ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 395

สรุปบท บทที่ 395 ทวยเทพแห่งเทือกเขาคุนหลุน: ซูเปอร์ลูกเขย

ตอน บทที่ 395 ทวยเทพแห่งเทือกเขาคุนหลุน จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 395 ทวยเทพแห่งเทือกเขาคุนหลุน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ไฟ ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนก็มีความสำคัญ

หากไม่มีไฟ อารยธรรมมนุษย์ก็จะไม่มี ประวัติศาสตร์ก็จะไม่เกิดขึ้น

เพราะไฟ ทำให้มนุษย์มีอารยธรรม และสามารถมีวิวัฒนาการมาจนถึงปัจจุบันได้

การค้นพบและใช้ไฟมีบันทึกมาอย่างยาวนานในประวัติศาสตร์

ปรากฏการณ์ฟ้าร้องและฟ้าผ่าในธรรมชาติ ทำให้โลกที่มนุษย์อยู่อาศัยค้นพบไฟไฟเป็นครั้งแรก การเกิดขึ้นของไฟทำให้มนุษย์ตระหนักว่าไฟสามารถทำประโยชน์ให้ได้ จากนั้นเป็นต้นมา มนุษย์จึงเริ่มศึกษาเทคโนโลยีการสร้างและการควบคุมไฟเป็นต้นมา

ในฮว๋าเซี่ย ผู้คนริเริ่มใช้กระจกเว้าเพื่อรวมแสงในการก่อไฟ

การก่อไฟจากอุปกรณ์ต่างๆ ในสมัยโบราณ สะท้อนถึงความก้าวหน้าของอารยธรรมมนุษย์ในวงกว้าง

ในสมัยโบราณ นอกเหนือจากการตอบสนองความต้องการในแต่ละวันแล้ว การใช้ไฟยังถูกนำมาใช้ในการผลิตอีกด้วย เช่น การเผาเครื่องปั้นดินเผา การถลุงโลหะ เป็นต้น

ไฟทำให้มนุษยชาติเข้าสู่ยุคของการปรุงอาหารให้สุก ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อวิวัฒนาการของมนุษย์ ไฟทำให้ผู้คนได้รับความอบอุ่น เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของมนุษย์ เร่งการวิวัฒนาการของมนุษย์ และพัฒนาสภาพแวดล้อมการดำรงชีวิตของมนุษย์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ดังนั้นการพัฒนาสังคมมนุษย์จึงมาพร้อมกับการใช้ไฟเสมอ

ทันทีที่เซียวเฉวียนจุดไฟ เขาก็เหมือนกับเทพเจ้าจากสรวงสวรรค์ นำความเจริญมาสู่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนเกาะจูเซิน

เกาะจูเซินไม่เคยมีการจุดไฟมาก่อน พูดได้ว่าเซียวเฉวียนเป็นคนแรกที่จุดมัน

ไฟค่อยๆลุกลามจากกองเล็กไปเป็นกองใหญ่ แสงสว่างจากเปลวไฟดูเหมือนจะปลอบประโลมสิ่งมีชีวิตบนเกาะจูเซิน

เทือกเขาคุนหลุนที่อยู่ห่างไกลสั่นสะเทือนจากไฟนี้

ในเวลาเดียวกัน ซือเทียนเจียนในเมืองหลวงก็ตื่นเต้น!

เกิดปรากฏการณ์ประหลาดบนท้องฟ้า! ดาวสองดวงที่อยู่ห่างไกลส่องแสงสว่างวิบวับกว่าปกติ ตำแหน่งของดาวทั้งสองดวง แสดงตำแหน่งของเกาะจูเซินและภูเขาคุนหลุนอย่างแน่นอน

หน้าที่ของซือเทียนเจียนคือการสังเกตดวงดาวและการคำนวณปฏิทิน เป็นฝ่ายที่คอยสังเกตุเหตุการณ์ทางดาราศาสตร์

หัวหน้าของซือ้ทียนเจียนชื่อกัวจิ้ง เขาขอเข้าเฝ้าฮ่องเต้ด้วยความตื่นเต้น

เทือกเขาคุนหลุนเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของผู้คนในต้าเว่ย

วิญญาณของต้าเว่ยล้วนมาจากเทือกเขาคุนหลุน

ทะเลบทกวีคุนหลุนก็อยู่ที่เทือกเขาคุนหลุนเช่นกัน

เทือกเขาคุนหลุนเปรียบดังโลกและสวรรค์เป็นหนึ่งเดียว หล่อเลี้ยงทุกสรรพสิ่ง

และเกาะจูเซินนั้นก็ดีขึ้นกว่าเดิม

เกาะจูเซิน ตั้งอยู่ในรัฐไป๋ลู่ ชื่อเกาะจูเซิน ไม่ได้ได้มาเพราะคนคิดชื่อ

คนแรกที่เหยียบเกาะจูเซิน พบแผ่นหินที่อยู่บนเกาะ เขียนว่า 'เกาะจูเซิน'

ที่นี้ไม่มีวี่แววของผู้คน และดูท่าว่าจะไม่มีใครอาศัยอยู่

ภูเขาและแม่น้ำของที่นี้งดงามไม่มีที่ติ เสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว ดอกไม้ส่งกลิ่นหอมอมอวนตลอดทั้งวัน แต่เนื่องจากที่นี้เป็นป่าทึบ สัตว์ป่าจึงออกหากินตลอดเวลา ดังนั้นแม้ว่าที่นี้จะสวยงามเพียงไร แต่ก็แฝงไปด้วยความอันตราย จึงไม่มีใครอาศัยอยู่ที่นี้ และฮ่องเต้ก็ใช้ที่นี้เป็นที่สำหรับผู้ถูกเนรเทศ

