ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 465

สรุปบท บทที่ 465 อาและหลานจอมเจ้าเล่ห์: ซูเปอร์ลูกเขย

ตอน บทที่ 465 อาและหลานจอมเจ้าเล่ห์ จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 465 อาและหลานจอมเจ้าเล่ห์ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ในห้องครัว ฉินซูโหรวกำลังทำอาหารด้วยมือไม้ที่เก้งก้าง

นางได้ยินเสียงเหล่าคนรับใช้ต่างพากันตะโกนเรียกองค์หญิง นางก็รู้สึกดีใจยิ่งขึ้นกว่าเดิม เจ้าพวกโง่ เพิ่งจะรู้ว่ามีคนหายไป ป่านนี้คงนอนขาดใจตายไปเสียแล้วกระมัง

ขณะนั้นเอง มีสาวรับใช้คนหนึ่งมาส่งคำสั่ง “คุณชายมีคำสั่งว่า ให้ทุกคนหยุดทำงานที่ทำอยู่ รีบไปตามหาองค์หญิงและชิงกั่ว!”

“โอ้ ๆ ได้!” เหล่าคนครัวต่างพากันวางงานที่ทำอยู่ในมือ แต่ฉินซูโหรวกลับไม่สนใจ

“ท่านหญิง ท่านไม่ไปหรอกหรือ?” แม่ครัวคนหนึ่งถามขึ้นอย่างระวัง

“ข้าไม่ไปหรอก นางหายตัวไปแล้วเกี่ยวอะไรกับข้าด้วยเล่า!”

ท่าทางเช่นนี้ของฉินซูโหรว ทำให้คนรับใช้เหล่านั้นหมดคำพูด ทุกคนต่างพากันวิ่งออกไปตามหา เหลือเพียงฉินซูโหรวผู้เดียวที่ยังอยู่ในครัว

เมื่อทุกคนไปหมดแล้ว ฉินซูโหรวก็ทิ้งงานที่ทำอยู่ “เหอะ! คนตระกูลเซียว ไม่มีบุญได้กินอาหารที่ท่านหญิงทำหรอก!”

นางหมุนตัวกลับมา เงาคนผู้หนึ่งที่หลบอยู่ในมุมทำให้นางต้องตกใจ “ผู้ใดกัน? ผู้ใดยืนอยู่ตรงนั้น!”

“สิ่งที่เจ้าทำไปเมื่อครู่ ข้าเห็นหมดทุกอย่าง สมแล้วที่เป็นคนตระกูลฉินของเรา”

คนผู้นั้นเดินออกมา พร้อมรอยยิ้มที่มีจุดประสงค์

“ท่านอารอง?”

คือฉินหลัง

ฉินซูโหรวถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะระมัดระวังตัว “ท่านอารอง ท่านมาได้อย่างไร?”

ตระกูลของฉินซูโหรวและตระกูลของฉินหลังไปมาหาสู่กันค่อนข้างน้อย ตลอดทั้งปีแทบไม่ได้เจอกันเลยนอกจากวันเทศกาลต่าง ๆ

ฉินซูโหรวยังคิดว่า คนตระกูลฉินคนแรกที่นางจะได้พบคือท่านแม่ของตัวเอง นึกไม่ถึงว่าจะเป็นท่านอารอง

“ท่านหญิง สิ่งที่เจ้าทำไปเมื่อครู่ ท่านอารองเห็นหมดแล้ว”

ฉินหลังสะบัดพัด แม้ว่าเขาจะอยู่ในวัยกลางคน แต่ท่าทางของเขายังคงดูเหมือนตระกูลสูงศักดิ์

ที่สง่างาม สุภาพเรียบร้อย พูดไม่ช้าหรือเร็วเกินไป

“ห้ะ อะไรกัน? ท่านกำลังพูดถึงสิ่งใด?” ฉินซูโหรวร้อนตัวเล็กน้อย และถอยหลังไปหนึ่งก้าว

“พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ท่านหญิงไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้น” ฉินหลังยิ้มอ่อน “เจ้ารู้ดีว่าข้าหมายถึงสิ่งใด”

“ใครเป็นครอบครัวเดียวกันกับท่าน ท่านแม่ของท่านเป็นอนุภรรยาของท่านปู่ สายเลือดของเรากำเนิดจากผู้เป็นภรรยาหลวง! ท่านเชื่อถือเว่ยเชียนชิว แต่พวกเราสวามิภักดิ์ต่อฮ่องเต้ พวกเราไม่ถือเป็นคนตระกูลเดียวกัน!”

ฉินซูโหรวช่างโง่เขลาเสียจริง นางมีจุดอ่อนอยู่ในมือผู้อื่นแต่ยังทำท่าทียโสโอหัง

อนุภรรยา...

ภรรยาหลวง...

สีหน้ายิ้มแย้มของฉินหลังเริ่มเปลี่ยนไป ถูกต้อง ท่านแม่เป็นอนุภรรยา ดังนั้นเขาจึงต้อยต่ำกว่าฉินเซิงในทุก ๆ ด้าน

ตระกูลฉินมีทรัพย์สินของตระกูลและตราอาญาสิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ หลังจากฉินปาฟางจากไปก็มอบทุกอย่างให้ฉินเซิง

แต่เขา ฉินหลังผู้นี้กลับไม่ได้สิ่งใดเลย

ท่านพี่ฉินเซิงผู้นี้ ได้แต่งงานกับองค์หญิงใหญ่ผู้เป็นธิดาบุญธรรมของฮ่องเต้องค์ก่อน ฉินเซิงเป็นถึงตำแหน่งซานกง รุ่นหลานอย่างฉินเฟิงและฉินซูโหรว ต่างก็ได้รับการตบรางวัลทุกสิ่งทุกอย่าง

สายเลือดของพวกเขา ยังคงไม่ได้รับสิ่งใดอีกเช่นเคย

หากไม่เชื่อถือเว่ยเชียนชิว เขาจะมีอนาคตที่ดีได้อย่างไร?

เว่ยเชียนชิวให้ตำแหน่ง ให้เงินทอง ให้ทุกสิ่งที่เขาต้องการ มีเพียงแค่ชื่อเสียงที่แย่ไปหน่อย

หากติดตามฮ่องเต้ จะสามารถมีได้เช่นนี้หรือไม่?

ฮ่องเต้เห็นเพียงความมีอยู่ของตระกูลของฉินเซิง สำหรับสายเลือดของพวกเขาเป็นเพียงแค่กาฝากก็เท่านั้น

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะท่านแม่ของฉินหลัง เป็นอนุภรรยาของฉินปาฟาง

ฉินหลังที่เกิดจากภรรยาน้อย อย่างไรก็ไม่มีทางเทียบเคียงกับฉินเซิงที่เกิดจากฮูหยินผู้เฒ่าฉิน

ดังนั้น คำว่าภรรยาน้อยและลูกนอกสมรส เป็นหนามแทงใจฉินหลังมาโดยตลอด

ฉินซูโหรวไม่มีความสามารถใดเลย นอกเสียจากเชี่ยวชาญการพูดจาเสียดแทงผู้อื่น

สีหน้าที่ทำทีรังเกียจของนาง ถอยห่างจากฉินหลังไปอีกหลายเก้า

ทรัพย์สินของตระกูลฉินหลัง ยังเทียบไม่ได้กับหนึ่งในสามที่ตระกูลฉินมี เป็นเพียงแค่ประชาชนทั่วไปผู้ต่ำต้อย ครอบครัวของฉินซูโหรวดูหมิ่นเขามาตลอด

ฉินหลังปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ฉินซูโหรวรู้สึกว่าอากาศเริ่มสกปรกขึ้นมานิดหน่อย

แต่ดูจากท่าทางของฉินซูโหรวแล้ว คงไม่ได้คำตอบอะไรมาก ฉินหลังจึงพูดเสียงเรียบ “ในเมื่อท่านหญิงไม่พูด เช่นนั้นก็รักษาตัวให้ดีเสียเถอะ”

เขาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง สายตาที่ราวกับสุนัขจิ้งจอกจ้องมองเสียจนฉินซูโหรวกระวนกระวายใจอย่างที่สุด

“เจ้าวางใจได้ ท่านอารองไม่มีทางบอกสิ่งที่เจ้าทำให้เซียวเฉวียนได้รู้แน่”

ฉินหลังยิ้มอ่อน รอยยิ้มนั้นทำให้ฉินซูโหรวรู้สึกหวาดกลัว เห็นเพียงฉินหลังเดินออกจากประตูห้องครัว แวบเดียวก็หายตัวไป

ฉินซูโหรวเอามือทาบอก ขมวดคิ้ว กัดฟันกรอดและรีบวิ่งไปหาเซียวเฉวียน

นางต้องการบอกกับเซียวเฉวียนว่า ฉินหลังสงสัยเขาแล้ว!

ต้องระวังตัวให้ดี!

ฉินซูโหรวที่คิดเข้าข้างตัวเองฝ่ายเดียวเช่นนี้ ช่างน่าขันเสียจริง

ในสวนดอกไม้ อุ้งเท้าสองข้างของสุนัขสีเหลืองตัวน้อย เกาะอยู่ข้างปากบ่อน้ำที่องค์หญิงถูกโยนลงไป และมันก็เห่าไม่หยุด

ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้ากระโดดเข้าไปในบ่อน้ำ ค้นหาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ไม่พบเจอสิ่งใดเลย

“นายท่าน เป็นไปได้หรือไม่ที่สุนัขสีเหลืองตัวน้อยจะคิดผิด?” เหมิงเอ้าลูบน้ำที่อยู่บนหน้า ในบ่อน้ำไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากหญ้าน้ำที่กระจุกอยู่

ไม่ สุนัขไม่มีทางมั่วแน่นอน

เมื่อก่อนที่เซียวเฉวียนอยู่ในนาข้าวเฉิงตง ไม่มีผู้ใดหาเขาเจอ แต่มันกลับหาเขาเจอ

และมันยังเจอพิษเชียนจีที่ถูกทิ้งไว้ในโคลน ซึ่งเป็นพิษที่ซ่งจือใช้สังหารฉินปาฟาง

การรับรู้ของสุนัขสีเหลืองตัวน้อยดีเยี่ยม ไม่มีทางผิดเพี้ยนไปแน่

“ด้านในไม่มีจริง ๆ รึ?”

“ไม่มี” ไป๋ฉี่ก็สายหัว พวกเขาหากันมากกว่าร้อยครั้งในระยะเวลาสั้น ๆ แต่ก็ไม่พบสิ่งใดเลย

“โฮ่ง ๆ ๆ!”

จู่ ๆ สุนัขสีเหลืองตัวน้อยก็เห่าดุขึ้นและรุนแรงขึ้น ราวกับมันกำลังโกรธอย่าง

มันร้องแผดเสียงพลางทำท่าเสียใจ หางของมันตั้งตรงด้วยความกลัว

เซียวเฉวียนหัวหน้ามามอง ฉินซูโหรววิ่งเข้ามาและพูดขึ้นอย่างประจบประแจง “เซียวเฉวียน! ข้ามีเรื่องสำคัญต้องพูดกับเจ้า! เรื่องเกี่ยวกับฉินหลัง!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย