คนโบราณช่างโง่เง่าสิ้นดี การหยดโลหิตพิสูจน์สัมพันธ์เชื่อถือไม่ได้เลยสักนิด
สิ่งนี้เป็นการทดสอบความเป็นพ่อ ถ้าหากเป็นยุคปัจจุบันการตรวจดีเอ็นเอเป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือที่สุด
อย่าบอกว่าลูกในท้องของฉินซูโหรวไม่ใช่ลูกของเซียวเฉวียน แม้ถ้าหากใช่จริงเซียวเฉวียนก็สามารถทำให้เปลี่ยนเป็นไม่ใช่ได้
การหยดโลหิตพิสูจน์สัมพันธ์ หมายถึงเมื่อทั้งสองฝ่ายยังมีชีวิตอยู่ นำเลือดทั้งสองฝ่ายมาหยดบนภาชนะที่ใส่เลือด ดูว่าเลือดหลอมเป็นเดียวกันหรือไม่ ถ้าหากเลือดรวมผสมกันก็ถือเป็นพ่อลูกกัน
ไม่ต้องพูดถึงเลือดของคนสองคน แม้แต่เลือดของสุนัขสีเหลืองตัวน้อยที่บ้าน ถ้าเลือดและน้ำหลอมเป็นเดียวกัน มิใช่ว่าสุนัขตัวน้อยก็มีเขาเป็นพ่ออย่างนั้นหรือ? แม้แต่สุนัขยังเรียกเขาว่าพ่อ เขา เซียวเฉวียน ไม่กล้าตอบ!
เซียวเฉวียนยิ่งใจกว้างเท่าไร ฉินซูโหรวก็ยิ่งพูดไม่ออกมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อครู่หล่อนยังอยากจะคิดระดมกองทัพเพื่อกล่าวหาอีกฝ่ายในความผิดของตน ถามเซียวเฉวียนว่าทำไมเขาถึงทำให้หล่อนตเองมีมลทิน มิหนำซ้ำกลับให้คนอื่นมาขอหล่อนแต่งงาน
แต่บัดนี้เซียวเฉวียนใจกว้างเยี่ยงนี้ แม้กระทั่งหยดเลือกดพิสูจน์สัมพันธ์ก็กล้าทำ ฉินซูโหรวจึงไม่กล้าพูดอะไร
เจ้าหล่อนถือจดหมายที่ท่านปู่ของเธอทิ้งไว้ไว้แน่น “ทำไม ทำไมไม่ให้ข้าอ่านจดหมายฉบับนี้ก่อน”
“ก็เพราะว่าข้า เซียวเฉวียน เคยอยากจะเป็นสามีภรรยากับเจ้าอย่างจริงใจน่ะสิ"
คำพูดนี้ของเซียวเฉวียนไม่พูดเท็จ ฉินซูโหรวทั้งงามทั้งมีตระกูลที่เพียบพร้อม เขาเองก็อยากจะมีวันที่ดีกับนางเหมือนกัน
คงไร้สิ้นวาสนาต่อกัน เขาเป็นนายท่านหน้าประตู ตระกูลฉินไม่ชอบเขา คนอื่นไม่ชอบเขายังไม่เท่าไร แต่ฉินซูโหรวผู้เป็นคู่ชีวิตของตนก็เอาแต่ใจเช่นเคย และอีกทั้งยังทุบตีแม่เซียวและยังมีสัมพันธ์สวาทกับชายอื่น อีกทั้งยังตั้งครรภ์เท็จอีก
ฉินซูโหรวมองดูเขา “เช่นนั้นทำไมเจ้าถึงอยากยืนกรานที่จะห่างกับข้าเล่า?ข้าก็ท้องลูกของเจ้าอยู่ เจ้ายังจะ”
“เจ้าไม่ได้ตั้งครรภ์อยู่แล้ว เจ้าตั้งครรภ์เท็จต่างหากเล่า”
พอมาถึงตอนนี้แล้ว เซียวเฉวียนก็พูดแทงใจฉินซูโหรวอย่างตรงไปตรงมา พูดถึงเรื่องนี้ หัวมจของเขาเจ็บปวด “จริงๆแล้วข้าเฝ้ารอเด็กคนนี้ เพราะนี่คือลูกคนแรกของข้า แต่สุดท้ายเจ้าก็กลับหลอกข้าได้ลง”
ฉินซูโหรวงงัน เหงื่อไหลพลั่ก “เจ้ารู้ตั้งนานแล้วหรือว่าข้าหลอกเจ้า? เช่นนั้น เจ้าวางผนที่จะห่างจากตั้งนานแล้ว และข้าเป็นคนสุดท้ายที่รู้อย่างนั้นหรือ?
