ตอน บทที่ 458 ใจไม่ยอมศิโรราบ จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 458 ใจไม่ยอมศิโรราบ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
"ข่าวลือใด?"
ฉินเซิงเอ่ยถามอย่างสงสัย ไม่รู้ว่าในช่วงระยะเวลาที่เขามิได้อยู่ในเมืองหลวงนั้นในกลุ่มผู้มีอำนาจกับเหล่าประชาชนกลับมีข่าวลือแพร่สะพัดไปกันเสียแล้ว
กล่าวว่าเซียวเฉวียนนายท่านคนก่อนของจวนฉิน ถูกกลั่นแกล้งรังแกที่จวนฉิน อีกทั้งจวนฉินยังปฏิบัติด้วยอย่างรุนแรงเช่นนั้นอีก
เซียวเฉวียนเป็นผู้นำในการปราบจลาจลที่รัฐไป๋ลู่ เขาจะต้องสร้างความยากลำบากให้กับฉินเซิงและฉินเฟิงอย่างแน่นอน
ไม่แน่ว่าอาจเป็นเพราะว่าเซียวเฉวียนมีถือส่วนรวมเพื่อส่วนตัว อาจสังหารฉินเฟิงไปแล้วก็เป็นได้
"การที่ฉินเฟิงมิได้กลับมาเป็นเพราะว่าเซียวเฉวียนสังหารบุตรชายของข้าไปแล้วอย่างนั้นหรือ?" แม่ฉินคว้าจับท่อนแขนของฉินเซิงเอาไว้แน่น หากเป็นเช่นนี้จริง ๆ แล้วละก็ นางจะสังหารเซียวเฉวียนเดรัจฉานตัวนี้ให้ได้!
"องค์หญิงใหญ่! มิใช่แบบนั้น!"
ภรรยาของฉินเซิงกำลังจะกล่าวโทษเซียวเฉวียนอย่างไม่แยกแยะเขียนแดงดำขาว ในท้ายที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใบบุตรชายและบุตรีจึงมีอุปนิสัยเช่นนี้ เป็นเพราะมีแม่ฉินผู้เป็นมารดาที่มิได้สั่งสอนบุตรหลานให้เป็นอย่างดีนั่นเอง
ฉินเซิงนำเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในรัฐไป๋ลู่บอกกล่าวให้แม่ฉินฟังด้วยเสียงเบาทั้งหมด
เขาเข้าใจถึงอุปนิสัยและอารมณ์ของแม่ฉินได้อยากลึกซึ้ง หากไม่กล่าวให้กระจ่างแล้วละก็ เพื่อบุตรชายและบุตรสาวแล้ว นางจะต้องสร้างความวุ่นวายพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินจนไม่สามารถตามเก็บกวาดได้เป็นแน่
ความเป็นไปทั้งหมดได้กล่าวไปแล้ว ฉินเซิงถอดถอนใจยาว ๆ ออกมาหนึ่งหน "การให้เฟิงเอ๋อร์อยู่ที่รัฐไป๋ลู่นั้น ถือเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแล้ว"
"บุตรชายข้าจะสามารถห่างจากข้าไปได้อย่างไร!" แม่ฉินกลับคิดว่าฉินเฟิงและฉินซูโหรวต่างก็มิได้มีความผิดเลยแม้แต่นิดเดียว "คนเห็นแก่ตัวเหล่านั้นหลบหนีออกมาจากเกาะจูเสินแล้ว นั่นคือขุนนางนักโทษนะ! บุตรชายกับบุตรสาวของข้าทำผิดกระไร! นี่พวกเขากำลังสร้างความดีความชอบในสงคราม!"
"หุบปาก! นั่นคือเหล่าสหายของเซียวเฉวียน! เป็นผู้ปราบจลาจล! ขุนนางนักโทษกระไร!"
ฉินเซิงอดกลั้นจนไม่ไหวแล้ว "สรุป! เจ้าไม่ต้องยุ่งแล้ว! บัดนี้บุตรีไปเป็นแขกเหรื่ออยู่ที่จวนเซียว! ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าไปหานาง! ไม่อนุญาตให้ไปสร้างความวุ่นวายที่จวนเซียว!"
ว่าจบฉินเซิงที่บันดาลโทสะเป็นอย่างมากก็กลับเข้าไปในจวน แม่ฉินโกรธจนกระทืบเท้า "เจ้าก็ให้มันได้อย่างนี้สิฉินเซิง! เจ้าไม่รักบุตรชายกับบุตรสาวของเจ้า! แต่ข้ารัก!"
ทว่าฉินเซิงกลับสาวเท้าเดินไปไกลแล้ว ไม่แม้แต่จะสนใจนางด้วยซ้ำ
แม่ฉินกระทืบเท้าไปมา ต้องการที่จะไปรับฉินซูโหรวกลับมาจากจวนเซียวในทันที ทว่าที่ปากประตูจวนท่านแม่ทัพกลับมีคนขวางนางเอาไว้ "องค์หญิงใหญ่ มิมีป้ายคำสั่งของท่านแม่ทัพ มิว่าผู้ใดก็ไม่สามารถก้าวออกไปจากจวนฉินได้แม้แต่ครึ่งก้าว"
แม่ฉินกำหมัดแน่น ระเบิดเป็นจุณแล้ว บันดาลโทสะจนจะระเบิดเป็นจุณแล้วจริง ๆ!
ได้ ได้สิ!
ไม่ นางจะมิให้เซียวเฉวียนได้ทำสำเร็จอย่างแน่นอน!
นางจะต้องช่วยฉินเฟิงกลับมาจากรัฐไป๋ลู่ให้จงได้!
นางเองก็จะต้องชิงตัวฉินซูโหรวกลับมาจากจวนเซียวให้จงได้เช่นกัน!
แม่ฉินคิดไม่ถึงอย่างสิ้นเชิง การที่เซียวเฉวียนกลับมาที่เมืองหลวงนั้นช่างมันไป แต่นี่กลับวางอำนาจเสพสุขอยู่บนศีรษะของคนตระกูลฉิน!
หึ!
ช่างไร้เดียงสามากเกินไปแล้ว!
อาศัยความสามารถเช่นนี้ของเซียวเฉวียนคิดจะก่อกบฏหรือ?
ทั่วทั้งต้าเว่ยต่างก็เป็นคนของราชวงศ์ทั้งสิ้น ตระกูลฉินยิ่งมีความดีความชอบในสงครามนับไม่ถ้วนเข้าไปกันใหญ่ เซียวเฉวียนได้รับความดีความชอบในการทำสงครามมาเรื่องเล็กน้อยเรื่องหนึ่งก็เท่านั้น มันจะเป็นเรื่องยากพบเจอกระไรกัน!
จวนเซียว
วันที่สอง
เซียวเฉวียนกำลังนอนตระกองกอดภริยาองค์หญิงจนตื่นขึ้นมาด้วยตนเอง ในหลายวันมานี้ เมื่อคืนวานคือวันที่เขาหลับได้ดีมากที่สุด
การดื่มเหล้ามากเกินไปทำให้เซียวเฉวียนหลับสบายเป็นอย่างมาก วันนี้เขาจะเข้าพระราชวังไปขอบพระทัยรางวัลที่ฮ่องเต้พระราชทานให้ ที่สำคัญที่สุดคือการใช้อำนาจที่ได้มาจากรัฐไป๋ลู่มาครึ่งหนึ่ง เช่นนี้พริกของเขาก็จะสามารถปลูกขึ้นมาได้แล้ว
ฮ่า ๆ
หวนนึกถึงอาหารเผ็ด ๆ ที่สดใหม่นั้น น้ำลายของเซียวเฉวียนก็ล้วนจะไหลออกมาอยู่แล้ว
เซียวเฉวียนลุกจากเตียงอย่างแผ่วเบา องค์หญิงทรงกำลังตั้งครรภ์ นอนหลับค่อนข้างลึก เขามิได้ปลุกนางให้ตื่น
ก่อนที่จะเข้าพระราชวัง เขามีเรื่องราวมากมายใหญ่โตจำเป็นต้องสะสาง
เรื่องที่หนึ่งย่อมเป็นการล้างหน้าล้างตา
สุภาพบุรุษต้องแต่งองค์ทรงเครื่องให้เรียบร้อยอย่างไรเล่า เซียวเฉวียนมาถึงลานบ้าน ร้องกล่าวว่า "ฉินซูโหรว"
"ฉินซูโหรว?"
...
"ใต้เท้าเซียว! ไว้ชีวิต! ไว้ชีวิตด้วย!"
"พวกเราไม่กล้าแล้ว! ไม่กล้าอีกแล้ว!"
"ไม่กล้าอีกแล้วอย่างนั้นหรือ?" เซียวเฉวียนช้อนสายตาเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที "พวกเขายังคิดว่าจะมีครั้งต่อไปอีกหรือ พวกเจ้านึกว่าที่ข้าจับพวกเจ้ากลับมาเป็นเพราะจะให้พวกเขากลับมาเป็นบ่าวเป็นไพร่?"
บ่าวสาวและเด็กรับใช้สอบกว่าคนจับก้นเพราะเจ็บปวดอย่างไร้เทียบเทียม เช่นนั้นจับพวกเขากลับมาทำไมเล่า?
คนกลุ่มนี้มีชาติกำเนิดเป็นบ่าวไพร่ สถานะก็คือบ่าว ขายตัวมารับใช้ที่จวนเซียว
ยามเมื่อคนผู้หนึ่งยังคงมีสถานะเป็นบ่าวเป็นไพร่อยู่ หากหลบหนีจากไปโดยพลการ นี่คือโทษมหันต์ในสมัยโบราณ
"ส่งไปที่ว่าการ ที่ว่าการจะจัดการอย่างไรก็จัดการไปอย่างนั้นเถิด"
ประโยคเย็นชาหนึ่งประโยคของเซียวเฉวียนทำเอาคนกลุ่มตกตะลึงจนหน้าถอดสีกันไปหมด หากส่งไปที่ว่าการแล้วละก็ พวกเขามีเพียงแค่ความตายสถานเดียวเท่านั้นแล้ว!
"ใต้เท้าเซียว! ปล่อยพวกเราไปเถิด!"
"พวกเราไม่กล้าอีกแล้ว!"
"ไม่กล้าหรือ?" เซียวเฉวียนหัวร่อเย็นชาหนึ่งเสียง เอ่ยถามคำถามที่พวกเราไม่ว่าใครก็ล้วนมิอาจตอบได้ไปว่า "หากไม่กล้าแล้วละก็ เหตุใดพวกเจ้าจึงขโมยเงินเล่า? เหตุใดจึงให้มารดาข้ากินข้าวเหลือ? เหตุใดจึงให้ภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ของข้าต้องทำงานหนัก? เหตุใดจึงให้น้องสาวข้านอนบนพื้น!"
"ตัวข้าเซียวเฉวียนไม่อยู่พวกเจ้ายังกล้าทำเช่นนี้! หากตัวข้าเซียวเฉวียนตายไปพวกเจ้าคงจะกล้าสังหารครอบครัวของข้าใช่หรือไม่?"
"บ่าวไพร่ตัวเล็กตัวน้อย! ไม่รู้จักบุญคุณ! มีจิตคิดคด!"
เซียวเฉวียนโบกมือหนึ่งหน "ส่งไปที่ว่าการ! กฎหมายจะลงโทษอย่างไรก็ให้ลงโทษไปอย่างนั้น!"
"ฮือ ๆ ๆ! ผิดแล้ว! พวกเราผิดไปแล้ว!" เหล่าบ่าวและสาวใช้ต่างก็โขลกศีรษะกันไม่หยุด
ไป๋ฉี่กับเหมิงเอ้าสบตามองพวกเขาอย่างเย็นชา เป็นการระบายความแค้นได้เป็นอย่างดี หากมิใช่ว่าองครักษ์มิอาจสังหารประชาชนได้แล้วละก็ พวกมันกลุ่มนี้คงถูกโบยร้อยไม้จนตายไปนานแล้ว
ตอนนี้มาร่ำไห้กันแล้วอย่างนั้นหรือ?
ร่ำไห้ไปก็ไร้ประโยชน์!
เหล่าข้ารับใช้ถูกทหารของทางการที่มารออยู่ก่อนหน้านี้ลากไปแล้ว ฉินซูโหรวเห็นแล้วตกตะลึงทันที ท่าทีและการจัดการทุกอย่างของเซียวเฉวียนมันซ่อนกลิ่นอายกษัตริย์ทรงอำนาจเอาไว้อยู่
"ฉินซูโหรว! ยังไม่เข้ามาอีก!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...