ในเวลาที่คนจากกระกูลฉินสู้ไม่ชนะ ก่อความวุ่นวายไม่ชนะ กล่าววาจาก็ไม่ชนะ มักจะนำกระบี่อาญาสิทธิ์ออกมาเปล่งประกาย ท้ายที่สุดก็ถูกเซียวเฉวียนเก็บเรียบไป
ปัจจุบันฉินซูโหรวผ่านพิธีแต่งงานสองครั้ง ไม่สิ พูดให้ถูกสามครั้งแล้ว สัญญาและคำสาบานของเซียวเฉวียนกับฉินปาฟางได้สิ้นสุดแล้ว
วินาทีที่ฉินซูโหรวเลือกที่จะแต่งงานกับเหลียงไหวโหรวก็ได้สิ้นสุดแล้ว
“นับตั้งแต่วันนี้บุญคุณความแค้นข้ากับจวนฉินถือว่าไม่ติดค้างแล้ว บุญคุณที่จวนฉินเจ้ามีต่อข้า ข้าชดใช้ให้หมดแล้ว”
เซียวเฉวียนจ้องมองฉินซูโหรวด้วยความนิ่งเฉย “หากกล่าวถึงตอนนั้นที่แม่ทัพฉินปาฟางให้ข้าเซียวเฉวียนได้เกิด ถือเป็นบุญคุณอย่างใหญ่หลวงแก่ตระกูลเซียวข้าและเซียวเฉวียนตัวข้าเอง งั้นคืนวันส่งท้ายปีก็ได้ใช้คืนด้วยชีวิตข้านี้แล้ว”
ฉินซูโหรวหน้าซีดขาว ปากแห้งอ้าพะงาบๆ พูดไม่ออกสักประโยค
“คืนวันส่งท้ายปีอันใดกัน?” ฉินเซิงเห็นท่าทางไร้วิญญาณราวกับมะเขือม่วงแช่แข็ง ไม่มีความโกรธโมโหร้ายที่โอหังทะนงตนเหมือนเมื่อครู่เลยก็รู้สึกตกใจถึงความแปลกๆ “คืนวันส่งท้ายปีเกิดเหตุอะไร?”
“ท่านพ่อ……” ฉินซูโหรวส่ายหน้า นางพูดไม่ได้ ไม่อาจพูด
“ในเมื่อท่านหญิงอายที่จะกล่าว” เซียวเฉวียนยิ้มเยาะแล้วหันหน้ามองฉินเซิง “งั้นคงเป็นข้าที่จะแจ้งแก่ท่านแม่ทัพฉินเซิงสินะ”
ฉินซูโหรวส่ายหน้า ไม่ อย่าพูด!
ทันทีที่พูดไปแล้ว ท่านพ่อคงผิดหวังในตัวท่านพี่คนโตอย่างยิ่งแน่นอน!
เยี่ยงนั้นการที่ท่านพี่ปรารถนาจะกลับมายังเมืองหลวงเกรงว่าจะเป็นไปไม่ได้อีก!
แต่ละคนล้วนมีเส้นที่ไม่อาจล้ำได้ ในใจของฉินเซิง ไม่สังหารขุนนางตงฉิน ไม่สังหารญาติมิตร ก็คือฟางเส้นสุดท้ายของเขา
ยิ่งกว่านั้นในทางการทหารไม่มีคำว่าพ่อลูก ท่านพ่อที่เป็นแม่ทัพ หากปล่อยปละตามใจลูกชายของตระกูลคนเกินไปภายหลังก็ยากที่จะโน้มน้าวปกครองผู้คน
ทุกวันนี้ฉินเฟิงได้ล้ำเส้นไปแล้ว หากท่านพ่อรู้เรื่องคืนวันส่งท้ายปีอีกละก็ ฉินเฟิงคงถูกตระกูลฉินละทิ้งแน่แท้!
“อย่าพูด! อย่าพูด!” ฉินซูโหรวส่งเสียงดัง “ตุบ” คุกเข่าอย่างดี “เซียวเฉวียน ข้าขอร้องเจ้า อย่าได้พูด เหลือทางรอดให้พี่ชายข้าเถิด!”
หากเอ่ยถึงใครที่จะสามารถช่วยให้ฉินเฟิงกลับมาจากระหว่างทางถูกเนรเทศได้ก็ต้องเป็นท่านพ่อ!
ใบหน้าและดวงตาที่งามของฉินซูโหรวเปี่ยมไปด้วยความโศกเศร้า ความโอหังในสายตาเมื่อครู่ไม่เหลือแล้ว นางคุกเข่าอย่างเรียบร้อยตัวตรง “เรื่องราวไปผ่านไปแล้ว ขอร้องเจ้าอย่าได้กล่าวอีกเลย”
“ไม่ ท่านพูดมา” ฉินเซิงหันหน้าจ้องมองเซียวเฉวียน “ใต้เท้าเซียว ข้าจำได้ว่างานเลี้ยงที่จัดขึ้นในวังวันส่งท้ายปีท่านกับฉินเฟิงและฉินหนานมิได้เข้าร่วม เกิดเหตุขึ้นใช่หรือไม่?”
“ใช่”
คำพูดเซียวเฉวียนถูกกล่าวออกมา น้ำตาของฉินซูโหรวก็ไหลทันที “กระซิก……”
เซียวเฉวียนมองฉินเซิงด้วยความนิ่งเฉยพร้อมกล่าวออกมาทีละคำทีละประโยค “ในตอนนั้นข้ายังเป็นนายท่านจวนฉิน คืนวันส่งท้ายปี ลูกชายท่านฉินเฟิงใช้กระบี่จิงหงสังหารข้า”
เซียวเฉวียนกล่าวรายละเอียดเรื่องราวในวันนั้น ความเจ็บปวดทรมานฝังกระดูกดำวันนั้นถูกกล่าวมิรู้จบ
ฉินเซิงฟังไปพลางกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูด
“ส่วนข้าโชคดีในความโชคร้าย ดังนั้นจึงเกิดรากเหง้าการฝึกตนหรือรากจิตอักษรเติบโตขึ้นมาช่วยชีวิตข้าไว้”
เซียวเฉวียนเฉยเมยไม่สะทกสะท้านราวกับความเจ็บปวดทรมานสาหัสในค่ำคืนวันส่งท้ายปีเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย
ฉินซูโหรวตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก ก่อนหน้านี้เซียวเฉวียนไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ เหตุใดวันนี้ถึงเอ่ยถึงกัน?
“เจ้า……รู้เรื่องนี้?” ฉินเซิงหันหน้าจ้องมองฉินซูโหรวด้วยใบหน้าโมโหมาก แค้นที่ลูกสาวลูกชายน่าผิดหวัง ยิ่งแค้นที่ลูกๆเขาจิตใจอำมหิต!
“ท่านพ่อ…… ข้า…… ข้าก็เพิ่งมารู้ภายหลังเช่นกัน……” ฉินซูโหรวส่ายหน้า “ท่านพ่อ ข้า……”
ฉินซูโหรวไม่เคยพูดปด ท่าทางที่แสดงออกมานี้ของนาง ฉินเซิงที่ไม่อยากเชื่อเมื่อครู่ ก็ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ คำพูดของเซียวเฉวียนเป็นความจริง!
เป็นเรื่องจริงจริงๆ!
ลูกๆของเขาฉินเซิงกลับทำเรื่องเยี่ยงนี้ได้!
“ฉินหนานก็รู้เช่นกันรึ?” ฉินเซิงจ้องฉินซูโหรวด้วยความเหลือเชื่อ ดีนัก ดีนัก!
สังหารขุนนางตงฉิน! สังหารญาติมิตร!
ช่างทำได้ดีเสียจริง!
ฉินเซิงไม่คาดคิดเลยสักนิดว่าชั่วชีวิตนี้ของเขาฉินเซิงไม่เคยทำเรื่องน่าละอาย แต่ลูกสาวลูกชายกลับทำแทนเขาไปหมดแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...