ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 379

ณ จวนฉิน เสียงฟ้าร้องสั่นสะเทือน เหลียงไหวโหรวที่กำลังกินข้าวอยู่ก็สะดุ้งเสียจนตะเกียบหล่นพื้น

นี่เพิ่งถึงฤดูร้อน เหตุใดฟ้าจึงร้องน่ากลัวเช่นนี้?

ตะเกียบร่วงหล่นพื้น มีความหมายที่ไม่เป็นมงคล

คนตระกูลฉินมองเขาอย่างไม่พอใจ ฉินซูโหรวยิ่งเสียกว่ารังเกียจ แค่เสียงฟ้าร้องยังทำให้เหลียงไหวโหรวตกใจจนเป็นสภาพนี้ ไร้ประโยชน์ยิ่งกว่าเซียวเฉวียนเสียอีก

เหลียงไหวโหรวหยิบตะเกียบขึ้นมาอย่างเขินอาย ในจวนเจียนกั๋วมีแต่คนนับหน้าถือตา แต่ในจวนฉินกลับถูกมองอย่างดูแคลน

แม้แต่เด็กหนุ่มซื่อ ๆ อย่างฉินหนาน ก็ไม่ชอบพี่เขยที่ได้พี่สาวของเขาด้วยวิธีที่ไม่ใสซื่ออย่างมาก

ฉินหนานเหลือบมองออกไปด้านนอก ตอนนี้เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว เหตุใดฟ้าจึงเปลี่ยนไปเช่นนี้?

ในขณะนั้นเอง คนรับใช้วิ่งเข้ามารายงานด้วยสีหน้าที่ตกใจเสียจนซีดขาว เพราะความรีบร้อน ทำให้เกือบจะหกล้มลงไป “องค์หญิงใหญ่ ท่านนายพลเจ้าคะ มีแขกมาเจ้าค่ะ”

“กระวนกระวายสิ่งใดกัน ผู้ใดที่ทำให้เจ้าตกใจขวัญเสียเช่นนี้?” แม่ฉินกลอกตามองบน คนรับใช้ในบ้านนับวันยิ่งไม่ได้เรื่อง นับวันยิ่งจะขี้ขลาด

“เว่ยเจียนกั๋วเจ้าค่ะ...” ขณะที่กำลังพูด ฟันของคนรับใช้ก็สั่นไปหมด

คนตระกูลฉินต่างก็หน้าซีด แม่ฉินยิ่งกว่าตกใจ มีเพียงเหลียงไหวโหรวที่รู้สึกผยองขึ้นมา

ณ ห้องโถงใหญ่

เว่ยเจียนกั๋วดื่มชาเอือกใหญ่ ด้านข้างมีนางระบำที่หน้าตางดงามสี่ห้าคนคอยติดตามอยู่ และคอยรินน้ำรินชาให้เว่ยเจียนกั๋ว พลางนวดบ่านวดหลังให้

นางระบำสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้น กลิ่นหอมไร้ที่ติ ไม่น่าดูและยากที่จะทนเห็นได้

คนตระกูลฉินยืนอยู่ พร้อมกับก้มศีรษะลงพื้น

เว่ยเจียนกั๋วเป็นทั้งเจียนกั๋ว เป็นถึงท่านอ๋อง และยังเป็นเสด็จลุงของแม่ฉิน เสด็จปู่ของรุ่นฉินซูโหรว ครอบครัวตระกูลฉินต่างก็เป็นคนที่อายุน้อยกว่าเว่ยเจียนกั๋ว จึงต้องพากันยืน

“ข้ามาในวันนี้ ไม่มีจุดประสงค์อื่น เพียงได้ข่าวว่าท่านหญิงของพวกเจ้าได้แต่งงานแล้ว และแต่งกับเหลียงไหวโหรวคนเก่งที่เพิ่งปรากฏตัว และเป็นคนที่ข้าชอบมากที่สุด ข้าจึงมาเยี่ยมเยียนเสียหน่อย”

เว่ยเจียนกั๋วไม่พูดมาก แต่พูดอย่างตรงประเด็น “หากว่าเหลียงไหวโหรวไม่ดี ข้าคงอารมณ์ไม่ดีไปด้วย เช่นนั้นละก็...”

