สรุปตอน บทที่ 377 มิใช่บุตรตระกูลเซียว – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
ตอน บทที่ 377 มิใช่บุตรตระกูลเซียว ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ไป๋ฉี่ตะลึง เว่ยเจี้ยนกั๋วทุ่มกำลังแก้ไขสุดตัว เพื่อดึงเว่ยชิงมาเป็นพวกแล้วเหตุใดจะฆ่าเว่ยชิงเสียล่ะ?
ยิ่งไปกว่านั้น เว่ยเจี้ยนกั๋วแต่ไหนแต่ไรมาก็โปรดปรานหลานชายอย่างเว่ยชิงผู้นี้ยิ่ง
โปรดปรานงั้นหรือ? โย่วควรยิ้ม “คนในราชวงศ์ไม่มีน้ำใจญาติมิตร เว่ยเจี้ยนกั๋วถูกใจเว่ยชิง นั่นก็เพราะว่าเว่ยชิงไม่ได้มีเรื่องขัดแย้งทางผลประโยชน์กับเว่ยเจี้ยนกั๋ว”
“คุณชายโย่ว ความหมายของท่านคือสิ่งใด?”
“นายท่านมิใช่ว่ากำลังหลอมยาหรอกหรือ? หากว่ามียาที่ทำให้คนอายุยืนไม่แก่เฒ่า แล้วเว่ยชิงดันกินไปเสีย เจ้าว่าเว่ยเจี้ยนกั๋วจะเป็นอย่างไร?”
“นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะฆ่าเว่ยชิงนี่? เว่ยชิงเป็นคนของรัฐไป๋ลู่เลยนะ!”
“ต้าเว่ยมีรัฐใหญ่เจ็ดรัฐ รัฐไป๋ลู่ก็เป็นแค่หนึ่งในบรรดารัฐ ต่อให้ดึงรัฐไป๋ลู่มาเป็นพวกได้ก็ยังมีรับอื่นๆ อีก แต่ว่ายาที่ทำให้อายุยืนไม่แก่เฒ่านั้นหากมีแค่เม็ดเดียวแต่ดันถูกเว่ยชิงกินเข้าไป เจ้าว่าเว่ยเจี้ยนกั๋วจะไม่โมโหจนเป็นบ้าไปอย่างนั้นหรือ?”
ไป๋ฉี่ตกตะลึงไร้วาจาใด เดิมทีนายท่านพูดจาไร้สาระหลอกลวงคนว่าจะหลอมยา ที่แท้เอาไว้ใช้ที่นี่นั่นเอง!
เยี่ยม! ประเสริฐเป็นที่สุดแล้ว!
ไป๋ฉี่ลูบมือลูบไม้ เขาวาดหวังอย่างยิ่งถึงช่วงเวลาของเทศกาลน้ำแข็ง!
“แต่ว่า นายท่านเองก็ไม่มีอาวุธ ก่อนหน้าจะถึงเทศกาลน้ำแข็งจะสั่งการให้พู่กันเฉียนคุนศิโรราบได้หรือไม่ ไม่อย่างนั้นตัวเขาไปที่ตำหนักไท่เยี่ยเพียงลำพัง ก็อันตรายนัก”
ยามเข้าร่วมเทศกาลน้ำแข็ง ผู้อารักขาไม่อาจติดตามไปด้วย
แม้จะเป็นผู้อารักขาของเซียวเฉวียน แต่ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าก็ยังไม่อาจเข้าไปในหลายๆ สถานที่
พวกเขานั้นถือว่าเป็นชนชั้นต่ำต้อย
“หากว่าข้ามิใช่ทาสคุนหลุนก็ดี...ข้าก็จะได้ปกป้องนายท่านได้ทุกที่...”
ไป๋ฉี่ก้มหน้า เขาดูอ้างว้างเป็นที่ยิ่ง มือที่ถือดาบจิงหุนอยู่นั้นดูคล้ายไร้พลัง
“ใครพูดอย่างนั้นกัน ข้าเองก็ไม่อาจจะตามนายท่านไป” โย่วควนส่ายหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ นักแสดงละครผู้หนึ่งไม่อาจเข้าตำหนักไท่เยี่ยได้
“พลั่ก!”
เขาเพียงได้ยินเสียงดังกำปนาทเสียงหนึ่งคล้ายฟ้าผ่าแผ่นดินแยกในจวนเซียว คล้ายกับมีอะไรระเบิดก็ไม่ปาน
ไป๋ฉี่กับโย่วควนมองตากัน ไม่ดีแล้ว เกิดเรื่องแล้ว!
“อ๊ากก! เจ้าอย่าเข้ามานะ!”
ในสวนดอกไม้ตระกูลเซียว เซียวเฉวียนกรีดร้องวิญญาณหลุด เขาพยายามหนีออกมาอย่างบ้าคลั่ง!
นี่คือสภาพอเนจอนาจที่สุดครั้งแรกที่เขาประสบในแคว้นต้าเว่ย!
เมื่อครู่ตอนที่เขาเขียนชื่อของบิดาอยู่นั้น กระบี่ฉุนจุนดันเผยประกายแหลมคมออกมาฟาดฟัน พลันบ้าคลั่งขึ้นมา!
มันไม่เพียงแค่ระเบิดหลังคาเท่านั้น แต่ยังเริ่มไล่ตีเซียวเฉวียนด้วย!
กระบี่ฉุนจุนที่คมกริบนั้นไล่ตามเซียวเฉวียนไม่ลดละ เสื้อผ้าของเซียวเฉวียนถูกฟันจนฉีกแล้ว!
หลุดออกมาเป็นเส้นเลย!
แต่ว่ากระบี่ฉุนจุนยังติดตามเขาอย่างไม่ย่อท้อ
คล้ายกับว่าทนไม่ไหวอยากจะปาดลำคอของเซียวเฉวียนกระนั้น!
“ข้าใช้งานเจ้าหรือไปล่วงเกินหรือไง! อารมณ์เจ้าถึงได้เดือดดาลพรรค์นี้!”
เซียวเฉวียนตะโกนเดือดดาล
เดิมทีคิดว่าพู่กันเฉียนคุนนั่นก็นิสัยเอาแต่ใจมากพอแล้วนะ!
ผลสุดท้ายกระบี่ฉุนจุนดันคิดอยากเอาชีวิตสุนัขของเขาเสียฉิบ!
มันไม่ยอมพกฝักกระบี่เสียด้วยซ้ำ!
เซียวเฉวียนกัดนิ้วจนฉีกจากนั้นหยดเลือดลงในน้ำหมึก เขาเพิ่งจะเขียนชื่อบิดาไปแปดร้อยรอบเท่านั้น กระบี่ฉุนจุนก็ก็ดันโจมตีสังหารเขาอย่างไม่รีรอขึ้นมากะทันหัน!
กระบี่ฉุนจุนมีความเร็วสูง มันไล่ล่าเซียวเฉวียนไปตามสวนดอกไม้ที่ค่อนข้างใหญ่ หลี่มู่เองก็วิ่งไล่ตามอยู่ข้างหลัง เขาใช้กระบี่ไท่อาขวางกระบี่ฉุนจุน จนใจแต่ว่าพอกระบี่ฉุนจุนคลั่งขึ้นมา มันก็คิดจะสังหารเซียวเฉวียนให้ตายเพียงถ่ายเดียว!
ปราณกระบี่ก่อเกิดกระแสลม พัดพาเส้นผมจนปลิวระบำไสว หลี่มู่ตะโกนเสียงดัง “นี่ท่านเอ่ยวาจาไม่เคารพต่อกระบี่ฉุนจุนงั้นหรือ?”
“ท่านป่วยหรือไร! ข้าจะพูดกับกระบี่เล่มหนึ่งไปเพื่ออะไร! ข้าไม่ได้เอ่ยอะไรกับมันเลยสักคำ!”
เซียวเฉวียนหลบอยู่หลังภูเขาจำลอง หลี่หมู่กัดฟัน ด้านหนึ่งเขาต้านการโจมตีของกระบี่ฉุนจุน อีกด้านตะคอกดัง “กระบี่ฉุนจุนมีปราณวิญญาณ! ต้องเป็นเพราะท่านยั่วโมโหมันแน่!”
“ข้าไม่ได้ทำ!”
“หากว่าท่านไม่ได้ล่วงเกินมัน แล้วมันจะเป็นเช่นนี้หรือ! กระบี่เล่มนี้เป็นกระบี่ของบิดาท่าน มันไม่มีทางทำร้ายท่านผู้เป็นบุตรชาย!”
จิตสังหารลอยวนอยู่ในอากาศ หลี่มู่ด้านหนึ่งขวางกระบี่ อีกด้านหนึ่งหยามหมิ่นเซียวเฉวียน “ของของบิดาท่านยังรังเกียจท่าน! ท่านพูดมาสิ! ทำเรื่องอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง สร้างเรื่องกลับเป็นที่หนึ่ง!”
กระบี่นี้ หากว่าผ่าลงมาที่เซียวเฉวียนละก็ เช่นนั้นเขาต้องสังเวยชีวิตเอาไว้ที่นี่แล้ว!
ยังไม่ทันที่กระบี่ฉุนจุนจะรับเป็นนาย เขาก็จะถูกกระบี่ฉุนจุนสับเข้าแล้ว ความเคลื่อนไหวระลอกนี้ทำเอาเซียวเฉวียนเสียเปรียบอย่างยิ่ง!
แต่ว่าเซียวเฉวียนนั้นไร้หนทาง!
เซียวเฉวียนนั้นตายไปแล้ว คนตายย่อมไม่อาจฟื้นคืนชีพ!
เซียวเฉวียนไม่ได้เป็นคนฆ่าเซียวติ้งสักหน่อย กระบี่ฉุนจุนไม่ฟังเหตุผลเกินไปแล้ว!
พู่กันเฉียนคุนไม่ยอมให้ควบคุมก็ช่างมันเถอะ อย่างไรมันก็คงไม่เอาชีวิตคน!
กระบี่ฉุนจุนนี่ดุดันเกินไปแล้ว!
เมื่อโจมตีเซียวเฉวียนพลาดไป กระบี่ฉุนจุนก็ยังโจมตีต่อเนื่อง!
“ไป๋ฉี่! เหมิงเอ้า!”
ในเวลานี้ เซียวเฉวียนที่ตระหนกลนลานถึงค่อยคิดขึ้นมาได้ว่า ตัวเขาเองก็เป็นผู้อารักขาอันดับหนึ่ง จะไปยอมถูกกระบี่เล่มหนึ่งรังแกได้อย่างไร?
“นายท่าน นี่เป็นกระบี่ของบิดาท่าน ต้องสู้ด้วยจริงหรือ? จะเป็นการไม่เคารพหรือไม่?” ไป๋ฉี่กับเหมิงเอ้าลนลานเสียยิ่งกว่า กระบี่นี้มิใช่ของสามัญ กระบี่ฉุนจุนนั้นเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศของตระกูลเซียวเลยนะ!
“สู้!” เซียวเฉวียนโมโหจนเส้นผมปลิวไสว “ข้าตายแล้ว เช่นนั้นก็ถือว่าเคารพหรือไร?”
เซียวเฉวียนเห็นกระบี่ฉุนจุนที่พุ่งเข้ามาอย่างเย็นชา “ข้าจะตายอยู่แล้ว ยังจะเอาศักดิ์ศรีไปทำไม!”
“อ้อๆๆ” ไป๋ฉี่กับเหมิงเอ้าที่กำลังเหม่อลอยอยู่นั้น เพียงรู้สึกว่านายท่านน่าสงสารเล็กน้อย แต่กลับไม่รู้สึกว่านายท่านจะมีอันตรายอะไรมากมาย
ยิ่งกระบี่ฉุนจุนเป็นกระบี่ของบิดาเซียว จะทำร้ายนายท่านได้อย่างไร?
“พลั่ก!”
ทั้งสองคนกำลังคิดเช่นนี้ กระบี่ฉุนจุนก็ผ่าภูเขาจำลองอีกหลังหนึ่งที่เซียวเฉวียนหลบอยู่ไปแล้ว!
ไป๋ฉี่กับเหมิงเอ้ามองหน้ากัน จบสิ้นกันแล้ว นี่คิดจะผ่านายท่านตายไปจริงๆ หรือไร!
ก้อนหินก้อนหนึ่งกระแทกลงบนศีรษะของเซียวเฉวียน เขากุมศีรษะใกล้จะร้องไห้เต็มทน “ยังจะเหม่ออะไรอีก! ตีมันให้ข้า! ตีจนมันยอมสยบไปนั่นละ!”
“ขอรับ!” ไป๋ฉี่กับเหมิงเอ้าหยิบเอาดาบจิงหุนขึ้นมา คิ้วตาของพวกเขาเยือกเย็น พลางกระโจนเข้าสู่สภาวะต่อสู้เต็มตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...