ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 359

สรุปบท บทที่ 359 นัดกับสาวงาม: ซูเปอร์ลูกเขย

สรุปเนื้อหา บทที่ 359 นัดกับสาวงาม – ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

บท บทที่ 359 นัดกับสาวงาม ของ ซูเปอร์ลูกเขย ในหมวดนิยายนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

จวนเซียว เงียบสงัดตลอดทั้งคืน

“ใต้เท้า จะไม่บอกใต้เท้าเซียวจริง ๆ หรือ?”

นอกจวนเซียว เหลาหลี่กำลังปาดเหงื่อบนหน้าผาก

“วันนี้เป็นคืนแต่งงานของเขา เป็นวันที่คุณชายจะมีความสุขและภาคภูมิใจที่สุด พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”

หลี่มู่กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่าพบปีศาจกวีแล้ว

เขาตายอยู่ในป่าไผ่นอกเมือง

เขาถูกตัดคอ ถูกตัดแขนทั้งสองข้าง แต่พอเห็นว่าคนผู้นั้นคือปีศาจกวี จึงได้ขนย้ายร่างที่ไร้วิญญาณของปีศาจกวีกลับมา

บัดนี้ร่างที่ไร้วิญญาณของปีศาจกวีถูกวางอยู่ในสถานศึกษาชิงหยวน

รอให้เหล่านักเรียนของสถานศึกษาชิงหยวนมากราบไว้จนครบแล้ว ก็จะทำการฝังลงดิน

วันนี้เซียวเฉวียนต่อสู้อย่างสุดชกำลังในสมรภูมิรบ เรียกได้ว่าผ่านการทดสอบแล้ว กว่าจะพาสาวงามกลับมาได้ไม่ใช่เรื่องง่าย วันที่น่ายินดีเช่นนี้ ควรรายงานข่าวร้ายนี้ทีหลังจะดีกว่า

หลี่มู่ถอนหายใจยาว ๆ เหมือนมีสำลียัดอยู่ในลำคอ “สองพี่น้องเหวินฮั่นและเหวินคุนผู้น่าสงสาร อุทิศตนศึกษาอย่างเต็มกำลัง แต่กลับไม่ได้ตายอย่างสงบ

“ตายอย่างสงบนะสิแปลก”

คำพูดของเหลาหลี่ฟังไม่เข้าหูนัก แต่กลับเป็นความจริง

เหวินคุนและเหวินฮั่นสนับสนุนชาวบ้านให้ได้รับการศึกษา เพื่อปูทางของการเป็นขุนนางให้เหล่าผู้มีอำนาจอย่างไม่ต้องสงสัย

เป้าหมายของเว่ยเจียนกั๋วคือเซียวเฉวียนประมุขแห่งชิงหยวน

เหลาหลี่ขมดวิค้วแน่น “น่ารังเกียจ!พฤติกรรมของเว่ยเจียนกั๋วยิ่งอยู่ยิ่งกำเริบเสิบสาน กล้าฆ่าแม้กระทั่งปีศาจกวี ต้นไม้ที่หยั่งรากลึกจะทำอย่างไรได้ ช่าง...”

“หุบปาก!” หลี่มู่ตวาดอย่างระแวง “อย่าพูดจาสาวหาวต่อราชวงศ์ แล้วยิ่งเขามีตำแหน่งเป็นเจียนกั๋วด้วยแล้ว!เจ้าไม่อยากมีหัวไว้บนบ่าแล้วใช่ไหม!”

“เอ่อ...” เหลาหลี่แบะปาก เว่ยเจียนกั๋วก็เว่ยเจียนกั๋ว คนข้างกายไม่มีใครกลาพูดสักคำ

เรื่องที่น่าหงุดหงิดที่สุดคือ ทุกคนรู้เรื่องชั่วช้าที่เว่ยเจียนกั๋วทำ แต่ไม่มีใครมีหลักฐานสักคน ดังนั้นคนชั่วช้าสามานย์คนนี้จึงไม่มีใครทำอะไรได้

ตั้งแต่ที่อดีตฮ่องเต้สิ้นพระชนม์ไป เว่ยเจียนกั๋วครองอำนาจมาเป็นเวลาหลายสิบปี อย่าว่าแต่ความยากลำบากของขุนนางเหล่านี้เลย แม้แต่ฮ่องเต้ก็ยังฟันหักจนกลืนลงท้องมาแล้ว

หลี่มู่ทอดถอนใจ ก่อนจะนำจดหมายฉบับหนึ่งให้เหลาหลี่ “เจ้ารออยู่นี่ พรุ่งนี้ข้าจะรายงานเรื่องนี้กับเซียวเฉวียน”

จดมายฉบับนี้เป็นจดหมายที่ค้นได้จากซากศพของปีศาจกวี ซึ่งจดหมายได้จ่าหน้าซองถึงเซียวเฉวียน

คาดว่าคงเป็นคำสั่งเสียของปีศาจกวี

“ขอรับ ใต้เท้า ข้าจะนำจดหมายฉบับนี้ไปส่งให้ใต้เท้าเซียว”

“อื้อ” หลี่มู่แฉลบผ่านไปและหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หัวใจของเหลาหลี่เต้นตึกตัก สุดยอด เร็วยิ่งนัก

ไม่ใช่เรื่องที่คนธรรมดาจะทำได้

ณ เมืองหลวง

จวนเซียวพากันดีอกดีใจ แต่ที่อื่นกลับเศร้าหมอง

ผ้าขาวโบกไสวไปทั่วจวนอัครเสนาบดี ทุกมุมของเมืองหลวงเต็มไปด้วยความโศกเศร้าอาดูร!

