สรุปเนื้อหา บทที่ 373 กวีแห่งการตกหลุมรัก – ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บท บทที่ 373 กวีแห่งการตกหลุมรัก ของ ซูเปอร์ลูกเขย ในหมวดนิยายนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
คนโบราณช่างโง่เง่าสิ้นดี การหยดโลหิตพิสูจน์สัมพันธ์เชื่อถือไม่ได้เลยสักนิด
สิ่งนี้เป็นการทดสอบความเป็นพ่อ ถ้าหากเป็นยุคปัจจุบันการตรวจดีเอ็นเอเป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือที่สุด
อย่าบอกว่าลูกในท้องของฉินซูโหรวไม่ใช่ลูกของเซียวเฉวียน แม้ถ้าหากใช่จริงเซียวเฉวียนก็สามารถทำให้เปลี่ยนเป็นไม่ใช่ได้
การหยดโลหิตพิสูจน์สัมพันธ์ หมายถึงเมื่อทั้งสองฝ่ายยังมีชีวิตอยู่ นำเลือดทั้งสองฝ่ายมาหยดบนภาชนะที่ใส่เลือด ดูว่าเลือดหลอมเป็นเดียวกันหรือไม่ ถ้าหากเลือดรวมผสมกันก็ถือเป็นพ่อลูกกัน
ไม่ต้องพูดถึงเลือดของคนสองคน แม้แต่เลือดของสุนัขสีเหลืองตัวน้อยที่บ้าน ถ้าเลือดและน้ำหลอมเป็นเดียวกัน มิใช่ว่าสุนัขตัวน้อยก็มีเขาเป็นพ่ออย่างนั้นหรือ? แม้แต่สุนัขยังเรียกเขาว่าพ่อ เขา เซียวเฉวียน ไม่กล้าตอบ!
เซียวเฉวียนยิ่งใจกว้างเท่าไร ฉินซูโหรวก็ยิ่งพูดไม่ออกมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อครู่หล่อนยังอยากจะคิดระดมกองทัพเพื่อกล่าวหาอีกฝ่ายในความผิดของตน ถามเซียวเฉวียนว่าทำไมเขาถึงทำให้หล่อนตเองมีมลทิน มิหนำซ้ำกลับให้คนอื่นมาขอหล่อนแต่งงาน
แต่บัดนี้เซียวเฉวียนใจกว้างเยี่ยงนี้ แม้กระทั่งหยดเลือกดพิสูจน์สัมพันธ์ก็กล้าทำ ฉินซูโหรวจึงไม่กล้าพูดอะไร
เจ้าหล่อนถือจดหมายที่ท่านปู่ของเธอทิ้งไว้ไว้แน่น “ทำไม ทำไมไม่ให้ข้าอ่านจดหมายฉบับนี้ก่อน”
“ก็เพราะว่าข้า เซียวเฉวียน เคยอยากจะเป็นสามีภรรยากับเจ้าอย่างจริงใจน่ะสิ"
คำพูดนี้ของเซียวเฉวียนไม่พูดเท็จ ฉินซูโหรวทั้งงามทั้งมีตระกูลที่เพียบพร้อม เขาเองก็อยากจะมีวันที่ดีกับนางเหมือนกัน
คงไร้สิ้นวาสนาต่อกัน เขาเป็นนายท่านหน้าประตู ตระกูลฉินไม่ชอบเขา คนอื่นไม่ชอบเขายังไม่เท่าไร แต่ฉินซูโหรวผู้เป็นคู่ชีวิตของตนก็เอาแต่ใจเช่นเคย และอีกทั้งยังทุบตีแม่เซียวและยังมีสัมพันธ์สวาทกับชายอื่น อีกทั้งยังตั้งครรภ์เท็จอีก
ฉินซูโหรวมองดูเขา “เช่นนั้นทำไมเจ้าถึงอยากยืนกรานที่จะห่างกับข้าเล่า?ข้าก็ท้องลูกของเจ้าอยู่ เจ้ายังจะ”
“เจ้าไม่ได้ตั้งครรภ์อยู่แล้ว เจ้าตั้งครรภ์เท็จต่างหากเล่า”
พอมาถึงตอนนี้แล้ว เซียวเฉวียนก็พูดแทงใจฉินซูโหรวอย่างตรงไปตรงมา พูดถึงเรื่องนี้ หัวมจของเขาเจ็บปวด “จริงๆแล้วข้าเฝ้ารอเด็กคนนี้ เพราะนี่คือลูกคนแรกของข้า แต่สุดท้ายเจ้าก็กลับหลอกข้าได้ลง”
ฉินซูโหรวงงัน เหงื่อไหลพลั่ก “เจ้ารู้ตั้งนานแล้วหรือว่าข้าหลอกเจ้า? เช่นนั้น เจ้าวางผนที่จะห่างจากตั้งนานแล้ว และข้าเป็นคนสุดท้ายที่รู้อย่างนั้นหรือ?
