อ่านสรุป บทที่ 380 คนของฮว๋าเซี่ย จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บทที่ บทที่ 380 คนของฮว๋าเซี่ย คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
เพราะวิธีการและกระบวนการทำยาอายุวัฒนะ ทำให้ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าถึงกับพูดไม่ออก
นายท่านเริ่มจากการบดเป็นผง เขาถูเท้าและส่งเสียงเอี๊ยดอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็นำโคลนบนตัวที่เปียกโชกใส่ลงไป
นี่ยังไม่มากพอ หลังจากปรุงยายาอายุวัฒนะเสร็จ ยังเดินรอบ ๆ อุจจาระสุนัขสีเหลืองในบ้านด้วย
สุนัขสีเหลืองก็ตกใจ สีหน้าของมันเต็มไปด้วยอาการตื่นตระหนกตกใจและตื่นเต้นดีใจ เจ้าของใส่ใจในอุจจาระของมันเช่นนี้เชียวหรือ? เช่นนั้นต้องถ่ายให้เยอะเสียหน่อยแล้ว!
“อี๋...” ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าที่เห็นการะบวนการผลิตทั้งหมด ก็ยิ่งเสียกว่าขยะแขยง
นายท่านยังได้ตั้งชื่อให้กับยาอายุวัฒนะ มันมีชื่อว่ายาเหยียดขาและเตะเท้า
แต่ชื่อนี้ค่อนข้างเหมาะสม หากพวกไป๋ฉี่กินมันลงไปจริง ๆ คงต้องเหยียดขาและเตะเท้าเสียกระมัง
ตามแผนการของนายท่าน เว่ยชิงจะต้องมาแย่งชิงยาอายุวัฒนะเม็ดนี้เป็นแน่ หลังจากที่กินเข้าไปแล้ว จากนั้นเว่ยเจียนกั๋วก็จะบันดาลโทสะ และสังหารเว่ยชิง
แผนการของนายท่าน ช่างสมบูรณ์แบบเสียจริง
แต่นั่นก็ช่างน่าขันเหลือเกิน
ไป๋ฉี่บีบจมูกไว้ “กลิ่นมันช่างน่าขยะแขยงเสียจริง เว่ยชิงจะยอมกินงั้นหรือ?”
เซียวเฉวียนปิดผลึกฝาของยาอายุวัฒนะ “เว่ยชิงที่เป็นปกติคงไม่กิน แต่ใครใช้ให้เว่ยชิงพิการเล่า”
สิ่งที่ผู้พิการคนหนึ่งต้องการมากที่สุดก็คือการลุกขึ้นยืน กลับมามีความสง่างาม เป็นชายชาตรีทั้งแท่งอีกครั้ง
แม้ว่าเว่ยชิงไม่เชื่อว่ายาอายุวัฒนะเม็ดนี้จะให้ผลดี แต่เขาไม่มีทางเสียโอกาสใดไปได้เลย เกิดเป็นชายมักชอบการต่อสู้ และต้องรักการต่อสู้จึงจะเอาชนะได้
แม้ว่ายาอายุวัฒนะเม็ดนี้เป็นก้อนมูลสัตว์ เว่ยชิงก็กล้ากินมันลงไป
เซียวเฉวียนคิดอย่างรอบคอบ ยังโหดร้ายได้ขนาดนี้ ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าแสดงความยินดีอย่างจริงใจ
อยู่ในต้าเว่ย หากไม่ใจร้ายพอก็คงไม่มีที่ยืน
เมื่อก่อนนายท่านจิตใจเมตตามากเกินไป มักเหลือหนทางให้เว่ยชิงเสมอ ราวกับไว้ชีวิตสุนัขตัวหนึ่ง ดังนั้นตอนนี้เว่ยชิงจึงได้คอยปลุกปั่นเรื่องราวเช่นนี้!
ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าถือกล่องบรรจุยาเหยียดขาและเตะเท้าอย่างเคารพนบนอบ เก็บมันไว้ราวกับเป็นของรักของหวง
ตามคำสั่งของเซียวเฉวียน ยาอายุวัฒนะเม็ดนี้ต้องเก็บไว้ในที่ที่ไม่เด่นหรือลับตาคนมากเกินไป
หากลับตาคนมากไป เซียวเฉวียนเกรงว่าเว่ยชิงจะขโมยไปไม่ได้
หากเด่นชัดเกินไป เกรงกว่าจะแกล้งได้ไม่เนียน
ดังนั้นไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าจึงได้คุ้มกันตลอดทาง และเอามันวางไว้ใต้เตียงในบ้านที่ค่อนข้างเปลี่ยวของจวนเซียว
“เหอะ ๆ ๆ ๆ!”
