ตอน บทที่ 429 จิตใจแห่งการฝึกตน จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 429 จิตใจแห่งการฝึกตน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ที่ชิงหลงกังวลไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผล แต่จนถึงวันนี้รัฐไป๋ลู่หมดหนทางแล้ว
เจียงหูเค่อทุกทิศทางมีแต่ความเดือดร้อนไปหมด ชาวบ้านพลัดถิ่นไปคนละทิศทาง แม้แต่จวนเจ้าครองนครก็กลายเป็นที่หลบซ่อนของพวกกลุ่มโจร
แต่ถ้าเซียวเฉวียนไม่ขึ้นมาแทน หรือว่าเพราะเห็นว่ารัฐไป๋ลู่เป็นดินแดนที่สวยงามอุดมสบูรณ์ กลายเป็นที่ที่ประชาชนใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก?
เลือดของเว่ยอวี๋ ยึดติดอยู่บนตราประทับเหวินอิ้น สีแดงบนท้องฟ้ายิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
บาดแผลบนมือของเว่ยอวี๋เป็นแผลโดนกรีดด้วยมีด เจ็บจนเขาร้องออกมา
“เอาละ เจ็บมากรึ?”
เว่ยอวี๋ใช้มือกดบาดแผล ทำให้มีเลือดไหลหยดออกมา “เจ้า นี้มันตราประทับเหวินอิ้นมีไว้เพื่อการใด?เหตุใดต้องใช้เลือดของข้าด้วยเล่า”
“ใช้ส่งสัญญาณผ่านอากาศได้ ทำเหล่าผู้อารักขาได้ยิน”
เซียวเฉวียนสีหน้าเข้มขรึม เขามาที่ต้าเว่ยนานแล้ว และค่อยปรับตัวให้เข้ากับกิจการงานต่างๆ ของต้าเว่ย เว่ยอวี๋มีสีหน้าตกตะลึง “ต้องทำให้ลำบากขนาดนี้เชียวหรือ!เลือดข้าออก!แค่โทรศัพท์เครื่องหนึ่งก็จัดการเรื่องได้แล้ว?”
“อื้ม” เซียวเฉวียนพยักหน้า ตบไหล่ของเว่ยอวี๋ : “เจ้าควรปรับให้เข้ากับต้าเว่ยได้โดยเร็ว โทรศัพท์มือถือนี้ เจ้าไม่ต้องคิดแล้ว”
“ข้าปรับตัวได้อย่างดีนะ!” เว่ยอวี๋ส่งเสียง “เหอะ” ออกมา “ถ้าตราประทับเหวินอิ้นนี้ไม่ต้องใช้เลือดของข้า ข้าจะคิดเรื่องที่เกี่ยวกับโทรศัพท์นี้ได้อย่างไร?”
เว่ยอวี๋ทั้งพูดบ่นไปด้วย และร้องไห้ไปด้วย ท่านอ๋องสิบหกร่างกายอ่อนแอ เว่ยอวี๋เป็นคนหยิ่งผยอง ร้องไห้ออกมาเพื่อทำลายบรรยากาศความกล้าหาญของเซียวเฉวียน คนที่เจ็บก็คือเว่ยอวี๋ ทว่าเซียวเฉวียนกลับนิ่งสงบ
ผู้อารักขาได้ยินเสียงของเซียวเฉวียน ตราประทับเหวินอิ้นยิ่งชัดเจนขึ้น เมฆหมอกหนา พายุฝนกำลังมา
“ดีล่ะ น่าจะได้แล้ว”
เซียวเฉวียนเห็นตราประทับเหวินอิ้นเป็นแสงสีแดงส่องออกมา เพียงพอที่จะสาดส่องทั้งรัฐไป๋ลู่ ดังนั้นไม่ต้องให้เว่ยอวี๋หยดเลือดต่อไปแล้ว ต้องรีบไปทำแผล
ชิงหลงมองดูเว่ยอวี๋ที่สงบนิ่งอยู่ ทันใดนั้นเดินเข้าไปหนึ่งก้าว “ใต้เท้าเซียว ข้าอยากจะขอวัดชีพจรท่านเสียหน่อย”
“ห๊า?” เว่ยอวี๋ตกใจตาโต:“คนที่บาดเจ็บคือข้า!เจ้าจะไปวัดชีพจรเขาเพราะเหตุใด!”
ชิงหลงส่ายหัว ยิ้มเล็กน้อย :“ท่านอ๋องสิบหกล้อเล่นแล้ว ชิงหลงรักษาอาการป่วยไม่ได้ ชิงหลงแค่ต้องการแน่ใจเรื่องเรื่องหนึ่งเท่านั้น”
ชิงหลงมองเซียวเฉวียนโดยไม่คิดจะขัดขวาง ต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว ความกล้าหาญแบบนี้ เหมือนกับปีศาจกวีอย่างมาก
ปีศาจกวีเป็นคนแรกของต้าเว่ยที่ได้สัมผัสกับคนของกวีสมุทรคุนหลุน และมีความคุ้นเคยกับคนคุนหลุนอย่างยิ่ง ปีศาจกวีไม่มีความเคารพต่อฮ่องเต้ของต้าเว่ย แต่สำหรับคนคุนหลุนกลับเป็นมิตร
เช่นนั้น ในฐานะคุณหลุน
คนของชิงหลงรู้จักคุ้นเคยเรื่องของปีศาจกวีมาก
ปีศาจกวีรับเซียวเฉวียนเป็นลูกศิษย์ ที่จริงแล้วคนคุนหลุนก็เคยได้ยินมาก่อน เพียงแต่เซียวเฉวียนไม่มีชื่อเสียง ถึงแม้ว่าจะเก่งกาจโดดเด่นจากผู้อื่น แต่ความสามารถก็มีขีดจำกัด เช่นนั้นที่ผ่านมาคนคุณหลุนก็ไม่ได้ให้ความสนใจต่อเซียวเฉวียนมากนัก
ครั้งนี้ เซี่ยวเฉวียนจุดไฟเผาเกาะจูเสิน ถึงทำให้คนคุนหลุนให้ความสนใจต่อเซียวเฉวียนที่เก่งกาจโดดเด่นจากผู้อื่น
หลังจากที่เซียวเฉวียนออกมาจากเกาะจูเสินแล้ว ชิงหลงก็สงสัยเรื่องๆ หนึ่งมาตลอด แต่ไม่เคยพูดออกมา
เขาสงสัยมาตลอด ปีศาจกวีรับเซียวเฉวียนเป็นลูกศิษย์ ไม่ใช่เพราะเซียวเฉวียนเก่งกาจโดดเด่นจากผู้อื่น แต่เป็นเพราะเซียวเฉวียนมีจิตใจแห่งการฝึกตน
ที่จริง ปีศาจกวีไม่เพียงแต่เป็นเพียงคนเดียวของต้าเว่ยที่สัมผัสติดต่อกับคนของกวีสมุทรคุนหลุนได้ แม้เอาคนทั้งหมดของคุนหลุนมารวมกัน เขาก็เป็นเพียงคนเดียวที่สามารถสัมผัสติดต่อกับคนของกวีสมุทรคุนหลุนได้
ในฐานะที่เป็นคนที่มีจิตใจแห่งการฝึกตน ปีศาจกวีอยู่ที่เทือกเขาคุนหลุนจึงเลื่อมใสศรัทธา
เพียงแต่หลายวันที่ผ่านมานี้ได้รู้แล้วว่า เซียวเฉวียนไม่ปกติ และยังชอบหลอกลวง ไม่เหมือนกับคนที่มีจิตใจแห่งการฝึกตนเลยสักหน่อย
คนที่มีจิตใจแห่งการฝึกตน ควรเหมือนกับปีศาจกวี มีความชอบธรรม มีนิสัยตรงไปตรงมา
แต่กระทั่งบัดนี้ ชิงหลงเห็นเซียวเฉวียนไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เมื่อได้ตราประทับเหวินอิ้นก็ต้องการต่อสู้ทันที ชิงหลงสงสัย เซียวเฉวียนมีจิตใจแห่งการฝึกตนจริงหรือ
เซียวเฉวียนต้องมีความมั่นใจ ถึงกล้าที่จะทำเช่นนี้
ปีศาจกวีรับเป็นลูกศิษย์ ก็ไม่ไช่ว่าจะรับกันได้ง่ายๆ โดยไม่สนใจอะไร
โลกใบนี้ ไม่มีใครคิดมาก่อนว่าปีศาจกวีทำไมถึงได้รับเซียวเฉวียนเป็นลูกศิษย์ ทุกคนเพียงแค่รู้สึกว่าปีศาจกวีพลาดไปแล้ว รับเป็นศิษย์ทำเหมือนกับเป็นเรื่องเล่นๆ
คำพูดนี้ของเซียวเฉวียน เว่ยอวี๋กับตงจั่วไม่มีท่าทีตอบกลับอะไร ทว่าเว่ยป่ายที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับตกใจตัวสั่น
พี่ใหญ่ฆ่าปีศาจกวี?
ที่เกาะจูเสิน เว่ยป่ายได้ยินเรื่องการตายของปีศาจกวีจากปากของเซียวเฉวียน แต่ตอนนั้นเซียวเฉวียนไม่ได้พูดว่าเว่ยเชียนชิวเป็นคนฆ่า......
เพราะเหตุใด เว่ยอวี๋กับตงจั่วทั้งสองคนนี้ไม่มีท่าทีตอบรับอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว?ท่าทางเป็นปกติ?เหมือนกับว่าเว่ยเชียนชิวฆ่าคนกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว
ในใจของเว่ยไป๋ เว่ยเชียนชิวเป็นแบบอย่างของพี่ใหญ่ที่ดีมาตลอด เป็นไปไม่ได้ที่จะเขาฆ่าคน
เซียวเฉวียนเห็นเว่ยไป๋ตกใจจนหน้าซีดขาวเล็กน้อย เซียวเฉวียนพูดเบาว่า:“ลุงเว่ย เดี๋ยวไว้ข้าค่อยบอกรายละเอียดเรื่องเว่ยเชียนชิวกับเจ้า”
“อื้ม” เว่ยไป๋พยักหน้า
เซียวเฉวียนพวกเขากำลังจะกลับไปยังเมืองหลวง เว่ยไป๋ต้องรู้ว่าตอนนี้เว่ยเชียนชิวเป็นอย่างไร มิฉะนั้นเว่ยไป๋จะต้องตกใจจากการกระทำของเว่ยเชียนชิว
“ชิงหลง เจ้าบอกว่าอาจารย์ของข้าตายแล้ว เกี่ยวอะไรกับการมีจิตใจแห่งการฝึกตน?”
เซียวเฉวียนรู้สึกมาตลอดว่าการตายของปีศาจกวีจะต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล ด้วยความสามารถของปีศาจกวี เว่ยเชียนชิวหลานคนนั้นจะสามารถเอาชนะได้งั้นหรือ?
ชิงหลงรู้สึกลำบากใจ “ท่านยัง......อย่าเพิ่งรู้เลย”
“เพราะเหตุใด”เซียวเฉวียนไม่ชอบคนที่พูดทิ้งไว้ครึ่งๆ กลางๆ คนสมัยก่อนมีคุณธรรมมาก ผ่านเรื่องราวซ้ำไปซ้ำมา อยากจะพูดออกมาแต่ก็ไม่พูด
เว่ยอวี๋เกลียดมากและพูดออกไปตรงๆ ว่า:“ตกลงเจ้าจะพูดหรือไม่พูด!ถ้าไม่อยากพูด แล้วจะพูดขึ้นเพราะเหตุใดเล่า?”
“เอาละ ข้าจะพูด ” ชิงหลงเป็นคนคุนหลุน เซียวเฉวียนและเว่ยอี๋เห็นเขาเป็นเหมือนเพื่อน เรื่องนี้ห้ามให้คนคุณหลุนรู้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
ที่จริงที่เขาไม่พูด ก็เพื่อเซียวเฉวียน ชิงหลงมีความรู้สึกสงสัยต่อเซียวเฉวียนอย่างนี้ ปีศาจกวีน่าจะไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้กับลูกศิษย์คนนี้มาก่อน
จิตใจแห่งการฝึกตน ในโลกนี้มีเพียงคนเดียว
หากมีมากกว่าหนึ่งคน ที่เหลือต้องตายเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...