อ่านสรุป บทที่ 353 ตายเพราะพิษเจิ้น จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บทที่ บทที่ 353 ตายเพราะพิษเจิ้น คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
งานเลี้ยงสำคัญในวัง มักมีหมอหลวงประจำการอยู่
ทันทีที่ไทเฮาตะโกนเรียก หมอหลวงก็มาในทันที
น่าเสียดาย ท่านอ๋องสิบหกมีเลือดออกทั้งทวารทั้งเจ็ด สิ้นชีพิตักษัย
เซียวเฉวียนไม่อยากเชื่อ คนที่เว่ยเจี้ยนกั๋วส่งมา โหดร้ายถึงขั้นที่กล้าวางยาสังหารน้องชายแท้ ๆ ของฮ่องเต้เลยงั้นหรือ?
อัครเสนาบดีเพิ่งตาย ดังนั้นนี่คือคำเตือนที่เว่ยเจี้ยนกั๋วมอบให้ฮ่องเต้เช่นนั้นหรือ?
สายฝนแห่งคาวเลือดของราชสำนัก โหดร้ายกว่าที่เซียวเฉวียนคิดไว้มาก
ท่านอ๋องสิบหกเพิ่งอายุสิบสี่ปี มีอนาคตที่สดใส แต่กลับ...
เหล่าหมอหลวงตกใจจนมือเท้าสั่นหงึก ๆ เหงื่อไหลเต็มศีรษะ การช่วยเหลือฉุกเฉินกินเวลากว่าสิบนาที แต่ท่านอ๋องสิบหกไม่มีการตอบสนองใด ๆ เลย
แม่ฉินสีหน้าซีดเซียว วันนี้นางเป็นผู้เชิญไทเฮาและท่านอ๋องสิบหกมา และยังเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นในวันนี้ ต่อจากนี้ไทเฮาจักต้องกล่าวโทษนางเป็นแน่!
แม่ฉินพูดอย่างเศร้าโศก “เสด็จแม่...”
“หลบไป!” ไทเฮาผลักนางกระเด็น แม่ฉินเป็นบุตรสาวบุญธรรม ต่อให้ไทเฮารักบุตรสาวบุญธรรมผู้นี้มากเพียงใด แต่ก็ไม่สำคัญเท่ากับลูกชายแท้ ๆ
ไทเฮาโอบกอดท่านอ๋องสิบหกไว้เต็มอก ถามติดต่อกันไม่หยุด “เป็นอย่างไรบ้าง? เป็นอย่างไรบ้าง?”
“ฝ่าบาท ไทเฮา หม่อมฉันได้พยายามอย่างที่สุดแล้ว...” เหล่าหมอหลวงเก็บเข็มเงิน ตัวสั่นเทา “ท่านอ๋องสิบหกสิ้นเพราะพิษเจิ้นพะยะค่ะ”
เจิ้นคือนกมีพิษชนิดหนึ่ง นกตัวผู้มีชื่อว่าอวิ้นรื่อ นกตัวเมียมีชื่อว่าอินเสีย นำขนหรือมูลของเจิ้นใส่ในเหล้า เหล้าก็เป็นพิษที่ร้ายแรง
เจิ้นเป็นนกล่าเหยื่อที่ค่อนข้างดุร้าย ลำตัวใหญ่กว่านกอินทรี เสียงร้องกังวานและดุดัน ขนของมันมีสีม่วงอมดำ คอเรียวยาว จะงอยปากสีแดง เนื่องจากมันกินพืชที่มีพิษทุกชนิดเป็นอาหาร ดังนั้นขนของมันจึงมีพิษที่ร้ายแรง หากใช้ขนของมันจุ่มลงในเหล้าเพียงชั่วครู่ เหล้าก็จะกลายเป็นเหล้าพิษที่มีพิษร้ายแรงที่สุด
หลังจากที่คนดื่มพิษเจิ้นเข้าไปแล้ว จะเสียชีวิตลงในระยะเวลาสั้น ๆ พิษยังไม่ทันเข้ากระเพาะและลำไส้ ก็ทำลายลำคอจนหมดสิ้น พิษทำให้เสียชีวิตอย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะมียาแก้พิษก็อาจสายเกินไปที่จะช่วยชีวิตได้
ในสมัยฮว๋าเซี่ย พิษเจิ้นถูกใช้ในการสังหารผู้สูงศักดิ์หรือผู้มีอำนาจบารมีสูงส่ง
“ลูกของข้า!”