ทั้งๆที่รู้ว่าหล่อนโกหกเซียวเฉวียน แต่ฉินซูโหรวยังทำตัวเป็นผู้ถูกกระทำอย่างไรอย่างนั้น
“ข้าเคยรักเจ้า แต่เจ้าไม่เหมาะสมกับความรักข้า”
ตอนที่เซียวเฉวียนพูดประโยคนี้ขึ้นมา จริงจังและเคร่งขรืมมาก เพียงเท่านี้ ฉินซูโหรวก็เชื่อแล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างหล่อนกับเขาคงจบสิ้นแล้ว
จบสิ้นแล้วจริงๆ
จากกันด้วยดี มันคงเป็นตอนจบที่ดีที่สุดของพวกเขา
ถ้าไม่ใช่ฉินปาฟาง เกรงว่าจะไม่ได้จากกันด้วยดี ฉินซูโหรวคงทำไม่ได้เป็นแน่
เซียวเฉวียนจริงจังเช่นนี้ ไม่มีอีกแล้วเสียงหัวเราะในวันที่ผ่านมา และไม่มีอีกแล้วท่าทีเมินใส่
เขาเอาจริง
หล่อนต้องเสียเขาไปแล้วจริงๆ
ฉินซูโหรวล้มลงกับพื้นอย่างจำนน “เซียวเฉวียน ข้าอยากอยู่กับเจ้า ข้าอยากอยู่กับเจ้าจริงๆนะ ข้ามิได้ชอบเหลียงไหวโหรว”
เห็นนางเป็นเช่นนี้ เมื่อก่อนยังจะทำท่าทีรังเกียจรังนอนเซียวเฉวียนอยู่เลย ตอนนี้กลับมาเห็นเซียวเฉวียนอยู่เต็มสายตาเสียอย่างนั้น
ใจของผู้หญิงช่างยากแท้หยั่งถึง เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว ทำไมฉินซูโหรวถึงเปลี่ยนเป็นหน้ามือหลังมือไปได้?
ในยุคโบราณ ผู้ชายสามารถมีเมียเยอะได้ แต่ทว่าฉินซูโหรวเป็นถึงองค์หญิง ถ้าหากเซียวเฉวียนขอแต่งกับนางอีกครั้ง เซียวเฉวียนต้องแบกรับความผิดฐานก่อปัญหาในพระราชวังเป็นแน่
หล่อนร้องไห้สะอึกสะอื้น”เดิมที คนรักของข้าคือจูเหิง ก่อนที่จะมาแต่งงานกับเจ้า พวกเรามีความรู้สึกดีๆให้แก่กัน ต่อมาจูเหิงเริ่มมือไม้อยู่ไม่สุกลวนลามข้า และก็เป็นว่าข้าไม่ยินยอม แต่เมื่อจูเหิงตายไป ข้าก็ไม่สามารถรู้สึกดีกับเจ้าได้ง่ายๆ เจ้าเองก็อยากจะห่างจากข้า”
เยี่ยมนี่ คำพูดนี้ของฉินซูโหรว ช่วยให้ชื่อของสัตว์ร้ายอย่างจูเหิงชัดเจนขึ้น
“”ในเมื่อเจ้ามีใจที่จะแยกห่าง แล้วใยถึงต้องฆ่าจูเหิงด้วยเล่า?” ความคิดของฉินซูโหรวช่างแปลกนัก แข็งขืนฝืนธรรมชาติ “ไม่เคยมีใครที่สามารถเชื่อมโยงด้วยบทกวีได้ดีเท่านี้มาก่อน และข้าก็ไม่ยินกวีของเขาอีกเลย หัวเราะให้ระงมทั่วผืนฟ้า...อันตัวข้าเป็นคนเผิงเฮา……”
“ช้าก่อน เจ้าอย่าเพิ่งท่องต่อ “\เซียวเฉวียนยื่นมามือ “ บทกวีนี้ ไปเป็นของเจ้าจูเหิงตั้งแต่เมื่อไร?”
“อืม?” ฉินซูโหรวถือผ้าเช็ดหน้าและปิดปากสีแดงของหล่อน ร้องไห้ด้วยความสับสนอย่างมากในดวงตาของหล่อนในแววตามีความสับสนอย่างมาก คำพูดของเซียวนี้หมายความว่าอะไรกันแน่?
ท่อนสุดท้าย ผลักดันความรู้สึกขึ้นไปชั้นบนทีละชั้น เหมือสลูกคลื่นขึ้นลง เมื่อคลื่นหนึ่งซัด ก็เกิดคลื่นลูกใหม่ขึ้นอีก ทำให้ความรู้สึกก่อตัวขึ้นอย่างเข้มข้นและระเบิดออกมาในที่สุด
บทกวีทั้งเล่มเต็มไปด้วยความขึ้นๆ ลงๆ ถ่ายทอดความรู้สึกอย่างจริงใจและชัดเจน
คำพูดเร่งรีบหลั่งไหลออกมาให้จบ ความหมายของคำนั้น หายไปหมด เหมือนควบม้า
ร่างกายที่บอบบางของฉินซูโหรวอ่อนลง และการมองเห็นของหล่อนก็เกือบจะพร่าลง
ใบหน้าของฉินซูโหรวซีดเผือก เซียวเฉวียน เพียงแค่หนึ่งบทเท่านั้น เหตุใดฉินซูโหรวถึงทำท่าทีตื่นเต้นเช่นนี้?
เขาแต่งกวีน้อยไปหรือ? แต่ฉินซูโหรวมีปฏิกิริยาโต้ตอบอย่างมากต่อบทกวีนี้
เซียวเฉวียนจะไปรู้ได้อย่างไร ว่าท่อนกวีนี้ ทำให้ฉินซูโหรวรู้สึกดีลึกซึ้งกับจูเหิง
แต่ทว่าวันนี้ฉินซูโหรวเพิ่งจะรู้ว่า ความรู้สึกนั้นวางไว้ผิดที่
ความสามารถที่หล่อนปรารถนา กลายเป็นเซียวเฉวียนที่อยู่ข้างหล่อน!
หล่อนนับถือความสามารถนี้อย่างหาที่เปรียบมิได้ ปรากฏว่าเป็นเขาเองที่หล่อนเกลียดมาโดยตลอด!
อีกทั้งหล่อนยังเข้าใจผิด! หล่อนเต็มไปด้วยความคะนึงหาและเลื่อมใสศรัทธา แต่หล่อนเอาพวกนี้วางไว้ผิดคน และตอนนี้หล่อนก็ทำให้ตัวเองเขินอายขายขี้หน้าเป็นอย่างมาก!
ในอดีตที่ผ่านมา ฉินซูโหรวยังคงพูดต่อ “เจ้าต้องลอกคนอื่นมาแน่นอน!”
เป็นผลให้ฉินซูโหรวยืนขึ้นอย่างช้าๆ และรีบวิ่งออกจากประตูด้วยด้วยท่าทีอายมากโดยไม่แม้แต่จะโต้เถียงกับเซียวเฉวียนเลยด้วยซ้ำ
“ภรรยาข้า!”เหลียงไหวโหรวตามออกไป เหลือไว้เพียงพวกไป?ฉี่ที่ยังคงตกใจจนพูดไม่ออก
ไม่ใช่หรอก ทำไมคุณหนูใหญ่ฉินถึงร้องไห้เศร้าขนาดนี้? น้อยใจถึงเพียงนั้น? อีกทั้ง พวกเขาก็เงี่ยหูฟังฟัง แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงด่าทอเซียวเฉวียนจากหล่อน
ไป๋ฉี่และพวกยังคงซุบซิบเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนยักไหล่และกางมือออก “ไม่เกี่ยวกับข้านะ ข้าเพียงแค่ท่องกวีให้นางฟังแค่หนึ่งบท นางก็ร้องไห้เยี่ยงนี้แล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...