บทที่ 439 กวีสมุทรคุนหลุน – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย
ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 439 กวีสมุทรคุนหลุน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ก็เหมือนกับที่เซียวเฉวียนว่าเอาไว้ ชาวยุทธ์กว่าสามหมื่นคนตรงนี้ ไม่อาจเหลือทิ้งไว้ได้สักคน สักคนก็ไม่อาจ!
เลือดกับน้ำฝนผสมอยู่ด้วยกัน ชาวยุทธ์แต่ละคนหลังจากล้มลงแล้วก็พากันพุ่งตัวขึ้นมาทีละคน!
คนแล้วคนเล่า!
คนแล้วคนเล่า!
ไม่ว่าจะเป็นชาวยุทธ์หรือว่าผู้อารักขา ผู้ที่อยู่ด้านหลังล้วนเหยียบศพของคนที่อยู่ด้านหน้าแล้วพากันรุกไปไม่หยุด!
ผู้อารักขานั้นความเร็วสูงยิ่ง ดาบกระบี่ของพวกเขากลับยิ่งเร็วกว่าถึงขึ้นไม่เห็นแม้แต่เงา!
ฟ้าดินเปลี่ยนสี
ดิน เริ่มแปดเปื้อนสีแดงแล้ว
จะอย่างไรเฉินอี้ก็คาดไม่ถึงว่า เขาจะบุกเอาชนะรัฐไป๋ลู่ได้ง่ายดายเพียงนี้
รัฐไป๋ลู่นั้นกลายเป็นถุงกระสอบไร้ราคาไปแล้ว มาตอนนี้กลับต้องมาทนรับการโต้กลับอย่างรุนแรงปานนี้!
ลูกน้องของเฉินอี้นั้นตายไปทีละคนทีละคน ไม่ว่าพวกเขาจะส่งคนออกไปมากเท่าใด เหล่าผู้อารักขาก็สังหารได้ไม่มีพลาด และดูเหมือนจะไม่หยุด!
“ขึ้นไป! ขึ้นไป! ขึ้นไป!”
เฉินอี้เลือดขึ้นตาแล้ว! เขาไม่เชื่อหรอกว่ามีกันสามหมื่นคนแล้วจะเอาชนะเซียวเฉวียนไม่ได้!
คนของเซียวเฉวียน เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีมากเท่าเขา!
ความคิดนี้ของเฉินอี้ประหนึ่งความคิดของเด็กน้อยก็ไม่ปาน
แม้ว่าคนของเซียวเฉวียนจะไม่มากแต่ว่าก็ยึดครองชัยภูมิที่ทรงพลัง
ตอนนี้พวกเขาก็คล้ายตะพาบที่ถูกกักอยู่ในไห ออกมาหนึ่งคนเซียวเฉวียนก็สังหารไปหนึ่งคน ต่อให้พวกเฉินอี้จะมีสามหมื่นคน เซียวเฉวียนต้องการจะชนะ ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้!
เซียวเฉวียนอาบพายุฝนคาวเลือดอยู่ที่นี่ จิตใจประหวั่นขวัญแขวน ทว่าที่เมืองหนานโตวกลับสงบเงียบ
เฉินอี้ยังหวังว่าจะมีคนมาช่วยสนับสนุนเขาแต่กลับไม่มีใครมา
ไม่มีใครมาสักคน
ผู้อารักขานับหมื่นหลังจากได้รับพลังจากการขานกลอนของเซียวเฉวียน ก็เหมือนดังพระอรหันต์เสด็จลงมาก็ไม่ปาน สังหารเหล่าชาวยุทธ์จนไม่วางมือ
ไม่ถูกสิ ชิงหลงหันหน้าไปมองเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนหลับตาอยู่ตลอด มุมปากนั้นเอาแต่พึมพำบทกลอน
เสียงแทรกนั้นดังมากไป ชิงหลงฟังไม่ออกว่าเขาสวดอะไรอยู่ ทว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป เซียวเฉวียนย่อมจะต้องทนไม่ไหวเป็นอันแน่!
“แม่ทัพเจียง! เซียวเฉวียนแตะระดับกวีสมุทรคุนหลุนแล้วอย่างนั้นหรือ?”
ชิงหลงหันไปถามอย่างร้อนรน ฉินเซิงส่ายหน้า “ไม่นี่! อย่างน้อยก่อนหน้าเมื่อวานก็ยังไม่ถึงนะ!”
