สรุปตอน บทที่ 445 หมดอนาคต – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
ตอน บทที่ 445 หมดอนาคต ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ถ้าจะยุติเรื่องนี้ ก็เป็นแค่ว่าจะลงโทษพวกเขาอย่างไร
ถ้าไม่ตาย ก็เข้าคุก
เข่นฆ่าขุนนางผู้มีคุณงามความดี ชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิต ที่ว่าพวกเขาถูกตัดสินประหารชีวิต ก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผล
ขอเพียงคำพูดเดียวของเซียวเฉวียน ชีวิตของทหารทั้ง 14 คนนี้ก็จบสิ้นกันไป
แต่สำหรับฉินซูโหรวและฉินเฟิง ญาติโกโหติกาของราชวงศ์ ผู้มีอำนาจมากที่สุดในบรรดาผู้มีอำนาจ ถึงพวกเขาจะถูกตัดสินลงโทษ การลงโทษก็ถือว่าจิ๊บๆ
เซียวเฉวียนจะผ่อนปรนให้พี่น้องตระกูลฉินได้อย่างไร?
กระทำผิดธรรมชาติตามอำเภอใจ ต้องแลกเปลี่ยนกับการชดใช้ค่าตอบแทนเสมอ
เซียวเฉวียนจะปล่อยให้ชีวิตของอรหันต์ทั้ง 16 คนและเว่ยไป๋ตายไปอย่างง่ายดายได้อย่างไร!
ฉินเซิ่งตกตะลึงและเข้าใจได้เลยว่าทำไมเซียวเฉวียนถึงทำเช่นนี้
อรหันต์ทั้ง 16 คนที่ตายไปถือเป็นขุนนางที่มีคุณงามความดี ขอเพียงเซียวเฉวียนยืนยันว่าคนเหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่ ฉินเฟิงซึ่งควบคุมดูแลค่ายทหารในขณะนั้นต้องรับผิดชอบ
ในเมื่อศึกเมืองไป๋ลู่ครั้งนี้ ผู้สละชีพทั้ง 16 คนจะต้องถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ ตราบใดที่เซียวเฉวียนยังยืนหยัดถึงเมื่อใด ฝ่าบาทก็จะยืนเคียงข้างเซียวเฉวียนถึงเมื่อนั้น คนเหล่านี้หายไปในค่ายทหาร ฝ่าบาทจะต้องขอให้ฉินเฟิงตามหาคนเหล่านี้ออกมาให้ได้
แต่คนเหล่านี้ตายไปแล้ว ฉินเฟิงจะหาคนเหล่านี้ได้จากที่ไหน?
นี่จะเป็นการทรมานที่ไม่จบไม่สิ้น
ถึงฉินเฟิงและฉินซูโหรวจะยอมรับว่าพวกเขาฆ่าอรหันต์เหล่านี้ ฝ่าบาทยิ่งไม่ยอมปล่อยฉินเฟิงให้รอดไปง่ายๆ อย่างแน่นอน
การลงโทษเป็นเรื่องเล็ก แต่ด้วยประวัติบัญชีดำสังหารขุนนางผู้มีคุณงามความดี ฉินเฟิงซึ่งเป็นข้าราชทหารในตอนนี้ จะหมดสิ้นศักดิ์ศรีในกองทัพอีกต่อไป อย่าคิดที่จะเข้าร่วมกองทัพอีกในชั่วชีวิตนี้!
ชื่อเสียงของตระกูลฉินก็จะพังทลายไปด้วย
การลงโทษทั้งหมดนี้ ไม่ได้ต่อฉินซูโหรว แต่มุ่งต่อฉินเฟิง
ฉินซูโหรวรู้สึกลำบากกายลำบากใจยิ่งนัก จนไม่อาจนั่งนิ่งเฉยได้
คำพูดง่ายๆ ของเซียวเฉวียนเพียงคำเดียว ทำให้พี่น้องคู่นี้กังวลใจยิ่งกว่าฆ่าพวกเขาให้ตายเสียอีก
เซียวเฉวียนพูดง่ายคำเดียว พวกเขาก็ตกอยู่ในความทรมานที่ไม่รู้จบรู้สิ้น
ฉินเฟิงจะกล่าวคำอำลาอนาคตอันรุ่งโรจน์ของเขา และจะอยู่บนหนทางเพื่อตามหาผู้ตายไปตลอดทั้งชีวิต
ฉินเฟิงไม่ใช่คนโง่ เขาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและในที่สุดก็เข้าใจเจตจำนงของเซียวเฉวียน
เขาควบกำปั้นและตะโกนด้วยความเคียดแค้น "เซียวเฉวียน! เจ้าโหดร้ายมาก! เจ้ากล้ามาเล่นตลกกับข้าแบบนี้ เจ้าจะฆ่าก็ฆ่า! ลงโทษก็ลงโทษฉัน! ข้าฉินเฟิงไม่เคยกลัว!”
“คุณชายฉิน ทำไมต้องโมโหขนาดนี้?” เซียวเฉวียนกลอกตาและเอ่ยอย่างเย็นชา "ข้าแค่ถามเจ้าว่า เอาพี่น้องของข้าไปอยู่ที่ไหน ทำไมเจ้าเอาแต่พูดโทษๆ ฆ่าๆ เยี่ยงนี้เล่า?"
“เจ้ารู้แล้วมาถามทำไม!” ฉินเฟิงคำรามด้วยโทสะ “ข้าบอกแล้ว! พวกเขาตายแล้ว! ข้าหาพวกเขาไม่เจอ!”
"ใช่!" ฉินซูโหรวพูดด้วยความโกรธ "คนพวกนี้ตายหมดแล้ว! จะให้เราไปหาที่ไหนให้เจ้า!"
......
......
เซียวเฉวียนไม่ว่าอะไร อากาศควบแน่นเป็นน้ำแข็ง
เขาจ้องมองไปที่พี่น้องสองคน "ตระกูลแม่ทัพนายพลฉินแท้ๆ! ไม่น่าจะทำเรื่องโหลยโท่ยแบบนี้! ข้าเชื่อในธรรมเนียมประเพณีของตระกูลฉิน! ข้าเชื่อว่าแม่ทัพผู้เฒ่าฉินปาฟางและแม่ทัพฉินเซิ่งไม่น่าจะเลี้ยงดูลูกหลานเช่นนี้ออกมาได้! " นี่ฟังดูเหมือนกำลังดุด่าใครอยู่หรือเปล่า?
ฉินเซิ่งหน้าแดงก่ำและถอนหายใจเฮือกยาว ครอบครัวโชคร้ายได้ก่อเหตุเวรกรรมเช่นนี้ สมควรที่จะถูกคนดุด่า!
ฉินเฟิงกำหมัดแน่น "เจ้าหมายความว่าอะไร?"
”มานี่!” เซียวเฉวียนยิ้มเยาะ “ข้าได้ยินว่าทหารทั้ง 14 นายนี้รู้ที่อยู่ของพี่น้องข้า แต่พวกเขาไม่ยอมพูด ฉะนั้น ข้าจะต้องทรมานพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะเปิดเผยที่อยู่ของอรหันต์พวกนั้น”
"ครับ!" ผู้นำทหารตระกูลฉินเข้ามารับคำสั่ง
ฉินเฟิงและฉินซูโหรวตกตะลึง กองทัพตระกูลฉิน เชื่อฟังคำสั่งของเซียวเฉวียนแล้วหรือ?
ทหารทั้ง 14 คนมองไปที่อุปกรณ์เครื่องหม้อและตะปู สีหน้าซีดจางขึ้นมาทันที
พวกเขาคิดว่าเซียวเฉวียนขนอุปกรณ์ทรมานพวกนี้มาข่มขู่พวกเขา ไม่คิดว่าจะเตรียมไว้ใช้กับพวกเขาจริงๆ
คนก็ตายแล้ว จะให้พวกเขาเปิดเผยที่อยู่ของอรหันต์ได้ที่ไหนอีก?
มวยไม้นี้โหดร้ายสุดๆ
ตายไม่กลัว ที่น่ากลัวคือเซียวเฉวียนจะไม่ปล่อยให้พวกเขาตาย!
ทหารที่ดูเฉยเมยเมื่อสักครู่ต่างคุกเข่าลงและร้องขอความเมตตา
”ใต้เท้าเซียว! ไว้ชีวิตด้วย!”
"ไว้ชีวิตให้ด้วย!"
”ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่เจ้าหญิงและคุณชายฉินสั่งให้เราทำ! เราไม่ได้ต้องการจะฆ่าใคร!”
"ไว้ชีวิตด้วยเถอะ!"
”จงเมตตาด้วย! ทั้งหมดนี้เจ้าหญิงเป็นคนสั่ง!”
เมื่อวานเขายังคงเป็นคุณชายคนโตผู้สูงส่งของตระกูลฉิน
วันนี้ อนาคตของเขาพังทลายไปสิ้น ต้องเฝ้าอยู่แต่ในเมืองไป๋ลู่! นี่มันเลวร้ายยิ่งกว่าฆ่าเขาให้ตายเสียอีก!
มีอะไรเจ็บปวดไปกว่าการสูญเสียอนาคต สถานะ และตำแหน่ง?
”พ่อ! พ่อ!” เมื่อสักครู่ฉินซูโหรวไม่เต็มใจ แต่ตอนนี้เธอกลับคุกเข่าลงกอดขาของฉินเซิ่งแล้วพูดว่า "พ่อช่วยพี่ใหญ่ด้วย! จะเนรเทศพี่ใหญ่อยู่ที่นี่ไม่ได้! เขาเป็นลูกชายคนโตของตระกูลฉิน เป็นความหวังในอนาคตของตระกูลฉินของเรา!”
ฉินเซิ่งหลับตาที่ดูแก่เฒ่าลง แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินคำวิงวอนของลูกสาว "คำสั่งทางทหารนั้นยากที่จะฝ่าฝืน"
”พ่อ?” ฉินเฟิงมองเขาอย่างตาค้าง ไม่คิดว่าพ่อของเขาก็ทำอะไรไม่ถูก “พ่อ เว่ยไป๋และคนอื่นๆ นั้นเป็นนักโทษ พวกเขาไม่ใช่ผู้มีคุณงามความดี! จะว่าไปตามที่เซียวเฉวียนพูดนั้นไม่ได้!”
“เจ้านี่อวดดี!” ฉินเซิ่งทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วตบหน้าฉินเฟิงไปหนึ่งที "ตระกูลฉินของข้าไม่มีลูกชายอย่างเจ้า!"
”มานี่! พาเขาลงไป! สั่งเขาให้ตามหาเว่ยไป๋และคนอื่นๆ จนพบ! ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่สามารถกลับเมืองหลวงได้!”
ฉินเซิ่งกัดฟัน ดวงตาโกรธที่ลูกไม่เอาไหน และความอาลัยอาวรณ์ที่ผู้เป็นพ่อมีต่อลูก เขาหันหลังกลับ หันหน้ากลับ และไม่มองฉินเฟิงอีกเลย
”พ่อ! ไม่นะ! เซียวเฉวียน! ฆ่าข้าสิ! ฆ่าสิ! ฆ่าข้าให้ตายเลย!”
ฉินเฟิงซึ่งถูกลากตัวลงไปคำรามใส่เซียวเฉวีย ด้วยอารมณ์ที่แทบจะฉีกเซียวเฉวียให้ออกเป็นชิ้นๆ
แต่เซียวเฉวียนกลับยิ้มเยาะ "จงอยู่ใช้ชีวิตให้ดี อยู่ในโลกของการสำนึกผิดไปเถอะ"
"ข้าจะไม่สำนึก! ข้าจะไม่สำนึกผิด!" ฉินเฟิงโกรธจัดจนคลั่ง แต่ตัวเขาถูกลากห่างออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเซียวเฉวียนไม่ได้ยินเสียงร้องไห้และเสียงหอนอีก
”เซียวเฉวียน! เจ้ากล้าทำแบบนี้กับพี่ชายฉันหรือ! ฉันจะฆ่าเจ้า!” เมื่อเห็นฉินเฟิงถูกเหยียบย่ำ ฉินซูโหรวก็ดึงปิ่นบนหัวของเธอออกมาแล้วแทงไปที่เซียวเฉวียน!
ที่นี่คือค่ายทหาร และเซียวเฉวียนเป็นผู้นำสูงสุด
ทุกอย่างว่าไปด้วยกฎการทหาร ไม่ใช่เรื่องอยู่ในบ้าน
ฉินซูโหรวกระโจมตัวเข้ามา เซียวเฉวียนก็เอาฝ่ามือฟาดหน้าเธอหนึ่งทีอย่างแรงจนลงไปกองกับพื้น!
”ฉินซูโหรว เจ้าต้องเรียกข้าว่าท่าน” เซียวเฉวียนจ้องมองเธออย่างเย็นชา ในแง่ของตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ฉินซูโหรวไม่จำเป็นต้องแสดงความเคารพเขา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับห้า
แต่ในแง่ของลำดับอาวุโส เขาเป็นลูกศิษย์ของปีศาจกวี เจ้าหญิงน้อยๆ จะมีน้ำหนักอะไร?
เซียวเฉวียนสามารถเตะประตูพังด้วยพละกำลังเพียง 20% แต่ฝ่ามือนี้มีพละกำลัง 70% เกือบจะทำให้สมองของฉินซูโหรวกระเทือนจนสลบคาที่!
ฉินเซิ่งตกใจคิดจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเธอ แต่ก็ชะงักอดไว้
"เจ้ากล้าตีฉันเหรอ?" ฉินซูโหรวเอามือปิดหน้า มาตีเธออีกแล้วหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...