หลังจากที่พี่เขยออกจากเมืองหลวงไปแล้ว สถานการณ์ที่จวนเซียวก็ยิ่งเลวร้ายลง
ถึงแม้จะมีองค์หญิงนั่งบัญชาการรักษาการณ์ด้วยตันเอง และยังมีอี้กุยช่วยดู แต่ทุกวันจวนเซียวก็ยังไม่ดีขึ้น
เริ่มแรกจวนเซียวนั้นขายผักกับข้าวมิได้ ต่อมาประตูก็เต็มไปด้วยมูลสัตว์ จนถึงตอนนี้ กิจการหอปี๋เซิ่งก็ทำต่อไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
เมื่อไม่มีเซียวเฉวียนอยู่ ในอดีตบรรดาผู้ที่ไม่ชอบเซียวเฉวียน ผู้ที่เคยถูกพรสวรรค์ของเซียวเฉวียนกดหัว หรือผู้ที่สูญเสียความมั่งคั่งทั้งหมดเพราะเซียวเฉวียนสร้างความวุ่นวายที่หอปี๋เซิ่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วจะมีกล้ามีผู้ใดกล้ามากิน
ชิงหยวนรอดพ้นได้เพราะถูกถ่ายโอนไปยังฝ่ายบริหารของเฉาสิงจือ
บัดนี้จวนฉิน นับวันยิ่งเหมือนกับเกาะร้างเข้าไปทุกที
ไร้ผู้คนเข้ามา และไม่ผู้ใดกล้าเข้ามา
ได้ยินมาว่ากษัตริย์ซีเจียงวางแผนที่จะให้องค์หญิงต้าถงกลับไปยังซีเจียง ถ้าหากองค์หญิงไปไม่มีแม้แต่คนเดียวที่มีสถานะที่แท้จริงในตระกูลเซียว เกรงว่าจะถูกคนรังแกเหยียดยามขึ้นมาจริงๆ
ถึงแม้จะมีอี้กุยอยู่ แต่อี้กุยก็เป็นเพียงพ่อค้าคนหนึ่งเป็นแค่ลูกคนรวยคนหนึ่ง ถ้าจะเปรียบเทียบฝีมือกับเซียวเฉวียนล่ะก็คงห่างชั้นกันมากโข
ถึงแม้ทุกคนล้วนพูดกันว่าเซียวเฉวียนไม่ทีทางกลับมาอีกแล้ว
แต่ฉินหนานผู้นี้เชื่อว่าเขาจะต้องกลับมา
ฉินหนานได้ยินมาว่า พี่เขยเคยพูดกับคนตระกูลฉินเอาไว้ เขาจะต้องกลับมาแน่นอน
คำที่พี่เขยกล่าวเอาไว้ ล้วนเป็นจริง
เพราะฉะนั้น ฉินหนานไม่อยากเห็นพี่สาวคนโตของตนโง่งมเยี่ยงนี้ เขาจึงควบม้าออกไป ไม่ว่าพี่สาวคิดจะทำอะไร ตนก็จะหยุดหล่อนไว้ให้ได้
มิใช่เพียงแต่มิตรภาพของตนและเซียวเฉวียน แต่เซียวเฉวียนยังคงสามารถดูแลตระกูลฉินได้
ถ้าหากพี่สาวทำเรื่องอะไรที่ไม่เป็นเรื่อง ตระกูลฉินเห็นทีคงจะจบสิ้นเสียแล้ว
หนานฉินไตร่ตรองไปควบม้าไปด้วย ไม่รู้ตัว ตนก็ถึงที่ประตูจวนฉิน โชคดีที่พี่สาวตนไม่ได้ก่อเริ่องวุ่นวายอะไร
ถึงฉินซูโหรวไม่อยู่ แต่กลับมีคุณชายตระกูลขุนนางสองสามคนโยนประทัดเข้าไปในจวนเซียวด้วยกำลังทั้งหมด หัวโจกไม่ใช่คนอื่นแต่อย่างใด เป็นจูโชง
“ปัง”
“ปังปังปัง!”
เสียงประทัดดังลั่น ด้านในก็มีเสียงกรีดร้องของหญิงสาวออกมา
“พวกเจ้าทำอะไรกัน?” เซียวหนานตะคอก ดูจากวิธีที่พวกเขาคุ้นเคยกับถนนแล้ว เกรงว่าพวกเขาจะทำแบบนี้หลายครั้งแล้ว
“โอ้ นี่ไม่ใช่คุณชายฉินสามหรอกหรือ? ทำไมเล่า? เจ้ายังอาลัยอาวรณ์กับเจ้าพี่เขยคนเก่าอยู่อีกหรือ? วันวันมาแต่จวนเซียว เจ้าไม่เบื่อหรือไร?
คุณชายตระกูลขุนนางสองสามคนหัวเราะดังลั่น ต่างก็ว่าสมองของคุณชายสามฉินไม่ดี เรียนหนังสือไม่ได้ ทำได้แค่เรื่องไร้สาระไปวันๆ
เมื่อตอนเซียวเฉวียนอยู่จวนฉิน ฉินหนานก็คอยออกโรงปกป้อง ตอนนี้เซียวเฉวียนไม่ใช่นายท่านของจวนฉินอีกต่อไปแล้ว ฉินหนานมาที่จวนเซียวของเซียวเพื่อส่งข้าวและน้ำมัน
เจ้าน้องเมียเก่าคนนี้ เรียกง่ายๆก็คือประจบสอพลอนั่นแหละ!
และไม่ได้ประจบสอพลอธรรมดาเสียด้วยสิ!
แต่ตอนนี้ตลอดทั้งชีวิตของเซียวเฉวียนก็เป็นได้แค่คนพเนจร แม้ว่าฉินหนานจะทำดีกับเซียวเฉวียนดีเยี่ยงนี้ จะได้อะไรตอบแทนบ้างเล่า?
ตอนนี้ตระกูลเซียวเต็มไปด้วยผู้หญิงที่ไร้ประโยชน์ ความใจดีของฉินหนานนี้ก็เหมือนเตะหมูเข้าปากหมา ไร้ทีท่าได้กลับคืนมา ฮ่าฮ่าฮ่า
“ข้าเต็มใจที่จะมา! พวกเจ้าไม่ต้องมายุ่ง! ฉินหนานชักกระบี่ออกมา แล้วตะโกนว่า “พวกเจ้าไสหัวไปให้พ้นหน้าข้า! ถ้าไม่ไสหัวไปล่ะก็ ตัวข้าผู้นี้จะฆ่าพวกเจ้าให้สิ้น!”
เมื่อเห็นทีท่าจริงจังของฉินหนาน คุณชายตระกูลขุนนางจากที่หัวเราะก็หัวเราะดังขึ้นอีก พวกเขาล้วนมีราชองครักษ์คุ้มกัน แต่เจ้าฉินหนาไร้ความรู้ผู้นี้นี่สิ ยิ่งไปกว่านั้นจูโชงได้พูดจาดูถูกว่า “นี่นี่นี่ดูสิพวกเจ้า คุณชายสามฉินโมโหใหญ่แล้ว!พบเห็นได้ยากเสียจริง ที่โมโหแทนเจ้าคนพเนจรแค่หนึ่งคน! ฮ่าฮ่าฮ่า!
“บัดนี้จวนเซียวเกิดวิกฤติอีกครั้ง และนั่นก็ยังเป็นที่พำนักขององค์หญิงด้วย!องค์หญิงต้าถงเป็นถึงน้องสาวบุญธรรมของฝ่าบาท แค่พวกเจ้าไม่กลัวในการล่วงเกินตระกูลเซียวก็แย่พอแรงอยู่แล้ว พวกเจ้ายังจะไม่เกรงกลัวล่วงเกินฝ่าบาทด้วยอย่างนั้นหรือ?
คำพูดที่ฉินหนานพูดออกไป คุณชายตระกูลขุนนางสองสามคนก็ส่งเสียงหึในลำคอ กับแค่เจ้าหญิงที่มาจากที่อื่นมาต้าเว้ยจะมีอำนาจบาตรใหญ่อะไรนัก?
ที่เรียกกันว่าองค์หญิงต้าถง เป็นแค่ชื่อเท็จเท่านั้น
ถ้าหากองค์หญิงผู้นี้ชื่อเสียงมีอำนาจจริง แล้วเหตุเซียวเฉวียนจึงต้องถูกเนรเทศด้วยเล่า?
ฝ่าบาทอาจไม่ชอบเซียวเฉวียนมานานแล้ว และตอนนี้เขาอาจจะลืมเซียวเฉวียนไปแล้ว
ในสใชมัยโบราณผู้ชายก็เปรียบดั่งเทพสวรรค์ หากบ้านใดไม่มีผู้ชาย แม้ว่าผู้หญิงนี้จะเป็นองค์หญิง แล้วมันจะมีประโยชน์ใดเล่า?
“พวกเจ้า” ฉินหนานคไม่ถึงมาก่อน ว่ากลุ่มคนพวกนี้จะใจกล้ามากเพียงนี้ แม้แต่องค์หญิงก็ยังไม่เห็นอยู่ในสายตา!
“ปัง!”
จูโชงที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉินหนาน ก็ได้วางประทัดหนึ่งตับเข้าที่จวนเซียวอีกครั้ง
จพวกจูโชงต่างหัวเราะกันลั่น “สนุกจังเลยโว้ย!”
“พวกเจ้ารักแกข้าเกินไปแล้ว!” ฉินหนานโมโหถึงขีดสุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...