บทที่ 459 ไม่คำนึงถึงที่ต่ำที่สูง – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย
ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 459 ไม่คำนึงถึงที่ต่ำที่สูง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เซียวเฉวียนตะโกน “รอข้าล้างตัวก่อน”
"มาแล้ว"
เสียงของฉินซูโหรวอ่อนแอ ส่วนไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าก็ตะคอกอย่างเย็นชาพร้อมกับภายในใจมีแต่ความเยือกเย็น
ฉินซูโหรวเป็นเหมือนสาวใช้ทั้งถือน้ำ ยื่นผ้าเช็ดตัวและเช็ดมือของเซียวเฉวียน
ท่าทางของนางดูระมัดระวังอย่างมาก แต่ใจจริงๆรู้สึกไม่พอใจเลยสักนิด
เซียวเฉวียนเพลิดเพลินกับการบริการของนางด้วยความรู้สึกสบาย นี่ยิ่งทำให้ฉินชูโหรวยิ่งไม่มีความสุขขึ้นไปอีก รอก่อนอีกไม่นานแม่ของเธอจะมารับเธออย่างแน่นอน!
หลังจากที่เซียวเฉวียนล้างหน้าแล้ว ฉินซูโหรวก็ยื่นชาให้เขา ขณะที่หยิบถ้วยชาเขาก็ผลักกลับทันที “มันเย็นแล้ว”
“งั้นข้ารินให้อีกแก้วเพคะ”
ฉินซูโหรวเปลี่ยนไปรินให้อีกแก้ว
"มันร้อน"
"ท่าน..." ฉินซูโหรวกำลังจะโวยวายขึ้น แต่นางก็ต้องอดทน “งั้นข้าจะทำให้เย็นลงนะเพคะ"
“ชุดข้าราชการของข้าหล่ะอยู่ไหน?”
“อะไรนะ เครื่องแบบราชการอะไร?” เมื่อเซียวเฉวียนถาม ฉินซูโหรวก็ตกตะลึงและไม่ตอบอะไรกลับ มันเป็นแค่วันแรกของนางที่นี่ แล้วนางจะรู้ได้อย่างไรว่าเสื้อผ้าของเซียวเฉวียนอยู่ที่ไหน?
“ฉินซูโหรว เจ้าแกล้งโง่เหรอ?”
หลังจากที่ได้ยินที่เซียวเฉวียนพูด ฉินซูโหรวก็รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก "เซียวเฉวียนนี่ท่านพูดนั้นมากเกินไปแล้ว ทำไมท่านไม่พูดกับข้าด้วยเหตุและผล!”
เซียวเฉวียนดูไม่พอใจ "ข้าจะไปพบฝ่าบาทในภายหลัง ถ้าหากท่านให้บริการข้าไม่ดี ข้าอาจพูดอะไรบางอย่างที่ไม่ควรพูด ท่านกับฉินเฟิงจะมีเรื่องตามมาเป็นแน่...
ฉินชูโหรวกำมืออย่างแน่นแล้วพูดว่า "เอาล่ะ ข้าจะไปหาเครื่องแบบราชการให้ท่านก่อน”
“ถ้าหากท่านไม่เข้าใจการรับใช้คนก็ลองถามชิงกั่วและหยุนกั่วได้” เซียวเฉวียนยิ้มเล็กน้อย “เพราะพวกเขาฉลาด”
ฉินซูโหรวเด็กสาวที่มีพรสวรรค์จากเมืองหลวงถูกเปรียบเทียบโดยเซียนเฉวียนกับบ่าวสองคน
เซียวเฉวียนจงใจทำให้เธออับอาย!
" ฮึ!" ฉินซูโหรวเดินสะบัดไป โดยไม่สนใจเซียวเฉวียนและไปหาเสื้อผ้าต่อ
ทันทีที่ฉินซูโหรวค่อยๆเดินไปนั้นไป เซียวเฉวียน ไป๋ฉี่ และคนอื่นๆ ก็หันมาหัวเราะเยาะเย้ย
“ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!”
“ ฮ่าๆ! เจ้าเห็นหรือไม่ว่านางหน้าตาเป็นอย่างไร? หึ่ม! นางยังมีวันนี้อยู่ได้อีกนะ!"
เหมิงเอ้าหัวเราะเสียงดังเป็นพิเศษ เพราะก่อนหน้านี้ในจวนฉินมีแต่เรื่องวุ่นวายใจ แต่ตอนนี้เมื่อพวกเขาเห็นฉินซูโหรวโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เหมิงเอ้ากลับมีความสุข!
ไป๋ฉี่ยิ้มและพยักคิ้ว และตอนนี้ฉินซูโหรวก็ยังโกรธมาก!
"นายท่าน เมื่อท่านกลับเข้าไปในวังในครั้งนี้ ใต้เท้าชิงหลงจะกลับมากับท่านหรือไม่?"
