ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 372

สรุปบท บทที่ 372 หยดโลหิตพิสูจน์สัมพันธ์: ซูเปอร์ลูกเขย

สรุปตอน บทที่ 372 หยดโลหิตพิสูจน์สัมพันธ์ – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

ตอน บทที่ 372 หยดโลหิตพิสูจน์สัมพันธ์ ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ไป๋ฉี่ตอบไปอย่างมีเลศนัย “ท่านก็เห็นข้ายุ่งขนาดนี้แล้ว ก็จะรู้ว่ามิได้ออกไปที่ใดเลย”

มีอย่างที่ไหน!

เหลียงไหวโหรวขมวดคิ้ว”นี่เจ้าล้อข้าเล่นอย่างนั้นหรือ?”

“ไปเรียนนายท่านของเจ้าออกมา!” ในเมื่อจะเป็นมิตรต่อเว่ยเจียนกั๋วแล้ว อย่างนั้นก็ควรที่จะทำหน้าที่ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา!”

ฉตนภูมิใจที่ได้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเว่ยเจียนกั๋ว ไป๋ฉี่หัวเราะแห้งๆ และในที่สุดก็ทิ้งระเบิดของเสี่ยวฉวนเหลียงไหวโหรวใบหน้าดูชอบธรรมและน่าเกรงขาม เขาคิดว่า เซียวเฉวียนจะเป็นเหมือนคนเยี่ยงเขา ในที่สุดความลับของเซียวเฉวียนก็ถูกเปิดปากออกมา “ข้าจะบอกอะไรให้นะ นายท่านข้าก็มิได้อยากเป็นผู้ในบังคับบัญชาของเว่ยเจียนกั๋ว”

“แล้วอยากจะเป็นอะไรกันเล่า!”เหลียงไหวโหรวโกรธมากจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรตอบด้วยซ้ำ แปรพักตร์ข้างเว่ยเจียนกั๋ว นอกจากจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาแล้วยังอยากจะเป็นอะไรได้อีก ความคิดของเซียวเฉวียนนั้นช่างน่าขันแต่ก็แฝงด้วยความอันตราย

“อยากจะเป็นพ่อกระมัง” นี่เป็นคำพูดที่แท้จริงของเซียวเฉวียน แน่นอนว่าไป๋ฉี่ไม่สามารถพูดออกมาได้ เขายิ้มเล็กน้อย “นายท่านข้าอยากจะเป็นมิตรสหายกับเว่ยเจียนกั๋ว เป็นมิตรสหายรู้ใจ”

เป็นเรื่องไร้สาระเสียจริงๆ

มิตรสหายรู้ใจอย่างนั้นหรือ? แต่ว่าคำพูดนี้

ทำไมฟังดูแล้วคุ้นหูนัก?

เหลียงไหวโหรวขมวดคิ้ว ลูกตากลอกไปมา เพิ่งจะนึกออก แต่เดิมซื้อชือใช้เงินห้าหมื่นสองร้อยซื้อบทกวีมาจากเซียวเฉวียน เซียวฉวียนพูดกับเขาว่า “เจ้ากับข้าเป็นมิตรสหายรู้ใจ”

แต่ซือชือตายไปแล้ว

อู๋ชือก็ได้ตายลงไปแล้ว

ทุกคนต่างพูดกันว่าตายใรการต่อสู้บทกวี เว่ยเจียนกั๋วก็รู้ นี่เป็นการร่วมมือของฮ่องเต้และคนตระกูลฉิน

หรือว่า เซียวเฉวียนผู้นี้สังหารซือชือ?

เซียวเฉวียนสามารถเขียนบทกวีที่น่าหลงใหลและน่าตกใจได้ จะฆ่าซือชือละอู๋ชือได้ก็มิใช่เรื่องแปลก แต่ทว่าทำไมเซียวเฉวียนถึงได้กล้าเพียงนี้

อยากจะเป็นมิตรสหายรู้ใจของเว่ยเจียนกั๋วอย่างนั้นหรือ?คำพูดนี้ มันตลกพอ ๆ กับบอกว่าอยากเป็นพ่อของเว่ยเจียนกั๋ว!

เหลียงไหวโหรว“ถ้าหากเซียวเฉวียนไม่ไป ข้าจะหิ้วเขาไปเอง!