ต้นกำเนิดของเกาะจูเซินนั้น ยังไม่ชัดเจนมากนัก

อย่างไรก็ตามต้าเว่ยเองก็มีบันทึกการเดินทางและเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับเกาะจูเซิน

ตามตำนานเล่าว่าในสมัยโบราณ เทือกเขาคุนหลุนเป็นที่สถิตของเหล่าทวยเทพ

ทวยเทพรู้ทุกอย่าง ทวยเทพจะลงมาจากสรวงสวรรค์เพื่อสื่อสารกับผู้คน

ในเทือกเขาคุนหลุน มีสัตว์ในตำนานหลายชนิดอาศัยอยู่ที่นั่น เช่น มังกร ฟีนิกซ์ นกกระเรียน เป็นต้น

เมื่อมีสถานที่ที่เหล่าทวยเทพสถิตอยู่ ย่อมมีสถานที่ที่ทวยเทพเกลียดชัง

สถานที่นั้นคือเกาะจูเซิน

จูเซิน หมายถึง การฆ่าทวยเทพ

หากทวยเทพทำผิด พวกเขาก็จะต้องได้รับโทษทัณฑ์ มีเรื่องเล่ามาว่าที่เกาะจูเซินนั้นมีผนึกจูเซินอยู่ ซึ่งมนุษย์ทั่วไปไม่สามารถมองเห็นได้ หากทวยเทพเข้าไปในเกาะแห่งนี้ จะถูกผนึกจูเซินฉีกร่างและะจิตวิญญาณก็จะแหลกสลายไปพร้อมๆกัน

เมื่อถูกผนึกจูเซินเข้าแล้ว หลังความตาย ทวยเทพบางองค์กลายไปเป็นป่าไม้หรือน้ำในลำธาร บางองค์กลายไปเป็นสิงสาราสัตว์หรือแม้กระทั่งก้อนหินในป่า

กวีปีศาจเป็นคนเดียวในต้าเว่ยที่ได้สัมผัสทะเลบทกวีคุนหลุน และตอนนี้ กวีปีศาจที่ใช้ประโยชน์จากทะเลบทกวีคุนหลุนได้อย่างสมบูรณ์แบบก็ตายไปแล้ว

คนโบราณเชื่อเรื่องโชคลาง ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว และผู้คนในต้าเว่ยถึงกับใช้ดวงดาวในการคาดเดาถึงเทือกเขาคุนหลุน

วันนี้ดวงดาวส่องแสงเจิดจ้าสะท้อนมาถึงโลก ทำให้เป็นที่รู้กันว่าเกาะจูเซินจะต้องมีบางสิ่งบางอย่างแน่นอน

ไม่ว่าการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติจะเป็นอย่างไร การตอบสนองของเทือกเขาคุนหลุนถือว่าเป็นเรื่องดี

เมื่อฟังจบฮ่องเต้มีความสุขมาก แต่เมื่อได้ยินว่ามีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นที่เกาะจูเซิน ก็ทำให้พระทัยของพระองค์เศร้าหมองทันที

เกาะจูเซินไม่ได้มีความเคลื่อนไหวมาเป็นเวลานาน แต่มันกลับเคลื่อนไหวเมื่อเซียวเฉวียนอยู่ที่นั้น

เซียวเฉวียนสร้างปัญหาขึ้นที่นั้นอีกแล้วงั้นรึ!!

ฮ่องเต้พยักหน้าแล้วตรัสว่า:"อย่าพึ่งดีใจไป รอข่าวจากเทือกเขาคุนหลุนเสียก่อน"

ต้าเว่ยมีผู้คนประจำการอยู่ที่ตีนเขาคุนหลุนอยู่ตลอด เพื่อคอยบันทึกความเคลื่อนไหวในเทือกเขาคุนหลุน

หากมีอะไรเกิดขึ้นที่เทือกเขาคุนหลุนในครั้งนี้ จะต้องมีจดหมายมาแน่นอน

ใครจะรู้ว่าเมื่อใดข่าวจะมาถึงเมืองหลวง

แต่ข่าวจากเกาะจูเซินดันมาถึงก่อน

เนื่องจากฉินเซิงกำลังปราบปรามความวุ่นวายในรัฐไป๋ลู่ และเซียวเฉวียนบังเอิญถูกเนรเทศไปที่นั่น ฉินเซิงจึงถือโอกาสนี้ติดตามไปที่เกาะจูเซิน

การเฝ้าสังเกตไม่ใช่เรื่องดี แม้สังเกตแล้ว ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องดี

คนที่รับผิดชอบในการอ่านจดหมายคือขันทีหม่า ทันทีที่เขาเปิดจดหมายจากนกพิราบบินของฉินเซิง สีหน้าของขันทีหม่าก็ถอดสี: "ฝ่าบาท ฝ่าบาท พระองค์อยากทอดพระเนตรดูเองหรือไม่พะย่ะค่ะ?"

ทันทีที่เห็นสีหน้าของขันทีหม่า ฮ่องเต้ก็รับรู้ได้ทันทีว่าเซียวเฉวียนก่อปัญหาอีกแล้ว

เซียวเฉวียนผู้แสนดี เขาไม่หยุดสร้างปัญหาแม้จะถูกเนรเทศไปแล้วก็ตาม!

“อะไรกัน! มีอะไรงั้นรึ? เนื้อความในจดหมายของฉินเซิงมีอะไร?" ดวงตาของฮ่องเต้เปลี่ยนเป็นสายตาที่เย็นชา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย