อ่านสรุป จักรพรรดิเสียใจ จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บทที่ จักรพรรดิเสียใจ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ในราชวงศ์ต้าเว่ย มีกฎหมายกำหนดไว้ว่าหากเจ้าหน้าที่ผู้กระทำความผิดที่ถูกเนรเทศ สร้างคุณงามความดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณูปการทางทหาร เขาสามารถชดใช้ความผิดและเดินทางกลับเมืองหลวงได้
อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับนี้ถูกตราไว้ก็เหมือนไม่ได้ตรา มันเป็นแค่เครื่องเหนี่ยวใจให้ผู้กระทำความผิดที่ถูกเนรเทศได้ผ่อนคลายความสิ้นหวังซึ่งจะนำไปสู่การฆ่าตัวตายระหว่างทางเนรเทศ
ถ้าผู้กระทำความผิดตายระหว่างทาง โทษฐานเนรเทศก็จะไม่เกิดขึ้น ผู้คนจะคิดว่าทางรัฐส่งคนไปตามฆ่าเขาระหว่างทาง ซึ่งกระทบกระเทือนต่อบรมเดชานุภาพของจักรพรรดิและศักดิ์ศรีของทางราชการ
ดังนั้นผู้กระทำความผิดที่ถูกเนรเทศจึงต้องเดินทางไปถึงที่เกาะจูเสินอย่างมีชีวิต สำหรับผู้ที่สร้างความดีลบล้างความผิดกลับมาเมืองหลวงนั้น ไม่เคยมีแม้แต่รายเดียวในรอบสี่สิบสองปีนับตั้งแต่ก่อตั้งราชวงศ์ต้าเว่ย
พวกเขาไม่รู้เลยว่า เซียวเฉวียนเป็นคนที่ไม่เล่นตามกฎ
เซียวเฉวียนตะคอกอย่างเย็นชา ทำไมเขาถึงต้องไปสร้างผลงานทางทหาร เดี๋ยวก็ต้องมีคนมาขอร้องให้เขากลับไปเอง
ครั้งนี้ เขาก็คิดเสียว่ามาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ
สภาพจิตใจของเซียวเฉวียนนั้นดีมาโดยตลอด และสมาชิกในตระกูลเซียวที่อยู่ห่างออกไปเป็นพันลี้ก็ผ่อนคลายเช่นกัน พวกเขาเชื่อว่าเซียวเฉวียนจะกลับมาอย่างแน่นอน
ถึงแม้จะยังไม่มีกรณีดังกล่าว แต่เซียวเฉวียนจะต้องเป็นคนแรกอย่างแน่นอน
เซียวเฉวียนถือไม้ตกปลา นอนทอดกายอย่างเกียจคร้านบนพื้นเพื่ออาบแดด พระอาทิตย์ร้อนเกินไป แต่เซียวเฉวียนก็ชอบแสงแดด ขอแค่เขาอารมณ์ดี ชายหาดก็จะมีอยู่ทุกที่
ในทะเลอันกว้างใหญ่ เรือแล่นอย่างชิวๆ มุ่งสู่เกาะจูเสิน
ดาวเคลื่อนดาราคล้อย วันคืนหมั่นสลับเปลี่ยน
อีกวันเดียว ก็จะถึงเกาะจูเสินแล้ว
”ฝ่าบาท รับประทานอาหารกันหน่อยเถิด”
คำพูดของขันทีหม่ากงกงคำนี้ กล่อมมาเป็นครึ่งเดือนแล้ว
จักรพรรดิโอรสสวรรค์มังกรที่แท้จริง ร่างกายมังกรนั้นมีค่าสูงยิ่ง ตั้งแต่เซียวเฉวียนจากไป จักรพรรดิทานไม่รู้รส
พ่อครัวในวังต่างก็หวาดกลัว อาหารของจักรพรรดิแทบไม่ถูกแตะต้องทุกวัน หากพระมารดาตำหนิลงมา พวกเขาก็จะต้องหัวหลุดแน่
ดังนั้น พ่อครัวในวังจึงใช้สมองอย่างหนักเพื่อค้นหาวิธีการใหม่ๆ ในกาปรุงอาหารให้จักรพรรดิ แต่จักรพรรดิก็ยังคงไม่ขยับตะเกียบมากนัก
คนอื่นคิดว่าจักรพรรดิเบื่ออาหารเนื่องจากอากาศร้อน มีเพียงเฉาสิงจือเท่านั้นที่รู้ จักรพรรดิสูญเสียศิษย์อันเป็นที่รักและใจดั่งถูกมีดเฉือนจนไม่สามารถกินอะไรลงคอได้
“ท่านเฉา โปรดเกลี้ยกล่อมฝ่าบาทด้วย”
เฉาสิงจืออยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา ตั้งแต่เซียวเฉวียนจากไป เฉาสิงจือผู้รักศิษย์เองก็รู้สึกเหมือนมีก้างติดลำคอ มีความรู้สึกที่ผสมปนเป เขาจะปลอบใจจักรพรรดิได้อย่างไร?
”ฝ่าบาท ลองชิมหน่อย”
คำแนะนำของเฉาสิงจือก็ไม่มีอะไรวิเศษวิโส จักรพรรดิฟังแล้วยิ่งหมดอารมณ์อยาก
เมื่อเซียวเฉวียนจากไปแล้ว จักรพรรดิจะทำอะไรก็ไม่สะดวกนักแล้ว
มีคนมากมายอยู่ในมือขององค์จักรพรรดิ แต่คนที่ใจกล้านั้น มีเพียงเซียวเฉวียนคนเดียว
เซียวเฉวียนไม่เกรงฟ้าไม่กลัวดิน เฉลียวฉลาดเป็นพิเศษ ทั้งเป็นคนซื่อตรงเหมือนดาบที่คมกริบ
แต่เซียวเฉวียนก็กล้าหาญดีจนเกินไป กล้าทำทุกอย่าง เอาล่ะ สังหารเว่ยชิงแล้วก็แล้วไป ตอนนี้แม้แต่เว่ยอวี๋ก็ยังถูกเขาลักพาตัวไปซะงั้น
ที่น่าโมโหคือ เว่ยอวี๋ทำตัวของเขาเอง องค์จักรพรรดิไม่สามารถโทษเซียวเฉวียนได้
องค์จักรพรรดิถอนหายใจยาว เขาทำเวรทำกรรมอะไรหรือ จึงได้มีคนอย่างเซียวเฉวียนมาอยู่ที่ต้าเว่ย
เฉาสิงจือดูออกว่า ที่องค์จักรพรรดิต้องเนรเทศเซียวเฉวียน ก็สืบเนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่น
ถึงเซียวเฉวียนจะไม่ได้ฆ่าเว่ยชิงกับมือเอง แต่เขาก็ไม่อาจหลุดรอดจากความเกี่ยวพันได้ หากเขาไม่ถูกลงโทษก็จะเป็นเยี่ยงอย่างให้ทุกคนได้ปฏิบัติตาม ท้าทายอำนาจของจักรพรรดิ แล้วจะยังอยู่ได้อีกหรือ?
แต่ครั้งนี้ เซียวเฉวียนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จักรพรรดิตบโต๊ะ "เขาไม่ได้โต้ตอบแม้แต่คำเดียว ไม่คัดค้าน จึงถูกส่งไปที่เกาะจูเสินในทันทีเลย"
ไม่เหลือแม้แต่บันไดให้องค์จักรพรรดิได้ก้าวลงมา
หากเซียวเฉวียนร้องขอความเมตตา องค์จักรพรรดิอาจอ้างอิงเหตุผลอื่นใด ให้เขาได้สร้างคุณงามความดีมาชดเชยความผิด เซียวเฉวียนก็สามารถอยู่ในเมืองหลวงต่อได้
แต่แล้ว เซียวเฉวียนต้องจากไปอย่างนั้นเลย
เรื่องนี้ไม่สามารถตำหนิเซียวเฉวียนได้ ทันทีที่จักรพรรดิสั่งให้เนรเทศ เซียวเฉวียนยังตะลึงใจไม่หาย ขันทีหม่ากงกงก็สะบัดไม้ปัดฝุ่นจนเซียวเฉวียนเป็นลมหมดสติไป
ถึงเซียวเฉวียนจะหาบันไดให้องค์จักรพรรดิได้ลง เขาก็หาไม่ทันอยู่ดี!
ต้องโทษความเย่อหยิ่งของจักรพรรดิเอง พระองค์คิดว่าหลังจากเซียวเฉวียนฟื้นขึ้นมา เขาต้องมาขอความเมตตาแน่นอน
“ขอรับ ถ้าฝ่าบาทไม่เสียใจ ก็รับประทานอาหารเถอะ”
เฉาสิงจือใช้วิธีหลอกล่อ องค์จักรพรรดิหยิบตะเกียบขึ้นมาอย่างเย็นชา เพื่อแสดงให้เห็นว่าพระองค์ไม่ได้รู้สึกเสียใจแม่แต่นิด พระองค์จึงทรงรับประทานข้าวสามชามรวด เป็นสามเท่าของปริมาณปกติ
”ฝ่าบาท ค่อยๆ ค่อยๆ เสวย” ขันทีหม่ากงกงกล่อม พลางเสิร์ฟชาและน้ำ ไม่ว่าอย่างไร ขอให้ฝ่าบาททรงรับประทานอาหารได้เท่านั้น
ขณะที่จักรพรรดิกำลังรับประทานอาหาร พระองค์จ้องมองไปที่อาวุธของเวียวเฉวียน ราวกับว่าเห็นเจ้านายของพวกมัน เห็นแล้วชวนให้อารมณ์ขุ่นมัว!
พู่กันเฉียนคุนและภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิ วางนอนอยู่บนโต๊ะอย่างสงบสุข
หลังจากที่เซียวเฉวียนจากไป พวกมันไม่ได้ขยับเลยแม้แต่นิด
หลายวันมานี้ องค์จักรพรรดิจ้องมองพวกมันเป็นเวลานาน แต่พวกมันก็ไม่เคลื่อนไหวเลยแม้แต่นิด
พูดตามหลัก หลังจากที่เจ้าของจากไป พวกมันทั้งสองควรติดตามเซียเฉวียนไปด้วย
อาวุธทั้งสองนี้มีจิตวิญญาณ สามารถรับรู้ได้ว่าเจ้าของได้จากไปไกล
แต่พวกมันไม่แม้แต่จะกระดิก ทำตัวเหมือนพู่กันและม้วนภาพวาดธรรมดาทั่วไป นอนนิ่งอยู่เงียบๆ
หลี่มู่เคยบอกว่า เซียวเฉวียนได้ปราบพู่กันเฉียนคุนแล้ว ตอนนี้ที่พวกเขาอยู่อย่างนิ่งสงบ ไม่ใช่ว่าพวกมันจำเจ้านายไม่ได้ แต่บางทีพวกมันอาจขี้เกียจติดตามเจ้านายไปก็ได้
ขี้เกียจ...... องค์จักรพรรดิทรงก่ายหน้าผาก อาวุธของชาวบ้านจะอยู่คู่ชีวิตกับเจ้านาย แต่พวกมันนี่ พอเจ้านายตกทุกข์ได้ยากกลับแยกตัวอยู่คนละทาง
องค์จักรพรรดิต้องการให้เซียวเฉวียนอยู่รอดบนเกาะจูเสิน ครั้งหนึ่งพระองค์จึงขอให้พวกมันไปติดตามเซียวเฉวียนตอนไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ แต่พวกมันกลับทำเป็นหูทวนลม!
เฮ้!
มีลูกเล่นบทบาทซะด้วย!
เหมือนเจ้านายของพวกมันเปี๊ยบ!
โชคดีของทางนี้สำหรับองค์จักรพรรดิ พู่กันเฉียนคุนและภาพวาดรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิคุนหลุน อยู่สงบเงียบ ถึงจะไม่เชื่อฟังคำสั่ง แต่อย่างน้อยก็ดูเชื่องอยู่
ส่วนทางโน้น ที่จวนเจียนกั๋ว มีสภาพเหมือนพลิกแผ่นดินไปคนละด้านจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...