คำพูดของเหลียงไหวโหรวทำให้ดูเหมือนว่าเขาสามารถลักพาตัวเซียวเฉวียนจากจวนเซียวได้ไป๋ฉี่เลิ่กคิ้วและเย็นชา“ใต้เท้าเหลียง ข้าขอให้ทานแยกแยะสักนิด ถ้าหากท่านยังดื้อดึงรบการการฝึกยาอายุวัฒนะของนายท่านข้าอีก ท่านมิสามารถชดใช้ได้!

ทำให้เหลียงไหวโหรวโมโหเป็นอย่างมากและลังเลไปเล็กน้อย เว่ยเจียนกั๋วมีนักหลอมยาอายุวัฒนะมากกว่าฮ่องเต้

เห็นได้ว่า เว่ยเจียนกั๋วแสวงหาความเป็นอมตะ

นอกเหนือจากการยึดอำนาจของจักรพรรดิและการควบคุมต้าเว่ยแล้ว ความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเว่ยเจียนกั๋วคือการฝึกทำยาอายุวัฒนะ และไล่ตามความเป็นอมตะ

ตอนนี้ถ้าเซียวเผฉวียนอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญในการฝึกยาอายุวัฒนะ ถ้าถูกตนทำลายไป แม้ว่าเว่ยเจียนกั๋วจะโปรดปรานตน ก็สามารถถูกเขาถลกลอกผิวหนังเป็นแน่

“เจ้าพวกไร้ค่า!หลีกข้า!

ในยามนี้ เหลียงไหวโหรวที่กำลังมีท่าทีลังเลก็หันกลับไปตามที่ได้ยินเสียงตะคอก เป็นฉินซูโหรว

เกห็นแต่องครักษ์หงหยู่ของฉินซูโหรง ถือร่ม และชนประตูออก ไป๋ฉี่ไม่ได้ระวัง ฉินซูโหรวก็เข้ามาในจวนเซียวแล้ว

“เซียวเฉวียนเจ้าคนทรยศอยู่ที่ใด?

ขณะนี้ บนตัวฉินซูโหรวยังสวมชุดแต่งงานสีแดงฉาด เครื่องสำอางบนหน้าก็ยังมิได้ล้างออกมา

เหลียงไหวโหรวนอกที่อยู่หน้าประตูชะงัก “องค์หญิง เหตุใดเจ้าจึงมาที่นี่?”

ฉินซูโหรวหาสนใจเขาไม่ แล้วเดินตรงเข้าไป

ด้วยความเฉยเมยและการดูถูก ที่ยังคงภาคภูมิใจอยู่ในขณะนี้ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าใบหน้าของเธอร้อนผ่าวด้วยความเจ็บปวด!

คืนแต่งงานใหม่ เขามาหาเซียวเฉวียนเรื่องให้ไปพบเว่ยเจียนกั๋วก็พอแรงอยู่แล้ว อย่างไรเสียเป็นเรื่องแย่ของวัง

ถูกเจ้าเซียวเฉวียนกดดันจากการฝึกยาอายุวัฒนะนี่ก็แทบจะเป็นบ้า นี่ก็เพื่อในวัง

แต่ที่ฉินซูโหรวมา มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?

เซียวเฉวียนเองก็เป็นคนครอบยากไร้คนหนึ่ง เดิมที่เป็นายท่านหน้าประตูที่จวนฉิน ทำไมแม้ว่าจะห่างกันแล้ว เหตุใดคืนวันแต่งงานใหม่ยังต้องมาหาเซียวเฉวียนอีก

เซียวเฉวียนมีดีอะไรกว่าตนตรงไหน?

บัดนี้ตนเองเป็นลูกน้องมือขวาของเว่ยเจียนกั๋ว อีกทั้งยังยศอำนาจ แต่เซียวเฉวียนเป็นแค่ผู้ดูแลของชิงหยวน เป็นแค่ครูฝึก การสอนจะสร้างอนาคตที่สดใสได้อย่างไร?

คนที่ไร้ประโยชน์คือนักวิชาการและการสอนก็คือนักวิชาการในหมู่นักวิชาการ เขาไม่มีประโยชน์!

“อย่างที่สอง ข้าเซียวเฉวียนถ้าอยากจะหลับนอนกับเจ้าจริง ข้าจะเปิดไฟให้ทั่วห้อง ข้าจะหลับนอนกับเจ้าอย่างเปิดเผยมิใช่ลักหลับ”

บทสนทนายังพูดต่อด้วยท่าทีที่เย็นชาของเซียวเฉวียน “อย่างที่สาม เจ้ากับข้าหย่ากันแล้ว ข้าเคยคิดว่าอยากจะเป็นสามีที่ดีให้กับเจ้า แต่ทว่าเจ้ากับข้าคงไม่ใช่พรหมลิขิตที่ขีดเอาไว้”

ดั่งน้ำเย็นสาดไปที่ใบหน้าของฉินซูโหรว ขณะที่หล่อนกำลังจะขยับปาก เซี่ยวเฉวียนก็ส่ายหัวและหยิบแหวนนิ้วที่จวนฉินมอบให้ออกมา”เจ้าคงอยากจะพูดว่า ท่านปู่ไหว้วานให้ข้าดูแลจวนฉิน แต่ทำไมข้ากลับไม่แยแสต่อเจ้าเยี่ยงนี้ใช่หรือไม่?

ถึงแม้จะอ้างศีลธรรมมากมากมายให้ผู้อื่นทำตามมานับไม่ถ้วน แต่เซียวเฉวียนเพียงไม่คิดเล็กคิดน้อยเองเท่านั้น บัดนี้ได้มีโอกาสโต้กลับ ต้องเป็นความคิดที่จะบีบคอตระกูลฉินจนตาย

มิฉะนั้นเมื่อใดก็ตามที่มีบางอย่างเกิดขึ้น ตระกูลฉินใช้ชื่อเสียงของฉินปาฟางเพื่อสร้างปัญหา

“ฉินซูโหรว เจ้าควรยอมแพ้ได้แล้ว”

เซียวเฉวียนนำจดหมายหนึ่งฉบับออกมา นนี่เป็นจดหมายฉบับสุดท้ายที่ฉินปาฟางทิ้งไว้

ฉินปาฟางเป็นนายพลผู้ก่อตั้งที่ครองสนามรบและกระตือรือร้นมาก

เมื่อตระหนักว่าจวนฉินอยู่ในสภาพคับแคบฉินปาฟาง กลัวว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขาอย่างกะทันหัน ดังนั้นเขาจึงเขียนจดหมายถึงเซียวเฉวียนก่อนกำหนด

ในจกลดหมายนอกจากจะกล่าวว่าใหเล้ดูแลจวนฉินให้ดีๆ ยังมีอีกเรื่อง ก็คือเรื่องที่ให้หย่ากันนั่นเอง

ในจดหมายฉินปาฟางเขียนไว้ว่า การแต่งงานครั้งนี้ ล้วนเป็นไปตามความปรารถนาของผู้เฒ่า ผลสุดท้ายทำร้ายทั้งเซียวเฉวียนและฉินซูโหรว ถ้าหากไปกันมิรอดจริง ฉินปาฟางผู้นี้สนับสนุนให้ทั้งสองคนหย่ากัน

“สนับสนุนให้หย่า” ฉินซุโหรวเมื่อได้เห็นตัวอักษารไม่กี่ตัวนี เสียงก็เหือดหายไป

แม้แต่ท่านปู่ ก็ไม่สนับสนุนที่จะให้หล่อนกับเขาอยู่ด้วยกันต่อ

นี่เป็นลายมือของท่านปู่แน่ๆ แข็งแกร่งและทรงพลัง การเขียนผู้กันจีนของฉินซูโหรวก็ร่ำเรียนมาจากท่านปู่

ฉินซูโหรวตัวสั่นขณะถือจดหมาย ปกติปากที่เคยพูดไปเรื่อย แต่ตอนนี้กลับพผูดอะไรไม่ออกสักแอะ

“ถ้าเจ้ายืนกราน ในท้องลูกของเจ้าเป็นลูกข้า รอเด็กคลอดออกมา แล้วค่อยทำการหยดโลหิตพิสูจน์สัมพันธ์เอาละกัน”

ในเมื่อเซียวเฉวียนใจกว้างเช่นนี้ แต่ฉินซูโกรวกลับกลัวเสียอย่างนั้น”

กลัวว่าเด็กจะไม่ใช่ลูกของเซียวเฉวียน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย