สรุปตอน บทที่ 364 ศักดิ์สูงและต่ำต้อยมีแยกลำดับชนชั้น – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
ตอน บทที่ 364 ศักดิ์สูงและต่ำต้อยมีแยกลำดับชนชั้น ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ที่จวนเซียว
หลายวันมานี้ คนไม่น้อยส่งของขวัญมาให้ที่จวนเซียว องค์หญิงต้าถงสมัครใจอยู่ในราชวงศ์ต้าเว่ย แม้ว่าเธอจะสละตำแหน่งองค์หญิงแห่งภูมิภาคตะวันตกไปแล้ว แต่เธอก็มาเป็นน้องสาวบุญธรรมขององค์จักรพรรดิ จึงยังคงมีตำแหน่งองค์หญิงและได้ของกำนัล
ฉะนั้น ขุนนางสำคัญและสนมในราชสำนักต่างก็มอบของขวัญมาให้
ของขวัญที่ว่านี้มอบให้กับเซียวเฉวียนและองค์หญิงในนาม แต่จริงๆ แล้วมอบให้กับองค์หญิงเท่านั้น ทั้งหมดล้วนเป็นพวกเครื่องประดับ เพชรพลอย และเครื่องสำอางสำหรับสตรี
ในสายตาของผู้ร่ำรวยมีอำนาจ เซียวเฉวียนแค่เอื้อมสูงมาเป็นราชบุตรเขย ดังนั้นจึงมีคนไม่มากที่มองเซียวเฉวียนอยู่ในสายตา
ในบรรดาพวกเขา หอคุนหวูมอบของขวัญมากที่สุดและมีค่าที่สุด
นอกจากนี้ ของขวัญนั้นไม่เพียงแต่มีเครื่องสำอาง เครื่องประดับเพชรพลอยเท่านั้น ยังรวมถึงเข็มขัดหยก จี้หยก และเครื่องประดับอื่นๆ สำหรับสุภาพบุรุษอีกด้วย
“ถือว่าคุณชายอี้กุยมอบของขวัญให้ด้วยความจริงใจ”
ไป่ฉีตรวจนับของขวัญ เซียวเฉวียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ "อี้กุยเป็นเด็กดี สมกับที่จะเป็นทายาทของพี่น้องข้า"
”เฮ้ ของที่คนโบราณให้กันก็ดูซ้ำๆ ซากๆ มีดีอะไร” เว่ยอวี๋ที่นั่งอยู่ข้างๆ มาตลอดเอ่ยปากเชิงดูแคลนอย่างยิ่ง
เขานอนหงายหลังอย่างแผ่หลา ยืนก็ไม่ใช่ท่ายืน นั่งก็ไม่เชิงท่านั่ง
”เหล่าอวี๋” เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว เว่ยอวี๋จึงยืดตัวขึ้นอย่างเกียจคร้าน “ได้ ๆ ๆ! ข้าจะนั่งให้เรียบร้อย!”
”เจ้า เจ้าอ๋องสิบหก มาบ้านเซียวทุกวันไม่ได้นะ ผู้คนสงสัยว่าข้ากำลังตั้งพรรคเพื่อกิจส่วนตัวแล้ว” เซียวเฉวียนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เว่ยอวี๋ไม่ชอบกฎระเบียบมากมายในวัง ดังนั้นเขาจึงละทิ้งพระมารดาทุกครั้งที่มีเวลาว่างและวิ่งไปที่บ้านของเซียว รับประทานอาหารก็ที่หอปี้เซิ่ง แค่ว่าไม่ได้นอนค้างที่บ้านของเซียวเท่านั้น
พระมารดาไม่สามารถควบคุมเขาได้ จึงได้แต่ปล่อยตามใจเขา
”ใครกล้าว่าเจ้าตั้งพรรคเพื่อกิจส่วนตัว!” เว่ยอวี๋ตะคอก “ตอนนี้องค์หญิงต้าถงเป็นพี่สาวบุญธรรมของข้า เจ้าก็เป็นพี่เขยของข้า!”