มันสมควรตาย!

เซียวเฉวียนทำให้พวกเขาล้มละลาย!

เดิมพันครังนี้ คิดว่าเซียวเฉวียนจะไม่มีวันได้เป็นพระราชบุตรเขย จึงยิ่งทุ่มเงินลงทุน ผลปรากฏว่าเงินลงทุนในครั้งนี้เหมือนเตะหมูเข้าปากหมา ให้แล้วให้เลยไม่มีการเอาคืน!

เซียวเฉวียนทำให้นักพนันเหล่านี้เข้าใจเหตุผลข้อหนึ่ง ‘เดิมพันสิบแพ้เก้า’

เซียวเฉวียนเป็นดาวมฤตยูในการเดิมพันจริง ๆ !

ดาวมฤตยู!

คนแพ้จนสิ้นเนื้อประดาตัวหลายคนนั่งทุบหัวอยู่ข้างถนน ด่าว่าเซียวเฉวียนเป็นตัวซวย ขนาดเป็นตัวซวยยังได้ตัวสาวงามไปครอง

พอคิดได้เรื่องนี้ เหล่านักพนันก็ยิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ทุกคนต่างส่งเสียงร้อง “อ๊าก” ออกมาอย่างอดไม่ได้

ฟ้าดินไม่ยุติธรรม!

ทำไมสวรรค์ถึงต้องส่งคนแบบเซียวเฉวียนลงมาทำร้ายพวกเขาด้วย!

ณ สวนหรงหยวน

องค์ชายผู้สูงส่งคนหนึ่งแหกปากร้องไห้ด้วยเสียงที่ดังกว่าและน่าเวทนายิ่งเหล่านักพนักพวกนั้นเสียงอีก “ท่านอ๋อง!ท่านเห็นใจข้าเถอะ!เห็นใจข้าด้วยเถอะ!”

“ท่านกับข้าต่างมีศัตรูคนเดียวกัน!”

“ท่านเป็นท่านอ๋องที่สูงส่งเหนือใครมาตลอด ท่านเป็นราชวงศ์ที่มีเกียรติสูงสุด คนต่ำต้อยอย่างกระหม่อมวาจาไร้น้ำหนัก ต่างจากท่าน!”

เว่ยชิงจากไปโดยไม่หันกลับไปดู เสียงร้องครวญครางของข้าหลวงหญิงดังเข้ามาในหู ทำให้ร่างกายที่ขยับไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นและฮึกเหิม

เป็นอย่างที่คาดคิดไว้ เขากระหายเลือดตั้งแต่กำเนิด

“ไอหยา พี่เว่ยชิง ไปไหนล่ะนั้น”

ทันใดนั้น ตรงหน้าของเว่ยชิงก็มีมือข้างหนึ่งยื่นเข้ามา

ขณะที่เว่ยชิงกำลังจะถึงตำหนักฉางหมิงนั้น เว่ยอวี๋ก็โผล่ออกมา

“ท่านอ๋องสิบหก” เว่ยชิงโน้มตัวทำความเคารพ เว่ยอวี๋หมุนรถเข็นของเว่นชิงกลับมา “จะไปไหน ข้าได้ยินว่าช่วงนี้ท่านอารมณืไม่ดี ข้าจะพาท่านไปเที่ยวเล่น!”

กล่าวจบ เว่ยอวี๋ก็เข็นพาเขาออกไปนอกวัง

ขันทีตื่นตกใจ “ไอหยา ๆ!ท่านอ๋องสิบหก! ท่านอ๋องสิบหก! ท่านจะเข็นท่านอ๋องของเราไปไหน!”

เว่ยอวี๋ยิ้มชั่วร้าย “ไม่ต้องตามมา!”

เว่ยชิงเอ่ยขึ้นอย่างร้อนใจ “ท่านอ๋องสิบหก!”

“ข้าต้องไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท !ข้าออกนอกวังไม่ได้!”

“ข้าเพิ่งกลับมาจากข้างนอก!”

เว่ยอวี๋ส่งเสียงฮึดฮัด เพราะเจ้าเพิ่งกลับเข้ามา ก็เลยจะพาท่านไปทิ้งข้างนอกอย่างไรเล่า

จะเข้าเฝ้าฮ่องเต้ อย่าหวังเลย!

ตัวปัญหา!

เว่ยอวี๋เข็นเขาไปตามถนนจนเกิดเสียง ‘ตึกๆ’ ดึงดูดสายตาผู้คนระหว่างทางไม่น้อย

“ท่านพี่เว่ยชิง” ในตอนที่ถูกเรียกชื่อนี้ เว่ยอวี๋บุรุษในวัยสี่สิบกว่าปีก็แทบจะอาเจียนออกมา เจ้าของร่างเดิมก็เรียกเช่นนี้ “นอกเมืองมีป่าไผ่ ทิวทัศน์ก็สวย เราไปดูกันเถอะ”

“มีสาวงามคนหนึ่งรอท่านอยู่ที่นั้น!”

เว่ยอวี๋แสดงท่าทีโหดร้าย และยกยิ้มชั่วร้าย

สาวงาม? นัยน์ตาของเว่ยชิงเปล่งประกาย หรือจะเป็นองค์หญิง?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย