ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 444

ไต่สวนอย่างนั้นหรือ?

พอฟังคำนี้แล้ว ทำให้ฉินซูโหรวลนลานเล็กน้อย

ฉินซูโหรวตื่นเต้นจนกลื่นน้ำลายไม่เต็มปาก แม้ตนรู้อยู่แก่ใจแล้วก็ยังแกล้งถามต่อ “พ่อข้าจะไต่สวนข้าเรื่องใดกันเล่า?

“องค์หญิง ขุนพลแค่สั่งให้ข้ามาเชิญท่าน ส่วนจะเรื่องใดนั้น ข้าเองก็มิทราบได้ขอรับ“

“ยังจะเป็นเริ่องอันใดอีก” ชิงหลงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “เรื่องแรกที่ท่านใต้เท้าเซียวฟื้นขึ้นมา แน่นอนว่าต้องคิดบัญชีที่ท่านฆ่าเว่ยไป๋!”

“พ่อข้าเป็นถึงท่านแม่ทัพ! เขากล้าอย่างนั้นหรือ?”

ฉินซูโหรววาจาช่างคมคาย ในใจหล่อน เซียวเฉวียนก็คงยังเป็นคนตระกูลตกต่ำคนหนึ่ง และยังเป็นคนตระกูลตกต่ำที่ถูกเนรเทศเสียด้วยซ้ำ!

จะคิดบัญชีอย่างนั้นหรือ?

เซียวเฉวียนช่างบังอาจเสียจริง!

ฉินซูโหรวช่างไร้ยางอายและไม่มีความยำเกรงอะไรทั้งสิ้น ทำให้ชิงหลงเบื่อหน่ายเป็นอย่างมาก”ในเมื่อท่านมิกลัว เช่นนั้นท่านจะมั่วนั่งตรงนี้อยู่ใยเล่า?ใยไม่ไปรับการไต่สวน”

“ไปก็ไป!ฮึ! ข้าก็อยากรู้เหมือนกันเซียวเฉวียนจะถืออะไรมาปรักปรำข้า ท่านพ่อไต่สวนข้า แล้วคิดว่าข้ากลัวอย่างนั้นหรือ?

พูดจบ ฉินซูโหรวสะบัดผ้าและเดินออกไป

ห้องไต่สวน มีเซียวเฉวียนและฉินเซิงที่นั่งอยู่ข้างกัน

มีทหารหลายสิบคนคุกเข่าอยู่บนพื้น แต่พวกเขาไม่กล้าแสดงความโกรธ

หลายวันมานี้ เซียวเฉวียนรวมถึงคนที่เซียวเฉวียนพามา จะใกล้ตายแหล่ไม่ตายแหล่ ไม่ได้อยู่สุขสบาย

ฉินเฟิงและฉินซูโหรวไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรกับเซียวเฉวียน พวกเขาเลยกล้าที่จะทำเยี่ยงนี้กับเซียวเฉวียนได้

เหล่าทหารคงคิดว่า องค์หญิงและองค์ชายใหญ่ฉินเกลียดขี้หน้าเซียวเฉวียนมากขนาดนี้ นี่คือความหมายของแม่ทัพฉินที่จะสื่อ

แต่พวกเขาคาดไม่ถึงว่า ฉินเซิงทำธุระข้างนอกไม่กี่วัน ทำธุระเสร็จกลับมา ก็ได้เห็นว่าเซียวเฉวียนได้ฟื้นขึ้น หลังจากฉินเซิงได้ยินเซียวเฉวียนพูดเกี่ยวกับเรื่องราวของพวกเว่ยไป๋ เขาจึงนำทหารเหล่านี้มาสอบไต่สวนทันที

การไต่สวนไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือเซียวเฉวียนมีความเท่าเทียมกับฉินเซิงพวกเขาทั้งหมดนั่งอยู่ที่ที่นั่งหลักของการไต่สวน

กลุ่มพลทหารพวกนี้ พวกเขาเป็นทหารที่สังหารเว่ยไป๋และคนอื่นๆ

มีทหารประมาณสองร้อยกว่าคนที่เข้าร่วม

แต่คนที่จัดการโจมตีเว่ยไป๋และคนอื่น ๆ อย่างร้ายแรงและทำให้เว่ยไป๋และคนอื่น ๆ เสียชีวิต

มีทั้งหมดสิบสี่คนด้วยกัน

ทั้งสิบสี่คนนี้ ถูกเรียกตัวมาทั้งหมด

อยากจะหาพวกเขาก็เป็นเรื่องที่ง่ายนัก สืบเนื่องหลังจากที่กลุ่มทหารนี้ได้ฆ่าพวกเว่ยไป๋ไป วันๆก็คุยโวโอ้อวดอยู่ที่ค่ายทหาร เหมือนกลัวไม่รู้ว่าพวกตนสร้างความดีความชอบ

เซียวเฉวียนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่เขาทำการไต่สวน

กฎหมายในสมัยก่อน ไม่มีคำแก้ต่างของศาลหรือการนำเสนอหลักฐาน

โดยพื้นฐานแล้วการไต่สวนคือการทุบตีผู้อื่นให้ตายหากพวกเขาไม่ตั้งข้อหา หรือเพียงประกาศว่ามีความผิด ก็สามารถประหารชีวิตเขาได้ทันที

ดูราชวงศ์ถังของจีนเป็นตัวอย่าง ก็โหดเหี้ยมไม่น้อย เพียงเพราะไม่มีการป้องกันของศาลและการผลิตหลักฐาน จึงมีการสร้างคดีที่ไม่ยุติธรรมเป็นเท็จและผิดนับไม่ถ้วน

เพราะฉะนั้น ในสมัยโบราณการเป็นขุนนางก็มีประโยชน์ ถ้าหากข้าว่าเจ้าผิด เจ้าก็คือมีความผิด ข้าไม่ต้องหาหลักฐานอะไรมาพูดว่าเจ้าคือคนผิด

เปรียบเทียบได้ดีกับคนอย่างฉินซูโหรวที่ฆ่าพวกเว่ยไป๋ พูดว่าฆ่าก็ฆ่า ไม่ต้องการเหตุผลใดๆ ทำเหมือนกับชีวิตผู้คนไร้ค่าเหมือนดอกหญ้าริมทาง

อีกทั้งวิธีการไต่สวนของสมัยโบราณนั้นก็ถือว่าโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก

วิธีการคือไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ประเภทแรก ให้คนที่กระทำความผิดนั้นใส่หมวกเหล็ก และนำตะปูเหล็กยาวค่อยๆตอกเข้าไปในสมอง

ประเภทที่สอง ตั้งหม้อ วางถ่านรอบๆ แล้วใส่คนลงในหม้อเพื่อต้มสดๆ

วิธีการไต่สวนที่โหดเหี้ยมนี้ แม้แต่หมูที่ตายแล้วก็ยังผวา ห้องไต่สวนในยุคสมัยโบราณไม่ได้สุภาพเรียบร้อยเหมือนกับในละครทีวี

เหล่าพลทหารที่อยู่ตรงด้านหน้านี้ หมวกเหล็ก,ตะปู,ถ่าน,หม้อต่างก็เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว คนเหล่านี้ตัวสั่นด้วยความกลัว

ใบหน้าเซียวเฉวียนเต็มไปด้วยความเย็นชา เพื่อให้บรรยากาศผ่อนคลายฉินเซิงจึงพูดไป “ท่าใต้เท้าเซียว ท่านใจเย็นก่อนเถิด พวกเขาต้องได้รับผิดแน่นอน แต่พวกเขาเองก็ยอมรับผิดแล้ว วิธีใช้เครื่องมือทรมานคงไม่จำเป็นแล้วกระมัง”

เหล่าทหารต่างพยักหน้าเป็นระนาว ใช่แล้วใช่แล้ว พวกเขาทั้งหมดต่างก็ยอมรับผิดแล้วเหตุใดจึงใช้วิธีการทางอาญาเพื่อดึงคำสารภาพ? และอีกอย่าง พวกเขาไม่ใช่ผู้บงการ เหตุใดถึงต้องโหดเหี้ยมเช่นนี้ด้วย?

อย่างน้อยก็มีแม่ทัพฉินที่ดี อย่างน้อยก็สมเหตุสมผลไม่เหมือนกับเซียวเฉวียนที่จะฆ่าแกงกันอย่างเดียว

เซียวเฉวียนส่งเสียงฮึในลำคอ ฉินเซิงจึงพูดโน้มน้าวไปอีกรอบ “ท่านใจเย็นเถิด ใยจึงต้องใช้วิธีการทางอาญาเพื่อดึงคำสารภาพ ฆ่าให้ตายไปรู้แล้วรู้รอดจะดีกว่า”

หา?

หา?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย