สรุปเนื้อหา บทที่ 412 เขาจะต้องกลับมา – ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บท บทที่ 412 เขาจะต้องกลับมา ของ ซูเปอร์ลูกเขย ในหมวดนิยายนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
หลังจากที่พี่เขยออกจากเมืองหลวงไปแล้ว สถานการณ์ที่จวนเซียวก็ยิ่งเลวร้ายลง
ถึงแม้จะมีองค์หญิงนั่งบัญชาการรักษาการณ์ด้วยตันเอง และยังมีอี้กุยช่วยดู แต่ทุกวันจวนเซียวก็ยังไม่ดีขึ้น
เริ่มแรกจวนเซียวนั้นขายผักกับข้าวมิได้ ต่อมาประตูก็เต็มไปด้วยมูลสัตว์ จนถึงตอนนี้ กิจการหอปี๋เซิ่งก็ทำต่อไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
เมื่อไม่มีเซียวเฉวียนอยู่ ในอดีตบรรดาผู้ที่ไม่ชอบเซียวเฉวียน ผู้ที่เคยถูกพรสวรรค์ของเซียวเฉวียนกดหัว หรือผู้ที่สูญเสียความมั่งคั่งทั้งหมดเพราะเซียวเฉวียนสร้างความวุ่นวายที่หอปี๋เซิ่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วจะมีกล้ามีผู้ใดกล้ามากิน
ชิงหยวนรอดพ้นได้เพราะถูกถ่ายโอนไปยังฝ่ายบริหารของเฉาสิงจือ
บัดนี้จวนฉิน นับวันยิ่งเหมือนกับเกาะร้างเข้าไปทุกที
ไร้ผู้คนเข้ามา และไม่ผู้ใดกล้าเข้ามา
ได้ยินมาว่ากษัตริย์ซีเจียงวางแผนที่จะให้องค์หญิงต้าถงกลับไปยังซีเจียง ถ้าหากองค์หญิงไปไม่มีแม้แต่คนเดียวที่มีสถานะที่แท้จริงในตระกูลเซียว เกรงว่าจะถูกคนรังแกเหยียดยามขึ้นมาจริงๆ
ถึงแม้จะมีอี้กุยอยู่ แต่อี้กุยก็เป็นเพียงพ่อค้าคนหนึ่งเป็นแค่ลูกคนรวยคนหนึ่ง ถ้าจะเปรียบเทียบฝีมือกับเซียวเฉวียนล่ะก็คงห่างชั้นกันมากโข
ถึงแม้ทุกคนล้วนพูดกันว่าเซียวเฉวียนไม่ทีทางกลับมาอีกแล้ว
แต่ฉินหนานผู้นี้เชื่อว่าเขาจะต้องกลับมา
ฉินหนานได้ยินมาว่า พี่เขยเคยพูดกับคนตระกูลฉินเอาไว้ เขาจะต้องกลับมาแน่นอน
คำที่พี่เขยกล่าวเอาไว้ ล้วนเป็นจริง
เพราะฉะนั้น ฉินหนานไม่อยากเห็นพี่สาวคนโตของตนโง่งมเยี่ยงนี้ เขาจึงควบม้าออกไป ไม่ว่าพี่สาวคิดจะทำอะไร ตนก็จะหยุดหล่อนไว้ให้ได้
มิใช่เพียงแต่มิตรภาพของตนและเซียวเฉวียน แต่เซียวเฉวียนยังคงสามารถดูแลตระกูลฉินได้
ถ้าหากพี่สาวทำเรื่องอะไรที่ไม่เป็นเรื่อง ตระกูลฉินเห็นทีคงจะจบสิ้นเสียแล้ว
หนานฉินไตร่ตรองไปควบม้าไปด้วย ไม่รู้ตัว ตนก็ถึงที่ประตูจวนฉิน โชคดีที่พี่สาวตนไม่ได้ก่อเริ่องวุ่นวายอะไร
ถึงฉินซูโหรวไม่อยู่ แต่กลับมีคุณชายตระกูลขุนนางสองสามคนโยนประทัดเข้าไปในจวนเซียวด้วยกำลังทั้งหมด หัวโจกไม่ใช่คนอื่นแต่อย่างใด เป็นจูโชง
“ปัง”
“ปังปังปัง!”
เสียงประทัดดังลั่น ด้านในก็มีเสียงกรีดร้องของหญิงสาวออกมา
“พวกเจ้าทำอะไรกัน?” เซียวหนานตะคอก ดูจากวิธีที่พวกเขาคุ้นเคยกับถนนแล้ว เกรงว่าพวกเขาจะทำแบบนี้หลายครั้งแล้ว
“โอ้ นี่ไม่ใช่คุณชายฉินสามหรอกหรือ? ทำไมเล่า? เจ้ายังอาลัยอาวรณ์กับเจ้าพี่เขยคนเก่าอยู่อีกหรือ? วันวันมาแต่จวนเซียว เจ้าไม่เบื่อหรือไร?
คุณชายตระกูลขุนนางสองสามคนหัวเราะดังลั่น ต่างก็ว่าสมองของคุณชายสามฉินไม่ดี เรียนหนังสือไม่ได้ ทำได้แค่เรื่องไร้สาระไปวันๆ
เมื่อตอนเซียวเฉวียนอยู่จวนฉิน ฉินหนานก็คอยออกโรงปกป้อง ตอนนี้เซียวเฉวียนไม่ใช่นายท่านของจวนฉินอีกต่อไปแล้ว ฉินหนานมาที่จวนเซียวของเซียวเพื่อส่งข้าวและน้ำมัน
เจ้าน้องเมียเก่าคนนี้ เรียกง่ายๆก็คือประจบสอพลอนั่นแหละ!
และไม่ได้ประจบสอพลอธรรมดาเสียด้วยสิ!
แต่ตอนนี้ตลอดทั้งชีวิตของเซียวเฉวียนก็เป็นได้แค่คนพเนจร แม้ว่าฉินหนานจะทำดีกับเซียวเฉวียนดีเยี่ยงนี้ จะได้อะไรตอบแทนบ้างเล่า?
ตอนนี้ตระกูลเซียวเต็มไปด้วยผู้หญิงที่ไร้ประโยชน์ ความใจดีของฉินหนานนี้ก็เหมือนเตะหมูเข้าปากหมา ไร้ทีท่าได้กลับคืนมา ฮ่าฮ่าฮ่า
“ข้าเต็มใจที่จะมา! พวกเจ้าไม่ต้องมายุ่ง! ฉินหนานชักกระบี่ออกมา แล้วตะโกนว่า “พวกเจ้าไสหัวไปให้พ้นหน้าข้า! ถ้าไม่ไสหัวไปล่ะก็ ตัวข้าผู้นี้จะฆ่าพวกเจ้าให้สิ้น!”
เมื่อเห็นทีท่าจริงจังของฉินหนาน คุณชายตระกูลขุนนางจากที่หัวเราะก็หัวเราะดังขึ้นอีก พวกเขาล้วนมีราชองครักษ์คุ้มกัน แต่เจ้าฉินหนาไร้ความรู้ผู้นี้นี่สิ ยิ่งไปกว่านั้นจูโชงได้พูดจาดูถูกว่า “นี่นี่นี่ดูสิพวกเจ้า คุณชายสามฉินโมโหใหญ่แล้ว!พบเห็นได้ยากเสียจริง ที่โมโหแทนเจ้าคนพเนจรแค่หนึ่งคน! ฮ่าฮ่าฮ่า!
“บัดนี้จวนเซียวเกิดวิกฤติอีกครั้ง และนั่นก็ยังเป็นที่พำนักขององค์หญิงด้วย!องค์หญิงต้าถงเป็นถึงน้องสาวบุญธรรมของฝ่าบาท แค่พวกเจ้าไม่กลัวในการล่วงเกินตระกูลเซียวก็แย่พอแรงอยู่แล้ว พวกเจ้ายังจะไม่เกรงกลัวล่วงเกินฝ่าบาทด้วยอย่างนั้นหรือ?
คำพูดที่ฉินหนานพูดออกไป คุณชายตระกูลขุนนางสองสามคนก็ส่งเสียงหึในลำคอ กับแค่เจ้าหญิงที่มาจากที่อื่นมาต้าเว้ยจะมีอำนาจบาตรใหญ่อะไรนัก?
ที่เรียกกันว่าองค์หญิงต้าถง เป็นแค่ชื่อเท็จเท่านั้น
ถ้าหากองค์หญิงผู้นี้ชื่อเสียงมีอำนาจจริง แล้วเหตุเซียวเฉวียนจึงต้องถูกเนรเทศด้วยเล่า?
ฝ่าบาทอาจไม่ชอบเซียวเฉวียนมานานแล้ว และตอนนี้เขาอาจจะลืมเซียวเฉวียนไปแล้ว
ในสใชมัยโบราณผู้ชายก็เปรียบดั่งเทพสวรรค์ หากบ้านใดไม่มีผู้ชาย แม้ว่าผู้หญิงนี้จะเป็นองค์หญิง แล้วมันจะมีประโยชน์ใดเล่า?
“พวกเจ้า” ฉินหนานคไม่ถึงมาก่อน ว่ากลุ่มคนพวกนี้จะใจกล้ามากเพียงนี้ แม้แต่องค์หญิงก็ยังไม่เห็นอยู่ในสายตา!
“ปัง!”
จูโชงที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉินหนาน ก็ได้วางประทัดหนึ่งตับเข้าที่จวนเซียวอีกครั้ง
จพวกจูโชงต่างหัวเราะกันลั่น “สนุกจังเลยโว้ย!”
“พวกเจ้ารักแกข้าเกินไปแล้ว!” ฉินหนานโมโหถึงขีดสุด
เหลืออีกห้าก้าวเท่านั้นก็ใกล้ตัวฉินหนานแล้ว!
ห้า!
สี่!
สาม!
ฉินหนานจ้องตาเขม็ง แรงสังหารพุ่งขึ้น
ในเวลานี้ อี้กุยที่มาส่งอาหารให้ที่จวนเซียว ก็เจอกลุ่มเหล่านี้กำลังทะเลาะวิวาทกัน ตะคอกไปว่า” หยุดเดี๋ยวนี้! หยุดเดี๋ยวนี้! เหตุใดถึงมาสร้างเรื่องวุ่นวายที่จวนเซียวกันเล่า?”
เสียงอี้กุยพูดยังไม่ทันจบ เหล่าราชองครักษ์ของคุณชายตระกูลขุนนาง ทันใดนั้นก็มีเสียงร้อง สะอื้นออกมาพร้อมกัน “เอ่อ……”
“ตูม!ตูม!”
พวกเขากุมหน้าอกแน่นอและขุกเข่าลงบนพื้น ในชั่วพริบตาใบหน้าก็ขาวเผือก!
อี้กุยและฉินหนานก็ต่างตกตะลึง นี่มันคืออะไรกัน?
“เจ้าพวกไร้ค่า! ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้!” จูเชิงปิดใบหูของตน ให้ตายเถอะ นี่ยังไม่ได้เริ่มสู้ด้วยซ้ำ ก็คุกเข่าลงเสียแล้วหรือ? นี่มันไม่ใช่หักหน้าจูโชงไปหรอกหรือ?
“เอ่อ!” ราชองครักษ์ที่เดินอยู่บนถนน ก็คุกเข่าลงที่พื้นกันทีล่ะคน ในปากก็ส่งเสียงสะอื้นมาพร้อมกัน!
ฉินหนานขมวดคิ้ว นี่มันช่างแปลกยิ่งนัก!
คนที่อ่านตำราโบราณมานับไม่ถ้วนอย่างอี้กุย ย่อมมีญาณรับรู้และติดต่อถึงผนึกจูเสินและทาสคุนหลุน ดวงตาเขาเบิกโพลง แน่น่อนว่าต้องเป็นท่านปู่!
“เข้าใกล้จะกลับมาแล้ว!”
อี้กุยพูดกับฉินหนานด้วยความตื่นเต้น
จูโชงและคนอื่นๆต่างตกใจ เหงื่อไหลพลั่ก อีกุ้ยที่เขาพูดถึง เป็นเซียวเฉวียนอย่างนั้นหรือ?
เป็นไปได้อย่างไรกัน?
เซียวเฉวียนเพิ่งจะไปเกาะจูเสินไม่กี่วันไม่ใช่หรือ? หนึ่งเดือนก็ยังไม่ถึงด้วยซ้ำ!
ทำไมเขาถึงกลับมาแล้วล่ะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...