ตอน บทที่ 354 ไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้อีก จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 354 ไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้อีก คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
เว่ยอวี๋เบิกตาโพล่ง “พี่เซียว ดูพี่พูดเข้าสิ พี่สิที่ต้องปกป้องผม!”
“ให้ตายเถอะ ผมเพิ่งกินเค้กวันเกิดเสร็จ ก็มาถึงที่นี่เลย ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย! พี่เซียวเป็นผู้รอบรู้ของพิพิธภัณฑ์ พี่ต้องปกป้องผมถึงจะถูก!”
เว่ยอวี๋โอบไหลเซียวเฉวียน แต่แทบโอบไม่ถึง เพราะเซียวเฉวียนสูงมาก ร่างกายของเว่ยอวี๋เป็นเพียงแค่เด็กน้อย ไม่เพียงแค่ไม่สูง แต่ขนบนร่างกายเขายังไม่ขึ้นเลยด้วยซ้ำ
การที่เว่ยอวี๋พูดเช่นนี้ เซียวเฉวียนค่อนข้างลำบากใจ
ให้ตายเถอะ แม้เหล่าอวี๋ผู้นี้จะไม่ค่อยรู้อะไร แต่โชคดีเลยทีเดียว ทะลุมิติมาเป็นองค์ชายบุคคลผู้สูงส่งที่เรืองอำนาจ ไม่เหมือนเซียวเฉวียน ต้องมาอยู่ในตระกูลเซียวที่ไม่เหลืออะไรเลยและร่างที่ไร้ชื่อเสียงของเซียวติ้ง
ท่านอ๋องสิบหกฐานะสูงส่ง เป็นราชวงศ์ เสด็จพ่อเป็นฮ่องเต้ เสด็จพี่ก็เป็นฮ่องเต้ เสด็จแม่เป็นไทเฮา เรียกได้ว่าขอลมได้ลม ขอฝนได้ฝนเลยทีเดียว
สภาพเช่นนี้ เซียวเฉวียนต้องฟันฝ่าอีกนานเท่าใดจึงจะมีได้บ้าง?
ในสมัยโบราณ ฐานะและตำแหน่งสำคัญกว่าความรู้ความสามารถอยู่มาก
เซียวเฉวียนมาที่นี่นานขนาดนี้ ต้องขอบคุณบารมีของท่านอาจารย์ ที่ทำให้เขาได้เป็นเจ้าของชิงหยวน
ตอนนี้เซียวเฉวียนรู้เพียงว่าเว่ยอวี๋เป็นคนต้าเซี่ย แต่นิสัยใจคอเป็นอย่างไร นิสัยดีหรือร้าย เขาไม่รู้อะไรเลย รู้เพียงว่าไม่สนใจใยดีสิ่งใดสักเท่าไร
ดังนั้นนอกจากความดีใจ ในใจเซียวเฉวียนก็ต้องคอยระแวดระวังอยู่บ้าง เขาเตือนเว่ยอวี๋ “อยู่ต่อหน้าคนนอก ต้องประพฤติตนให้เหมาะสมกับท่าทางของท่านอ๋องสิบหก จำไว้ว่าอย่าทำตัวทันสมัยเกินไป ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหามากมาย”
“โอเค ๆ แหะ ๆ พี่เซียว ในโลกปัจจุบันผมเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ตอนนี้ผมเป็นท่านอ๋อง หมายความว่าเนื้อหรือปลา อาหารที่ล้ำค่าหลากรสต่าง ๆ ก็จะได้กินหมดเลยใช่ไหม?”
เว่ยอวี๋กลืนน้ำลายเอือกใหญ่ เซียวเฉวียนกลอกตามองบน “เพ้อเกินไปแล้ว คนโบราณกินของเหมือนก้อนปฏิกูล ให้นายกิน คาดว่านายคงกินไม่ลงแน่”
“อ๋า? แล้วปิ้งย่างล่ะ?” เว่ยอวี๋เบิกตากว้าง “ถ้าในหนึ่งวันผมไม่ได้กินปิ้งย่าง ไม่ได้กินหมูสองไฟ ผมคงอยู่ไม่ได้แน่ ๆ!”
“ที่โรงเหล้าของฉันมีหมูสองไฟ อย่างอื่นไม่มี” เซียวเฉวียนพูดเรื่องนี้ขึ้น ก็อยากร้องไห้ไม่ต่างจากเว่ยอวี๋ “หมูสองไฟนี้ ฉันรวบรวมวัตถุดิบและปรุงมันขึ้นมา หลังจากที่ฉันสอบจอหงวนได้”
“ว้าว! ต้องสอบจอหงวนได้จึงจะมีพริกไทยกับพริกฮวาเจียวเหรอ? ถ้าอย่างนั้นคนโบราณก็ใช้ชีวิตแบบไร้ความหมายกันสุด ๆ พี่เซียว เสียใจกับพี่ด้วยนะ พี่ใช้ชีวิตที่นี่ได้อย่างไรเนี่ย!”
“จุ๊ ๆ คนโบราณน่าสงสารเสียจริง แม้แต่ปิ้งย่างก็ยังไม่เคย!”
เว่ยอวี๋ทำท่าทางรังเกียจรังงอน ราวกับเซียวเฉวียนไม่มีผิด
คนธรรมดาคนหนึ่งของต้าเซี่ยมายังต้าเว่ย ต่างรู้สึกรังเกียจอย่างที่สุด เห็นได้ชัดว่าคนต้าเซี่ยมีความสุขกว่าคนโบราณมากโข
“วันนี้ที่พระราชวังคึกคักเป็นพิเศษ เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
เว่ยอวี๋มีบางสิ่งที่ต่างจากเซียวเฉวียนมากที่สุดคือ เว่ยอวี๋ไม่หลงเหลือความทรงจำของร่างเดิมอยู่เลย ประสบการณ์ชีวิตของท่านอ๋องสิบหกคนเดิม เว่ยอวี๋นึกไม่ออกเลยแม้แต่น้อย
เซียวเฉวียนจึงทำได้เพียงเล่าเหตุการณ์ประลองยุทธเลือกคู่ให้เขาฟัง หลังจากเว่ยอวี๋ได้ฟัง ก็ตบลงบนต้นขาดังป้าบ “เลิก! ยังไงก็ต้องเลิกกับฉินซูโหรวคนนั้น!”
“ถ้าผู้หญิงคนนี้อยู่ในยุคปัจจุบันของเรา ไม่ถูกตีตายไปแล้วเหรอ? พี่เซียว พวกเราทนรับความไม่ยุติธรรมแบบนี้ไม่ได้หรอก” เว่ยอวี๋ตบเบา ๆ ที่หน้าอก “ผมเป็นพี่ชายกลับไม่มีประโยชน์อะไรเลย แต่ตอนนี้ผมเป็นท่านอ๋อง พี่สบายใจได้ ผมจะออกไปสนับสนุนการหย่าของพี่เอง!”
“ต่อให้ยายแก่พวกนั้นมาคอยจอแจ ผมก็จะช่วยพี่ให้สำเร็จจนได้”
“เหล่าอวี๋ นั่นคือเสด็จแม่ของนายนะ” เซียวเฉวียนทำอะไรไม่ถูก “นายไม่ควรเรียกนางเช่นนั้น ถ้าเรียกจนติดปากแล้วถูกคนอื่นได้ยินเข้า นับว่าเป็นคนอกตัญญูอย่างยิ่งเลยนะ”
ตอนนี้เว่ยอวี๋ไม่มีความทรงจำของท่านอ๋องสิบหก เป็นคนสมัยปัจจุบันโดยสมบูรณ์และไม่เข้าใจสิ่งใดเลย เซียวเฉวียนจึงต้องคอยชี้แนะให้มาก
“ให้ตาย! ผมก็เสียเปรียบสิ! ผมอยู่ที่ต้าเว่ยอายุสี่สิบปีแล้ว ต้องมาเรียกสาว ๆ อายุสามสิบห้าว่าเสด็จแม่เนี่ยนะ?” เว่ยอวี๋ไม่ยอม ราวกับกำลังเสียเปรียบอยู่มาก “ถ้าอย่างนั้นฮ่องเต้น้อยอายุแค่สิบกว่าปี ผมต้องเรียกเขาว่าเสด็จพี่ด้วยเหรอ?”
เว่ยอวี๋ลูบศีรษะ “ในต้าเว่ย นอกจากพี่เซียวแล้ว ยังมีใครที่ควรค่าแก่การให้ผมเรียกว่าพี่บ้าง?”
“ไม่มีเหตุผลจะอธิบายเรื่องนี้ได้ ลำดับญาติแบ่งไว้ชัดเจนแล้ว” เซียวเฉวียนขำที่เขาพูดล้อเล่น “ฉันยังต้องเรียกฮ่องเต้ว่าเสด็จน้าเลยนะ!”
“โอ้โห ให้ตายเถอะ ฮ่องเต้เพิ่งอายุเท่าไร ต้องเรียกน้าเลยเหรอ?”
พระเจ้า เว่ยอวี๋พูดจาตรงไปตรงมาเช่นนี้ ทำให้เซียวเฉวียนผู้ที่ระแวดระวังตัวอยู่ตลอด อดไม่ได้ที่จะกุมหัวร้องไห้ “เหล่าอวี๋! พวกเราต้องเจียมตัวหน่อยนะ!”
“ไป ผมจะพาไปจัดการพวกผู้หญิงอย่างฉินซูโหรว!”
ฉินซูโหรวแทบไม่ทันรู้ตัวว่าเขาพูดกับนาง
แม่ฉินงุนงง น้องสิบหกมาวันนี้เพื่อขัดขวางการหย่า เหตุใดตอนนี้จึงมีท่าทีที่เปลี่ยนไป?
เซียวเฉวียนนิ่งเงียบ เว่ยอวี๋เสียมารยาท แต่กลับไม่มีผู้ใดกล้าชี้แนะ อย่างไรก็เห็นด้วยว่าฐานะของเขาคือใคร
ฉินซูโหรวมีนิสัยเอาแต่ใจและอารมณ์ร้ายปากจัดมาโดยตลอด เมื่อถูกเว่ยอวี๋ตำหนิด้วยความโกรธก็ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น “ท่านน้าสิบหก หม่อมฉัน...”
“เจ้า ๆ ๆ! เจ้าทำไมรึ! ปกติเจ้าก็เอาแต่ใจ รังแกเซียวเฉวียนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ตอนนี้ข้าให้เจ้าหย่ากัน เจ้ากลับไม่ยินยอม!”
เว่ยอวี๋เปิดโปงฉินซูโหรวที่แสร้งทำเป็นซื่อตรง ๆ
เหล่าขุนนางทั้งหลายตะลึง ห๋า?
พวกเขายังคิดอยู่ว่าท่านหญิงมัวแต่พิรี้พิไรอยู่ไย ที่แท้ก็ไม่อยากหย่างั้นหรือ?
เหล่าขุนนางทั้งหลายแอบซุบซิบกัน แต่อย่าเอ็ดตะโรไป วิธีนี้กลับใช้ได้ผลกับคนที่ห่วงหน้าตาอย่างฉินซูโหรว นางทั้งอับอายทั้งโมโห “ผู้ใด ผู้ใดบอกว่าข้าไม่ยอมหย่า!”
“ข้าเพียงต้องการให้เซียวเฉวียนเห็นข้าประทับรอยนิ้วมือ ด้วยตาของเขาก็เท่านั้น!”
เซียวเฉวียนกลอกตามองบน คำพูดของฉินซูโหรวเพียงเพื่อต้องการบอกคนทั้งโลกว่า นางไม่ต้องการเซียวเฉวียน ไม่ใช่ว่าเซียวเฉวียนทอดทิ้งนางไป!
พูดจบ ด้วยความโกรธของฉินซูโหรว นางจึงประทับรอยนิ้วมือลงบนหนังสือหย่า เมื่อประทับเสร็จฉินซูโหรวเอามือปิดหน้า น้ำตาก็ไหลนองบนใบหน้าที่งดงาม เซียวเฉวียน เจ้าพอใจแล้วใช่หรือไม่!
“ลูกสาว!” พ่อฉินและแม่ฉินพูดขัดขวางอย่างพร้อมเพรียงกัน แต่ตราประทับสีแดงได้แต้มลงไปแล้ว
เหล่าขุนนางทั้งหลายดีใจอย่างที่สุด ดีเลยครานี้ ในที่สุดท่านหญิงก็สลัดเซียวเฉวียนผู้ไร้ที่ซุกหัวนอนทิ้งเสียที! ตอนนี้เวลานี้ พวกเขาต่างก็คิดวางแผนให้ลูกชายหรือญาติสนิทมาตกแต่งกับท่านหญิง นับเป็นการเทิดเกียรติให้บรรพบุรุษและวงศ์ตระกูล
ผู้คนพากันพูดอย่างดีใจ “ในตอนนี้ท่านหญิงก็ได้ประทับตราแล้ว เซียวเฉวียนต้องตะลึงลานเป็นแน่ ปากเขาบอกว่ายินยอมที่จะหย่า ตอนนี้คงไม่สุขใจอย่างแน่นอน!”
“ถูกต้อง เจ้าดูเขาเสแสร้งทำเป็นสบายอกสบายใจ ในใจคงรู้สึกเสียใจไม่น้อยสิท่า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...