บทที่ 401 มาเพื่อมอบความตาย – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย
ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 401 มาเพื่อมอบความตาย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าจ้องหน้ากัน ช่วงนี้รู้สึกไม่ค่อยสบายเนื้อสบายตัว อธิบายไม่ถูกว่าเกิดอะไรขึ้น เพียงแค่ไม่สบายตรงไหนสักแห่ง
“มา รีบดื่มน้ำสิ”
“ขอบพระคุณขอรับฮูหยินผู้เฒ่า” ไป๋ฉี่ดื่มน้ำอึก ๆ “วันนี้ข้ายังต้องไปสืบเรื่องของหมิงเย่ว์ นายท่านบอกว่า ผู้นี้คือคนของเว่ยเชียนชิว ไม่ควรให้อยู่ในจวนเซียว”
“เจ้าลูกคนนี้ อยู่ห่างไกลบ้านแต่ยังคอยเป็นห่วงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เขาอยู่ที่เกาะจูเสินสบายดีใช่หรือไม่?”
“ดีขอรับ”
แม่เซียวไม่รู้ว่าไป๋ฉี่และเซียวเฉวียนไม่ได้ผูกจิตกันนานแล้ว แต่เพื่อให้แม่เซียวสบายใจ ในทุก ๆ วันเหมิงเอ้าและไป๋ฉี่จะแกล้งทำทีว่าติดต่อกับเซียวเฉวียนอยู่ ประการแรกเพื่อให้คนในบ้านสบายใจ และประการที่สองเพื่อให้คนรับใช้ในตระกูลเซียวไม่กล้าดูหมิ่นตระกูลเซียวได้
ในสมัยโบราณ หากตระกูลใดไร้ซึ่งผู้ชายปกครอง มักถูกผู้คนดูหมิ่นเหยียดหยาม
หลังจากที่เซียวเฉวียนจากไป นอกจากสองสาวรับใช้อวิ๋นกั่วและชิงกั่ว คนรับใช้คนอื่น ๆ ต่างก็เหลวไหลมาก
แม้ในวันนี้ตระกูลเซียวจะมีอี้กุยคอยสงเคราะห์และให้ความช่วยเหลือ และยังมีโย่วควนที่คอยเป็นธุระให้ แต่เมื่อเซียวเฉวียนไม่อยู่ ในตระกูลเซียวเหลือเพียงผู้หญิง เหล่าคนรับใช้เหล่านั้นก็เกียจคร้านราวกับหนอน ในแต่ละวันเมื่อกินข้าวจนอิ่มก็ไปนั่งอาบแดด และพูดเล่นกันสนุกปาก
คนกลุ่มนี้ไม่เหมือนคนรับใช้ที่คอยดูแลปรนนิบัติตระกูลเซียว แต่กลับเหมือนเจ้านายที่ตระกูลเซียวเลี้ยงเอาไว้
องค์หญิงมีนิสัยอ่อนโยนและมีเมตตา เมื่อเรียกใช้พวกเขาไม่ได้ บางครั้งนางก็ลงมือทำด้วยตัวเอง
คนรับใช้เหล่านี้ต่างคิดว่าเซียวเฉวียนไม่มีทางกลับมาอีกเป็นแน่ จากนี้ตระกูลเซียวคงเหลือเพียงลูกกำพร้าและแม่หม้าย ตอนนี้คิดเพียงว่าสามารถทำงานได้ค่าแรงหนึ่งวันก็ทำไปก่อน หรือถ้าอู้งานได้สักวันก็อู้งานไป
เหล่าคนรับใช้ของจวนเซียวยังดูหมิ่นเจ้านายของตัวเองได้ขนาดนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนข้างนอกเลย
เซียวเฉวียนถูกเนรเทศ แม้ว่าความผิดจะไม่ได้ถูกเปิดเผยต่อผู้คนภายนอก แต่ทุกคนได้ยินข่าวว่าเว่ยชิงเสียชีวิตกระทันหันด้วยโรคร้ายแรง
บนโลกนี้จะมีเรื่องที่บังเอิญเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ทันทีที่เซียวเฉวียนไป เว่ยชิงก็ตายงั้นหรือ?
