ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเคราของเว่ยเจียนกั๋วกำลังสั่นเทา แต่ก็ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเขาจึงบันดาลโทสะเช่นนี้ด้วยเหมือนกัน คนตัวเล็กผู้หนึ่งที่ไม่ได้นำมาใส่ใจมาโดยตลอดทว่าจู่ ๆ กลับกระโดดออกมาเสียอย่างนั้น มาแย่งเซี่ยวเฟิงที่เขาถวิลหาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ทั้งแย่งโควตาของพระราชบุตรเขยไปอีก
กาลก่อนวันนี้ ชื่อเซียวเฉวียนชื่อนี้นั้น สำหรับเว่ยเจียนกั๋วก็เป็นเพียงแค่เรื่องน่าขันเรื่องหนึ่งของจวนฉินก็เท่านั้น
ทว่าตอนนี้กลับมีเจ้ามดตัวหนึ่งกล้ากินอาหารของเขาเสียแล้ว?
ไม่!
ไม่อาจยอมได้เด็ดขาด!
ยิ่งไปกว่านั้นแล้ว การตายของอัครเสนาบดีจูยังเกี่ยวพันกับมดตัวนี้อีกด้วย
เมื่ออัครเสนาบดีตาย พระชายาจูของเว่ยเจียนกั๋วร่ำไห้อย่างเจ็บปวดจนไร้เสียง ร้องจนหนที่แล้วหายใจไม่ทันสลบไสลไปเสียแล้ว อัครเสนาบดีจูอยู่ใต้คนหนึ่งคน อยู่เหนือคนนับหมื่น ทว่ากลับรักใคร่บุตรีอย่างพระชายาจูอย่างไร้เทียบเทียม
บัดนี้เมื่อบิดาตายจากไปแล้ว พระชายาจูเสียพระทัยเป็นอย่างมาก ล้มประชวรนอนติดเตียง เว่ยเจียนกั๋วเห็นแล้วปวดหัวใจเป็นอย่างมาก
ทว่าต่งจัวของอัครเสนาบดีจูกลับทำร้ายราชนัดดาเว่ยชิงที่เขาชมชอบมากที่สุด ดังนั้นการตายของอัครเสนาบดีจู เว่ยเจียนกั๋วกลับไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เพียงแต่ว่าก่อนที่ไอ้ขยะไร้ค่าตัวหนึ่งจะตายไป มันกลับมอบฝ่ายราชการกองกำลังทหารให้กับฮ่องเต้เสียอย่างนั้น!
หากไม่ใช่เพราะพระชายาจูเสียใจเป็นอย่างมากแล้วละก็ เว่ยเจียนกั๋วคิดอยากที่จะไปหน้าโลงศพแล้วด่ากราดว่าเป็นตาเฒ่าใช้การไม่ได้เรื่องสักยกหนึ่งจริง ๆ!
เรื่องพระราชบุตรเขยนี้จัดการอย่างยุ่งเหยิงอย่างไรไม่กล่าวถึงแล้ว ไม่ได้อะไรเลย สิบสามกองกำลังฝ่ายราชการของจวนอัครเสนาบดี ยังสูญเสียฝ่ายราชการกองกำลังทหารไปอีก! เว่ยชิงก็เป็นอัมพาตด้วย!
เว่ยเจียนกั๋วที่ต้องการลมได้ลม ต้องการฝนได้ฝนมาโดยตลอดนั้น ไม่เคยพบเจอเรื่องราวที่สามารถทำให้รำคาญใจได้ถึงขั้นนี้มาก่อน!
ฮ่องเต้เอ๋ยฮ่องเต้ เซียวเฉวียนเจ้าสุนัขชั้นยอดตัวนี้ เจ้าเลี้ยงมาได้ไม่เลวเลยจริง ๆ!
การแย่งชิงตำแหน่งพระราชบุตรเขยนั้นแต่ไหนแต่ไรมาก็มีส่วนเกี่ยวพันกับเว่ยเจียนกั๋วมาโดยตลอด นี้เป็นหนแรกที่พ่ายในกำมือของฮ่องเต้!
"เว่ยเจียนกั๋ว พระองค์โปรดอย่าได้บันดาลโทสะ ก่อนหน้านี้พวกเรามิเคยกล่าวถึงเซียวเฉวียนมาก่อนเลยแม้แต่นิดเดียว รอวันพรุ่ง พวกเราจะไปพูดคุยกับเซียวเฉวียนเสียหน่อย เซียวเฉวียนอาจจะคล้ายกับคนอื่น ๆ ก็ได้พ่ะย่ะค่ะ ที่จะยินยอมเป็นฝ่ายมอบสิ่งของที่ตนเองได้มาให้แก่ท่านอย่างเชื่อฟังเป็นแน่"
เหล่าสมุนตัวเล็กตัวน้อยของเว่ยเจียนกั๋วต่างก็ตกใจกันจนสั่นหงก ๆ กันไปหมด เหงื่อเย็น ๆ ไหลออกมาทันที แต่ก็ยังคงเอ่ยหว่านล้อมว่า "ใช่พ่ะย่ะค่ะ มิมีผู้ใดกล้าปฏิเสธเลื่อนขั้นให้ของเจียนกั๋ว ใครต่างก็ทราบกันดีว่าผู้ที่กุมอำนาจอย่างแท้จริงของต้าเว่ยนั้น คือพระองค์นะพ่ะย่ะค่ะ!"
"ใช่พ่ะย่ะค่ะ ๆ เมื่อถึงตอนนั้นเซียวเฉวียนจะต้องมาประจบประแจงจวนเจียนกั๋วอย่างแน่นอน พวกเราต้องการสิ่งใด เจ้าหมอนี่จะต้องมอบให้สิ่งนั้นอย่างแน่นอน"
"ผู้ที่มีชาติกำเนิดเป็นกระยาจกต่ำต้อยผู้หนึ่ง ไม่มีความหยิ่งทระนงใด ๆ ขอเพียงแค่พวกเราดึงมาเป็นพวกเดียวกันได้ ให้ของหวานแก่เขาเสียนิดหน่อย เซียวเฉวียนย่อมต้องยินยอมทำอะไรต่าง ๆ นานาอยู่แล้ว"
ลูกสมุนเหล่านี้กำลังหัวร่อฮี่ ๆ กันอยู่ "บัดนี้เขาก็เป็นเพียงแค่ขุนนางระดับห้าผู้หนึ่ง ถึงตอนนั้นเจียนกั๋วเลื่อนตำแหน่งให้เขาไประดับสี่ เขาย่อมต้องปลื้มปีติมาก ๆ เป็นแน่"
ในต้าเว่ย ระดับสี่นั้นคือสันปันน้ำอย่างหนึ่ง ขุนนางระดับสี่ขึ้นไปกับขุนนางระดับสี่ลงมา เงินเดือนและสวัสดิการต่างกันราวฟ้ากับเหว
ขุนนางระดับสี่ลงมา อย่างอื่นไม่ได้มีสิ่งใดแตกต่างกันมากนัก ล้วนเป็นขุนนางข้าราชการตัวน้อยเหมือนกันหมด ในสถานที่ว่าราชการล้วนทำได้เพียงแค่งานเบ็ดเตล็ดเท่านั้น ขึ้นเวทีอะไรมิได้
"หึ..." ทว่าเว่ยเจียนกั๋วกลับหัวร่อเย็นยะเยือกหนึ่งเสียง หยิ่งผยองลำพองขนอย่างไร้เทียบเทียม "ตัวข้าจะให้ตำแหน่งขุนนางระดับสี่กับเขาอย่างนั้นหรือ?"
เหล่าลูกสมุนชะงักนิ่งไปทันที ความหมายนี้ของเว่ยเจียนกั๋วคือจะไม่ให้สิ่งใดเลย จะลูบเสือขาวด้วยมือเปล่า [1] รึ?
พวกเขาหัวเราะแห้งกันหนึ่งเสียง "พ่ะย่ะค่ะ ๆ ๆ แม้พวกเราจะไม่ให้สิ่งใดแก่เซียวเฉวียนเลยก็ตาม หากชื่อของเจียนกั๋วกล่าวเอ่ยออกไปแล้วละก็ เซียวเฉวียนจะต้องตกใจจนเสียขวัญ ย่อมต้องมอบเซี่ยวเฟิงมาให้อย่างเชื่อฟังทั้งสองมือ! แถมยังส่งตำแหน่งพระราชบุตรเขยให้ด้วย!"
ดวงตามืดทะมึนของเว่ยเจียนกั๋วสาดเป็นประกายวับวาว "หากเขาไม่ส่งเซี่ยวเฟิงมา เช่นนั้นก็สังหารมารดาของเขาเสีย"
"ส่วนตำแหน่งพระราชบุตรเขยนั้นช่างมันไป" เว่ยเจียนกั๋วปวดเศียรเวียนเกล้าเล็กน้อย ในเมื่อเรื่องราวไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้แล้ว "ซินเจียงไม่ได้มีองค์หญิงเพียงพระองค์เดียว ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ให้เซียวเฉวียนไปเสีย"
"ใช่ ๆ ๆ เจียนกั๋วช่างจิตใจโอบอ้อมอารีเช่นเคย"
"ข้าจะอยู่ที่นี่ รอเซียวเฉวียนมาคุกเข่ากราบวิงวอน" เศียรสูงส่งของเว่ยเจียนกั๋วช้อนสูงขึ้นมาแล้ว มือใหญ่หนาข้างหนึ่งของเขาคล้องเอวนางระบำที่นั่งอยู่บนขาของเขา หยอกล้อจนนางระบำหัวร่อคิกคัก "เว่ยเจียนกั๋วร้ายกาจเสียจริง คนเขากลัวจักจี้นะเพคะ!"
"เด็กดี ตัวข้าเจียนกั๋วรอบต่อไปจะเบามือ"
ใบหน้ากว้างใหญ่ของเว่ยเจียนกั๋วฝั่งลงไปบนทรวงอกเนินสูงของนางระบำตรงหน้า นางระบำเงยศีรษะขึ้นสูง เสียงหัวร่อของนางเจ้าสำอางดังไปทั่วทั้งตำหนัก "เจียนกั๋ว เบาหน่อย เบาหน่อยเพคะ!"
สุรเสียงกระทำตามอำเภอใจนี้ทำเอาเหล่าลูกสมุนหน้าแดงหูแดงไปหมด ทว่ากลับไม่กล้าหายใจแรง พระชายาจูสูญเสียบิดา นอนประชวรไม่ลุก นางระบำบนขาของเว่ยเจียนกั๋วเองก็เปลี่ยนไปเป็นคนแล้วคนเล่า
ที่ต้าเว่ย สตรีที่งดงามที่สุดมิได้อยู่ในวังหลวง แต่กลับอยู่ในจวนเจียนกั๋ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...