"ยังจะมาเปิ่นกวน*(ตัวข้าผู้เป็นขุนนาง) อีก เจ้าถูกฝ่าบาทเนรเทศมาถึงที่นี่แล้ว เจ้าเป็นนักโทษรายหนึ่ง ยังจะมาขุนนางหาพระแสงอันใด?"
เฝิงเซียนไม่อาจทนรับเซียวเฉวียนคนโอหังเช่นนี้ ยามนี้ชีวิตอับจนมาถึงทางตันแล้ว ยังจะมาวางบารมีขุนนางอันน่ารังเกียจชั่วร้ายหลายส่วนนี้อีก
เซียวเฉวียนถูกเนรเทศนั้นไม่ผิด และถูกฮ่องเต้คาดโทษ แต่ว่าเซียวเฉวียนไม่ได้ถูกถอดยศสักหน่อย
สอง เขายังเป็นเจ้าสำนักศึกษาชิงหยวนอยู่
สาม เซียวเฉวียนยังเป็นราชบุตรเขยอีกด้วย
การที่เซียวเฉวียนเรียกตัวเองว่าเปิ่นกวนนั้นไม่ผิด ผิดก็แค่ผิดที่เวลาและสถานที่ก็เท่านั้น
ตอนนี้ในสถานที่อย่างเกาะที่นกยังไม่ถ่ายมูลนั้น กองกำลังอวี่หลินอย่างเฝิงเซียนนี่ต่างหากที่เป็นนายท่านขุนนางตัวจริง
เซียวเฉวียนไม่สนใจจะวัดสูงต่ำกับคนเหล่านี้ "ข้าเป็นขุนนางหรือไม่ ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า สรุปก็คือ เจ้าคิดอยากได้หนึ่งแสนสองหมื่น ย่อมได้"
"เอาตะบันไฟ*อุปกรณ์จุดไฟแบบจีนโบราณ ให้ข้า" เซียวเฉวียนกลับยิ่งหยัดเอวตรงขึ้นอีก ตอนนี้เซียวเฉวียนควรคุกเข่าขอร้องเขาถึงจะถูก เซียวเฉวียนกลับกล้าต่อรองเงื่อนไข!
ความยโสอันสูงส่งปานนี้ ทำให้เฝิงเซียนนั้นรู้สึกไม่ได้รับความเคารพอย่างแรงกล้า
แถมยังเป็นข้อหาพวกนั้นอีก สายตาที่เขามองเซียวเฉวียน กลับมีประกายความนับถือขุมหนึ่ง!
เซียวเฉวียนเพียงผู้เดียว มาถึงที่นี่ยังกล้าต่อรองเงื่อนไขกับขุนนาง
เซียวเฉวียนเป็นดังตำนานจริง เขาคือปลาเค็มที่จะตายรอมร่ายังกล้าตีฝีปาก!
เฝิงเซียนโมโหจนเลิกแขนเสื้อขึ้นคิดอยากจะอัดเขาสักรอบ "เซียวเฉวียน! เจ้ามีคุณสมบัติอะไรมาต่อรองเงื่อนไข? เจ้าคิดว่าฝ่าบาทเว้นตำแหน่งขุนนางของเจ้าไว้เพราะอะไร?"
"นั่นเพราะทรงเห็นแก่หน้าขององค์หญฺง!"
"ก่อนหน้านี้เจ้ายังชีพด้วยหน้าตาของคนตระกูลฉิน ยามนี้ยังต้องยืมศักดิ์ศรีสตรีผู้หนึ่งยังชีพ ถึงยังเหลือความทรนงในตนเองขุมสุดท้ายนี้ได้อยู่!"
"เจ้ากลับยังมีหน้าเล่นละครลิงอะไรกับข้าอยู่ที่นี่อีกหรือ?"
เฝิงเซียนหัวเราะฮ่าๆ ทุกคนต่างมีสิทธิจะเล่นลูกไม้ทั้งนั้น ทว่าเซียวเฉวียนเจ้าแมงดาผู้นี้ไม่มีสิทธิเล่นละคร!
เฝิงเซียนเผยสีหน้าเหยียดหยาม "อาศัยผู้หญิงช่วงชิงทุกสิ่งมา สุดท้ายแล้วก็ไม่ยืนยาว เจ้าดูเจ้าซิ ทำเรื่องมากมายปานนั้นเพื่อฝ่าบาท กลับยังตกต่ำมาจนถึงจุดนี้ได้อีกมิใช่หรือ?"
"เจ้าเป็นขยะที่พอคนเขาใช้ประโยชน์เสร็จแล้วก็ถูกโยนทิ้ง!"