“ถ้าอย่างนั้นเขาควบคุมผู้อารักขามากมายปานนั้น ไม่ถึงแก่ชีวิตหรอกหรือ?” ชิงหลงท่าทางอยากจะหยุดเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนยังไม่ทันได้ไปคุนหลุนเลย จะมาตายที่ต้าเว่ยไม่ได้นะ!
“เซียวเฉวียน! พอแล้ว!” ชิงหลงผลักเซียวเฉวียนครั้งหนึ่ง แต่กลับพบว่าทั้งร่างของเซียวเฉวียนเป็นไข้แล้ว
ชิงหลงมองพู่กันเฉียนคุนคราหนึ่ง เพียงแต่เห็นพู่กันเฉียนคุนกับภาพวาดอรุณรุ่งนั้นพลันเปล่งแสงขึ้นมา เซียวเฉวียนเบิ่งตามองก่อนจะเอ่ยเสียงเบา “พู่กันคุนหลุน! จู!
“ตู้ม!”
ในเวลานี้เอง ภาพที่ทุกคนล้วนคิดไม่ถึงก็พลันปรากฏขึ้น
สายฟ้าจำนวนนับหมื่นขั้นนับไม่ถ้วนนั้นพลันแผดออกมาจากภาพวาดอรุณรุ่งคุนหลุน!
ก่อนจะฟาดลงบนตัวของชาวยุทธ์แต่ละคนโดยอ้อมตัวผู้อารักขาทุกคนไปอย่างแม่นยำ!
“อ๊ากกก!”
ชาวยุทธ์เหล่านั้นกรีดร้องไม่หยุดหย่อน! กระบี่และดาบในมือกลับถูกสายฟ้าฟาดอย่างรุนแรงจนตกลงบนพื้น!
เหล่าผู้อารักขาสบจังหวะเข้าก็พากันร่ายรำกระบี่ในมือสังหารไม่หยุดยั้ง! ซากศพกองระนาว!
ชิงหลงตะลึงไป ภาพวาดอรุณรุ่งคุนหลุนสามารถเก็บกักหมื่นสรรพสิ่งได้ก็จริงแต่ยังสามารถปล่อยมันออกมาได้ด้วยหรือ?
สายฟ้านี้แม้ว่าจะอ่อนแรงลงอย่างมากแล้ว ไม่อาจจะฟาดให้คนกลายเป็นเถ้าถ่าน แต่ว่าชิงหลงเพียงมองปราดเดียวก็จำได้ว่านี่คือสายฟ้าของเกาะจูเสิน!
เห็นได้ชัดว่าสายฟ้าของเกาะจูเสินนั้นน่าหวั่นเกรงเพียงใด! ทั้งแน่นขนัดและสว่างไสว!
“เปรี้ยง!”
ในยามนี้ ก้นของเฉินอี้ก็ถูกฟาดลงเช่นกัน!
เขากุมก้นที่ถูกเผาเอาไว้ “ปู่แกสิ! นี่เจ้ามันโกงกันนี่!”
“ตู้ม!”
ในเวลานี้ สายฟ้าเส้นเล็กๆ ฟาดลงมาอีกครั้งไม่รู้มาจากที่ใด
หลังจากนั้น แรงสั่นสะเทือนยิ่งทวีมากขึ้นอีก
ฟ้าเขย่าภูผาสั่นไหว ฟ้าดินเหมือนจะแยกออกก็”ม่ปาน หินผาต่างร่วงหล่นลงมา!
“ใต้เท้าเซียว! พอแล้ว! หยุดมือ!”
ชิงหลงสั่นสะท้าน ภูเขาใกล้จะถล่มแล้ว!
เซียวเฉวียนที่เพิ่งจะควบคุมพู่กันคุนหลุนได้ยังไม่ทันได้ปล่อยแรงออกมา ก็ได้เห็นภูเขาเบื้องหน้าคล้ายจะพังทลายเข้า เซียวเฉวียนส่ายหน้าก่อนจะตะโกนเสียงดัง “ข้าไม่ได้ทำสิ่งนี้!”
ชิงหลงกับฉินเซิงสบตากัน พวกเขาตะโกนอย่างโมโห “เกิดการเบี่ยงเบน! แยกย้าย! แยกย้าย! แยกย้าย!”
“ในหอจืออี้นั้น มีเพียงเทียนแดงของเซียวเฉวียนที่สว่างเป็นที่สุด”
ทุกคนที่ได้เป็นจอหงวนนั้นจะต้องมีเทียนแดงที่สลักนามจอหงวนรายนั้นจุดไว้โดยไม่เคยดับในหอจืออี้
ทว่าวันนี้ นอกจากเทียนแดงของเซียวเฉวียนแล้ว เทียนของผู้อื่นล้วนดับมอด
ปีศาจกวีเคยกล่าวไว้แล้ว อนาคตหากว่ามีใครแตะขั้นกวีสมุทรคุนหลุน เทียนแดงของผู้นั้นจะทอแสงสว่างที่สุดแน่นอน!
เหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ทั้งหลายสูดหายใจเหน็บหนาว เซียวเฉวียน...
ในคนกลุ่มนี้ จ้าวจินถึงกับสีหน้าเปลี่ยน
พลังการต่อสู้ของเซียวเฉวียนยังไม่รู้แน่ชัด แต่เซียวเฉวียนดันแตะขั้นกวีสมุทรคุนหลุนไปแล้วงั้นหรือ?
ฮ่องเต้ยินดีปานจะคลั่ง “เร็วเข้า! รีบไปเรียกเขากลับมา!”
จ้าวจินรีบเข้ามาเอ่ยอย่างร้อนรน “ฝ่าบาท! ต่อให้เซียวเฉวียนแตะระดับกวีสมุทรคุนหลุน แต่ในยามนี้เขาก็เป็นแค่โจรผู้หนึ่ง! ความวุ่นวายในรัฐไป๋ลู่ เขายังไม่ทันปราบลงได้! ฝ่าบาทอาจจะประทานพระเมตตาเป็นพิเศษกับเขาเพราะความลำเอียงของพระองค์ได้นะพ่ะย่ะค่ะ!”
“เจ้า!”
ฮ่องเต้กำลังจะพิโรธหนักแต่ก็สังเกตเห็นสีหน้าของบรรดาขุนนางบุ๋นบู๊นับร้อยเสียก่อน ต่างเห็นพ้องกับคำพูดของจ้าวจิน
ในเมื่อเซียวเฉวียนแตะระดับกวีสมุทรคุนหลุน ก็ยิ่งไม่อาจจะให้เขากลับมา
ทว่าเรื่องที่เซียวเฉวียนจะกลับเมืองหลวงนั้น ไม่ได้เป็นสิทธิของพวกเขาที่จะอนุญาตเสียแล้ว
“รายงาน! กองทัพรัฐไป๋ลู่มีรายงานพ่ะย่ะค่ะ!”
ยามนี้ ทหารราบรายหนึ่งวิ่งเข้ามาด้านในอย่างรีบร้อน
ฮ่องเต้กับบรรดาขุนนางบุ๋นบู๊ทั้งหลายต่างหอบความหวัง ฮ่องเต้ดูเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง “เร็ว รีบอ่าน!”
ทหารราบรายนั้คุกเข่าลงบนพื้น “ขอแสดงความยินดีกับฝ่าบาท! เสบียงของกองทัพไป๋ลู่ถูกทำลายสิ้น กำจัดศัตรูได้สามหมื่นนาย! ทัพศัตรูได้รับความเสียหายใหญ่หลวง!”
ฮ่องเต้ที่เคร่งเครียดครั้นได้ฟังจนจบ เขาก็เลิกคิ้วผ่อนลมพลางสะบัดชายเสื้อ “เยี่ยม! เยี่ยม!”
จ้าวจินแข้งขาอ่อนขึ้นมา บ้าไปแล้ว! นี่ไม่ใช่สิ่งที่เซียวเฉวียนสามารถทำได้แน่!
“ใครเป็นผู้นำทัพปราบเหล่าโจรกัน?” จ้าวจินเอ่ยถามตรงประเด็น
ทหารราบรายนั้นผงะไป คล้ายกับรู้สึกว่าคำถามนี้แปลกพิสดารยิ่ง แต่ก็ยังคงเอ่ยตอบ “เรียนไท่ชิง เป็นแม่ทัพฉินเซิง...”
“ข้าว่าแล้ว! ข้าบอกแล้ว!” ขุนนางบุ๋นบู๊ทั้งหลายถอนหายใจ
ทหารราบราบนั้นยังไม่ทันให้เหล่าใต้เท้าทั้งหลายถอนหายใจจนเสร็จ เขาเอ่ยแทรกไปตรงๆ “แล้วยังมีเซียวเฉวียน...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...