พอเว่ยอวี๋สะกิดเตือนเขาเช่นนี้ เซียวเฉวียนจึงนึกขึ้นได้ว่าเว่ยอวี๋เป็นน้องภรรยาของเขาแล้ว
เมื่อก่อน น้องภรรยาของเขาเป็นลูกของพวกตระกูลขุนนางอย่างฉินเฟิงและฉินหนาน แต่ตอนนี้น้องภรรยาอยู่ในระดับอย่างเจ้าอ๋องสิบหก ช่างเจ๋งอะไรอย่างนี้!
ช่วงนี้ทุกคนทำตัวสุภาพกับเขามาก ดังคำกล่าวที่ว่า ไม่เห็นแก่หน้าภิกษุสงฆ์ ก็ต้องเห็นแก่หน้าพระพุทธรูป คนเหล่านั้นไม่ชอบหน้าเซียวเฉวียนยังไง แต่พอเห็นหน้าเว่ยอวี๋ที่เหมือนลูกน้องติดตามอยู่ข้างๆ เซียวเฉวียน ผู้คนก็ไม่กล้าแม้แต่จะผายลม
“คุณชาย! คุณชาย!”
หยุนกั่ว สาวใช้ส่วนตัวของคุณยายเซียววิ่งเข้ามาทางประตูด้วยความตื่นตระหนก
"มีไร?"
“คุณชายคะ ฉินเฟิงมาอยู่นี่” ใบหน้าอันสวยงามของหยุนกั่วขาวซีดมาก ดูเหมือนจะเพิ่งหายจากอาการตื่นตระหนกตกใจ “เขาโกรธมากอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้า เขาหยิบดาบขึ้นมาแล้วฟันข้าวของไปทั่ว”
เซียวเฉวียนและเว่ยอวี๋มองหน้ากัน
ตอนนี้เขาไม่มีข้อพิพาทอะไรกับตระกูลฉิน ทำไมฉินเฟิงถึงมาหาเรื่องถึงที่นี่?
”เจ้าเก้า”
เซียวเฉวียนดีดนิ้ว และเจ้าเก้าก็ปรากฏตัวทันที "เจ้านาย ผู้น้อยมาแล้ว"
“ข้าให้พวกเจ้าผู้อารักขาสิบคนไปคอยดูแลความปลอดภัยของจวนฉินอย่างใกล้ชิด เกิดอะไรขึ้นช่วงเร็วๆ นี้?”
เจ้าเก้าดูงงๆ "ไม่มีนี่ครับ! ยกเว้นครึ่งเดือนก่อนที่ผ่านมา มีขโมยขึ้นบ้านตระกูลฉิน แต่พวกเขาทั้งหมดถูกแม่ทัพฉินขับไล่ออกไป พวกเรายังไม่ทันที่จะลงมือ"
ถ้างั้นฉินเฟิงจะมาหาเรื่องอะไร?
”ไป่ฉี เจ้าตรวจนับของขวัญพวกนี้ต่อไป ข้าไปกับเว่ยอวี๋ก็พอ”
“ครับ” ไป่ฉีและเจ้าเก้ามองหน้ากัน ทำไมวิญญาณจวนฉินถึงยังมาหลอกหลอนไม่ยอมเลิก เจ้านายกับเจ้าหญิงแยกทางกันมากว่าครึ่งเดือนแล้ว ฉินเฟิงจะมีเหตุผลอะไรมาหาเรื่องอีก?
ที่ห้องโถงใหญ่ ข้าวของกระจัดกระจายไปหมด
”เซียวเฉวียน! ไอ้เดรัจฉาน ออกมานี่นะ!”
หลังจากศึกของเหวินอิ้น ฉินเฟิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ฟื้นตัวหน่อยและสามารถลุกขึ้นจากเตียงได้ สิ่งแรกที่เขาทำคือกระโจมมาที่ยังจวนเซียว
"ทุกคนถอยออกไป"
เซียวเฉวียนที่ก้าวเข้ามา สั่งให้พวกสาวรับใช้ที่ยืนตัวสั่นถอยออกไป
เซียวเฉวียนดูสง่างาม ร่างสูงหลังตรง เมื่อฉินเฟิงเห็นเขา ก็จ้องมองด้วยความโกรธและใช้ดาบจิงโหงชี้มาที่ เซียวเฉวียน "เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นเจ้าของโรงเรียนชิงหยวนแล้ว ก็สามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างตามใจได้หรือ?"
ในโลกของคนโบราณ ผู้อาวุโสจะได้รับความเคารพ จากมุมมองนี้ ฉินเฟิงยังถือว่าเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่าย
เซียวเฉวียนมองไปรอบห้องโถงใหญ่ ฉินเฟิงทุบทุกอย่างที่ทุบได้และสับทุกอย่างเท่าที่สับได้ เซียวเฉวียนหรี่ตาลง "น้าเขยขอถามว่า ทำไมเจ้าถึงได้โกรธมากขนาดนี้?"
“เซียวเฉวียน! เจ้าทำอะไรลงไป! เจ้ายังไม่รู้อีกเหรอ?” ฉินเฟิงกำหมัดแน่น ถ้าเขาไม่ได้คุกเข่าอยู่ หมัดของเขาคงจะโดนหน้าของเซียวเฉวียนไปแล้ว!
"เฮ้ ๆ ๆ ระวังกิริยาท่าทางของเจ้าหน่อย!" เว่ยอวี๋เลิกคิ้ว "นี่เป็นน้าเขยของเจ้านะโว้ย! เด็กๆ จะเสียมารยาทอย่างนี้ไม่ได้!"
”ฉัน!” ฉินเฟิงอารมณ์ขึ้นทันที แทบจะสำลักตายด้วยคำพูดของเว่ยอวี๋ แต่ว่า สถานะของเว่ยอวี๋สูงส่งมาก ทั้งยังคอยปกป้องเซียวเฉวียนเช่นนี้ ฉินเฟิงจึงทำได้แต่ดูเหมือนไปกินหนูตายมา และกล่าวว่า "ขอบคุณน้าชายสิบหกที่สั่งสอน"
”ฮ่า ๆ ๆ !” เซียวเฉวียนและเว่ยอวี๋หัวเราะอย่างไม่เกรงใจ
”คนมานี่ เสิร์ฟน้ำชาหน่อย!” เซียวเฉวียนยิ้มโบกมือ เขาต้องนั่งลง ดื่มชาสักคำค่อยมาฟังว่าฉินเฟิงกล่าวยังไง
ฉินเฟิงยังเด็กเกินไป ทั้งเป็นเจ้าหน้าที่ทางทหาร นิสัยก้าวร้าวเกินไป อย่างนี้ต่อไป เขาจะบรรลุความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร?
เซียวเฉวียนทำใจเย็นๆ ก็เพื่อที่จะลดแรงฮึกเหิมของเขา
หลังจากที่เซียวเฉวียนและเว่ยอวี๋จิบชาไปสองสามแก้ว เซียวเฉวียนซึ่งมีอารมณ์ดีขึ้นจึงถามว่า "เอาละ บอกมาสิ เจ้ามีเรื่องทุกข์ใจอะไรบ้าง? น้าชายสิบหกของเจ้าและน้าเขยจะช่วยตัดสินใจให้เจ้า!"
ฉินเฟิงโกรธจัด เซียวเฉวียนนั่นหรือ กล้าเรียกตังเองว่าเป็นน้าเขยของเขา?
แต่ว่า เรื่องนั้นไม่พูดก็ไม่ได้
“เจ้าหญิงตั้งครรภ์แล้ว”
ฉินเฟิงจ้องมองที่เซียวเฉวียน อย่างเคียดแค้น
เว่ยอวี๋สีหน้าตกใจ ไม่ได้บอกว่าฉินซูโหรวตั้งครรภ์เท็จเหรอ? เรื่องที่แค่พูดถึงก็หัวใจห่อเหี่ยวเช่นนี้ ฉินเฟิงยังกล้ามาหาเรื่องถึงที่อีกหรือ?
เซียวเฉวียนมึนงงเหมือนคนทะลึ่ง "แล้วเจ้ามาหาข้าทำอะไร?"
“เจ้าไม่ยอมรับเหรอ?” ฉินเฟิงที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นจ้องไปที่เซียวเฉวียนโดยตรง "เจ้ารู้ไหมว่า ก่อภัยพิบัติในพระราชวังถือเป็นความผิดร้ายแรง มีโทษประหารชีวิตตัดศีรษะ! ประหารเก้าชั่วโคตร! "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...