เมื่อวางเสร็จ ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าก็สบตากันและหัวเราะออกมา รอไม่ไหวที่จะเห็นเว่ยชิงกินมันลงไป
ผลสุดท้าย คนของเว่ยชิงมาถึงรวดเร็วมาก
ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้ายังไม่ทันหัวเราะจนเสร็จ ตรงหน้าก็ของพวกเขาก็มืดสนิท มีชายชุดดำหลายคนชิงกล่องจากมือของพวกเขาไป และหายออกไปจากจวนเซียวในชั่วพริบตา
พู่กันจินหลุนเฉียนคุนรู้สึกได้ว่ามีคนบุกรุก จึงต้องการที่จะตามไป แต่ถูกเซียวเฉวียนห้ามไว้ “ปล่อยพวกเขาไป”
หลายวันนี้ พู่กันเฉียนคุนค่อนข้างกระตือรือร้น
มันคอยล่องไปลอยมาอยู่หน้าเจ้าของอย่างเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนให้มันไปซ้าย มันก็ไม่กล้าไปขวา ใหมันเดินหน้า มันก็ไม่กล้าถอยหลัง ราวกับกลัวว่าเซียวเฉวียนจะเผามันทิ้งจริง ๆ
“หลบไป ขวางหูขวางตาข้าเสียจริง เจ้านี่นะ ทำตัวต่ำทรามเสียจริง! ไม่รู้ว่าทำตัวเหมือนใคร!” เซียวเฉวียนมองพู่กันเฉียนคุนอย่างเหลือทน ตอนพูดดีกับมันกลับไม่ฟัง ต้องให้ใช้ไม้แข็งจึงจะยอมศิโรราบให้ หากพู่กันเฉียนคุนเป็นคนคนหนึ่ง ก็คงเป็นแบบฉบับของสาวเจ้าอารมณ์
และยังเป็นสาวเจ้าอารมณ์เช่นเดียวกับฉินซูโหรว
เซียวเฉวียนปล่อยให้คนนอกเข้าออกอย่างอิสระ เขาจับพู่กันเฉียนคุนเขียนสาส์นกราบทูลหนึ่งฉบับ เขาทูลต่อฮ่องเต้ว่า กรุณายอมให้เว่ยอวี๋เข้าร่วมเทศกาลน้ำแข็ง
ความจริงแล้วเรื่องนี้เว่ยอวี๋พูดเองก็ย่อมได้ แต่เมื่อเว่ยอวี๋เห็นฮ่องเต้ก็ปอดแหก ทันทีที่เจอฮ่องเต้ก็หลบ
เว่ยอวี๋บอกว่าสายตาที่จับจ้องคู่นั้นของฮ่องเต้ ราวกับมองเขาออกอย่างทะลุปรุโปร่ง
ฮ่องเต้ฉลาดหลักแหลมเช่นนี้ จะต้องรู้ว่าเว่ยอวี๋ได้เปลี่ยนเป็นอีกคนแล้ว
เพียงแต่ฮ่องเต้ไม่พูดออกมาก็เท่านั้น
หากพูดออกมา ชีวิตของเว่ยอวี๋จะเป็นอันตราย อย่างไรเสียร่างกายของเว่ยอวี๋ก็เป็นของท่านอ๋องสิบหก หากเกิดอะไรขึ้นกับเว่ยอวี๋ ไทเฮาต้องไม่พอพระทัยอย่างมาก
ณ พระราชวัง
“ฮว๋าเซี่ย ฮว๋าเซี่ยอยู่ที่ใดกัน?”
ภายนอกห้องโถงฉางหมิง ฮ่องเต้ที่ถือสาส์นกราบทูลของเซียวเฉวียนไว้อยู่ ก็มองออกไปยังท้องนภาที่อยู่เหนือศีรษะ และพึมพำในสิ่งที่เคลือบแคลงใจมาเนิ่นนาน
ผู้ที่มาจากฮว๋าเซี่ยช่างพิเศษนัก
ก่อนหน้านั้นมีอี้อู๋หลี่
โดยเฉพาะเซียวเฉวียน แม้แต่เวทีงิ้วก็จัดวางได้อย่างสวยงาม ทำให้โย่วควนนักแสดงอันดับหนึ่งในเมืองหลวงสามารถแสดงได้ทุกวัน
วันที่แสนมหัศจรรย์เช่นนี้ ควรเกิดขึ้นกับขุนนางในราชสำนักมิใช่หรือ?
เซียวเฉวียนควรมีความกระตือรือร้น มุ่งมั่นเพื่อชื่อเสียงและความมั่งคั่งที่มากขึ้น และไต่เต้าไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น
แต่เขาไม่
เขาไม่เคยคิดเลย
แม้แต่การหย่ากับท่านหญิง เขาไม่แม้แต่กระพริบตา ราวกับว่าการไม่มีต้นไม้ใหญ่อย่างจวนฉินเป็นที่พึ่งพิง เขาก็ยังคงมีความสุขได้
แม้ว่าองค์หญิงต้าถงจะเป็นองค์หญิง แต่ไม่มีอำนาจในต้าเว่ย และเซียวเฉวียนกลับดีใจอย่างที่สุด เขารักกันกับองค์หญิงอย่างมาก ในตาของเขาเต็มไปด้วยความสุขและความรัก ไม่ใช่สิ่งที่เสแสร้งออกมา
ฮ่องเต้เกาหัว คิดอย่างไรก็ไม่อาจเข้าใจได้อย่างแตกฉาน เขามองกลุ่มดาวที่ทอแสงวิบวับ ฮว๋าเซี่ยเป็นสถานที่แบบไหนกัน จึงเลี้ยงผู้คนเหล่านี้ให้มีจิตใจดีแต่ไม่มืดมนได้?
พวกเขาสนุกกับชีวิต และมีความมุ่งมั่นตั้งใจไม่ย่อท้อ
นี่คือแก่นแท้ พลังและจิตวิญญาณที่คนต้าเว่ยไม่มี
ผู้ที่มาจากฮว๋าเซี่ย สายตามักเต็มไปด้วยความหวัง
พวกเขามักศรัทธาในการสั่งสอน
แม้แต่เว่ยอวี๋ ก็ไปเป็นอาจารย์ที่สถานศึกษาชิงหยวน และขอร้องไทเฮาอย่างยากลำบาก
หากไม่ให้เขาไป เขาก็ร้องไห้ฟูมฟาย ไม่กินไม่นอน ไทเฮาที่รักลูกชายอย่างสุดใจจึงต้องยอมอนุญาตไปโดยปริยาย
สำหรับท่านอ๋องแล้ว คำขอร้องของเว่ยอวี๋ที่จะเป็นอาจารย์นั้นน่าขันเกินไป แต่เว่ยอวี๋กลับเสนอออกมา
ความจริงแล้วฮ่องเต้ไม่เข้าใจในสิ่งที่เว่ยอวี๋ทำ อย่างไรซะนอกจากความรู้วิชาเลขและวิชาภาษาจีนแค่ระดับประถมของเว่ยอวี๋ ก็ไม่มีสิ่งใดที่จะเอามาเป็นข้อตกลงกับเซียวเฉวียนได้
“ฮว๋าเซี่ย...”
ฮ่องเต้พูดอย่างเคร่งขรึม จิตใจที่ใฝ่หา “คือที่ใดกันนะ?”
ขันทีหม่าถือไม้ปัดฝุ่นไว้ในมือ “ฝ่าบาท พระองค์ทรงถามใต้เท้าเซียวไม่ดีกว่าหรือพะยะค่ะ?”
“เขาเคยพูดไว้ว่า เขาเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้บ้านเกิดของเขาอยู่ที่ใด”
เมื่อเห็นฮ่องเต้เศร้าโศก ขันทีหม่าจึงยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับรายงานข่าวดี “ฝ่าบาท สวนหรงหยวนส่งคนมาทูลว่า ท่านอ๋องเว่ยชิงลุกขึ้นยืนได้แล้วพะยะค่ะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...