ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 371

สรุปบท บทที่ 371 บุคคลระดับเทพเซียน: ซูเปอร์ลูกเขย

อ่านสรุป บทที่ 371 บุคคลระดับเทพเซียน จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

บทที่ บทที่ 371 บุคคลระดับเทพเซียน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ไม่ นี่ต้องเป็นฝีมือของเจ้าเซียวเฉวียนเป็นแน่!เป็นเพราะเซียวเฉวียนไม่ยอมรับผิดชอบ เหลียงไหวโหรวจึงต้องขึ้นมาแทนที่

เหลียงไหวโหรวถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในบรรดาทั้งหมด เขาเป็นที่สองในการจัดอันดับ แต่ในสายตาของฉินซูโหรวเขาเลวร้ายยิ่งกว่าหมูหรือสุนัขเสียอีก แต่ตลอดคืนครึ่งเดือนที่ระเริงสวาทที่ผ่านมา หล่อนพึงพอใจกับเหลียงไหวโหรวเป็นอย่างมาก แต่ทว่าทุกคืนมิใช่เซียวเฉวียน ฉินซูโหรวก็ออกอาการโมโหโดยไม่เลือกหน้า

ด้วยความรู้สึกละอายใจอย่างยิ่งฉินซูโหรวโหรวจึงจับชุดแต่งงานของหล่อนไว้แน่น เพิกเฉยต่อคนตรงหน้า เสียงของเหลียงไหวโหรวช่างอบอุ่นไร้ความรังเกียจรังนอน “องค์หญิง ข้าเปิดผ้าแพรแดงออกแล้ว”

“ผ่าง!”จู่ๆฉินซูโหรวก็ยกผ้าแพรแดงของหล่อนขึ้นมาและใช้ฝ่ามือปิดไว้ “เจ้าเป็นแค่ตัวแทนของเซียวเฉวียน!เจ้ากล้าจะมาเป็นสามีของข้าจริงๆนะหรือ?”

เหลียงไหวโหรวตกตะลึง “องค์หญิง พวกเรากราบไหว้ฟ้าดินกันแล้ว เจ้าจะไม่ยอบรับว่าพวกเราเป็นสามีภรรยากันหรือ?”

คำพูดนี้ แต่ก่อนเซียวเฉวียนก็เคยถามเช่นเดียวกัน

ฉินซูโหรวตอบไปอย่างผู้มีประสบการณ์ หล่อนจ้องมองเขา “ใช่ ข้าไม่รับ ในท้องข้าเป็นลูกของเซียวเฉวียนไม่ใช่ลูกของเจ้า”

“เป็นลูกของข้า!”เหลียงไหวโหรวตะคอกด้วยความโมโห ฉินซูโหรวชะงักไปครู่ “เจ้ามันเป็นแค่นายท่านประตู! อีกทั้งยังแต่งงานเข้าบ้านฝ่ายหญิง! เจ้ายังกล้ามาตะคอกใส่ข้าหรือ!”

“ข้า” เมื่อคนทั้งสองอยู่ในทางตัน มีคนหนึ่งที่รีบเร่งมา “ใต้เท้าเหลียง!มีเรื่องที่ต้องไปจัดการขอรับ!”

เมืองหลวงบนทางถนน

เหลียงไหวโหรวควบม้ามาถึงจวนฉิน

บนตัวของเขายังสวมชุดวิวาห์สีแดงฉาด โชคดีที่เป็นยามวิกาล มิเช่นนั้นคนคงจะเห็นว่าเจ้าบ่าวผู้นี้ไม่อยู่ในคืนแรกที่ส่งตัวเข้าหอ แต่กลับมาขวบม้าเล่นบนท้องถนน อย่างนั้นคงเป็นเรื่องน่าขายหน้าแย่

บัดนี้เหลียงไหวโหรวเป็นสามีขององค์หญิง เปลี่ยนป็นองค์ชาย ถึงอย่างนั้นตำแหน่งก็ยังสู้เซียวเฉวียนผู้เป็นพระราชบุตรเขยไม่ได้อยู่ดี

ก่อนมาถึงจวนฉิน เหลียงไหวโหรวต้องรอรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชา ถึงจะสามารถเจอเซียวเฉวียนได้

วันนี้ที่จวนฉินมีเรื่องดีใหญ่ องค์หญิงเป็นน้องสาวบุญธรรมของแม่ฉิน แต่งงานกับหลานสาว องค์หญิงยังมอบของขวัญให้กับฉินซูโหรวอีกด้วย

ได้ยินมาว่า จวนฉินเอาของที่ตระกูลเซียวส่งมอบมาให้โยนทิ้งหมด และโกรธแค้นเป็นอย่างมาก

แต่เซียวเฉวียนก็มิได้รู้สึกว่าตนเสียหน้าแต่อย่างใด แต่แค่เสียดายของขวัญสิ่งนั้น องค์หญิงหญิงเป็นคนไม่เสแสร้ง ของขวัญที่มอบให้ไปล้วนเป็นของชั้นดีเช่นเครื่องประดับยาบำรุงกำลัง สิ่งของที่ไม่ดีไม่มีทางที่นางจะส่งมอบให้

ฉินซูโหรวเหมาะแก่การรับของขวัจากเซียวเฉวียนอย่างนั้นหรือ? ถุย! แม้แต่เมล็ดแตงโม เซียวเฉวียนผู้นี้ก็ไม่ให้!

