อ่านสรุป บทที่ 455 ร้องขอความเมตตาครั้งแล้วครั้งเล่า จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บทที่ บทที่ 455 ร้องขอความเมตตาครั้งแล้วครั้งเล่า คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ต้องการชีวิตของคนในตระกูลเซียวงั้นหรือ?
ดูท่าว่าหัวของจูโชงจะมิค่อยฉลาดมากนัก
เหมิงเอ้าได้ทำการเคลื่อนย้ายทุกคนไปที่เรือนหลังหมดแล้ว ในยามนี้ ขอเพียงแค่เซียวเฉวียนเอ่ยสั่งการออกมาเท่านั้น ทั้งไป๋ฉี่ และเหมิงเอ้าก็สามารถรับคำสั่งได้ในทันที หาได้จำเป็นต้องเอ่ยปากตะโกนเรียกจนคอแตกเช่นเมื่อก่อนอีก
ในขณะที่จูโชงกำลังพูดพร่ำทำเพลงอยู่นั้น เซียวเฉวียนก็ได้เตรียมการเพื่อความปลอดภัยของครอบครัวของเขาเอาไว้แล้ว
ตอนนี้ทุกคนในตระกูลเซียวต่างก็รู้กันหมดแล้วว่าเซียวเฉวียนอยู่ด้านนอกจวน พวกเขายังรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะองค์หญิงที่ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา ในที่สุดเซียวเฉวียนก็กลับมาได้อย่างปลอดภัย ในที่สุดตระกูลเซียวก็จักได้กลับสู่ภาวะปกติเสียที!
“ชิงกั่ว อวิ๋นกั๋ว รีบไปจัดเตรียมชาเขียวหลงจิ่งที่ราชบุตรเขยชื่นชอบเอาไว้เดี๋ยวนี้”
“เพคะ องค์หญิง” ทั้งชิงกั่วและอวิ๋นกั๋วต่างก็ยิ้มแย้มออกมาด้วยความดีใจ ก่อนจะออกไปทำงานที่ได้รับตามคำสั่งในทันที
“เหมิงเอ้า เจ้ารีบไปที่หอปี๋เซิงเร็ว ไปเชิญคุณชายโย่วควนกลับมาเสีย คุณชายโย่วควนคิดถึงราชบุตรเขยมากถึงเพียงนี้ หากเขารู้ว่าราชบุตรเขยกลับมาแล้วเขาย่อมต้องดีใจมากเป็นแน่”
"ขอรับ"
“ใช้แล้ว ไปเชิญคุณชายอี้กุยมาด้วย” องค์หญิงที่ตกอยู่ในความตื่นเต้นนั้นกล่าวสมทบขึ้นมา วันเวลาที่เซียวเฉวียนไม่อยู่นั้น เป็นโยว่ควนและอี้กุยได้ปกป้องตระกูลเซียวเอาไว้ หากไม่ใช่เพราะสองคนนี้ละก็ ตระกูลเซียวคงมิอาจได้กินแม้แต่กระทั่งกับข้าวและเนื้อสดทำอาหารดี ๆ เลยด้วยซ้ำ
อี้กุยที่มีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลเซียวนั้น ทำให้หลายคนปฏิเสธและยอมรับในตัวอี้กุย พวกเขารู้สึกว่าอี้กุยใกล้ชิดกับตระกูลของนักโทษที่ถูกเนรเทศออกไปมากเกินไป เช่นนี้จึงทำให้ศาลาคุนหวู่ต้องมาพลอยลำบากไปด้วย
โยว่ควนเป็นคนเล่นงิ้วและนักเล่านิทานในเหลาอาหารนั้น เขายังต้องถูกผู้คนรังแกและข่มเหงให้ได้รับความอับอายในทุก ๆ วัน แค่เพื่อปกป้องเหลาอาหารเอาไว้ เขาจึงสร้างพื้นในเหลาอาหารบางส่วน พร้อมทั้งพากลุ่มของเจ้าหนึ่งและคนอื่น ๆ มาช่วยกันซ่อมแซมส่วนที่พังหรือเสียหายไป นับว่าเขาพยายามและลงทุนลงแรงไปไม่น้อยเลย