ไทเฮาทุกข์ใจอย่างที่สุด
เซียวเฉวียนสีหน้าตะลึง นี่คือ...
ฮ่องเต้ขมวดคิ้วแน่น มีคนปองร้ายเซียวเฉวียน แต่กลับสังหารผิดเป็นน้องสิบหก
เหล่าขุนนางทั้งหลายคุกเข่าลงกับพื้น ไม่กล้าแม้แต่จะปริปากพูด
แม่ฉินยิ่งกว่าคุกเข่าลงไปร้องไห้อยู่ที่พื้น หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ นางคงไม่เรียกไทเฮาและท่านอ๋องสิบหกมาด้วย ต้องโทษเซียวเฉวียน เรื่องทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเซียวเฉวียน!
“แค่ก...”
“แค่ก...”
เสียงไอเบา ๆ ดังขึ้น เซียวเฉวียนที่หูดีก็ตะโกนขึ้น “หมอหลวง! ท่านอ๋องยังหายใจอยู่! ยังหายใจอยู่!”
หมอหลวงที่คุกเข่าอยู่บนพื้นมองหน้ากัน เป็นไปได้อย่างไร เมื่อครู่ท่านอ๋องสิ้นลมไปแล้ว
พวกเขาหลายคนตรวจด้วยตาของพวกเขาเอง!
“แค่ก ๆ!”
เสียงท่านอ๋องสิบหกไออย่างรุนแรง และสำรอกเลือดสกปรกออกมาเต็มปาก ค่อย ๆ ลืมดวงตาขึ้น “ใคร... ใครบีบฉันแน่นแบบนี้เนี่ย? หายใจไม่ออกแล้ว ปั๊ดโถ่!”
ผู้คนรอบ ๆ ไม่เข้าใจคำพูดนี้ เซียวเฉวียนกลับคุ้นเคยและรู้สึกถึงความใกล้ชิด
ไม่ใช่ว่าท่านอ๋องสิบหกไม่ตาย และไม่ใช่การฟื้นคืนชีพ
แต่ว่ามีคนฮว๋าเซี่ย ทะลุมิติมาแล้ว
เช่นเดียวกับอี้อู๋หลี่และเซียวเฉวียนในตอนนั้น
เมื่อเห็นว่าท่านอ๋องพูดได้ ทุกคนก็ร้องด้วยความตกตะลึง!
ดังนั้น เหล่าหมอหลวงจึงกุลีกุจอตรวจชีพจรให้แก่ท่านอ๋องสิบหก
ไทเฮาไม่ทันได้ตกใจ นางรู้เพียงว่าลูกชายสุดที่รักมีชีวิตรอดกลับมาแล้ว จึงคอยเฝ้าอยู่ตลอด
ผู้คนต่างพากันตกใจ แต่ก็รู้สึกยินดี
มีเพียงฮ่องเต้และเซียวเฉวียนที่นิ่งเงียบ
“ฝ่าบาท ท่านอ๋องสิบหกทรงปลอดภัยแล้ว อัศจรรย์ ช่างน่าอัศจรรย์เสียจริง”
หากเป็นเมื่อก่อน ฮ่องเต้คงคิดว่านี่เป็นเรื่องอัศจรรย์
แต่เมื่อมีคนอย่างอี้อู๋หลี่และเซียวเฉวียนอยู่ตรงหน้า เขารู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่น้องสิบหกของเขา
“อืม” ฮ่องเต้ไม่มีท่าทีอะไร เพียงแต่ขมวดคิ้วแน่น
“ให้ตายเถอะ ที่นี่ที่ไหนกันเนี่ย?”
