ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 442

กวีสมุทรคุนหลุนอย่างนั้นหรือ?

“เจ้าบอกว่า เมื่อครู่ที่ข้าใช้อำนาจสั่งการพวกเจ้า พวกเจ้าเห็นสมุทรแห่งกวีสมุทรคุนหลุนอย่างนั้นหรือ?”

เซียวเฉวียนตกตะลึง นี่เขาแตะขั้นกวีสมุทรคุนหลุนแล้วอย่างนั้นหรือ?

แต่เพราะอะไรเขากลับยังไม่เคยได้เห็นเลยล่ะ?

“ใช่ขอรับ...ชีวิตของข้าช่างมีวาสนานัก เป็นครั้งที่สองที่ได้เห็น” ผู้อารักขารายนั้นไอเสียงอ่อนแรงครั้งหนึ่ง แล้วเอ่ยต่อ “ก่อนหน้านี้...สิบห้าปีก่อนหน้านี้ ข้าเองเคยเป็นผู้อารักขาของปีศาจกวี”

ในเวลานั้น ปีศาจกวีกับกองทัพตระกูลเซียวร่วมรบด้วยกัน ในบรรดาผู้อารักขานับหมื่นที่ปีศาจกวีสั่งการนั้นมีเขาอยู่ด้วย

แต่ว่าตอนหลังมานั้นหลังจากที่กองทัพตระกูลเซียวรบจนตัวตายที่สนามรบ ปีศาจกวีก็ไม่เคยเข้าร่วมรบอีกเลย ผู้อารักขาที่เคยใช้เทพสื่อสารกับปีศาจกวีก็ถูกตัดสัญญาณ และพบกับเจ้านายใหม่

“ท่าน...คือบุตรชายของแม่ทัพเซียวเทียนงั้นหรือ?”

“เป็นบุตรชายของเขาจริงๆ หรือ?”

ผู้อารักขารายนั้นลมหายใจรวยริน ทว่ายังคงกอดคำถามนี้เอาไว้ไม่ปล่อย

“ใช่ เป็นข้าเอง” เซียวเฉวียนไม่ทราบว่าเขาต้องการพูดสิ่งใด “เจ้าอย่าได้พูดเลย รักษาพลังกายเอาไว้ ไม่นานพวกเขาจะช่วยพวกเราออกไปได้แน่”

“นายท่าน” ผู้อารักขารายนั้นมีความยินดีน้ำเสียงแต่กลับแฝงด้วยเสียงร้องไห้มาด้วย “เช่นนั้นท่าน...จะต้องช่วยกองทัพตระกูลเซียวทวงความยุติธรรม...”

“กองทัพตระกูลเซียว ไม่อาจจะตายอย่างเปล่าประโยชน์เช่นนี้...”

“คำพูดของเจ้าหมายถึงสิ่งใด?” เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว กองทัพตระกูลเซียวสละชีพเพื่อชาติ แล้วเขาจะต้องทวงความยุติธรรมอะไรอีก?

“สิบห้าปีก่อนนี้ กองทัพตระกูลเซียว...” ผู้อารักขารายนั้นกล่าวต่อก่อนจะไอออกมาอย่างแรง “แค่กๆๆๆ! พรวด!”

เลือดสดๆ นั้นพ่นลงบนตัวเซียวเฉวียน เป็นเลือดอุ่นร้อน

ผู้อารักขาใกล้จะประคองลมหายใจต่อไม่ไหวแล้ว “เรื่องนี้ นายท่าน...นายท่าน...ถามแม่ทัพฉินเซิงเถอะ...ข้า...ประคองต่อไม่ไหวแล้ว ขอโทษด้วย...แค่กๆๆๆ!”

หลังจากเสียงไออย่างแรงแล้ว ผู้อารักขารายนั้นก็ไม่มีลมหายใจใดๆ อีก

นี่หมายความว่าอะไร?

หรือว่าในปีนั้นที่กองทัพตระกูลเซียวพินาศทั้งกองทัพ จะมีเรื่องซ่อนเร้นอะไรอยู่อีก?

หากว่าเป็นอย่างที่กล่าวเอาไว้นั้นจริง ท่านแม่ก็ควรจะบอกอะไรเขาสิ

หรือว่า กระทั่งมารดาก็ไม่รู้เช่นกัน?

นัยน์ตาของเซียวเฉวียนกลอกไปมาไม่หยุด เขาถูกทับมานานเกินไป เขาเริ่มขาดอากาศแล้วเล็กน้อย ขณะที่คิดๆ ภาพข้างหน้าของเขาก็มืดดำ และไม่มีความรู้สึกใดๆ อีก

ค่ายทหารหนานโตว

แสงอาทิตย์ฤดูร้อนสาดแสงแรงกล้า เสียงนกร้องไม่หยุด

รัฐไป๋ลู่กลับคืนสู่ความสงบในห้วงยามปรกติแล้ว

หลังจากที่เซียวฉวียนสังหารชาวยุทธ์ทั้งสามหมื่นราย เฉินอี้ก็ถูกจับ

และหลังจากที่เสบียงอาหารถูกเผาไปแล้ว กองกำลังชาวยุทธ์ก็เหมือนมังกรไร้หัว กระจายไปเหมือนทรายที่ถูกสาด

ตามแผนเก่าของเซียวเฉวียนนั้น ให้ฉินเซิงนำทัพทหารราบของหนานโตวนำโจมตีฐานกำลังเล็กๆ ของเหล่าจอมยุทธ์เพื่อดึงอำนาจในการควบคุมเมืองหนานโตวกลับมา

ชิงหลงเองก็ทำตามแผนที่เซียวเฉวียนวางเอาไว้ เขาบีบเฉินอี้ที่ถูกจับตัวมาปาฐกถาฉากเลือดลมพลุ่งพล่านหนึ่งรอบ กล่อมพวกทหารของเหล่าชาวยุทธ์ที่แตกซ่านให้ยอมมอบตัวกับทางการ

เดิมที เหล่าจอมยุทธ์ก็ไม่ค่อยพอใจอยู่แล้ว

ทว่าประตูใหญ่ที่จะออกจากเมืองหนานโตวถูกปิดแน่นหนา และล้วแต่มีทหารของเมืองหนานโตวเฝ้าอยู่ เหล่าชาวยุทธ์คิดจะหนีก็หนีไม่พ้น

ยิ่งบวกกับว่า พู่กันเฉียนคุนกับภาพวาดอรุณรุ่งนั้นอยู่กับชิงหลง พวกเขาออกเดินทางไปทั่วทั้งหนานโตวได้พบกับชาวยุทธ์ที่ไม่ยอมให้ควบคุม พวกเขาก็ปลดปล่อยพลังเทวะทำเอาพวกชาวยุทธ์ตกตะลึงไปตามๆ กัน

ดังนั้นแล้วเหล่าชาวยุทธ์เลยเชื่อว่า ราชสำนักนั้นมีเทพเซียนคอยช่วยเหลืออยู่จริง พวกเขาที่เป็นคนธรรมดาเช่นนี้จะดิ้นรนต่อไปอย่างไรก็เป็นเรื่องไร้ประโยชน์

ยิ่งไปกว่านั้น เหล่าชาวยุทธ์ทั้งสามหมื่นคนที่ถูกทำลายล้างในวันเดียวก็เป็นเรื่องที่ทำให้พวกเขาขวัญผวามากพอแล้ว ยามนี้มีฉินเซิงคอยไล่ฆ่าอยู่ แถมด้วยคนน่าหวาดผวาอย่างชิงหลง เหล่าชาวยุทธ์ที่เหลืออยู่นั้นเกรงว่าจะแข็งข้อต่อคงไม่ไหว

ต่อให้ไม่ยอมสยบ แต่ในเสบียงก็ไม่มีข้าวเหลือแล้ว หากพวกเขาไม่ยอมโอนอ่อนตามทางการ เกรงว่าคงจะถูกกักให้หิวตายอยู่ในเมืองหนานโตวนี่ละ

หลังจากรัฐไป๋ลู่เกิดการรบจนกระทั่งภูเขาจริงๆ ยังถล่มลงไปแล้ว มันก็ย้อนกลับมาสู่มือของราชสำนัก

ทั้งหมดนี้ เซียวเฉวียนยังคงไม่ได้รับรู้ด้วยเลย

เพราะว่า นับแต่ที่เขาถูกขุดออกมาจากใต้โคลนภูเขา เขาก็เอาแต่สลบอยู่ตลอด

ห้าวันห้าคืน เขายังไม่ตื่นขึ้นมาเลย

และในห้าวันนี้ เขาก็เหมือนกับฝันไปตื่นหนึ่ง

เขายืนอยู่บนภูเขาสูงอันตระหง่าน จากนั้นทอดมองหมู่เทือกเขาด้านล่าง บุปผาสกุณามัจฉาและแมลง เห็นท่วงท่าของมวลมนุษย์ เมฆบนท้องฟ้าไหลเคลื่อนลอยวน

ในความฝันนั้น คล้ายกับเขาอาศัยอยู่บนภูเขาสูงนี้มาตลอด คุ้นเคยกับมันเป็นที่สุดและคล้ายกับว่าที่นี่คือบ้านของเขา ตัวเขาอยู่บนภูเขานี้มาเป็นเวลาอันเนิ่นนานมากแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย