ไม่ นี่ต้องเป็นฝีมือของเจ้าเซียวเฉวียนเป็นแน่!เป็นเพราะเซียวเฉวียนไม่ยอมรับผิดชอบ เหลียงไหวโหรวจึงต้องขึ้นมาแทนที่
เหลียงไหวโหรวถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในบรรดาทั้งหมด เขาเป็นที่สองในการจัดอันดับ แต่ในสายตาของฉินซูโหรวเขาเลวร้ายยิ่งกว่าหมูหรือสุนัขเสียอีก แต่ตลอดคืนครึ่งเดือนที่ระเริงสวาทที่ผ่านมา หล่อนพึงพอใจกับเหลียงไหวโหรวเป็นอย่างมาก แต่ทว่าทุกคืนมิใช่เซียวเฉวียน ฉินซูโหรวก็ออกอาการโมโหโดยไม่เลือกหน้า
ด้วยความรู้สึกละอายใจอย่างยิ่งฉินซูโหรวโหรวจึงจับชุดแต่งงานของหล่อนไว้แน่น เพิกเฉยต่อคนตรงหน้า เสียงของเหลียงไหวโหรวช่างอบอุ่นไร้ความรังเกียจรังนอน “องค์หญิง ข้าเปิดผ้าแพรแดงออกแล้ว”
“ผ่าง!”จู่ๆฉินซูโหรวก็ยกผ้าแพรแดงของหล่อนขึ้นมาและใช้ฝ่ามือปิดไว้ “เจ้าเป็นแค่ตัวแทนของเซียวเฉวียน!เจ้ากล้าจะมาเป็นสามีของข้าจริงๆนะหรือ?”
เหลียงไหวโหรวตกตะลึง “องค์หญิง พวกเรากราบไหว้ฟ้าดินกันแล้ว เจ้าจะไม่ยอบรับว่าพวกเราเป็นสามีภรรยากันหรือ?”
คำพูดนี้ แต่ก่อนเซียวเฉวียนก็เคยถามเช่นเดียวกัน
ฉินซูโหรวตอบไปอย่างผู้มีประสบการณ์ หล่อนจ้องมองเขา “ใช่ ข้าไม่รับ ในท้องข้าเป็นลูกของเซียวเฉวียนไม่ใช่ลูกของเจ้า”
“เป็นลูกของข้า!”เหลียงไหวโหรวตะคอกด้วยความโมโห ฉินซูโหรวชะงักไปครู่ “เจ้ามันเป็นแค่นายท่านประตู! อีกทั้งยังแต่งงานเข้าบ้านฝ่ายหญิง! เจ้ายังกล้ามาตะคอกใส่ข้าหรือ!”
“ข้า” เมื่อคนทั้งสองอยู่ในทางตัน มีคนหนึ่งที่รีบเร่งมา “ใต้เท้าเหลียง!มีเรื่องที่ต้องไปจัดการขอรับ!”
เมืองหลวงบนทางถนน
เหลียงไหวโหรวควบม้ามาถึงจวนฉิน
บนตัวของเขายังสวมชุดวิวาห์สีแดงฉาด โชคดีที่เป็นยามวิกาล มิเช่นนั้นคนคงจะเห็นว่าเจ้าบ่าวผู้นี้ไม่อยู่ในคืนแรกที่ส่งตัวเข้าหอ แต่กลับมาขวบม้าเล่นบนท้องถนน อย่างนั้นคงเป็นเรื่องน่าขายหน้าแย่
บัดนี้เหลียงไหวโหรวเป็นสามีขององค์หญิง เปลี่ยนป็นองค์ชาย ถึงอย่างนั้นตำแหน่งก็ยังสู้เซียวเฉวียนผู้เป็นพระราชบุตรเขยไม่ได้อยู่ดี
ก่อนมาถึงจวนฉิน เหลียงไหวโหรวต้องรอรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชา ถึงจะสามารถเจอเซียวเฉวียนได้
วันนี้ที่จวนฉินมีเรื่องดีใหญ่ องค์หญิงเป็นน้องสาวบุญธรรมของแม่ฉิน แต่งงานกับหลานสาว องค์หญิงยังมอบของขวัญให้กับฉินซูโหรวอีกด้วย
ได้ยินมาว่า จวนฉินเอาของที่ตระกูลเซียวส่งมอบมาให้โยนทิ้งหมด และโกรธแค้นเป็นอย่างมาก
แต่เซียวเฉวียนก็มิได้รู้สึกว่าตนเสียหน้าแต่อย่างใด แต่แค่เสียดายของขวัญสิ่งนั้น องค์หญิงหญิงเป็นคนไม่เสแสร้ง ของขวัญที่มอบให้ไปล้วนเป็นของชั้นดีเช่นเครื่องประดับยาบำรุงกำลัง สิ่งของที่ไม่ดีไม่มีทางที่นางจะส่งมอบให้
ฉินซูโหรวเหมาะแก่การรับของขวัจากเซียวเฉวียนอย่างนั้นหรือ? ถุย! แม้แต่เมล็ดแตงโม เซียวเฉวียนผู้นี้ก็ไม่ให้!
ถ้ามิใช่ว่าองค์หญิงยืนกรานจะมอบ ถ้าไม่ติดว่าตามมานยาท ตนดลก็จะไม่จัดหาของขวัญหรอก
วันนี้จวนฉินมีงานรื่นเริง คนจัดงานต้อนรับเจ้าสาวจึงเบี่ยงเป็นพิเศษมาดีดสีตีเป่าร้องรำทำเพลงระแวกใกล้จวนเซียว กลัวว่าเซียวเฉวียนจะไม่รู้หรืออย่างไรว่าฉินซูโหรวหาสามีใหม่ได้แล้ว
เซียวเฉวียนจะจัดการกับพวกเขาได้อย่างไร วันๆเอาแต่กอดดาบฉุนจวิน หวังว่ามันจะจำเจ้าของมันได้
เขากอดดาบฉันจวินไว้แล้วตะโกนเรียกท่านปู่เป็นร้อยรอบ แล้วนิ้วก็โดนบาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ศีรษะมีเลือดไหลออกมา แต่ยังคงนิ่งเฉย
เมื่อเซียวเฉวียนตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนก เหลียงไหวโหรวก็มา
“เขามาเพราะเหตุใด?” เซียวเฉวียนเช็ดเหงืออกจากหน้าผากตน คืนแต่งงานเช่นนี้ มาหาเขาก่อนที่จะมาหาภรรยาตัวเอง ทำไม อยากจะมาคุยประสบการณ์อย่างกับเขานั้นหรือ?
ไป๋ฉีหน้าแดง “นายท่าน มิใช่ขอรับ เป็นเรื่องอื่น เขาบอกว่าต้องการคุยกับ่ทานต่อหน้า”
เซียวเฉวียนกับเหลียงไหวโหรวไม่ค่อยรู้จักมักจี่ แต่ว่า ในเมื่อเหลียงไหวโหรวเป็นคนของเว่ยเจียนกั๋ว จากนี้ไปเเป็นเพื่อนร่วมงานกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “อย่างนั้นก็ให้เข้ามาเจอข้าเถิด”
เหลียงไหวโหรวรีบมาขนาดนี้ เสื้อผ้าอาภรณ์ก็ยังไม่ได้เปลี่ยน ชุดวิวาห์แดงฉาดทำให้เซียวเฉวียนหลี่ตาลงมอง เจ้านายเว่ยเจียนกั๋วผู้นี้คิดว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าผู้คน คนแต่งงานยังจะเรียกมาทำธุระอีก ช่างไม่รู้กาลเทศะเสียจริง
ถ้าหาพอยู่ในยุคปัจจุบัน คนอย่างเว่ยเจียนกั๋วเป็นเจ้านายที่เซียวเฉวียนไม่ชอบเป็นที่สุด
เงินไม่เยอะ แล้วยังจะมากเรื่องอีก
เซียวเฉวียนเชิญให้เหลียงไหวโหรวเข้ามา แต่เขากลับรังเกียจ ยอมที่จะพูดต่อหน้าประตู
“ใต้เท้าเหลียง ท่านอุตส่าห์ทิ้งภรระยาอันเป็นที่รักมาหาข้าขนาดนี้ ต้องเป็นเรื่องร้อนใจใช่หรือไม่?”
เหลียงไหวโหรวอาศัยว่าอยู่กับเว่ยเจียนกั๋วมานมนาน เข้ารับตำแหน่งผู้อาวุโส “ครูฝึกเซียว ในเมื่อท่านแปรพักตร์ข้างเว่ยเจียนกั๋วแล้ว สิ่งที่ควรจะต้องทำคือไปพบเว่ยเจียนกั๋ว เหตุใดท่านถึงปล่อยเวลาให้นานเช่นนี้?”
“อย่าโทษข้าที่ข้าไม่เตือนท่าน ท่านควรทำเรื่องที่ควรทำ ถ้าหากท่านมีใจจริงที่จะแปรพักตร์ข้างเว่ยเจียนกั๋ว ก็ควรที่จะเอาความจริงใจนั้นออกมา”
มาเพราะเรื่องนี้เองน่ะหรือ?
ถึงขนาดยอมทิ้งภรรยาที่ตัวเองเพิ่งแต่งมาหมาดๆ เพื่อที่จะมาพูดเรื่องไรสาระเช่นนี้หรือ?
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” เซียวเฉวียนและไป๋ฉี่มองตากัน หัวเราะแทบจนจะบ้าตาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...