เว่ยอวี๋เบิกตาโพล่ง “พี่เซียว ดูพี่พูดเข้าสิ พี่สิที่ต้องปกป้องผม!”
“ให้ตายเถอะ ผมเพิ่งกินเค้กวันเกิดเสร็จ ก็มาถึงที่นี่เลย ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย! พี่เซียวเป็นผู้รอบรู้ของพิพิธภัณฑ์ พี่ต้องปกป้องผมถึงจะถูก!”
เว่ยอวี๋โอบไหลเซียวเฉวียน แต่แทบโอบไม่ถึง เพราะเซียวเฉวียนสูงมาก ร่างกายของเว่ยอวี๋เป็นเพียงแค่เด็กน้อย ไม่เพียงแค่ไม่สูง แต่ขนบนร่างกายเขายังไม่ขึ้นเลยด้วยซ้ำ
การที่เว่ยอวี๋พูดเช่นนี้ เซียวเฉวียนค่อนข้างลำบากใจ
ให้ตายเถอะ แม้เหล่าอวี๋ผู้นี้จะไม่ค่อยรู้อะไร แต่โชคดีเลยทีเดียว ทะลุมิติมาเป็นองค์ชายบุคคลผู้สูงส่งที่เรืองอำนาจ ไม่เหมือนเซียวเฉวียน ต้องมาอยู่ในตระกูลเซียวที่ไม่เหลืออะไรเลยและร่างที่ไร้ชื่อเสียงของเซียวติ้ง
ท่านอ๋องสิบหกฐานะสูงส่ง เป็นราชวงศ์ เสด็จพ่อเป็นฮ่องเต้ เสด็จพี่ก็เป็นฮ่องเต้ เสด็จแม่เป็นไทเฮา เรียกได้ว่าขอลมได้ลม ขอฝนได้ฝนเลยทีเดียว
สภาพเช่นนี้ เซียวเฉวียนต้องฟันฝ่าอีกนานเท่าใดจึงจะมีได้บ้าง?
ในสมัยโบราณ ฐานะและตำแหน่งสำคัญกว่าความรู้ความสามารถอยู่มาก
เซียวเฉวียนมาที่นี่นานขนาดนี้ ต้องขอบคุณบารมีของท่านอาจารย์ ที่ทำให้เขาได้เป็นเจ้าของชิงหยวน
ตอนนี้เซียวเฉวียนรู้เพียงว่าเว่ยอวี๋เป็นคนต้าเซี่ย แต่นิสัยใจคอเป็นอย่างไร นิสัยดีหรือร้าย เขาไม่รู้อะไรเลย รู้เพียงว่าไม่สนใจใยดีสิ่งใดสักเท่าไร
ดังนั้นนอกจากความดีใจ ในใจเซียวเฉวียนก็ต้องคอยระแวดระวังอยู่บ้าง เขาเตือนเว่ยอวี๋ “อยู่ต่อหน้าคนนอก ต้องประพฤติตนให้เหมาะสมกับท่าทางของท่านอ๋องสิบหก จำไว้ว่าอย่าทำตัวทันสมัยเกินไป ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหามากมาย”
“โอเค ๆ แหะ ๆ พี่เซียว ในโลกปัจจุบันผมเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ตอนนี้ผมเป็นท่านอ๋อง หมายความว่าเนื้อหรือปลา อาหารที่ล้ำค่าหลากรสต่าง ๆ ก็จะได้กินหมดเลยใช่ไหม?”
เว่ยอวี๋กลืนน้ำลายเอือกใหญ่ เซียวเฉวียนกลอกตามองบน “เพ้อเกินไปแล้ว คนโบราณกินของเหมือนก้อนปฏิกูล ให้นายกิน คาดว่านายคงกินไม่ลงแน่”
“อ๋า? แล้วปิ้งย่างล่ะ?” เว่ยอวี๋เบิกตากว้าง “ถ้าในหนึ่งวันผมไม่ได้กินปิ้งย่าง ไม่ได้กินหมูสองไฟ ผมคงอยู่ไม่ได้แน่ ๆ!”
“ที่โรงเหล้าของฉันมีหมูสองไฟ อย่างอื่นไม่มี” เซียวเฉวียนพูดเรื่องนี้ขึ้น ก็อยากร้องไห้ไม่ต่างจากเว่ยอวี๋ “หมูสองไฟนี้ ฉันรวบรวมวัตถุดิบและปรุงมันขึ้นมา หลังจากที่ฉันสอบจอหงวนได้”
“ว้าว! ต้องสอบจอหงวนได้จึงจะมีพริกไทยกับพริกฮวาเจียวเหรอ? ถ้าอย่างนั้นคนโบราณก็ใช้ชีวิตแบบไร้ความหมายกันสุด ๆ พี่เซียว เสียใจกับพี่ด้วยนะ พี่ใช้ชีวิตที่นี่ได้อย่างไรเนี่ย!”
“จุ๊ ๆ คนโบราณน่าสงสารเสียจริง แม้แต่ปิ้งย่างก็ยังไม่เคย!”
เว่ยอวี๋ทำท่าทางรังเกียจรังงอน ราวกับเซียวเฉวียนไม่มีผิด
คนธรรมดาคนหนึ่งของต้าเซี่ยมายังต้าเว่ย ต่างรู้สึกรังเกียจอย่างที่สุด เห็นได้ชัดว่าคนต้าเซี่ยมีความสุขกว่าคนโบราณมากโข
“วันนี้ที่พระราชวังคึกคักเป็นพิเศษ เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
เว่ยอวี๋มีบางสิ่งที่ต่างจากเซียวเฉวียนมากที่สุดคือ เว่ยอวี๋ไม่หลงเหลือความทรงจำของร่างเดิมอยู่เลย ประสบการณ์ชีวิตของท่านอ๋องสิบหกคนเดิม เว่ยอวี๋นึกไม่ออกเลยแม้แต่น้อย
เซียวเฉวียนจึงทำได้เพียงเล่าเหตุการณ์ประลองยุทธเลือกคู่ให้เขาฟัง หลังจากเว่ยอวี๋ได้ฟัง ก็ตบลงบนต้นขาดังป้าบ “เลิก! ยังไงก็ต้องเลิกกับฉินซูโหรวคนนั้น!”
“ถ้าผู้หญิงคนนี้อยู่ในยุคปัจจุบันของเรา ไม่ถูกตีตายไปแล้วเหรอ? พี่เซียว พวกเราทนรับความไม่ยุติธรรมแบบนี้ไม่ได้หรอก” เว่ยอวี๋ตบเบา ๆ ที่หน้าอก “ผมเป็นพี่ชายกลับไม่มีประโยชน์อะไรเลย แต่ตอนนี้ผมเป็นท่านอ๋อง พี่สบายใจได้ ผมจะออกไปสนับสนุนการหย่าของพี่เอง!”
“ต่อให้ยายแก่พวกนั้นมาคอยจอแจ ผมก็จะช่วยพี่ให้สำเร็จจนได้”
“เหล่าอวี๋ นั่นคือเสด็จแม่ของนายนะ” เซียวเฉวียนทำอะไรไม่ถูก “นายไม่ควรเรียกนางเช่นนั้น ถ้าเรียกจนติดปากแล้วถูกคนอื่นได้ยินเข้า นับว่าเป็นคนอกตัญญูอย่างยิ่งเลยนะ”
ตอนนี้เว่ยอวี๋ไม่มีความทรงจำของท่านอ๋องสิบหก เป็นคนสมัยปัจจุบันโดยสมบูรณ์และไม่เข้าใจสิ่งใดเลย เซียวเฉวียนจึงต้องคอยชี้แนะให้มาก
“ให้ตาย! ผมก็เสียเปรียบสิ! ผมอยู่ที่ต้าเว่ยอายุสี่สิบปีแล้ว ต้องมาเรียกสาว ๆ อายุสามสิบห้าว่าเสด็จแม่เนี่ยนะ?” เว่ยอวี๋ไม่ยอม ราวกับกำลังเสียเปรียบอยู่มาก “ถ้าอย่างนั้นฮ่องเต้น้อยอายุแค่สิบกว่าปี ผมต้องเรียกเขาว่าเสด็จพี่ด้วยเหรอ?”
เว่ยอวี๋ลูบศีรษะ “ในต้าเว่ย นอกจากพี่เซียวแล้ว ยังมีใครที่ควรค่าแก่การให้ผมเรียกว่าพี่บ้าง?”
“ไม่มีเหตุผลจะอธิบายเรื่องนี้ได้ ลำดับญาติแบ่งไว้ชัดเจนแล้ว” เซียวเฉวียนขำที่เขาพูดล้อเล่น “ฉันยังต้องเรียกฮ่องเต้ว่าเสด็จน้าเลยนะ!”
“โอ้โห ให้ตายเถอะ ฮ่องเต้เพิ่งอายุเท่าไร ต้องเรียกน้าเลยเหรอ?”
พระเจ้า เว่ยอวี๋พูดจาตรงไปตรงมาเช่นนี้ ทำให้เซียวเฉวียนผู้ที่ระแวดระวังตัวอยู่ตลอด อดไม่ได้ที่จะกุมหัวร้องไห้ “เหล่าอวี๋! พวกเราต้องเจียมตัวหน่อยนะ!”
“ไป ผมจะพาไปจัดการพวกผู้หญิงอย่างฉินซูโหรว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...