หากแต่โยว่ควนยังคงกัดฟันและยืนกรานบอกว่า หอปี๋เซิงเป็นทรัพย์สินของเซียวเฉวียน ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ เวทีเล่นงิ้วของเหลาอาหารเช่นหอปี๋เซิง จะยังเปิดอยู่ทุกวัน เขาจักไม่ยอมให้คนพวกนั้นเห็นว่าคนของตระกูลเซียวหมดสิ้นหนทางไปแน่
ในเมื่อเซียวเฉวียนกลับมาแล้ว ทั้งโยว่ควนและอี้กุยย่อมมีความสุขเป็นอย่างมาก
หากเซียวเฉวียนได้พบกับพี่น้องเหล่านี้ เขาก็จักต้องมีความสุขมากขึ้นเช่นกัน
“ขอรับ!” รอบดวงตาของเหมิงเอ้าพลันเปลี่ยนเป็นแดงก่ำเล็กน้อย “กระหม่อมจะไปเชิญพวกเขามาแน่นอนขอรับ”
“อื้ม วันนี้ข้าจักเข้าครัวเอง” ดวงตาขององค์หญิงต้าถงพลันเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาที่เอ่อคลอออกมา เสมือนกับไข่มุกที่กำลังร่วงหล่น
นอกจากเหล่าผู้อารักขาและชิงกั่วและอวิ๋นกั๋วแล้วนั้น หาได้มีบ่าวรับใช้คนอื่นเหลืออยู่ไม่ พวกเขาต่างก็พากันหนีไปหมดแล้ว
ก่อนจะหนีออกไปนั้น บ่าวรับใช้พวกนั้นยังหอบเงินหนีไปอีกจำนวนมาก นั่นทำให้แม่เซียวถึงกับโมโหจนเป็นลมล้มป่วยไปในทันที
องค์หญิงที่ต้องขึ้นมาเป็นนายหญิงของจวนนั้น ทั้งยังเป็นสตรีที่กำลังตั้งครรภ์อีก พระนางจึงต้องทำอาหารและงานบ้านด้วยตัวเองทุกวัน ทั้งยังต้องคอยรับใช้แม่ของเซียวอีกด้วย พระนางต้องทนเหนื่อยและปวดหลังปวดขาในทุก ๆ วัน แต่พระนางหาได้เคยบ่นโอดครวญออกมาไม่
นางเชื่อว่า เซียวเฉวียนจะรักษาสัญญาที่ให้กับนางไว้ว่าเขาจะกลับมา
ถึงแม้ว่านางจะไม่ทราบว่าเมื่อใด แต่นางก็รู้ดีว่าเซียวเฉวียนจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน
ภายในจวนตระกูลเซียวนั้น ทุกคนต่างก็ยุ่งวุ่นวายอยู่กับการเตรียมการต้อนรับการกลับมาของเซียวเฉวียน ทั้งยังลงมือทำอาหารมากมายเพื่อให้เซียวเฉวียนได้กินร้อน ๆ อีกด้วย
ด้านนอกประตูนั้น ใบหน้าของจูโชงที่เต็มไปด้วยความโมโหพลางกล่าวออกมาว่า "เซียวเฉวียน! ข้าว่าที่เจ้ากลับมาจากเกาะจูเสิน เจ้ากลายเป็นบ้าไปแล้วแน่ ๆ !"
“ได้! ในเมื่อเจ้าอยากให้ข้าระเบิด ข้าก็จะระเบิด!”
ใบหน้าของเหล่าลูกหลานจวนตระกูลขุนนางคนอื่น ๆ ต่างพากันงุนงงไปในทันที เป็นพวกเขาเข้าใจผิดไปงั้นหรือ? ความหมายของเซียวเฉวียนก็คือ: หากเจ้ากล้าก็ลองดู?
เหล่าพรรคพวกของจูโชงจึงรู้สึกได้ในทันทีว่าสมองของจูโชงผิดปกติไปเสียแล้ว ความหมายจากคำพูดที่พวกเขาเข้าใจได้ จูโชงกลับฟังไม่เข้าใจ
นอกจากจูโชงแล้ว คนอื่น ๆ กลับรู้สึกหวาดกลัวยิ่งนัก
“คุณชายจู! ช่างมันเสียเถอะ!”
“ใช่! ในเมื่อพวกเขากลับมากันหมดแล้ว! ไม่ว่าพวกเขาจักลงมือลงแรงมาหรือไม่ แต่เซียวเฉวียนก็ยังกลับมาในฐานะนักโทษที่มีความผิดอยู่ดี พวกเราอย่าได้สร้างปัญหาอีกเลย!”
คงจะดีไม่น้อยหากจูโชงสามารถเข้าใจความนึกคิดเฉกเช่นเหล่าลูกหลานจวนตระกูลขุนนางคนอื่น ๆ เช่นนี้ ทว่า จูโชงหาได้เข้าใจไม่
“ไปให้พ้น! แค่คนคนเดียว พวกเจ้าก็กลัวแล้ว! แต่ข้าไม่กลัว!”
ภาพวาดเก่าและสิ่งของอันล้ำค่ามากมายในจวนตระกูลเซียวเช่นนี้
เขาต้องการเงิน!
เขาต้องการเงินมากมาย!
เขาอยากเป็นกลับไปเป็นนายน้อยของตระกูลจูเช่นเดิม!
เขาต้องการกอบกู้ความรุ่งโรจน์ของท่านปู่ของเขากลับมา ท่านอัครมหาเสนาบดีสกุลจู!
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ล้วนเป็นเพราะเซียวเฉวียน!
หากเซียวเฉวียนมิได้เป็นราชบุตรเขยละก็ เขาก็คงไม่แพ้เดิมพันเช่นนี้!
หากเขาไม่แพ้เดิมพัน ท่านปู่ของเขาก็คงมิต้องมาโกรธโมโหจนอกแตกตาย!
หากท่านปู่มิได้จากไป ถึงแม้ว่าตระกูลจูจักไม่มีเงินมากมาย แต่พวกเขาก็ยังเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งได้!
ทว่าเมื่อไม่มีเงินเหลือแล้ว ท่านปู่ก็ยังมาตกตายไปเช่นนี้อีก ตระกูลจูก็ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว!
ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเซียวเฉวียน!
เซียวเฉวียนเจ้ามันเป็นตัวซวย!
เซียวเฉวียนเจ้าต้องชดเชยให้กับข้า!
จูโชงที่หน้าด้าน พลันหยิบตะบันไฟขึ้นมาด้วยท่าทีตื่นเต้น ก่อนจะจุดไฟลงไป "ฮ่าฮ่าฮ่า! เซียวเฉวียน! เจ้าเป็นหนี้ข้า! เจ้าจักต้องคืนทุกสิ่งทุกอย่างมาให้ข้า!"
“พวกเจ้าคนตระกูลเซียวทั้งหมดจักต้องชดใช้ให้ข้า!”
“ต้องชดใช้!”
เมื่อไฟถูกจุดขึ้นมาแล้วนั้น ประกายไฟพลันโพยพุ่งไปทุกทิศทุกทางในทันที
เหล่าลูกหลานจวนตระกูลขุนนางคนอื่น ๆ ต่างพากันหวาดกลัววิ่งหนีออกไปไกลกว่าสิบก้าว จูโชงเองก็เตรียมที่จะวิ่งหนีออกไปด้วยเช่นกัน
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” จูโชงยังคงหัวเราะออกมาอย่างภาคภูมิใจ “ของโบราณของข้า!”