ถ้ามิใช่ว่าองค์หญิงยืนกรานจะมอบ ถ้าไม่ติดว่าตามมานยาท ตนดลก็จะไม่จัดหาของขวัญหรอก

วันนี้จวนฉินมีงานรื่นเริง คนจัดงานต้อนรับเจ้าสาวจึงเบี่ยงเป็นพิเศษมาดีดสีตีเป่าร้องรำทำเพลงระแวกใกล้จวนเซียว กลัวว่าเซียวเฉวียนจะไม่รู้หรืออย่างไรว่าฉินซูโหรวหาสามีใหม่ได้แล้ว

เซียวเฉวียนจะจัดการกับพวกเขาได้อย่างไร วันๆเอาแต่กอดดาบฉุนจวิน หวังว่ามันจะจำเจ้าของมันได้

เขากอดดาบฉันจวินไว้แล้วตะโกนเรียกท่านปู่เป็นร้อยรอบ แล้วนิ้วก็โดนบาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ศีรษะมีเลือดไหลออกมา แต่ยังคงนิ่งเฉย

เมื่อเซียวเฉวียนตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนก เหลียงไหวโหรวก็มา

“เขามาเพราะเหตุใด?” เซียวเฉวียนเช็ดเหงืออกจากหน้าผากตน คืนแต่งงานเช่นนี้ มาหาเขาก่อนที่จะมาหาภรรยาตัวเอง ทำไม อยากจะมาคุยประสบการณ์อย่างกับเขานั้นหรือ?

ไป๋ฉีหน้าแดง “นายท่าน มิใช่ขอรับ เป็นเรื่องอื่น เขาบอกว่าต้องการคุยกับ่ทานต่อหน้า”

เซียวเฉวียนกับเหลียงไหวโหรวไม่ค่อยรู้จักมักจี่ แต่ว่า ในเมื่อเหลียงไหวโหรวเป็นคนของเว่ยเจียนกั๋ว จากนี้ไปเเป็นเพื่อนร่วมงานกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “อย่างนั้นก็ให้เข้ามาเจอข้าเถิด”

เหลียงไหวโหรวรีบมาขนาดนี้ เสื้อผ้าอาภรณ์ก็ยังไม่ได้เปลี่ยน ชุดวิวาห์แดงฉาดทำให้เซียวเฉวียนหลี่ตาลงมอง เจ้านายเว่ยเจียนกั๋วผู้นี้คิดว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าผู้คน คนแต่งงานยังจะเรียกมาทำธุระอีก ช่างไม่รู้กาลเทศะเสียจริง

ถ้าหาพอยู่ในยุคปัจจุบัน คนอย่างเว่ยเจียนกั๋วเป็นเจ้านายที่เซียวเฉวียนไม่ชอบเป็นที่สุด

เงินไม่เยอะ แล้วยังจะมากเรื่องอีก

เซียวเฉวียนเชิญให้เหลียงไหวโหรวเข้ามา แต่เขากลับรังเกียจ ยอมที่จะพูดต่อหน้าประตู

“ใต้เท้าเหลียง ท่านอุตส่าห์ทิ้งภรระยาอันเป็นที่รักมาหาข้าขนาดนี้ ต้องเป็นเรื่องร้อนใจใช่หรือไม่?”

เหลียงไหวโหรวอาศัยว่าอยู่กับเว่ยเจียนกั๋วมานมนาน เข้ารับตำแหน่งผู้อาวุโส “ครูฝึกเซียว ในเมื่อท่านแปรพักตร์ข้างเว่ยเจียนกั๋วแล้ว สิ่งที่ควรจะต้องทำคือไปพบเว่ยเจียนกั๋ว เหตุใดท่านถึงปล่อยเวลาให้นานเช่นนี้?”

“อย่าโทษข้าที่ข้าไม่เตือนท่าน ท่านควรทำเรื่องที่ควรทำ ถ้าหากท่านมีใจจริงที่จะแปรพักตร์ข้างเว่ยเจียนกั๋ว ก็ควรที่จะเอาความจริงใจนั้นออกมา”

มาเพราะเรื่องนี้เองน่ะหรือ?

ถึงขนาดยอมทิ้งภรรยาที่ตัวเองเพิ่งแต่งมาหมาดๆ เพื่อที่จะมาพูดเรื่องไรสาระเช่นนี้หรือ?

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” เซียวเฉวียนและไป๋ฉี่มองตากัน หัวเราะแทบจนจะบ้าตาย

เซียวเฉวียนน้ำเสียงเยือกเย็น เขาอยากจะเป็นพี่ใหญ่ของเว่ยเจียนกั๋ว มิใช่อยากจะเป็นลูกกระจ๊อก!

