กวีสมุทรคุนหลุนอย่างนั้นหรือ?
“เจ้าบอกว่า เมื่อครู่ที่ข้าใช้อำนาจสั่งการพวกเจ้า พวกเจ้าเห็นสมุทรแห่งกวีสมุทรคุนหลุนอย่างนั้นหรือ?”
เซียวเฉวียนตกตะลึง นี่เขาแตะขั้นกวีสมุทรคุนหลุนแล้วอย่างนั้นหรือ?
แต่เพราะอะไรเขากลับยังไม่เคยได้เห็นเลยล่ะ?
“ใช่ขอรับ...ชีวิตของข้าช่างมีวาสนานัก เป็นครั้งที่สองที่ได้เห็น” ผู้อารักขารายนั้นไอเสียงอ่อนแรงครั้งหนึ่ง แล้วเอ่ยต่อ “ก่อนหน้านี้...สิบห้าปีก่อนหน้านี้ ข้าเองเคยเป็นผู้อารักขาของปีศาจกวี”
ในเวลานั้น ปีศาจกวีกับกองทัพตระกูลเซียวร่วมรบด้วยกัน ในบรรดาผู้อารักขานับหมื่นที่ปีศาจกวีสั่งการนั้นมีเขาอยู่ด้วย
แต่ว่าตอนหลังมานั้นหลังจากที่กองทัพตระกูลเซียวรบจนตัวตายที่สนามรบ ปีศาจกวีก็ไม่เคยเข้าร่วมรบอีกเลย ผู้อารักขาที่เคยใช้เทพสื่อสารกับปีศาจกวีก็ถูกตัดสัญญาณ และพบกับเจ้านายใหม่
“ท่าน...คือบุตรชายของแม่ทัพเซียวเทียนงั้นหรือ?”
“เป็นบุตรชายของเขาจริงๆ หรือ?”
ผู้อารักขารายนั้นลมหายใจรวยริน ทว่ายังคงกอดคำถามนี้เอาไว้ไม่ปล่อย
“ใช่ เป็นข้าเอง” เซียวเฉวียนไม่ทราบว่าเขาต้องการพูดสิ่งใด “เจ้าอย่าได้พูดเลย รักษาพลังกายเอาไว้ ไม่นานพวกเขาจะช่วยพวกเราออกไปได้แน่”
“นายท่าน” ผู้อารักขารายนั้นมีความยินดีน้ำเสียงแต่กลับแฝงด้วยเสียงร้องไห้มาด้วย “เช่นนั้นท่าน...จะต้องช่วยกองทัพตระกูลเซียวทวงความยุติธรรม...”
“กองทัพตระกูลเซียว ไม่อาจจะตายอย่างเปล่าประโยชน์เช่นนี้...”
“คำพูดของเจ้าหมายถึงสิ่งใด?” เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว กองทัพตระกูลเซียวสละชีพเพื่อชาติ แล้วเขาจะต้องทวงความยุติธรรมอะไรอีก?
“สิบห้าปีก่อนนี้ กองทัพตระกูลเซียว...” ผู้อารักขารายนั้นกล่าวต่อก่อนจะไอออกมาอย่างแรง “แค่กๆๆๆ! พรวด!”
เลือดสดๆ นั้นพ่นลงบนตัวเซียวเฉวียน เป็นเลือดอุ่นร้อน
ผู้อารักขาใกล้จะประคองลมหายใจต่อไม่ไหวแล้ว “เรื่องนี้ นายท่าน...นายท่าน...ถามแม่ทัพฉินเซิงเถอะ...ข้า...ประคองต่อไม่ไหวแล้ว ขอโทษด้วย...แค่กๆๆๆ!”
หลังจากเสียงไออย่างแรงแล้ว ผู้อารักขารายนั้นก็ไม่มีลมหายใจใดๆ อีก
นี่หมายความว่าอะไร?
หรือว่าในปีนั้นที่กองทัพตระกูลเซียวพินาศทั้งกองทัพ จะมีเรื่องซ่อนเร้นอะไรอยู่อีก?
หากว่าเป็นอย่างที่กล่าวเอาไว้นั้นจริง ท่านแม่ก็ควรจะบอกอะไรเขาสิ
หรือว่า กระทั่งมารดาก็ไม่รู้เช่นกัน?
