จวนผู้ครองรัฐ ห้องเล็กๆ ทางด้านเหนือห้องหนึ่ง
ฉินซูโหรวกับฉินเฟิงถูกกักอยู่ในนี้ แม่กุญแจขนาดใหญ่ทั้งหนาทั้งหนักถูกคล้องไว้ตรงประตู ส่วนนอกประตูนั้นมีเพียงชาวยุทธสองคนเดินเฝ้าระวังไปมาอย่างหละหลวม
ยิ่งตอนนี้เมืองหนานโตวของรัฐไป๋ลู่ทั้งหมดล้วนเป็นของเหล่าจอมยุทธ์แล้ว พวกเขาไม่เชื่อว่าจะมีใครกล้าบุกเข้าจวนอ๋องมาพาตัวสองพี่น้องนี้ไป
ฉินซูโหรวด้านหนึ่งคอยดูแลฉินเฟงที่มึนๆ งงๆ อีกด้านหนึ่งคิดหาวิธีหนีออกไป ทว่าในห้องนี้ก็คล้ายกับมีกำแพงลับที่ลมไม่พัด ต่อให้นางมีปีกก็ยากหลีกหนี
แถมอากาศยังร้อนอ้าว นางกับฉินเฟิงต่างอุดอู้จนร่างกายออกเหงื่อ นางรู้สึกรุ่มร้อนแทบไม่ไหว จึงเริ่มด่าทอบ่น ทว่านอกจากส่งข้าวส่งน้ำแล้วก็ไม่มีใครมาสักคน นางด่าให้ตายก็ไม่มีความหมาย ดังนั้นจึงหุบปากเสีย
ตกต่ำจนกลายเป็นนักโทษก็ช่างเถอะ ข้างหูของฉินซูโหรวยังต้องได้ยินชื่อเซียวเฉวียน เซียวเฉวียน ซ้ำๆ
ชาวยุทธ์สองคนที่เฝ้าประตูอยู่นั้น นับถือและฝากความหวังไว้กับตัวเซียวเฉวียนสูงลิ่ว
วันๆ พวกเขาเอาแต่พูดว่าท่านเซียนเก่งกาจเพียงไหน อาวุธนั้นลึกลับอย่างไร หรือว่าทุกวันเขาดื่มกินและเล่นสนุกเพียงไหน พวกเขาอิจฉาเซียวเฉวียนเป็นที่สุดที่ได้รับความชื่นชมจากเหล่าพี่ใหญ่ของพวกเขา
พวกเฉินอี้เองก็ประคองเซียวเฉวียนประหนึ่งเขาเป็นเทพก็ไม่ปาน ทุกวันนั้นกินแต่ของป่าหรืออาหารทะเล ลูกน้องสองคนที่เฝ้าประตูนั้นพูดจนน้ำลายสอหมดแล้ว
เห็นได้ชัดว่า เซียวเฉวียนอยู่ดีกินดีที่นี่ยิ่ง นั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้เห็นกันอยู่ เขากับชาวยุทธ์มิใช่ว่ามีความผิดร่วมกันหรือไร?
ฉินซูโหรวกำหมัดแน่น นางต้องทนทุกข์อยู่ที่นี่ ทว่าเซียวเฉวียนกลับกินเล่นดื่มสนุกอยู่ที่นี่ เกินไปแล้ว!
ดังนั้น นางจึงพุ่งตัวไปตะโกนเรียกสองชาวยุทธ์ “พวกเจ้าถูกหลอกแล้ว! เขาไม่ใช่เทพอะไร! เขาคือเซียวเฉวียนที่ปีที่แล้วสอบได้จอหงวนในเมืองหลวง! แล้วก็เป็นอดีตลูกเขยของจวนฉินด้วย!”
ฉินซูโหรวคิดว่าพอนางพูดแบบนี้ คนเขาจะเชื่อ
แล้วยิ่ง นางคือคุณหนูใหญ่ของตระกูลฉินแถมยังเป็นจวิ้นจู๋ ที่นี่จะมีใครคุ้นเคยกับเซียวเฉวียนเสียยิ่งไปกว่านางอีกล่ะ?
ผลก็คือ ลูกน้องสองคนที่เฝ้าประตูอยู่นั้นกลับไม่ได้สนใจฉินซูโหรวเลย พวกเขายังส่ายหน้าด้วย “ผู้หญิงคนนี้มิใช่ว่าถูกขังจนเป็นบ้าไปแล้วหรือ?”
“ข้าเห็นว่าใช่ เจ้าดูนางงดงามหยดหย้อย จะไปทนรับโทษเช่นนี้ได้อย่างไร มาถึงที่นี่ ขวัญคงกระเจิงไปหมดแล้ว”
“นั่นสิ ข้าได้ยินมาว่านางพูดจาเหมือนคนบ้าก็ไม่ปาน เฮ้อ น่าสงสารนัก สวยขนาดนี้”
ภายในห้อง ฉินซูโหรวโมโหจนแทบจะไม่มีวาจาพูดแล้ว เซียวเฉวียนกรอกน้ำยาหลงใหลให้คนพวกนี้กินหรือไง นางกระแทกประตู “พวกเจ้ากล้าพูดว่าจวิ้นจู่เช่นข้าเป็นยายบ้างั้นหรือ? ข้าสิเห็นว่าพวกเจ้าบ้าไปแล้ว ไม่แยกคนและเทพเซียนออกจากกัน ถึงกับถูกคนโง่หลอกจนสับสนไปหมดแล้ว!”
ฉินซูโหรวด่าออกมาเป็นฉากๆ ทว่าชาวบ้านกลับไม่ได้สนใจนางแถมยังรังเกียจที่นางส่งเสียงหยาบคายหนวกหู พวกเขาจึงนั่งห่างออกมาหน่อย และลากเอาโต๊ะเล็กสำหรับวางของกินดื่มสุราออกมาด้วย
“เฮอะ!”
ฉินซูโหรวนั่งลงอย่างอ่อนล้าบนพื้น สภาพอนาถยิ่ง
เพราะเหตุใด? ท่านพ่อและฝ่าบาทถึงไม่ส่งคนมาช่วยพวกนางเลย?
นางถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะลูบหน้าท้อง หากมิใช่ว่ามีครรภ์ติดตัว นางคงจะตายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!
ภายในห้องหลังนี้ ร้องเรียกฟ้าฟ้าไม่ขานตอบดินไม่สนใจ ไม่มีใครให้เกียรตินางและไม่มีใครยินดีมาใส่ใจนาง นางกับฉินเฟิงก็เหมือนกับแกะที่รอวันถูกเชือด ต้องใช้เวลาทุกนาทีและวินาทีไปอย่างตัวสั่นงันงก ด้วยไม่รู้ว่าดาบสังหารของชาวยุทธ์จะสับลงมาเมื่อใด
วันและคืนสับเปลี่ยน ฉินซูโหรวอาศัยเงาแสงภายในห้องพยายามนับว่าผ่านไปกี่วันแล้ว แล้วตอนนี้เป็นเวลากี่โมง นางใคร่ครวญคิดอยากหนีออกไปแต่กลับไม่รู้ว่าจะหนีเช่นไร
หนทางนั้นมีแต่เรี่ยวแรงไม่พอ เป็นสถานการณ์ที่ฉินซูโหรวลำบากใจที่สุด
นางเอาศีรษะพิงประตูแต่กลับสบเข้ากับสายตาสว่างสองคู่แทน
คนสองคนนั้นไม่ได้รู้ว่าเข้ามาในห้องตั้งแต่เมื่อใด และไม่รู้ว่าเห็นสถานการณ์อันรันทดของนางมานานแค่ไหนแล้ว
เป็นเซียวเฉวียนและต่งจัง ทั้งร่างของพวกเขาล้วนแต่เขียนคำว่า พี่ชายมาช่วยเจ้าแล้ว ขอร้องพี่ชายสิ
“เซียวเฉวียน! ท่านมาที่นี่ทำอะไรกัน?” ฉินซูโหรวครั้นเห็นเขาเข้าก็แค้นจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “นี่ท่านมาดูเรื่องตลกของข้ากระนั้นหรือ?”
“มาช่วยเจ้า รวมถึงฉินเฟิง”
เซียวเฉวียนหรี่ตามองสองพี่น้องคราหนึ่ง คุณชายใหญ่ตระกูลฉินและจวิ้นจู่ผู้มีเกียรติถึงกับตกต่ำจนอยู่ในสภาพดังขอทานเช่นนี้ เขาเพิ่งได้เห็นเป็นครั้งแรก
ทว่าบาดแผลของฉินเฟิงไม่ได้อักเสบตั้งแต่เกิดเรื่อง ยังไม่เลว เซียวเฉวียนยิ้มอย่างพอใจ เหล้าบริสุทธิ์นั้นดันมีผลดีสามารถฆ่าเชื้อได้ชะงัดนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...