ทั้งๆที่รู้ว่าหล่อนโกหกเซียวเฉวียน แต่ฉินซูโหรวยังทำตัวเป็นผู้ถูกกระทำอย่างไรอย่างนั้น
“ข้าเคยรักเจ้า แต่เจ้าไม่เหมาะสมกับความรักข้า”
ตอนที่เซียวเฉวียนพูดประโยคนี้ขึ้นมา จริงจังและเคร่งขรืมมาก เพียงเท่านี้ ฉินซูโหรวก็เชื่อแล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างหล่อนกับเขาคงจบสิ้นแล้ว
จบสิ้นแล้วจริงๆ
จากกันด้วยดี มันคงเป็นตอนจบที่ดีที่สุดของพวกเขา
ถ้าไม่ใช่ฉินปาฟาง เกรงว่าจะไม่ได้จากกันด้วยดี ฉินซูโหรวคงทำไม่ได้เป็นแน่
เซียวเฉวียนจริงจังเช่นนี้ ไม่มีอีกแล้วเสียงหัวเราะในวันที่ผ่านมา และไม่มีอีกแล้วท่าทีเมินใส่
เขาเอาจริง
หล่อนต้องเสียเขาไปแล้วจริงๆ
ฉินซูโหรวล้มลงกับพื้นอย่างจำนน “เซียวเฉวียน ข้าอยากอยู่กับเจ้า ข้าอยากอยู่กับเจ้าจริงๆนะ ข้ามิได้ชอบเหลียงไหวโหรว”
เห็นนางเป็นเช่นนี้ เมื่อก่อนยังจะทำท่าทีรังเกียจรังนอนเซียวเฉวียนอยู่เลย ตอนนี้กลับมาเห็นเซียวเฉวียนอยู่เต็มสายตาเสียอย่างนั้น
ใจของผู้หญิงช่างยากแท้หยั่งถึง เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว ทำไมฉินซูโหรวถึงเปลี่ยนเป็นหน้ามือหลังมือไปได้?
ในยุคโบราณ ผู้ชายสามารถมีเมียเยอะได้ แต่ทว่าฉินซูโหรวเป็นถึงองค์หญิง ถ้าหากเซียวเฉวียนขอแต่งกับนางอีกครั้ง เซียวเฉวียนต้องแบกรับความผิดฐานก่อปัญหาในพระราชวังเป็นแน่
หล่อนร้องไห้สะอึกสะอื้น”เดิมที คนรักของข้าคือจูเหิง ก่อนที่จะมาแต่งงานกับเจ้า พวกเรามีความรู้สึกดีๆให้แก่กัน ต่อมาจูเหิงเริ่มมือไม้อยู่ไม่สุกลวนลามข้า และก็เป็นว่าข้าไม่ยินยอม แต่เมื่อจูเหิงตายไป ข้าก็ไม่สามารถรู้สึกดีกับเจ้าได้ง่ายๆ เจ้าเองก็อยากจะห่างจากข้า”
เยี่ยมนี่ คำพูดนี้ของฉินซูโหรว ช่วยให้ชื่อของสัตว์ร้ายอย่างจูเหิงชัดเจนขึ้น
“”ในเมื่อเจ้ามีใจที่จะแยกห่าง แล้วใยถึงต้องฆ่าจูเหิงด้วยเล่า?” ความคิดของฉินซูโหรวช่างแปลกนัก แข็งขืนฝืนธรรมชาติ “ไม่เคยมีใครที่สามารถเชื่อมโยงด้วยบทกวีได้ดีเท่านี้มาก่อน และข้าก็ไม่ยินกวีของเขาอีกเลย หัวเราะให้ระงมทั่วผืนฟ้า...อันตัวข้าเป็นคนเผิงเฮา……”
“ช้าก่อน เจ้าอย่าเพิ่งท่องต่อ “\เซียวเฉวียนยื่นมามือ “ บทกวีนี้ ไปเป็นของเจ้าจูเหิงตั้งแต่เมื่อไร?”
“อืม?” ฉินซูโหรวถือผ้าเช็ดหน้าและปิดปากสีแดงของหล่อน ร้องไห้ด้วยความสับสนอย่างมากในดวงตาของหล่อนในแววตามีความสับสนอย่างมาก คำพูดของเซียวนี้หมายความว่าอะไรกันแน่?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...