ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 366

สรุปบท บทที่ 366 ขาดแต่ลมบูรพา: ซูเปอร์ลูกเขย

สรุปเนื้อหา บทที่ 366 ขาดแต่ลมบูรพา – ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

บท บทที่ 366 ขาดแต่ลมบูรพา ของ ซูเปอร์ลูกเขย ในหมวดนิยายนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

“ไม่ง่ายเลยที่จะมีชาวยุทธ์แท้สักคน ท้ายที่สุดแล้วกลับถูกท่านอ๋องสิบหกแย่งตัวไป”

เจ้าเก้ายังคงไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้และเอาแต่คิดถึงความจริง

หลังจากเซียวเฉวียนผิดหวังชั่วครู่ เขารู้สึกโล่งใจอย่างรวดเร็วแล้วยิ้มออกมาอย่างง่ายดาย “อย่ากังวล ท่านอ๋องสิบหกจะเป็นคนคิดอยากส่งต่งจัวกลับมาเอง”

“อา? เป็นไปได้อย่างไร?” เจ้าเก้าส่ายหัว “ท่านอ๋องสิบหกมีชื่อเสียงในด้านความเอาแต่ใจและสถานะของท่านสูงส่งมาก ไม่มีเหตุผลที่จะต้องส่งของที่มอบให้กลับคืน”

“ของของผู้อื่นท่านย่อมไม่ส่งคืน”

“ของของข้าเซียวเฉวียนผู้นี้ เหล่าอวี๋จะส่งคืนอย่างแน่นอน”

เซียวเฉวียนมั่นใจมาก เจ้าเก้ายังคงรู้สึกว่านายของเขาประเมินความสามารถของตนสูงเกินไป แม้นายท่านจะเป็นประมุขแห่งชิงหยวน ท่านอ๋องสิบหกก็จะไม่ส่งเขากลับมา

หากท่านอ๋องสิบหกกังวลว่านายของเขาเป็นประมุขแห่งชิงหยวน เขาจะไม่กล้าขอต่งจัวจากนายท่านอย่างโจ่งแจ้ง!

แต่นายท่านพูดอะไรเขาก็จะเชื่อ! เขาแค่รอให้ต่งจัวกลับมา!

“นายท่าน ข้าคิดว่าเรื่องขององค์หญิงไม่ง่ายขนาดนั้น ตระกูลฉินจะต้องสร้างปัญหาให้กับพวกเราอย่างแน่นอน”

เจ้าเก้ากังวลเล็กน้อย ไม่ว่านายท่านของตนจะโชคดีเพียงใด เขาก็มักจะเป็นคนแรกที่ถูกกล่าวโทษ

จริงๆ แล้วอาวุธของนายท่านมีเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น มีพู่กันจินหลุนเฉียนคุน ภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิแห่งเขาคุนหลุนและเซี่ยวเฟิง อย่างไรก็ตามอาวุธทั้งสามนี้ไม่ได้เชื่อฟังมากนัก

พู่กันเฉียนคุนชอบอยู่กับภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิ ทั้งยังไม่สนใจเจ้าของของมัน ทุกครั้งที่เขาพยายามเรียก ทั้งสองทำราวไม่ได้ยินเขา

เซี่ยวเฟิงยิ่งเกินเลยไปมาก มันกินดื่มทุกวัน นอนเล่นอยู่ในสวนโดยไม่สนใจนายท่านเลย

วันนี้ฉินเฟิงมาก่อปัญหา ไม่รู้ว่าเซี่ยวเฟิงเพิกเฉยต่อนายท่านหรือไม่ หรือมันคิดว่านายท่านไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายจึงไม่แม้แต่จะปรากฏตัว

ดังนั้นเซียวเฉวียนดูเหมือนจะมีอาวุธสามชิ้น แต่จริงๆ แล้วมันไม่มีประโยชน์เลย

หากมีการต่อสู้เกิดขึ้นจริง เซียวเฉวียนจะสามารถควบคุมได้เพียงผู้อารักขาของเขาเท่านั้น

หลี่มู่กล่าวว่านี่คือเหตุผลว่าทำไมพู่กันจินหลุนเฉียนคุนจึงไม่ยอมแพ้ต่อเซียวเฉวียน

พูดง่ายๆ ก็คือ แม้พู่กันจินหลุนเฉียนคุนจะจำเซียวเฉวียนว่าเป็นนายของมัน แต่มันก็ดูถูกเซียวเฉวียน จึงไม่คิดจะเคลื่อนไหวเลย

ให้ตายเถอะ ทุกวันนี้นายท่านโกรธพู่กันจินหลุนเฉียนคุนไม่น้อย

ในช่วงเวลานี้ผู้คนมากมายในต้าเว่ยต้องการให้นายท่านตาย แต่อาวุธของนายท่านกลับเพิกเฉยต่อเขา นี่มันน่ากลัวมากพอแล้ว

หลี่มู่กล่าวว่าพู่กันจินหลุนเฉียนคุนเป็นสิ่งที่อันตรายถึงชีวิต มันเชื่อฟังหลี่มู่เพราะหลี่มู่มีดาบไท่อา หากแต่เซียวเฉวียนไม่มีดาบด้วยซ้ำ

พู่กันเฉียนคุนคิดว่าเซียวเฉวียนไม่มีคุณสมบัติที่จะควบคุมมัน

หากเซียวเฉวียนกลายเป็นผู้ครองดาบฉุนจวิน พู่กันเฉียนคุนจะยอมจำนนต่อเซียวเฉวียนอย่างแน่นอน จากนั้นภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิและเซี่ยวเฟิงย่อมปฏิบัติตามและเชื่อฟัง

เซียวเฉวียนอยากจะร้องเรียนไปถึงท่านปู่ ถ้าสามารถทำให้ดาบฉุนจวินจำเขาเป็นนายของมันได้ ทำไมเขาถึงต้องหาพู่กันมาเป็นอาวุธเล่า?

ไม่ใช่เพียงเพราะแม้กระทั่งมีดทำครัวยังไม่เหลือบแลเซียวเฉวียนด้วยซ้ำ เมื่อเป็นเช่นนั้นเซียวเฉวียนจึงคิดถึงคำวิจารณ์ทั้งทางวาจาและลายลักษณ์อักษรไม่ใช่หรือ?

ดังนั้นหลังจากเซียวเฉวียนและองค์หญิงแต่งงานกัน นอกจากจะหลงรักองค์หญิงทุกวันแล้ว เขายังจ้องมองดาบฉุนจวิน เอาน่า มาเลย ยอมรับข้าเป็นเจ้านายของเจ้าเสีย

อย่างไรก็ตามดาบฉุนจวินยังคงนิ่งเฉย

มีอาวุธอยู่รอบตัว แต่เหมือนไม่มีเลย รู้สึกราวกินเนื้อไม่ได้เลย ชิ! โกรธยิ่งนัก!

เซียวเฉวียนทุบโต๊ะ ถ้าอาจารย์ไม่ตายไป เขาอยากทะเลาะกับอีกฝ่ายนัก! ทำไมท่านถึงวางกับดักเขาเช่นนี้!

ทุกคนบอกว่าเป็นพรอันยิ่งใหญ่ของเซียวเฉวียนที่ได้เลี้ยงดูเซี่ยวเฟิง

แต่เซี่ยวเฟิงเพิกเฉยเซียวเฉวียนทุกวัน มันเป็นเพียงสิ่งที่กินจุ สวนของจวนเซียวได้รับความยุ่งเหยิงมานานแล้วจากการที่เซี่ยวเฟิงกระโดดขึ้นลง แม้แต่ดอกโบตั๋นอันเป็นที่รักของน้องสาวก็ถูกกินจนหมด ซึ่งทำให้เซียวเฉวียนโกรธมากจนเกือบหัวใจแทบวาย พรอันประเสริฐเช่นนี้ ใครอยากได้ก็รับไป!

เป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องฝึกพู่กันเฉียนคุนให้เชื่อง

เพราะเว่ยเจียนกั๋วได้พบเว่ยชิงซึ่งกำลังจะอดตายแล้ว

นับตั้งแต่เซียวเฉวียนเขียนจดหมายถึงเว่ยเจียนกั๋วอย่างเป็นมิตรในนามของเว่ยชิง เว่ยเจียนกั๋วก็ตรวจค้นทั่วทั้งเมืองหลวงเพื่อตามหาเว่ยชิงหลานชายที่รักของเขา

ในความเป็นจริงไป๋ฉี่ไม่เห็นด้วยกับความคิดของเซียวเฉวียนที่จะเป็นฝ่ายเริ่มยั่วยุเว่ยเจียนกั๋ว และเราควรต้องคิดในระยะยาว

แต่นายท่านไม่สามารถรอได้อีกต่อไป

นายท่านบอกว่าเขารอไม่ไหวแล้ว

ในอดีต คนอื่นรู้สึกว่าเซียวเฉวียนไม่รู้ที่ต่ำที่สูง

ยามนี้พวกไป๋ฉี่ก็รู้สึกว่านายท่านประมาทเกินไป ไม่ใช่ว่าพวกเขาดูถูกนายท่าน แต่พวกเขากังวลอย่างยิ่ง แม้แต่ฮ่องเต้ก็ไม่มีทางจัดการกับเว่ยเจียนกั๋วได้ การเคลื่อนไหวของเซียวเฉวียนไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นกรวดกระทบหิน[2]

น่าเสียดายที่ในเวลานี้ นอกจากผู้อารักขาทั้งสิบสองคน นายท่านไม่มีอาวุธเลยด้วยซ้ำ

ยิ่งไปกว่านั้นด้วยเหตุการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นในตระกูลฉินในวันนี้ เกรงว่าตระกูลฉินจะฉีกนายท่านเป็นชิ้นๆ ก่อนเว่ยเจียนกั๋วจะมาถึงประตูด้วยซ้ำ

“ข้าไม่ได้ทำเรื่องนี้กับตระกูลฉิน ไม่มีอะไรต้องกังวล”

สิ่งที่เซียวเฉวียนคิดนั้นไม่สำคัญเลย

สิ่งสำคัญคือตระกูลฉินไม่คิดเช่นนั้น

คืนนั้นตระกูลฉินไม่ได้จับคนที่นัดพบกับฉินซูโหรวเป็นการส่วนตัวเพราะบุคคลนั้นไม่ได้มา

เป็นผลให้ตระกูลฉินเริ่มเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเด็กในท้องของฉินซูโหรวคือเมล็ดพันธุ์ของเซียวเฉวียน

วันรุ่งขึ้น พ่อฉินแม่ฉินฉวยโอกาสจากการไม่อยู่ของเซียวเฉวียนมาที่จวนเซียว

..........

เชิงอรรถ

[1] ทุกสิ่งพรักพร้อม ขาดแต่ลมบูรพา มีความหมายว่า ทุกอย่างได้ตระเตรียมไว้พร้อมแล้ว ขาดเพียงสิ่งที่สำคัญอย่างเดียว

[2] กรวดกระทบหิน มีความหมายว่า การคัดค้านผู้ใหญ่ ผู้มีฐานะสูงกว่า หรือผู้มีอำนาจมากกว่าย่อมไม่สำเร็จ และอาจได้รับผลร้ายแก่ตัวอีกด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย