อ่านสรุป บทที่ 402 คุมขังคุนหลุน จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บทที่ บทที่ 402 คุมขังคุนหลุน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
เว่ยอวี๋ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เขาติดตามเซียวเฉวียนตั้งแต่ในเมืองหลวงมาตลอด
ไม่เพียงแต่เว่ยอวี๋ที่มา สุนัขสีเหลืองตัวน้อยที่ฉลาดทันคนของตระกูลเซียวก็มาด้วย เนื่องจากเว่ยอวี๋มาที่จวนเซียวทุกวัน มันจึงสนิทสนมคุ้นเคยกับเว่ยอวี๋มาก ราวกับมันรู้ว่าครั้งนี้เว่ยอวี๋จะออกมาหาเซียวเฉวียน จึงแอบหมอบมาในเรือของเว่ยอวี๋
เมื่อใกล้ถึงเกาะจูเสิน เว่ยอวี๋จึงได้รู้ว่าสุนัขสีเหลืองตัวน้อยก็ตามมาด้วย
“โฮ่ง ๆ ๆ ๆ!”
สุนัขสีเหลืองตัวน้อยกระโดดสองเท้าหน้าขึ้นมา อดไม่ไหวที่จะกระโดดลงน้ำทะเลเพื่อว่ายไปหาเซียวเฉวียนที่อยู่อีกฝั่ง
หากเว่ยอวี๋ไม่ขวางไว้ สุนัขสีเหลืองตัวน้อยก็คงเป็นหมาน้อยตกน้ำไปเสียแล้ว “ช้าก่อน! ช้าก่อน! พวกเราเข้าฝั่ง เจ้าค่อยกระโดดนะ!”
“ใครก็ได้รีบเอาสมอลงได้แล้ว! ข้าจะไปพบพี่ใหญ่ของข้าแล้ว!”
เว่ยอวี๋ท้าวสะเอว ไม่รู้เลยว่าเซียวเฉวียนอยากถีบเขาให้ตายคาที่
อีกทั้งครึ่งเดือนก่อนหน้านี้ เซียวเฉวียนก็อยากเตะเขาให้ตายที่มอบชิงหยวนให้แก่เว่ยอวี๋ ถือเป็นการตัดสินใจที่เซียวเฉวียนคิดผิดพลาดมากที่สุด
เว่ยอวี๋ตื่นเต้นดีใจ แต่เหตุใดเหล่าเซียวที่มองมาจากฝั่ง มองเขาด้วยท่าทีที่ไม่ดีใจเลยแม้แต่น้อย?
เมื่อมองตามสายตาของเซียวเฉวียน เว่ยอวี๋ก็ค้นพบว่ามีเรือลำหนึ่งที่น่าตลกขบขันอยู่ข้างเรือลำใหญ่ของเขา
เล็กมาก ยากจนค่นแค้นเสียจริง
เว่ยอวี๋ที่ไม่มีความรู้ เหลือบมองไปยังธงบนเรือลำนั้น แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าเป็นธงของที่ใด เขากุลีกุจอพูดขึ้น “เฮ้! พี่ใหญ่ท่านนี้! หลบหน่อยสิ! หลบหน่อยสิ! ตอนนี้ข้าจะนำเรือเข้าฝั่ง เกรงว่าจะไปเบียดเรือของท่าน!”
เว่ยอวี๋เข้ามาใกล้ จึงเห็นได้ชัดเจนว่าผู้นี้มีหน้าตาอย่างไร
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง เพียงแต่ร่างกายสูงใหญ่ก็เท่านั้น ถัดจากเสื้อผ้าสามารถเห็นได้ว่าผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งแค่ไหน เส้นเอ็นของเขาแทบจะหลุดออกมาเสียอยู่แล้ว
เว่ยอวี๋ส่ายหัวพลางจุ๊ปาก หากผู้ชายที่อยากมีกล้ามเนื้อเช่นนี้ ต้องแบกก้อนอิฐทุกวันจึงจะมีได้ อิอิอิ!
เว่ยอวี๋นึกล้อเล่นอยู่ในใจ ผู้ชายคนนี้ทำราวกับรู้ว่าเขากำลังคิดสิ่งใดอยู่ หันหน้ามาเล็กน้อยและมองเว่ยอวี๋อย่างเย็นชา จากนั้นก็มองกลับไปบนเกาะจูเสินดังเดิม
ไม่หลบก็ไม่หลบ! เว่ยอวี๋เกลือกตามองบนให้กับเรือน้อยลำนั้น อย่ามาแกล้งชนเขาเพื่อเรียกร้องเอาเงินก็พอ!
เรือของเว่ยอวี๋เข้าเทียบท่าอย่างช้า ๆ สุนัขสีเหลืองตัวน้อยดีใจอย่างที่สุด มันเห่าโฮ่ง ๆ ไม่หยุด
คนผู้นั้นมองเรือของเว่ยอวี๋ที่เข้าใกล้เกาะจูเสินมากขึ้นเรื่อย ๆ ในใจก็ตื่นเต้นอย่างมาก
เว่ยไป๋คาดเดาได้อย่างถูกต้อง ผู้นี้คือผู้ที่มาจากเทือกเขาคุนหลุน
แต่คนผู้นี้ไม่ใช่เซียนอย่างที่เว่ยไป๋และคนอื่น ๆ คิด
คนผู้นี้ชื่อว่าชิงหลง บรรพบุรุษทั้งสิบแปดรุ่นของเขาล้วนเป็นชาวพื้นเมืองของเทือกเขาคุนหลุน และมีหน้าที่รับผิดชอบในการปกป้องเทือกเขาคุนหลุนและเกาะจูเสิน
บรรพบุรุษของเชื้อสายชิงหลง และบรรพบุรุษของเชื้อสายทาสคุนหลุนในต้าเว่ยนั้น แท้จริงเป็นสายเลือดเดียวกัน เพียงแต่เชื้อสายของชิงหลงยังคงใช้ชีวิตในแถบเทือกเขาคุนหลุน แต่ทาสคุนหลุนกลับติดตามกองทัพต้าเว่ยตั้งแต่ปีนั้น และได้ไปขยายเผ่าพันธุ์ที่ต้าเว่ย
ชิงหลงคือคนจริง ๆ ชิงหลงไม่เคยพบเจอเซียนที่เซียวเฉวียนพูดถึง และแม้แต่บรรพบุรุษของชิงหลงก็ยังไม่เคยพบเจอ
หลายวันนี้ เทือกเขาศักดิ์สิทธิ์คุนหลุนเกิดการเปลี่ยนแปลง คนในเผ่าของชิงหลงต่างพากันล้มป่วยและไอไม่หยุด จึงเกิดความสงสัยว่ามีสิ่งปกติเกิดขึ้นในเกาะจูเสิน
เกาะจูเสินเป็นสถานที่ต้องข้ามของชาวคุนหลุน ชิงหลงไม่สามารถเข้าไปได้ ผู้อารักขาของต้าเว่ยก็ไม่อาจเข้าไปได้ เขาจึงทำได้เพียงเฝ้ามองอยู่ไกล ๆ
เป็นดังที่คาดไว้ ชิงหลงมองเห็นเซียวเฉวียนที่ทำการย่างเนื้ออยู่ทุกวัน
ตามตำนานเล่าว่า ต้นไม้ทุกต้น หินทุกก้อนและสรรพสิ่งทุกชนิดบนเกาะจูเสิน ตามตำนานถือเป็นร่างที่แปลงกายของเซียนเหล่านั้น
ดังนั้นที่เกาะจูเสินจึงมีข้อห้ามหนึ่งอย่าง สามารถทำได้ทุกสิ่งยกเว้นการจุดไฟ
เมื่อเกิดเพลิงไหม้บนเกาะจูเสิน เซียนที่ตายไปเหล่านั้นก็จะรวมกลุ่มกันใหม่อีกครั้ง
เช่นนี้ เซียนที่ได้รับการลงโทษก็จะกลับมามีชีวิตใหม่ได้อีก
ตามตำนานกล่าวขานมาเช่นนี้ แต่เหตุผลที่แท้จริงเป็นเพราะว่า เกาะจูเสินมีผนึกจูเสิน ผนึกนี้สร้างโดยปรมาจารย์ผู้รวบรวมพลังจิตแห่งท้องทะเล น้ำและไฟเสมอกัน หากมีเพลิงเกิดขึ้นบนเกาะ ก็จะเกิดการโจมตีไปที่ผนึกจูเสิน
หากผนึกจูเสินเกิดการแตกหัก ชาวคุนหลุนก็จะสามารถเข้าออกได้อย่างมีอิสระ
เป็นที่ชัดแจ้งว่า มีคนไม่ต้องการให้ชาวคุนหลุนเข้าในเกาะจูเสิน จึงได้สร้างผนึกจูเสินขึ้นมา ให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นที่ต้องห้ามของชาวคุนหลุน
เชื้อเพลิงที่เซียวเฉวียนใช้ไม่ใช่เชื้อเพลิงนอกเกาะจูเสิน แต่เขาใช้หินบนเกาะก่อไฟขึ้นมา
การกระทำเช่นนี้ ทำให้ชาวเผ่าคุนหลุนตกตะลึงยิ่งนัก
เซียวเฉวียนสามารถก่อไฟได้ หมายความว่าสามารถทำลายผนึกจูเสินได้
ดังนั้นชิงหลงจึงมาที่นี่ ไม่ใช่อย่างที่เว่ยไป๋บอกว่าเขาจะฆ่าเซียวเฉวียน
ชิงหลงมาตามคำสั่งของผู้อาวุโสในเผ่า คือการเชิญเซียวเฉวียนไปยังเทือกเขาคุนหลุน เซียวเฉวียนเป็นความหวังของชาวคุนหลุน!
เพราะว่าชิงหลงไม่สามารถเข้าไปในเกาะจูเสินได้ ดังนั้นเขาจึงคอยมองอยู่ไกล ๆ
แม้ว่าเซียวเฉวียนจะทำให้รู้สึกขุ่นเคืองมากเพียงใด ที่เขาจุดไฟซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อไฟกระทบกับผนึกจูเสิน ชาวคุนหลุนจำนานไม่น้อยก็ป่วยมากยิ่งขึ้น
กองเพลิงเล็กเพียงนี้ไม่อาจคร่าชีวิตของผนึกจูเสินได้ ผนึกจูเสินที่ได้รับความเสียหายสามารถฟื้นฟูตนเองได้ใหม่ แต่ชาวคุนหลุนกลับไม่อาจรับทนรับความทรมานนี้ได้
ดังนั้น ชิงหลงทั้งมีความหวังและรังเกียจเซียวเฉวียน การทรมานซ้ำไปซ้ำมาเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ชาวคุนหลุนเท่านั้น เกรงว่าแม้แต่เหล่าทาสคุนหลุนของต้าเว่ยก็ไม่อาจต้านทานได้
ชิงหลงกำหมัดแน่น ร้อนอกร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ต้องขอบคุณฟ้าสวรรค์ที่วันนี้มีคนมารับเซียวเฉวียนแล้ว เซียวเฉวียนก็จะสามารถออกจากเกาะจูเสินได้แล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้ ชิงหลงก็สามารถพาเซียวเฉวียนไปยังเทือกเขาคุนหลุน ส่วนเรื่องเกี่ยวกับผนึกจูเสิน ผู้อาวุโสในเผ่าจักต้องค่อย ๆ ปรึกษากับเซียวเฉวียนให้ดีเสียก่อน
เซียวเฉวียนคิดว่าชิงหลงมาเพื่อทำโทษเขา ความจริงผู้ที่ต้องการให้เซียวเฉวียนออกจากเกาะจูเสินมากที่สุดก็คือชิงหลง
น่าเสียดาย ในสายตาของพวกเว่ยไป๋ชิงหลงกลับคือเซียนผู้คร่าชีวิต
เซียวเฉวียนกำลังจะนั่งเรือออกไป และนำสิบแปดอรหันต์ไปด้วย
แต่สิบแปดอรหันต์กลัวความตาย และขัดขวางเซียวเฉวียนสุดชีวิต “อย่าไปเลย! เซียนผู้นั้นรอให้เจ้าออกไปเพื่อจะฆ่าเจ้า และยังจะฆ่าพวกเราด้วย!”
ชิงหลงที่อยู่ทางนั้น รอให้เซียวเฉวียนออกมาอย่างตาละห้อย
สิบแปดอรหันต์ที่อยู่ทางนี้ ให้ตายอย่างไรก็ไม่ยอมให้เซียวเฉวียนออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...