ไป๋ฉี่ถามด้วยความคาดหวัง
"ใช่ ใช่ ชิงหลงนี้มีเชื้อสายเดียวกันกับทาสคุนหลุนเหรอ?" ดวงตาของเหมิงเอ้าเป็นประกาย เขาคิดว่ากลุ่มของพวกเขาไม่มีญาติ
"ใช่แล้ว ในทางทฤษฎีพวกเจ้ามีบรรพบุรุษคนเดียวกัน" เซียวเฉวียวยิ้มและพูดว่า "ไม่ต้องห่วง เขาจะกลับมาพร้อมข้าอย่างแน่นอน"
"เย้" เหมิงเอ้าฟังน้ำเสียงของเซียวเฉวียนอย่างมั่นใจมาก "นายท่านของข้าช่างสง่างามจริงๆ! ข้าได้ยินมาว่าบุคคลสําคัญหลายคนต้องการเชิญชิงหลงให้อาศัยอยู่ในบ้านของพวกเขา!"
"เป็นผลให้ใต้เท้าชิงหลงไม่ได้ไปไหน และท่านไม่อยากอยู่ในวัง ท่านบอกว่าท่านยืนยันเหมือนเดิมที่จะมาที่จวนเซียว!"
เมื่อเซียวเฉวียนไม่อยู่ เหมิงเอ้ารู้สึกน้อยใจและหยิ่งผยองขึ้นมา ไป๋ฉี่อดไม่ได้ที่จะเตือน "โอเค พอล่ะ เดี๋ยวคนนอกจะเห็นและคิดว่าเราหยิ่งผยอง"
"คนหยิ่งผยองแล้วยังไงรึ!" เหมิงเอ้าเงยหน้าขึ้นและพูดว่า "เมื่อนายท่านไม่อยู่ ทุกคนรังแกข้า!" แม้แต่ทาสในบ้านก็กลั่นแกล้งคนอ่อนแอและกลัวคนเข้มแข็ง!"
"ตอนนี้นายท่านกลับมาแล้ว ข้าก็ต้องขอหยิ่งผยองบ้าง!"
"ดีมาก ไม่เลว" เซียวเฉวียนพยักหน้าและมองนางอย่างชื่นชม: "ข้ามีทางของข้า"
พระราชวังฉางหมิง
ชิงหลงนั่งที่หัวที่โต๊ะของแขก และเซียวเฉวียนก็นั่งข้างเขา ฮ่องเต้มีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่ก็ไม่เห็นอารมณ์ใดๆเลย "พี่เซียว ข้าไม่ได้เจอท่านมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว ท่านดูสง่าขึ้นยิ่งนัก”
“แม่ทัพฉินบอกว่าเมื่อวานท่านเหนื่อยและเป็นลม เลยไม่ได้มางานเลี้ยงในวัง ขอบคุณท่านอย่างมากที่ทรงทำงานหนัก”
ฮ่องเต้บอกว่าเซียวเฉวียนมีจิตใจดี และยังบอกว่าเขาเป็นลม : ข้ารู้ว่าท่านกำลังแกล้งทำเป็นป่วย
เซียวเฉวียนสวมเสื้อผ้าธรรมดาๆ เมื่อเขาเข้ามาในวังวันนี้ ไม่ใช่เครื่องแบบทางการของขุนนางระดับห้า ฮ่องเต้ไม่รู้จริงๆเลยว่าเซียวเฉวียนนั้นกำลังคิดจะทำอะไรอยู่
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงการรับใช้อันทรงเกียรติของเซียวเฉวียน ฮ่องเต้ก็ไม่สนใจเขาอีกต่อไป
อีกทั้ง เซียวเฉวียนพาน้องชายสองคน เว่ยอวี๋และเว่ยเป่าเข้ามาในพระราชวังด้วย
องค์ฮ่องเต้ไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรให้เด็กทั้งสองคนที่กำลังวิ่งเล่นอยู่นี้กัลบไป
เว่ยอวี๋และเว่ยเป่าถูกเซียวเฉวียนบังคับให้เข้ามาในวัง ตอนนี้พวกเขากำลังนั่งอยู่ที่นั่นด้วยสีหน้าไม่เต็มและดูเหมือนจะไม่ชอบพันธนาการของพระราชวัง
เซียวเฉวียนมาวันนี้เพียงเพื่อถามคำถามฮ่องเต้
“ฝ่าบาท พระองค์ทรงวางแผนที่จะจัดการกับเรื่องข้าราชการที่ถูกใส่ร้ายอย่างไร”
ถูกใส่ร้าย? องค์ฮ่องเต้ตกใจและเห็นว่าเซียวเฉวียนมีสีหน้าเดียงสา จึงพูดอย่างจริงใจว่า "อ้อ ก็คือเรื่องที่ขุนนางถูกเนรเทศ"
เว่ยชิงถูกเว่ยเชียนชิวฆ่า ไม่ใช่เซียวเฉวียน
ในหมู่พวกเขาแม้ว่าจะมีเหตุผลที่เซียวเฉวียนใช้ยาอายุวัฒนะเพื่อหลอกเว่ยเชียนชิวแต่เซียวเฉวียนไม่ได้ฆ่าคน
ฮ่องเต้เนรเทศเขานั่นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ขันทีหม่าดูตกใจ เซียวเฉวียนหาว่าฝ่าบาททำผิดต่อเขาเหรอ?
นี่ท่านพยายามก่อเรื่องนี้ขึ้นเพียงเพราะว่าท่านต้องการหาประโยชน์ทางทหารใช่หรือไม่?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...