"ภาพวาดของข้า!"
กำลังจะระเบิดแล้ว!
จูโชงพลันส่ายหัวไปมาในทันที "ไม่! ไม่! ไม่เอา! อย่าระเบิดนะ!"
"ปั้ง!"
"ตู้ม!"
เสียงระเบิดพลันเสียงดังรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมด้วยเสียงกรีดร้องของจูโชงที่ดังออกมา"อ๊าก!"
"อ๊าก" เว่ยเป่าเลียนแบบด้วยเสียงร้องด้วยเช่นกัน ประตูกำลังจะถูกระเบิดแล้ว ตูดของจูโชงคงจะโดนระเบิดออกมาเหมือนกันเป็นแน่ ฮิฮิ
ทั้งเว่ยอวี๋และเว่ยเป่าต่างก็มองหน้ากัน ก่อนจะหัวเราะออกมา
ประตูจวนของตระกูลเซียวก็ถูกระเบิดออกมาเช่นกัน
จูโชงเองก็ถูกระเบิดไปพร้อมกับประตูด้วย
สองขาของจูโชงพลันถูกระเบิดออกมาไม่มีเหลือ
จูโชงถึงเป็นลมสลบไปพร้อมกับความเจ็บปวดในทันที
เหล่าลูกหลานจวนตระกูลขุนนางคนอื่น ๆ ที่มากับจูโชงนั้น พวกเขาก็ตกใจเสียจนตัวสั่นเทา ก่อนจะล้มตัวลงบนพื้น อะไรกัน มันเกิดอะไรขึ้น?
เหตุใดจูโชงถึงถูกระเบิดได้เล่า?
เหตุใดจูโชงถึงวิ่งเข้าไปโดนระเบิดอย่างเช่นนี้?
เลือดและเนื้อต้นขาของจูโชง พลันถูกระเบิดเสียจนกระเด็นมาโดนหน้าพวกเขา
"เฮ้ย!"
เหล่าลูกหลานจวนตระกูลขุนนางคนที่ไม่เคยเห็นโลกเหล่านี้มาก่อนนั้น ต่างก็พากันหวาดกลัวเสียจนร่ำไห้ออกมาในทันที
คนที่ขี้ขลาดตาขาวบางคน เมื่อเห็นจูโชงนอนอยู่บนพื้นโดยมิรู้ว่าเป็นตายร้ายดีเช่นไร ก็ถึงกับตกใจกลัวจนเป็นลมล้มพับไป
ทุกอย่างเป็นไปตามที่เซียวเฉวียนคาดการณ์เอาไว้
การระเบิดในครั้งนี้ ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนเสียจนและดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้เข้ามารับชมเรื่องสนุก ๆ ในทันที
“ว้าว! ผู้ใดหาญกล้ามาระเบิดประตูจวนตระกูลเซียวกัน ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้วหรือไร?”
“ ใช่แล้ว เซียวเฉวียนกลับมาในครานี้ เขาย่อมต้องมีชื่อเสียงมากกว่าเดิมเป็นแน่ เหล่าลูกหลานตระกูลขุนนางชั้นสูงที่ตกต่ำพวกนี้ละทำเรื่องงามหน้าจริง ๆ !”
เมื่อเหล่าลูกหลานตระกูลขุนนางทั้งหลายที่ยังคงมีสติดีอยู่นั้น ยามที่พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองจึงพบกับสายตาอันเย็นชาของเซียวเฉวียนไปในทันที เป็นไปได้หรือไม่ที่จูโชงเป็นเช่นนี้เพราะเซียวเฉวียนลงมือ?
เหล่าลูกหลานตระกูลขุนนางทั้งหลายต่างพากันนั่งคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความตกใจกลัวไปในทันที "ใต้เท้าเซียว! ไว้ชีวิตข้าด้วย! ไว้ชีวิตของข้าขอรับ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...