เหลียงไหวโหรวตกใจไปครู่ นี่เป็นครั้งที่โดนขับไสไล่ส่ง คิดว่าตนเป็นคนโปรดคนใหม่ที่สุดของเว่ยเจียนกั๋ว เซียวเฉวียนเป็นคนที่ไม่เคยก้าวเข้าสู่เกณฑ์ของ จวนเจียนกั๋วด้วยซ้ำ ยังจะมาทำเยี่ยงนี้ใส่เขาอีก!”

เขายืนอย่างเก้ๆกังๆ จะเดินก็ไม่ใช่ จะไม่ได้เดินก็ไม่เชิง ในเวลานี้ จวนเซียวได้เปิดช่องว่างเล็กๆ

ไป๋ฉี่ทำตามที่เซียวเฉวียนกำชับไว้ ทำท่าทีลึกลับและใช้เสียงเบาพูดว่า “ใต้เท้าเหลียง เชิญท่านกลับไปเถอะขอรับ นายท่านมิใช่เจตนาไม่ไปจวนเจียนกั๋ว แต่นายท่านยุ่งมากจริงๆ”

“มิต้องพูดถึงเป็นอารักขาและดูแลสถานที่ศึกษาชิงหยวน แม่แต่โรงเหล้านายท่านก็ยังต้องไปจัดการ อีกทั้ง นายท่านข้ายังฝึก”

ไป๋ฉี่ยิ่งกดเสียงตนให้ต่ำลง“ยังต้องฝึกทำยาอายุวัฒนะอีก”

ยาอายุวัฒนะอย่างนั้นหรือ?

เหลียงไหวโหรวชะงักไปชั่วครู่ “อะไรคือยาอายุวัฒนะ?”

ไป๋ฉี่เจตนาทำเป็นความลับ “โถ ใต้เท้าเหลียง นี่ท่านยังไม่รู้จักว่าอะไรคือยาอายุวัฒนะหรือขอรับ?ถ้าให้ข้าอธิบายให้ชัดเจนเกินไปก็ไม่ดี”

ในต้าเว่ยและยุคโบราณฮวาเซี่ย ยาอายุวัฒนะก็ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน

ผลกระทบแรกของยาอายุวัฒนะพบได้ทั่วไปในการแพทย์แผนจีนและการเตรียมยา แต่ส่วนใหญ่จะใช้เป็นยาผ่าตัดและโรคผิวหนัง ผลกระทบที่สองคือการไล่ตามน้ำอมฤตแห่งความเป็นอมตะ

แม้แต่ฮ่องเต้ ก็มีวิชานักเล่นแร่แปรธาตุนี้เป็นวิชาหลัก

เวทย์โบราณใช้เตาเผาเพื่อเผาหินเล่นแร่แปรธาตุ ผสมให้เป็นเหยื่อยา และทำยาอายุวัฒนะแห่งความเป็นอมตะ

เว่ยป๋อหยาง แห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันออกของจีนเป็นผู้เขียนโจวอี้เซินถงฉี โดยใช้หยินและหยางทำเป็นยาอายุวัฒนะ เป็นที่รู้จักในนาม "ราชาแห่งการเล่นแร่แปรธาตุสูตรนิรันดร์"

เก๋อหงแห่งราชวงศ์จินตะวันออกของจีนสรุปไหว้ตานที่หมุนเวียนอยู่ในขณะนั้น ในหนังสือเปาภู่จึได้แบ่งน้ำอมฤตภายนอกออกเป็นสามประเภท ได้แก่ น้ำอมฤตวิเศษ ของเหลวทองคำ และทองคำ และเรียกน้ำอมฤตว่าเป็นยา ยิ่งถูกเผานานเท่าใด การเปลี่ยนแปลงก็จะยิ่งมหัศจรรย์มากขึ้นเท่านั้น มันจะไม่หายไปหลังจากผ่านไปหนึ่งวัน ร้อยถลุงแล้วจะเป็นอมตะตลอดกาล ถ้าคนรับไป ก็จะเป็นอมตะ สามารถทำให้คนเป็นอมตะไม่รู้จักแก่ไม่รู้จักตายได้

ในระยะสั้น ยาอายุวัฒนะฟังแล้วดูเก่งกาจนัก แต่พวกมันล้วนเป็นโลหะหนักและแร่ธาตุ ไม่มีหน้าที่ในการยืดอายุขัย กินแล้วจะมีแต่ตายเร็วขึ้น

แต่คนที่ไม่รู้ ในยุคโบราณ คนที่สามารถฝึกเยี่ยงนี้ได้ จะต้องเป็นบุคคลระดับเทพเซียน!

สีหน้าของเหลียงไหวโหรวได้เปลี่ยนไป “เจ้าว่า นายท่านของเจ้ากำลังฝึกฝนอย่างนั้นหรือ? ฝึกออกมาได้แล้วหรือยัง?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย