านหญิง!
ตอนนี้เซียวเฉวียนผู้ที่ไร้อำนาจไร้อิทธิพลก็ดีเสียจริง มีหน้ามาพูดว่ายินยอม ผู้ที่ต้องพูดคือท่านหญิง!
หน้าใหญ่เหลือเกิน!
จากนี้ไป อนาคตของเซียวเฉวียนจะมืดบอด เขาควรจะกอดขาจวนฉินให้แน่นจึงจะถูก!
ผลสุดท้ายเซียวเฉวียนกล้าพูดต่อหน้าผู้คนมากมายว่า เขายินยอมที่จะหย่าร้างงั้นหรือ?
ฮ่า ๆ ๆ!
ช่างน่าขันเสียจริง!
หรือนี่คือการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเซียวเฉวียน ทำสถานการณ์ให้แย่ลงกว่าเดิม ตั้งใจหักหน้าท่านหญิงงั้นหรือ?
ฉินซูโหรวกำหมัดแน่น คำพูดที่ออกไปแล้วจะกลับกลายเป็นนายเราทันที เซียวเฉวียนไม่เหลือทางให้นางได้ถอยกลับเลย!
เซียวเฉวียนรู้ดีว่าตัวเองมีลูกอยู่ในครรภ์ เขายังกล้าตัดสินใจเช่นนี้อีก!
ผู้ชายห่วยแตก!
เป็นผู้ชายที่ห่วยแตกจริง ๆ!
พ่อฉินขมวดคิ้วแน่น ดูท่านายท่านจะใจแข็งแล้วจริง ๆ
ไม่ได้การ!
เซียวเฉวียนเป็นนายท่านที่ดีคนหนึ่ง จวนฉินต้องการเขา
พ่อฉินกำลังอ้าปากพูด แต่เซียวเฉวียนไม่เปิดโอกาสนั้นให้เขา เห็นเพียงเซียวเฉวียนรุดเดินไปด้านหน้าอย่างว่องไว แสดงความเคารพและพูดว่า “ถวายบังคมฝ่าบาท! หม่อมฉันจะนำตัวเซี่ยวเฟิงมาให้พระองค์ได้ทอดพระเนตร!”
เซียวเฉวียนต่างจากผู้อื่น ทุกคนกำลังวุ่นวายกับเรื่องเล็กที่จะหย่าหรือไม่หย่า แต่เซียวเฉวียนจัดการปัญหาของเซี่ยวเฟิงก่อน
เซี่ยวเฟิงเป็นสัตว์สงครามของต้าเว่ย แม้ว่าเซียวเฉวียนจะให้เซี่ยวเฟิงยอมรับนายแล้ว แต่เซี่ยวเฟิงเป็นของราชสำนักต้าเว่ย ไม่ใช่ของส่วนตัวของผู้ใด
หากว่าเซียวเฉวียนนำมาครอบครองเป็นของตัวเอง เขาจะต้องถูกสงสัยว่าเป็นกบฏแน่นอน
วิธีที่ดีที่สุด คือถวายเซี่ยวเฟิงให้แก่ฮ่องเต้
ข้อแรก เซียวเฉวียนมีคุณงามความดี
ข้อสอง เซี่ยวเฟิงเป็นสิ่งที่รับมือได้ยาก หากอยู่ในมือเซียวเฉวียน อาจถูกพวกเว่ยเจี้ยนกั๋วมาปล้นชิงไปได้ เป็นการดีกว่าหากอยู่กับฮ่องเต้
ความคิดของเซียวเฉวียน เหตุใดฮ่องเต้จึงไม่เข้าใจ?
เซี่ยวเฟิงที่รับมือได้ยากเช่นนี้ เซียวเฉวียนไม่อยากได้ ฮ่องเต้ก็ไม่ต้องการเช่นกัน
เหล่าขุนนางชั้นสูงเห็นว่าเซียวเฉวียนไม่ต้องคุกเข่าต่อหน้าฮ่องเต้ ก็แสดงสีหน้าอิจฉาริษยาออกมา
“อะแฮ่ม” ฮ่องเต้ยิ้มเล็กน้อย “ขุนนางเซียว เจ้าจับเป็นเซี่ยวเฟิงได้ถือเป็นการสร้างความดีความชอบ มา ข้าตบรางวัลให้เป็นทองคำสองร้อยตำลึง!”
สำหรับเซี่ยวเฟิง ฮ่องเต้ไม่ได้บอกว่าพระองค์จะรับไว้หรือไม่ แต่เซียวเฉวียนกลับเข้าใจทุกอย่างดี
ฮ่องเต้น้อยไร้น้ำใจเสียจริง! เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว หากว่าเซี่ยวเฟิงอยู่ในมือของเขา เกรงว่าจะไม่ได้มีชีวิตที่สงบสุขอีกแล้ว
แต่ฮ่องเต้ไม่ต้องการ เซียวเฉวียนก็ทำได้เพียงเก็บไว้เอง
เขาถวายบังคมขอบพระทัย “ขอบพระทัยฝ่าบาท หม่อมฉันจะดูแลเซี่ยวเฟิงให้ดี!”
ขณะนั้นเอง เฉาสิงจือลุกขึ้นมาแสดงความเคารพและพูดว่า “ฝ่าบาท เซี่ยวเฟิงเป็นสัตว์สงคราม ควรส่งกลับคืนกองทหาร ไม่ควรให้ใต้เท้าเซียวเป็นผู้จัดการดูแล”
เฉาสิงจือรู้นิสัยใจคอของเซี่ยวเฟิงดี ที่เขาพูดเช่นนี้ก็เพราะหวังดีต่อเซียวเฉวียน
เซียวเฉวียนหันหน้าไปแสดงความขอบคุณต่อเขา ไม่คิดว่าจะมีอีกผู้หนึ่งลุกขึ้นมาทูลฝ่าบาทด้วยเช่นกัน “ใต้เท้าเฉาพูดถูกพะยะค่ะ เซียวเฉวียนจะมีคุณสมบัติจัดการสัตว์สงครามของต้าเว่ยได้อย่างไร?”
เซียวเฉวียนเหลือบมอง ผู้นั้นคือจ้าวจินไหล พ่อของหมาบ้าจ้าวซิ่น
เพียงแต่เฉาสิงจือแสดงความห่วงใย จ้าวจินไหลกลับพูดดูถูก
ในสายตาขุนนางผู้ยิ่งใหญ่อย่างจ้าวจินไหล เซียวเฉวียนเป็นเพียงขุนนางเล็ก ๆ ระดับห้า ไม่มีความสามารถพอจะดูแลสัตว์สงครามอย่างเซี่ยวเฟิงได้
แม้ว่าเซี่ยวเฟิงจะมีพลังที่แข็งแกร่งในการสู้รบ แต่มีนิสัยค่อนข้างจุกจิก
น้ำดื่มของเซี่ยวเฟิง จะต้องไม่เป็นน้ำดื่มธรรมดา แต่ต้องเป็นน้ำค้างตอนเช้าที่อยู่บนใบไผ่ น้ำค้างตอนเช้าบนต้นไม้ทั่วไปก็ไม่ได้
และอาหารที่กิน เซี่ยวเฟิงก็ยิ่งจุกจิก เนื้อจะต้องเป็นเนื้อไหล่หมูชั้นดี สดนุ่มรสชาติอร่อย และไม่สามารถกินเนื้อส่วนอื่นได้
แต่หมูหนึ่งตัวมีส่วนเนื้อไหล่หมูเพียงสองสามกิโลกรัมเท่านั้น ปริมาณอาหารที่เซี่ยวเฟิงกินแต่ละครั้งราว ๆ สี่สิบกิโลกรัม ต่อให้ฆ่าหมูวันละสิบหกตัว เนื้อไหล่หมูก็ยังไม่พอสำหรับเซี่ยวเฟิง
แม้แต่ฮ่องเต้ ก็มีเนื้อเพียงร้อยกว่ากิโลกรัมต่อวันเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...