นัยน์ตาของเซียวเฉวียนกลอกไปมาไม่หยุด เขาถูกทับมานานเกินไป เขาเริ่มขาดอากาศแล้วเล็กน้อย ขณะที่คิดๆ ภาพข้างหน้าของเขาก็มืดดำ และไม่มีความรู้สึกใดๆ อีก
ค่ายทหารหนานโตว
แสงอาทิตย์ฤดูร้อนสาดแสงแรงกล้า เสียงนกร้องไม่หยุด
รัฐไป๋ลู่กลับคืนสู่ความสงบในห้วงยามปรกติแล้ว
หลังจากที่เซียวฉวียนสังหารชาวยุทธ์ทั้งสามหมื่นราย เฉินอี้ก็ถูกจับ
และหลังจากที่เสบียงอาหารถูกเผาไปแล้ว กองกำลังชาวยุทธ์ก็เหมือนมังกรไร้หัว กระจายไปเหมือนทรายที่ถูกสาด
ตามแผนเก่าของเซียวเฉวียนนั้น ให้ฉินเซิงนำทัพทหารราบของหนานโตวนำโจมตีฐานกำลังเล็กๆ ของเหล่าจอมยุทธ์เพื่อดึงอำนาจในการควบคุมเมืองหนานโตวกลับมา
ชิงหลงเองก็ทำตามแผนที่เซียวเฉวียนวางเอาไว้ เขาบีบเฉินอี้ที่ถูกจับตัวมาปาฐกถาฉากเลือดลมพลุ่งพล่านหนึ่งรอบ กล่อมพวกทหารของเหล่าชาวยุทธ์ที่แตกซ่านให้ยอมมอบตัวกับทางการ
เดิมที เหล่าจอมยุทธ์ก็ไม่ค่อยพอใจอยู่แล้ว
ทว่าประตูใหญ่ที่จะออกจากเมืองหนานโตวถูกปิดแน่นหนา และล้วแต่มีทหารของเมืองหนานโตวเฝ้าอยู่ เหล่าชาวยุทธ์คิดจะหนีก็หนีไม่พ้น
ยิ่งบวกกับว่า พู่กันเฉียนคุนกับภาพวาดอรุณรุ่งนั้นอยู่กับชิงหลง พวกเขาออกเดินทางไปทั่วทั้งหนานโตวได้พบกับชาวยุทธ์ที่ไม่ยอมให้ควบคุม พวกเขาก็ปลดปล่อยพลังเทวะทำเอาพวกชาวยุทธ์ตกตะลึงไปตามๆ กัน
ดังนั้นแล้วเหล่าชาวยุทธ์เลยเชื่อว่า ราชสำนักนั้นมีเทพเซียนคอยช่วยเหลืออยู่จริง พวกเขาที่เป็นคนธรรมดาเช่นนี้จะดิ้นรนต่อไปอย่างไรก็เป็นเรื่องไร้ประโยชน์
ยิ่งไปกว่านั้น เหล่าชาวยุทธ์ทั้งสามหมื่นคนที่ถูกทำลายล้างในวันเดียวก็เป็นเรื่องที่ทำให้พวกเขาขวัญผวามากพอแล้ว ยามนี้มีฉินเซิงคอยไล่ฆ่าอยู่ แถมด้วยคนน่าหวาดผวาอย่างชิงหลง เหล่าชาวยุทธ์ที่เหลืออยู่นั้นเกรงว่าจะแข็งข้อต่อคงไม่ไหว
ต่อให้ไม่ยอมสยบ แต่ในเสบียงก็ไม่มีข้าวเหลือแล้ว หากพวกเขาไม่ยอมโอนอ่อนตามทางการ เกรงว่าคงจะถูกกักให้หิวตายอยู่ในเมืองหนานโตวนี่ละ
หลังจากรัฐไป๋ลู่เกิดการรบจนกระทั่งภูเขาจริงๆ ยังถล่มลงไปแล้ว มันก็ย้อนกลับมาสู่มือของราชสำนัก
ทั้งหมดนี้ เซียวเฉวียนยังคงไม่ได้รับรู้ด้วยเลย
เพราะว่า นับแต่ที่เขาถูกขุดออกมาจากใต้โคลนภูเขา เขาก็เอาแต่สลบอยู่ตลอด
ห้าวันห้าคืน เขายังไม่ตื่นขึ้นมาเลย
และในห้าวันนี้ เขาก็เหมือนกับฝันไปตื่นหนึ่ง
เขายืนอยู่บนภูเขาสูงอันตระหง่าน จากนั้นทอดมองหมู่เทือกเขาด้านล่าง บุปผาสกุณามัจฉาและแมลง เห็นท่วงท่าของมวลมนุษย์ เมฆบนท้องฟ้าไหลเคลื่อนลอยวน
ในความฝันนั้น คล้ายกับเขาอาศัยอยู่บนภูเขาสูงนี้มาตลอด คุ้นเคยกับมันเป็นที่สุดและคล้ายกับว่าที่นี่คือบ้านของเขา ตัวเขาอยู่บนภูเขานี้มาเป็นเวลาอันเนิ่นนานมากแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...