คำพูดนี้ของเฝิงเซียนพูดได้รุนแรงยิ่ง กองกำลังอวี่หลินรายอื่นๆ นั้นไม่กล้า เพราะว่าสีหน้าของเซียวเฉวียนดูปั้นยากอย่างยิ่งแล้ว
เซียวเฉวียนนั้นคล้ายถูกทิ่มแทงใจเล็กน้อย เรื่องที่ฮ่องเต้ทรงปฏิบัติกับตนเช่นนี้ ภายในใจของเซียวเฉวียนไม่พอใจมาตลอด
จนใจแต่ว่าโอรสสวรรค์นั้นอยู่สูงเกินไป ตัวเขาเป็นแค่ขุนนางผู้หนึ่ง ต่อให้เขาไม่พอใจแค่ไหน ตอนนี้ก็ได้แต่ยอมรับความเป็นจริง
โอรสสวรรค์ข้ามสะพานแล้วรื้อทิ้ง ยิ่งในเกาะจูเซียนที่รกร้างนี้แล้ว ยิ่งทำให้หัวใจคนเหน็บหนาว
"เฮอะ สีหน้าเจ้าเหมือนกินขี้ไปเลย เป็นอย่างไร ยังไม่พอใจอีกหรือ?"
ไม่พอใจงั้นหรือ? เซียวเฉวียนเหลือบตาขึ้นมอง เขาเอ่ยเสียงเย็นคราหนึ่ง "มีเพียงขยะเท่านั้น กระทั่งคุณค่าที่จะช่วงใช้ยังไม่มี อย่างเช่นเจ้าไงล่ะ"
ทุกคนสูดลมหายใจหนาวเหน็บ นี่เซียวเฉวียนโมโหจนทึ่มไปแล้วหรือ! ถูกหลอกใช้ยังทะนงปานนี้!
"เพ้อเจ้อให้มันน้อยหน่อย!" เฝิงเซียนโมโหยากจะระงับ ทว่ายังต่อฝีปากสู้เซียวเฉวียนไม่ได้ เขาเพียงแค่คิดอยากจะรีบคว้าเงินแล้วหนีไป "รีบเขียนเข้าสิ! เขียนเสร็จ ข้ายังต้องไป!"
เสียแรงนักเจ้าคนกลุ่มนี้ยังคิดเรื่องการแบล็คเมล์ออกมาได้!
เซียวเฉวียนสูดลมหายใจลึกรอบหนึ่ง เขาเลิกคิ้วขึ้น "เอาละ ข้าเขียน"
เฝิงเซียนที่คิดว่าเซียวเฉวียนยอมประนีประยอมแล้ว ก็เลิกคิ้วขึ้นมาอย่างได้ใจ "เป็นเช่นนี้แต่แรกก็พอ เมื่อครู่เหตุใดยังต้องทำสีหน้าน่ารังเกียจปานนั้น?"
ผลก็คือ เซียวเฉวียนก็เป็นดังวาจาที่เล่าลือ ละโมบกลัวตาย อ่อนแอถึงขีดสุด
เซียวเฉวียนหยิบปากกาขึ้นมา ก่อนจะตวัดฉั่บๆ เขียนท่อนสั้นๆ เอาไว้ว่า
ไป๋ฉี่ เห็นจดหมายนี้ประหนึ่งเห็นข้า
ข้าอยู่ที่เกาะจูเซียนอย่างดียิ่ง ระหว่างทางได้รับการดูแลจากกองกำลังอวี่หลินเป็นอย่างดีโดยเฉพาะเฝิงเซียน
เจ้าต้องรู้จักทดแทนบุญคุณความแค้น เช่นดังที่ข้าสอนเจ้าทำมาตลอด
เจ้าน่ะ หยิบตัํวเงินจำนวนหนึ่งแสนสองหมื่นตำลึงจากคลังมาให้เฝิงเซียนเสีย อากาศร้อนแล้ว ภายในบ้านมีแมลงมากมาย เจ้าไปหยิบโกฐจุฬาลัมพาเอามาฆ่าพวกแมลงในบ้านเสีย ไม่อย่างนั้นจิงเอ๋อร์ก็จะถูกต่อยจนหน้าบวมเข้าได้
ทั้งชีวิตนี้เกรงว่าข้าคงจะอยู่ใช้ชีวิตที่เกาะจูเซียน ไม่อาจกลับเมืองหลวงแล้ว
เรื่องภายในบ้านทั้งหมด คงต้องรบกวนเจ้ากับเหมิงเอ้าแล้ว
ทุกคนต่างพูดว่า ข้าทำได้เพียงอยู่ที่เกาะจูเซียนไปจนตาย ข้ารู้สึกผิดกับคนในบ้านนัก อีกหน่อย อย่าได้พูดถึงข้าบ่อยนัก เกรงมิให้ท่านแม่โกรธ
เซียวเฉวียนพร่ำพรรณา รำพึงรำพันมากมาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...