ทุกคนยังรู้ดีว่า ศิษย์พี่ศิษย์น้องอย่างเซียวเฉวียนและเว่ยชิง ดวงชะตาไม่สมพงษ์กัน ไม่มีทางเข้ากันได้
เว่ยชิงจะต้องถูกเซียวเฉวียนฆ่าตายแน่นอน ทันทีที่เว่ยชิงเจ้าแห่งรัฐไป๋ลู่สิ้นใจลง ทำให้เกิดการจลาจลในกลุ่มจอมยุทธ์เหล่านั้นในรัฐไป๋ลู่ แม้แต่ฉินเซิงก็นำกองทัพตระกูลฉินไปเป็นการส่วนตัวเพื่อปราบการกบฏ และโทษของเซียวเฉวียนก็หนักหนามาก
คิดว่าชาตินี้เซียวเฉวียนคงไม่คิดจะกลับมาได้อีก
ดังนั้น แม้ว่าตระกูลเซียวจะร่ำรวย และมีองค์หญิงอยู่ในบ้าน ก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้นเลย
ช่วงนี้คนรับใช้ตระกูลเซียวไปซื้อผักปลามาทำอาหารตามร้านข้างทาง ก็ยังไม่สามารถซื้อของกลับมาได้ เพราะว่าเจ้าของร้านไม่ยอมขายผักให้แก่จวนเซียว
กำแพงจะล้มเพราะคนหมู่มากร่วมกันผลัก แต่กำแพงบ้านตระกูลเซียวยังไม่ล้มเสียหน่อย เพราะผู้คนใช้เท้าเตะคนละทีสองที
แม้ว่าเซียวเฉวียนเป็นเจ้าแห่งชิงหยวน แต่เมื่อไม่มีเซียวเฉวียน ก็ยังมีเจ้าแห่งชิงหยวนคนต่อไป ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น ทันทีที่เซียวเฉวียนจากไป แม้ว่าไม่ได้มีการสับเปลี่ยนเจ้าแห่งชิงหยวน แต่มีเฉาสิงจือทำการบริหารแทน
ที่พูดว่าทำการบริหารแทน แตกต่างอย่างไรกับเปลี่ยนคนงั้นหรือ?
เซียวเฉวียนกล้าสังหารแม้แต่เจ้าครองนครอย่างเว่ยชิง ถือเป็นการยุแหย่ศักดิ์ศรีแห่งราชวงศ์ ชาตินี้คงไม่มีทางกลับมาได้อีก
ครั้งก่อน ผู้ที่ยุแหย่ศักดิ์ศรีแห่งราชวงศ์ก็คือเว่ยไป๋ เจ้าแห่งรัฐมู่อวิ๋น สิบปีก่อนถูกเนรเทศไปยังเกาะจูเสิน ในปัจจุปันก็ยังไม่ได้กลับมา
เว่ยไป๋ยังเป็นถึงเสด็จอาของฮ่องเต้ และยังเป็นเจ้าแห่งรัฐมู่อวิ๋นที่มั่งคั่ง แม้แต่เว่ยไป๋ยังไม่สามารถกลับมาได้ นับประสาอะไรกับเซียวเฉวียน!
“ทำบาปทำกรรมเสียจริง ตระกูลเซียวมีลูกชายแบบนี้ ช่างเป็นเวรเป็นกรรมเสียกระไร”
แรกเริ่มที่เซียวเฉวียนเพิ่งจากไปได้เพียงไม่กี่วัน ทุกคนยังพากันเศร้าโศก แต่หลังจากเซียวเฉวียนได้จากไปแล้ว ลมก็เกิดการเปลี่ยนทิศ
ทุกคนเห็นว่าเมืองหลวงไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนไป และพวกเขายังสามารถไปเรียนหนังสือที่ชิงหยวนโดยไม่เสียเงินสักตำลึงเดียว ไปเรียนหนังสือได้ที่พักและอาหารฟรี แล้วยังได้เบี้ยเลี้ยงในทุก ๆ เดือน
สำหรับพวกเขาแล้วการจากไปของเซียวเฉวียน ไม่มีข้อเสียและผลประโยชน์ก็ไม่น้อย
ดังนั้น ตระกูลเซียวจึงกลายเป็นฝ่ายที่ถูกพวกเขารังแก
วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่จวนเซียวไม่ได้ไปซื้ออาหาร ชิงกั่วและอวิ๋นกั่วหิ้วตะกร้าเปล่ากลับมา พูดพลางถ่มน้ำลายออกจากปาก “ไอ้พวกสายตาสุนัขที่มองเหยียดผู้อื่นเช่นนี้! รอคุณชายกลับมาจากเกาะจูเสินก่อนเถอะ ข้าจะรอดูว่าจะยังกล้าใช้สายตาต่ำ ๆ เช่นนั้นมองผู้อื่นอีกหรือไม่!”
ในขณะนั้นเองก็มีคนหนึ่งยืนอยู่ที่หน้าประตู นั่นคือเฝิงเซียนที่กลับมาจากเกาะจูเสิน
ทันทีที่เฝิงเซียนกลับมา เดิมทีก็ควรจะรีบไปรายงานต่อฮ่องเต้
แต่เขากลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดกับหนึ่งแสนตำลึง จึงรีบนำจดหมายมาที่จวนเซียวเสียก่อน
เขายังจงใจทิ้งเพื่อนร่วมทางไว้ โดยบอกว่าเขาจะกลับบ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
“รีบไปตามไป๋ฉี่! รีบไป! รีบไป!”
เฝิงเซียนท่าทีร้อนใจ แม้อวิ๋นกั่วเชิญเขาเข้าไปดื่มชา เขาก็ไม่ยอม
จวนเซียวถือเป็นสถานที่แห่งความโชคร้าย เขาจึงไม่ยอมเข้าไป หากได้เงินหนึ่งแสนตำลึงเขาก็จะรีบกลับทีนที!
ขณะนั้นเองไป๋ฉี่ก็เดินออกมา
ไป๋ฉี่ไม่พูดจาแม้แต่คำเดียว เฝิงเซียนจึงยื่นจดหมายของเซียวเฉวียนไปที่หน้าของเขา
ไป๋ฉี่ตาไวมือไว รีบแย่งจดหมายมาในทันทีและฉีกมันทิ้งเป็นผุยผง!
“เจ้าคิดจะเบี้ยวหนี้งั้นหรือ? นี่เป็นจดหมายของเซียวเฉวียน เจ้านายของเจ้านะ!” จดหมายร่วงหล่นลงพื้นราวกับหิมะ เฝิงเซียนแทบใจสลาย นี่คือเงินหนึ่งแสนตำลึงของเขาเชียวนะ!
“เข้าใจผิดแล้ว” ไป๋ฉี่ยิ้มอ่อน “ท่านกลับไปก่อน ข้าจะนำเงินหนึ่งแสนตำลึงไปมอบให้ท่านถึงบ้านตระกูลเฝิงด้วยตัวเอง”
“จริงรึ?” เฝิงเซียนดวงตาเป็นประกายราวกับเด็กไร้เดียงสา
“จริงขอรับ”
ไป๋ฉี่พยักหน้า เจ้านายของข้าจะฆ่าเจ้า ไม่มีทางฆ่าที่หน้าประตูบ้านตระกูลเซียวหรอก
“ได้ ข้าจะรอเจ้า หากเจ้ากล้าเบี้ยวหนี้ เซียวเฉวียนไม่มีวันสุขสบายในเกาะจูเสินเป็นแน่!” เฝิงเซียนคิดว่าตนเองข่มขู่ผู้อื่นได้
ผลสุดท้าย เซียวเฉวียนกำลังจะออกจากเกาะจูเสินในเร็วนี้อยู่แล้ว
ณ เกาะจูเสิน
เรือของเว่ยเชียนชิวยังไม่ทันมาถึง เว่ยอวี๋ก็มาถึงก่อนแล้ว
“พี่ใหญ่! พี่ใหญ่! เหล่าเซียว! ข้ามาช้าไปหน่อย!”
เว่ยอวี๋ที่อยู่อีกฝั่งตะโกนเรียกเซียวเฉวียนขึ้นเรือด้วยความตื่นเต้น
เว่ยไป๋กลับดึงเซียวเฉวียนไว้ “ไม่! คนของเทือกเขาคุนหลุนรอให้เจ้าออกไปอยู่นะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...