เหล่านักฆ่าชาวยุทธ์อยากเฉินอี้พวกนี้ อยากจะสร้างบารมีให้คนเรียกขาน และแน่นอนว่าเขาต้องคิดอยากสังหารน้องชายอายุห้าขวยของเว่ยชิงรายนั้น หรือก็คือนายน้อยของรัฐไป๋ลู่
หรือไม่อย่างนั้น ขอเพียงนายน้อยผู้นี้ยังมีชีวิตอยู่ รัฐไป๋ลู่ก็จะถือว่ามีนาย พวกเฉินอี้เองก็ไม่อาจเป็นผู้ปกครองที่แท้จริงได้
จนใจแต่ว่านายน้อยผู้นี้อยู่ที่ใดไม่ทราบ เฉินอี้สงสัยว่าเป็นฉินเซิงที่พานายน้อยหนีไป
ดังนั้นแล้ว พวกนักฆ่าในยามนี้จึงยังไม่ได้สังหารฉินเฟิงกับฉินซูโหรว เป็นแบบนี้จะได้มีเงื่อนไขไว้ต่อรองกับฉินเซิง
พวกชิงหลงสีหน้าแข็งค้าง พวกเขามาถือโอกาสกินดื่ม แล้วค่อยฉวยโอกาสกำราบพวกนักฆ่ายุทธภพพวกนี้เสีย แต่ไม่ได้คิดจะช่วยพวกเขารบทัพจับศึกแต่อย่างใด
ทว่าเฉินอี้ทั้งหลายทำสีหน้า เจ้ากินดื่มและพักในที่ของข้า ไม่คิดจะทำงานสักหน่อยหรือ?
เซียวเฉวียนหยิบน่องไก่ขึ้นมาก่อนจะตีไปบนหัวของเฉินอี้ “เจ้านี่! เจ้ากล้าใช้ท่านเทพให้ทำงานเรอะ? ต่อให้เป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ยังต้องมองสีหน้าข้าสักหลายส่วนเลย! เจ้ายังกล้าจัดการข้า!”
เซียวเฉวียนมีกำลังวังชาขึ้นมา สายตาเรืองรอง พู่กันเฉียนคุนกับภาพรุ่งอรุณใบไม้ผลิคุนหลุนส่งเสียงดัง “ฟึ่บ” พุ่งออกมาจากชายเสื้อของเซียวเฉวียนก่อนจะลอยอยู่กลางอากาศ เตรียมตัวจะลงมือต่อยกับเฉินอี้เป็นเพื่อนเจ้านาย
พู่กันเฉินคุนทอประกายสีแดงเล็กน้อย ส่วนภาพวาดรุ่งอรุณนั้นกลับยิ่งค่อยๆ แผ่ภาพออก ไม่มีใครจับพวกมันขยับ แต่พวกมันดันขยับเองได้งั้นหรือ? เรื่องนี้ทำเอาเฉินอี้มึนงงไปหมด
“มองอะไรกันล่ะ! นี่คืออาวุธของข้า!” เซียวเฉวียนกระโจนขึ้นบนโต๊ะก่อนจะกระทืบหน้าโต๊ะสั่นสะเทือน!
พี่ใหญ่เป็นเช่นนี้แล้ว พวกเว่ยไป๋ย่อมต้องติดตามด้วย!
เว่ยไป๋รวมไปถึงสิบเจ็ดอรหันต์เองก็ค่อยๆ พากันใช้เท้ากระทืบลงบนโต๊ะคนละข้าง การกระทืบนี้ จานกับข้าวและจอกสุราต่างสะเทือนคว่ำสิ้น!
ต่งจัวยังจะใช้ฝ่ามือตบโต๊ะลงมาอย่างแรงโดยพลัน พลังของชาวยุทธ์แท้นั้นมีพลังมหัศจรรย์รุนแรง โต๊ะพลันแตกออกทันที!
เว่ยอวี๋สีหน้าแข็งค้าง เขาตัวสั่นงันงกก่อนจะเอาเท้าเหยียบลงบนโต๊ะ แล้ววางบารมีขามไปกับชาวบ้านด้วยอย่างไม่ค่อยมีกำลังวังชานัก “เฮอะ...”
พวกเฉินอี้ไฉนเลยจะเคยเห็นอาวุธเช่นนี้ และกระบวนท่าแบบนี้ เซียวเฉวียนเผยสายตาดุดัน “เจ้าพูดคำที่เจ้าว่าไว้เมื่อครู่อีกรอบหนึ่งซิ! ตัวข้าละเกลียดที่สุดก็คือมีคนสั่งให้ข้าทำงานให้นี่ละ! เหล่าเซียนบนฟากฟ้าร้องขอให้ข้าทำงาน นั่นยังต้องถวายท้อเซียนให้ข้า!พวกเจ้าให้ข้ากินแค่นี้ ยังคิดจะให้ข้าทำงานอย่างนั้นหรือ?”
ยามที่เซียวเฉวียนเอ่ยวาจาเช่นนี้ พวกเว่ยอวี๋ล้วนเหงื่อตกเย็น ครานี้หากว่าเสแสร้งไม่ดี เช่นนั้นก็อาจถึงแก่ชีวิตได้
บางทีอาจจะเพราะเซียวเฉวียนโอหังมากไปหน่อยและมีท่วงท่าที่มั่นอกมั่นใจ หรือบางทีอาจจะเพราะพู่กันเฉินคุนและภาพวาดรุ่งอรุณนั้นเหมือนของใช้เทวะเป็นอย่างมาก เฉินอี้จึงตกตะลึงจนพูดจาติดอ่าง “ขอ...ขออภัย ท่านเทพเซียว ข้าก็แค่พูดไปอย่างนั้น ก็ ก็เท่านั้น”
เซียวเฉวียนแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่งก่อนจะหัวเราะได้ใจ เขาพลันเก็บอารมณ์โกรธในหนึ่งวินาที “อย่างนั้นหรือ เจ้าเองก็อย่าร้อนรนไป ข้าก็แค่เอ่ยปากระบายโทสะไปก็เท่านั้น”
กล่าวจบ เขาก็โบกมือ พู่กันเฉียนคุนและภาพวาดอรุณรุ่งก็กลับเข้าสู่ชายเสื้อเขาอีกครั้ง เซียวเฉีวยนหันกาย ก่อนจะออกคำสั่งให้เว่ยอวี๋และทุกคนเอาเท้าลง “เพ้ยๆๆ ท่าทางเช่นนี้ไม่มีมารยาทเลย! พวกเจ้าทำกับข้าวทำสุราหกหมดแล้ว! นี่จะกินกันอย่างไร!”
“ไม่เป็นไรไม่เป็นไร! ข้าจะสั่งให้คนจัดเอามาให้ใหม่! จะต้องให้ท่านเซียนทั้งสองคนกินดีอยู่ดีเป็นอันแน่!”
เซียวเฉวียนระเบิดโทสะเช่นนี้ เฉินอี้ไม่เพียงแต่ไม่โกรธแต่กลับยิ่งยินดีกว่าเดิม ดูไปแล้วเซียวเฉวียนเป็นเทพจริงๆ!
พู่กันกับภาพวาดนั้นช่างลึกลับเป็นที่สุดเลย!
เฉินอี้มีท่าทีเป็นมิตรมากขึ้นทุกที ทำเอาพวกเว่ยอวี๋นั้นนับว่าได้รู้เห็นโลกอย่างแท้จริง เรื่องหน้าไม่อายของเขานี้นับว่าไม่มีใครต่อกรได้
เซียวเฉวียนเก็บขาลง ก่อนจะตบชายเสื้อ เขาเอ่ยอย่างมั่นใจประหนึ่งอยู่บ้านตัวเองก็ไม่ปาน “มา! กินดื่มต่อ!”
กล่าวแล้ว เขาก็หันหน้าไปพูดกับเฉินอี้ “เจ้าวางใจ! รอจนถึงเวลาประจวบเหมาะ ข้าย่อมจะช่วยพวกเจ้าสังหารนายน้อย แล้วช่วงชิงเอารัฐไป๋ลู่มาในครั้งเดียวแน่”
เฉินอี้ที่เมื่อครู่ตื่นตะลึงจนตาถลนปากอ้า พอได้ยินว่าเซียวเฉวียนยินดีช่วยตัวเอง เขาก็พยักหน้ายินดีไม่หยุด “เยี่ยมๆๆ! ขอบคุณท่านเทพ! ขอบคุณ!”
“มาๆ! เติมเหล้าเติมเครื่องปรุงเสีย! พวกเรามาดื่มให้ท่านเทพจอกหนึ่ง!”
ในจวนผู้ครองรัฐยามนี้คึกคักเป็นพิเศษเพราะมีพวกเซียวเฉวียนมา
ข่าวเล่าลือจากหนึ่งไปสิบไปร้อย ด้วยความรวดเร็วทุกคนก็รู้ว่าฟ้าได้ลดตัวลงมาเป็นนิมิตมงคล เซียนคุนหลุนมากันถึงสองท่าน และต้องการช่วยพวกจอมยุทธ์ชิงเอารัฐไป๋ลู่ให้สำเร็จ!
ได้ยินมาว่าอาวุธของเทพเซียนนั้นดูพิสดารเป็นที่สุด มันขยับเองได้ด้วย!
มีท่านเทพทั้งสองอยู่ พวกชาวยุทธ์ต้องได้ชัยชนะเป็นน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...