ถือว่าไม่เลว เซียวเฉวียนจึงถามเพิ่มอีกว่า “ภาษาจีนคะแนนเต็มเท่าไร?”
“หนึ่งร้อยห้าสิบ”
เว่ยอวี๋กระพริบตาปริบๆ ทำสีหน้าไร้เดียงสา
เซียวเฉวียนคาดไม่ถึง ให้ตายเถอะ คะแนนเต็มหนึ่งร้อยห้าสิบคะแนน สอบได้แปดสิบห้ายังไม่นับว่าสอบผ่าน! สอบได้เก้าสิบคะแนนถึงจะถือว่าสอบผ่าน!
“นายยังกล้าบอกว่าไม่เลวอีกเหรอ?”
เซียวเฉวียนแทบจะบ้าตาย
“แต่คณิตศาสตร์ผมได้แค่ยี่สิบคะแนนเองนะ!” เว่ยอวี๋กระพริบตาปริบ ๆ
“นาย...”
เป็นครั้งแรกที่เซียวเฉวียนถูกคนของตัวเองทำให้โมโหได้ขนาดนี้!
เซียวเฉวียนมีความหวังอย่างแรงกล้า คนที่ถูกวางยาพิษจนตายในคืนนี้ควรเป็นตัวเขาเอง!
ไม่เช่นนั้นคงโมโหเว่ยอวี๋จนตาย!
เซียวเฉวียนเห็นเพียงความมืดมิด พลางยืดขาออกไปอย่างทำอะไรไม่ถูก “งั้นบอกฉันมาสิ นายจะเอาชีวิตรอดต่อไปยังไง?”
ราชสำนักน่าหวาดกลัวและอันตราย ผู้คนชนชั้นสูงโหดเหี้ยม หากเว่ยอวี๋ไม่มีวิชาติดตัวจะทำเช่นไร?
เว่ยอวี๋รู้สึกผิดเล็กน้อย “พี่ ผมก็มีพี่อยู่ไม่ใช่เหรอ! เรื่องเรียนผมไม่ได้เรื่องจริง ๆ! พวกหนังสือประวัติศาสตร์ แค่ผมเห็นผมก็ง่วงจะตายชัก!”
เว่ยอวี๋ส่ายหัว “ผมใช้ชีวิตมาสี่สิบปี แตะหนังสือไปไม่กี่เล่มเอง! สมัยเรียนอ่านอะไรไปก็ลืมไปหมดแล้ว!”
“เดี๋ยวก่อนนะ” เซียวเฉวียนตกใจ “นายมีอายุเท่าไรในฮว๋าเซี่ย?”
“ในฮว๋าเซี่ย ผมเพิ่งฉลองวันเกิดสี่สิบปีไปเอง! เป็นตาลุงคนหนึ่ง! แหะ ๆ!” เว่ยอวี๋มีเพื่อนอย่างเซียวเฉวียนอยู่ที่นี่ด้วย เขาไม่งุนงงเหมือนเซียวเฉวียนในช่วงแรก ค่อนข้างจะปรับตัวได้ไว พลางพูดอย่างดีใจ “ร่างนี้อายุแค่สิบสี่ปี เพียงแค่ครู่เดียวผมก็เด็กลงตั้งเยอะเลย!”
ให้ตายเถอะ!
กำไรเห็น ๆ!
กลับมาเป็นเด็กอีกครั้ง ในชั่วข้ามคืน!
ไม่มีวิชาความสามารถก็ช่างปะไร ความสามารถที่ดีที่สุดของเว่ยอวี๋ ก็คือตำแหน่งของท่านอ๋องสิบหก!
เซียวเฉวียนยังแอบอิจฉาอยู่เล็กน้อย เขาส่ายหัว ทั้งดีใจทั้งหมดคำจะพูด “เหล่าอวี๋ ต่อไปนายต้องทำอะไรอย่างถ่อมตัว และคอยปกป้องฉันด้วยนะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...