“โอ้ย!”

ทันทีที่เว่ยเจียนกั๋วยื่นมืออกไป ก็ตบสาวงามที่บีบขาให้เขาอยู่จนตาย!

หญิงสาวอายุน้อยคนนั้นสิ้มลมง่าย ๆ เช่นนี้เลยหรือ

ฉินซูโหรวตกใจจนหน้าซีด ไหนว่าเหลียงไหวโหรวคือสายน้ำที่ใสสะอาด เป็นคนของฮ่องเต้ เหตุใดจึงกลายเป็นคนของเว่ยเจียนกั๋วไปได้เล่า?

เหลียงไหวโหรวสำคัญต่อเว่ยเจียนกั๋วขนาดนั้นเชียวรึ?

เหตุใดจึงไม่รู้มาก่อน

แม่ฉินก็ตกตะลึงจนหน้าซีด และฝืนยิ้มร่า “เสด็จลุงคิดมากไปนะเพคะ พวกเราเห็นไหวโหรวเป็นเหมือนลูกชายคนหนึ่ง”

“งั้นหรือ?” เว่ยเจียนกั๋วทำทีแคะหู “เหตุใดข้าจึงได้ยินมาว่า นายท่านเป็นชื่อเรียกของเซียวเฉวียนเพียงผู้เดียวเล่า?”

“เข้าใจผิดแล้วเพคะ” เมื่อก่อนแม่ฉินที่คอยรังแกผู้ไร้อำนาจบารมีอย่างเซียวเฉวียน ก็ทำหน้างออยู่ตลอด

ตอนนี้เหลียงไหวโหรวมีเว่ยเจียนกั๋วให้ท้าย ท่าทีของแม่ฉินเปลี่ยนไปมากโข “ไหวโหรว เจ้าว่าใช่หรือไม่?”

เหลียงไหวโหรวเห็นแม่ฉินว่าง่ายเช่นนี้จึงอ่อนข้อให้ พลางยิ้มและพูดว่า “จริงขอรับ จวนท่านนายพลดีต่อข้ามาก ท่านไม่ต้องเป็นกังวล”

“เช่นนั้นก็ดี” เว่ยเจียนกั๋วหัวเราะอย่างเยือกเย็น

พ่อฉินสีหน้านิ่งขรึม หรือว่าหลังจากนี้จวนฉินจะมีเหลียงไหวโหรวเป็นนายใหญ่?

เว่ยเจียนกั๋วจ้องไปที่พ่อฉินและยิ้มขึ้น “ท่านนายพลฉิน ไม่เจอกันเสียนาน ท่านดูอิดโรยนะ ดูแลตัวเองให้ดีหน่อยสิ”

ความหมายก็คือ สภาพของเจ้าดูไม่ได้เอาเสียเลย

“เจ้า!” ฉินหนานที่เป็นวัยเลือดร้อนกำลังจะรุดหน้าขึ้นไปต่อกลอน แต่ถูกพ่อฉินดึงเอาไว้

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ!”

เว่ยเจียนกั๋วสะบัดแขนเสื้อและจากไป คำเตือนได้ส่งถึงจวนฉินเรียบร้อยแล้ว เขาจึงจากไปอย่างว่องไวเหมือนตอนที่เข้ามา

เมื่อเว่ยเจียนกั๋ว สายตาคนตระกูลฉินก็จับจ้องไปที่หน้าของเหลียงไหวโหรว ทั้งกลัว ทั้งตกใจและจำใจในสิ่งที่แก้ไขไม่ได้

ตระกูลฉิน มีหมาป่าดุร้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเสียแล้ว

เหลียงไหวโหรวมีเว่ยเจียนกั๋วคอยให้ท้าย ท่าทีจึงหยิ่งผยองขึ้นมาก วันนี้เขาเชิญเว่ยเจียนกั๋วมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เขาได้รับความสำคัญอย่างมากจากเว่ยเจียนกั๋ว ในวันนี้เขาไม่ได้รับความสบายใจจากจวนฉิน ผู้คนต่างดูแคลนเขา แน่นอนว่าเขาต้องหาคนมาคอยให้ท้าย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย