ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 446

สรุปบท บทที่ 446 กำหนดตามช่วงอายุสมรส: ซูเปอร์ลูกเขย

สรุปเนื้อหา บทที่ 446 กำหนดตามช่วงอายุสมรส – ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

บท บทที่ 446 กำหนดตามช่วงอายุสมรส ของ ซูเปอร์ลูกเขย ในหมวดนิยายนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ครั้งแรกที่เซียวเฉวียนทุบตีเธอคือตอนที่เธอพูดหยาบคายกับโย่วควน เพราะโย่วควนเป็นพี่น้องของเขา เห็นแก่นักแสดงงิ้วคนหนึ่ง เซียวเฉวียนตบหน้าเธออย่างไร้ความปราณี

ครั้งนี้เซียวเฉวียน ก็เห็นแก่พี่น้องของเขาซึ่งเป็นกลุ่มนักโทษเนรเทศ ไม่เพียงแต่มาทุบตีเธอเท่านั้น ยังเนรเทศพี่ชายของเธอด้วย!

ฉินซูโหรวโมโหจนคลั่ง เธอลุกขึ้นจากพื้นและเหวี่ยงปิ่นปักผมในมืออย่างแรง ตั้งใจที่จะแทงเซียวเฉวียนให้ตาย!

เธอเล็งไปที่คอหอยของเซียวเฉวียน หากแทงเข้าไปได้ เซียวเฉวียนจะต้องตายอย่างแน่นอน

”ฉินซูโหรว! หยุดเดี๋ยวนี้! อย่าบังอาจ!” ฉินเซิ่งทั้งโกรธทั้งร้อนใจ แต่เซียวเฉวียนกล่าวอย่างเฉยเมยพลางจับมือฉินซูโหรวตัวร้ายไว้ "ให้ข้าจัดการเอง"

ไม่แค่นั้น เซียวเฉวียนยังตบหน้าฉินซูโหรวไปอีกที

คราวนี้ ใช้กำลังแรงถึง 80%!

"พั้วะ!"

แรงอันทรงพลังทำให้ฉินซูโหรวอาเจียนออกมาเป็นเลือด และยังอุทิศฟันไปสองซี่

"แตก"

"แตก"

เสียงฟันสองซี่ที่ร่วงลงบนพื้นทำให้ฉินซูโหรวไม่อยากเชื่อ "ฟันของฉัน ฟันของฉัน!"

ฉินซูโหรวยังคงไม่ลดละ เธอเงยหน้าขึ้นแล้วตะโกนใส่เซียวเฉวียน "เจ้ากล้าดียังไงมาทำแบบนี้กับฉัน! ฉันคือเจ้าหญิงแท้ๆ ของต้าเว่ย! เจ้าเก่งจริง มาฆ่าฉันให้ตายเลย!"

”ฆ่าฉันซะ! ดูว่าฝ่าบาทจะไว้ชีวิตเจ้าง่ายๆ หรือไม่!”

”ถึงเจ้าจะมีคุณงามความดี! เจ้าคิดว่าแม่ฉันจะปล่อยเจ้าไปง่ายๆ เหรอ?”

”อ๊าก ๆ ๆ !”

คำรามเสร็จ ฉินซูโหรวก็เอามือปิดหน้า เลือดทะลักออกจากปากของเธอ เจ็บ! เจ็บ!

เซียวเฉวียนซึ่งถูกฉินซูโหรวล่วงเกิน ไม่ได้โกรธหรือร้อนใจ เขารู้ดีว่าเจ้าหญิงผู้เอาแต่ใจคนนี้ใส่ใจอะไร เขาถูนวดมือ แรงซึ่งทุบตีฉินซูโหรวก็ได้รับแรงสะท้อนกลับ จนมือของเขาก็รู้สึกเจ็บจนชาเล็กน้อย

ฉินซูโหรวโกรธจนหัวจะระเบิดมองไปที่เซียวเฉวียนซึ่งกำลังถูนวดมืออย่างใจเย็นและสะบัดมือ "พูด! เจ้าพูด! เจ้าไม่กล้าพูดแล้วใช่ไหม?"

“เจ้ามาตีเจ้าหญิงคนนี้เสร็จ กลัวแล้วใช่ไหม?”

เธอยิ้มอย่างไร้ยางอาย "ถ้าเจ้ากลัว ถ้าเจ้าปล่อยพี่ชายของฉันไป ฉันจะกราบทูลต่อหน้าฝ่าบาทและขอให้ฝ่าบาทยกโทษให้เจ้าที่มาทุบตีฉัน!"

เซียวเฉวียนยิ้มเยาะอย่างระอิดระอา มันตลกสิ้นดี

เป็นเรื่องมหาตลก! ฉินซูโหรสถูกตบทีหนึ่ง! จะแลกกับชีวิตของอรหันต์ทั้ง 16 คนได้งั้นหรือ?

เขามองดูเธออย่างตาเขม็ง "ฉินซูโหรว เจ้าทำผิดโทษฐานทรยศเนรคุณอันใหญ่หลวง! ตอนนี้เจ้านำความเดือดร้อนมาสู่ฉินเฟิง แต่ยังไม่รู้จักกลับใจ! ข้าคิดว่าเจ้าคงอยากจะนำความเดือดร้อนไปสู่ทั้งตระกูลฉินถึงจะหนำใจใช่ไหม !"

“ในเมื่อเจ้าไม่ยอมเลิกละและชอบพาลอย่างไร้เหตุผล ข้าก็จะไม่ปกป้องตระกูลฉินของเจ้า ข้าจะกราบทูลเหตุการณ์ของเว่ยไป๋อย่างตรงไปตรงมา!”

“ข้าจะไม่สนใจว่าฝ่าบาทจะมองอย่างไร ราชสำนักจะพิจารณาอย่างไร ดูจากท่าทีของเจ้า คิดว่าความผิดสังหารขุนนางผู้มีคุณงามความดีนี้ ตระกูลฉินแบกรับได้ เจ้ารับได้ พ่อเจ้ารับได้ แม่เจ้ายิ่งรับได้อย่างแน่นอน!”

“ถึงเวลานั้น ฝ่าบาทจะลงโทษข้าเรื่องตีเจ้าอย่างไร หรือจะลงโทษเจ้าในเหตุการณ์สังหารขุนนางผู้มีคุณงามความดีอย่างไร ต่างก็รับโทษตามนั้น เอาอย่างนั้นดีไหม ?”

ฉินซูโหรวตกใจ ไม่คิดว่าเซียวเฉวียนจะ...... พูดแบบนี้?

สีหน้าของฉินซูโหรวดูเครียดเล็กน้อย มุมปากกระตุก เขามองดูฉินซูโหรวแล้วส่ายหัว เธอถูกตามใจจนเสียนิสัย นิสัยแย่จริงๆ ตามใจเด็กก็เหมือนกับฆ่าเด็ก ฉินเฟิงและฉินซูโหรวจะเป็นเช่นนั้น ตระกูลฉินจะยังมีอนาคตอีกหรือ?

เซียวเฉวียนขู่เธออย่างเปิดเผยขนาดนี้ แต่พ่อของเธอไม่พูดอะไรสักคำ ฉินซูโหรวใจเสีย มองดูเซียวเฉวียนซึ่งมีสายตาอันเย็นชา

เธอไม่รู้สึกว่า เซียวเฉวียนได้เปลี่ยนไปแล้ว

เซียวเฉวียนไม่ได้เป็นเขยของตระกูลฉินไปนานแล้ว

ไม่ได้เป็นคนตระกูลยากจนอย่างที่เธอชอบพูดติดปาก

ถึงจะถูกเนรเทศ แต่เซียวเฉวียนยังพึ่งพาความสามารถของเขาเอง หนีออกมาจากเกาะจูเสินได้

ในการปราบปราบความวุ่นวายในเมืองไป๋ลู่ครั้งนี้ เซียวเฉวียนได้รับคำสั่งในภาวะฉุกเฉิน สร้างผลงานทางทหารที่ไม่มีใครอาจกล่าวล้มล้างได้

เซียวเฉวียนเกือบจะกล่าวได้ว่า สร้างชื่อเสียงโด่งดังในศึกเพียงครั้งเดียว

ตอนนี้ ฉินซูโหรวและฉินเซิ่งก็ยังไม่รู้เลยว่า เซียวเฉวียนได้บรรลุถึงทะเลกวีคุนหลุนแล้ว ฉินซูโหรวจึงไม่รู้เลยว่า เซียวเฉวียนไม่ใช่อย่างที่เขาเคยเป็น!

ไม่ว่าจากแง่มุมใดก็ตาม เซียวเฉวียนไม่ใช่ลุงเขยที่ถูกคนอื่นรังแกตามใจชอบในจวนฉิน ยิ่งไม่ใช่คนไร้ตระกูลที่ไม่มีหลักแหล่งในเมืองหลวง

ฉินปาฟางไม่ใช่ขอให้เซียวเฉวียนปกป้องตระกูลฉินและฉินซูโหรวตอนที่กำลังจะสิ้นชีพ

ตอนที่ฉินปาฟางกลับมาจากสนามรบใหม่ๆ เขาก็ได้ตระหนักว่าจวนฉินตกอยู่ในอันตราย เพื่อป้องกันไว้ก่อน ฉินปาฟางได้ทำข้อตกลงกับเซียวเฉวียนล่วงหน้าและขอให้เซียวเฉวียนปกป้องจวนฉินไว้แต่เนิ่นๆ แล้ว

ตอนนั้น ฉินปาฟางยังได้จัดทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรกับเซียวเฉวียนเป็นพิเศษ

ฉินปาฟางจับมือของเซียวเฉวียนไว้แน่นตอนที่เขากำลังจะหมดลมหายใจ เขาแค่จะสั่งเสียย้ำเตือนซ้ำอีกครั้ง

ตอนที่เซียวเฉวียนเกิด มีโจรมาขึ้นบ้านเพื่อทำมิดีมิร้าย หากไม่มีฉินป้าฟาง เซียวเฉวียนอาจไม่มีทางได้เกิด

ดังนั้น เซียวเฉวียนจึงเห็นแก่บุญคุณที่ฉินปาฟางมีต่อเขา ฉินปาฟางก็เป็นคนซื่อสัตย์ใจดี จึงตกลงรับปากกับฉินปาฟาง ทั้งเขายังมาได้เป็นเขยของตระกูลฉินอีกด้วย การปกป้องคุ้มครองจวนฉิน จึงถือเป็นเรื่องสมเหตุสมผล

เขาและฉินปาฟางต่างก็ได้พิมพ์ลายนิ้วมือในหนังสือสัญญานั้น

เซียวเฉวียนหยิบหนังสือที่เป็นลายลักษณ์อักษรออกมาและแสดงให้ฉินเซิ่งดูก่อน จากนั้นจึงให้ฉินซูโหรว

เมื่อฉินเซิ่งเห็นดังนั้น ใบหน้าก็ซีดเซียว เขาหันหลังกลับ ไม่พูดอะไรอีกเลย เวรกรรม เวรกรรมแท้ๆ !"

ฉินซูโหรวรับหนังสือมาดูและเห็นว่านั่นเป็นลายมือและลายพิมพ์นิ้วมือของคุณปู่เธอแท้ๆ ......

บนนั้นเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า คำสัญญาของเซียนเฉวียนที่จะปกป้องจวนฉินนั้นจำกัดอยู่แค่ในช่วงสมรสเท่านั้น

ฉินปาฟางเป็นคนมีคุณธรรม เขารู้ถึงอันตรายของจวนฉิน เขาจึงบอกเซียวเฉวียนว่า หากวันใดเซียวเฉวียนไม่ได้เป็นเขยของจวนฉินแล้ว สัญญานี้ก็จะไม่มีผลบังคับ

แต่หลังจากแยกทางกันแล้ว เซียวเฉวียนยังส่งคนไปปกป้องจวนฉินอยู่อย่างลับๆ ไส้ศึกของเว่ยเจียนกั๋วจึงไม่สามารถเข้ามาได้

เซียวเฉวียนเป็นคนมีน้ำใจ ถึงแม้ข้อตกลงระหว่างเซียวเฉวียนกับฉินปาฟางหมดวาระตามสัญญาแล้ว แต่ฉินปาฟางให้ความไว้วางใจเขาถึงขนาดนี้ เขาไม่สามารถอยู่นิ่งดูดายได้

แต่ว่าฉินเฟิงและฉินซูโหรวนั้นน่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง

”จากนี้ไป เจ้าไม่ต้องเอาข้อผูกมัดทางศีลธรรมนี้มาแอบอ้างอีก ตระกูลฉินกับข้าเซียวเฉวียน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกันอีกแล้ว!”

“คำมั่นสัญญานี้ก็จบสิ้นไปแล้ว”

คำพูดของเซียวเฉวียนทำให้ฉินซูโหรวอ่อนน่วมล้มตัวลงกับพื้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย