อ่านสรุป บทที่ 466 ไม่น่ากลัวมากพอ จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บทที่ บทที่ 466 ไม่น่ากลัวมากพอ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ฉินซูโหรวคิดเองว่านางรอบคอบมากพอ แต่กลับนึกไม่ถึงว่าสุนัขเพียงตัวเดียว จะสร้างปัญหาให้แก่นาง
สุนัขตัวนั้นเห่าไปที่นางไม่หยุด ฉินซูโหรวรู้ในทันทีว่าเป็นเพราะเหตุใด แต่นางกลับแสดงท่าทางใสซื่อ “ไอ้หมาตัวนี้เป็นอะไรกัน เหตุใดวันนี้จึงบ้าคลั่งเช่นนี้? ดุเกินไปแล้วนะ!”
ฉินซูโหรวต้องการที่จะปกปิดแต่มันกลับยิ่งเด่นชัดเช่นนี้ เซียวเฉวียนมองออกในแวบเดียว
เขารู้จักนางดีเกินไป
สายตาและท่าทางของนาง เซียวเฉวียนรู้ดีว่านางมีความคิดที่ชั่วร้ายอยู่
“เจ้าเป็นคนทำใช่หรือไม่?”
เซียวเฉวียนยังคงเผื่อใจไว้ เพราะถ้าหาก ถ้าหากเป็นเพียงแค่การเข้าใจผิดเล่า?
ถ้าหาก องค์หญิงเพียงแค่ออกไปเดินเล่น หรือวันนี้สุนัขสีเหลืองตัวน้อยคิดผิดไปเล่า?
ถ้าหาก ฉินซูโหรวรู้สึกสำนึกผิดตั้งนานแล้ว และไม่กล้ากำเริบเสิบสานอีกแล้วเล่า?
แต่ฉินซูโหรวลนลาน
นางเลิกคิ้วเล็กน้อย ใบหน้าที่งดงามไม่เป็นสองรองใคร ดูเหมือนกับกำลังคิดจะโต้แย้งอย่างไรดี
“โฮ่ง ๆ ๆ ๆ!”
สุนัขสีเหลืองตัวน้อยแยกเขี้ยวยิงฟัน นอกจากการเผชิญหน้ากับตราประทับจูเสินที่เกาะจูเสิน ก็ไม่เคยเห็นมันหวาดกลัวเช่นนี้มาก่อน
ขนบนร่างกายของมันตั้งชันขึ้น และเห่าใส่ฉินซูโหรวอย่างบ้าคลั่ง
เห่าเสียจนทุกคนต่างพากันหวาดกลัว เซียวเฉวียนและคนอื่น ๆ ต่างหวังอย่างมาก ขอให้ทุกสิ่งเป็นเพียงภาพลวงตา
แต่ฉินซูโหรวค่อย ๆ ถอยหลังทีละก้าว ไม่รู้ว่านางกลัวหรือร้อนตัวกันแน่
“ไอ้… ไอ้หมาตัวนี้บ้าไปแล้ว! ข้าไปก่อนล่ะ!” ฉินซูโหรวพึมพำและหันหลังจะเดินออกไป
คาดไม่ถึงว่า สุนัขสีเหลืองตัวน้อยจะกล้ากระโดดจู่โจม และกัดที่ชายกระโปรงของนาง ฉินซูโหรวตกใจกลัวจนร้องเสียงดังโวยวาย “แกทำอะไร! ปล่อยนะ! ปล่อยนะ!”
มันลากตัวของนางไปยังบ่อน้ำ
สีหน้าฉินซูโหรวค่อย ๆ ซีดลง พยายามดึงชายกระโปรงตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย “ไอ้หมาบ้า! ออกไปนะ!”
“หงอวี้!”
ฉินซูโหรวตะโกนเรียก หงอวี้ถือดาบพร้อมจะแทงไปยังสุนัขสีเหลืองตัวน้อย!
“ไป๋ฉี่!”
เซียวเฉวียนตะโกนเสียงกร้าว!
ไป๋ฉี่แวบตัวมา และอุ้มสุนัขหลบจากการโจมตีของหงอวี้!
“ฉินซูโหรว! เจ้าเป็นคนทำจริง ๆ สินะ!” เซียวเฉวียนตะคอกเสียงเกรี้ยวกราด ตะคอกเสียจนฉินซูโหรวสั่นไปทั้งตัว
“เจ้า เจ้าพูดเรื่องใดกัน! ข้าไม่เข้าใจ!” ฉินซูโหรวส่ายหัว “ข้าหวังดีมาเตือนเจ้าเรื่องที่ฉินหลังลอบเข้ามาในจวนเซียว เจ้าไม่ขอบคุณข้าก็ไม่เป็นไร แต่ยังมากล่าวหาข้าอีก!”
ฉินซูโหรวไม่เข้าใจก็ย่อมได้
ไม่เป็นไร
เซียวเฉวียนสูดหายใจเข้าลึกเต็มปอด พลางเอ่ยปากเรียก “ภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิแห่งเขาคุนหลุน!”
ชิงหลงบอกว่า ภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิแห่งเขาคุนหลุน ไม่เพียงแต่สามารถอดทนและปล่อยวางจากทุกสรรพสิ่งได้ แต่ยังสามารถบันทึกสิ่งต่าง ๆ ในโลกได้ ซึ่งเทียบเท่ากับกล้องวงจรปิดสมัยใหม่
นับตั้งแต่เซียวเฉวียนกลับมา เขาก็ไม่ได้นำพู่กันเฉียนคุนและภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิเก็บซ่อนไว้ในแขนเสื้อเหมือนเมื่อก่อน แต่ให้ล่องลอยอยู่ใจกลางจวนเซียว และสั่งให้มันคุ้มครองจวนเซียว
ภายในจวนเซียว ตราบใดที่มองเห็นด้วยตาเปล่า มันก็จะมองเห็นได้ทุกอย่าง
ฉินซูโหรวสีหน้าซีด เสียงหัวเราะหายไป ท่าทางมั่นใจเมื่อครู่เริ่มน้อยลงในทันที “ต่อ ต่อให้เจ้าเห็นอะไร ข้า... ข้าก็ไม่กลัว!”
“ภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิ! เปิด!”
เพียงได้ยินคำสั่งของเซียวเฉวียน ภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิก็เปิดออกอย่างช้า ๆ ทุกคนต่างพากันกลั้นหายใจ บรรยากาศก็อึมครึมอย่างมาก
เซียวเฉวียนกำหมัดแน่น รอคอยภาพที่กำลังจะเปิดออกในไม่ช้า
“โฮก!”
ทันทีที่ภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิเปิดออก ไม่เห็นภาพที่ถูกถ่ายไว้ แต่เซี่ยวเฟิงกลับวิ่งออกมาอย่างน่าเกรงขาม!
ความจริงแล้วเซี่ยวเฟิงเพิ่งถูกเว่ยเชียนชิวส่งกลับจวนเซียว มันยังไม่ทันได้พบหน้าเจ้านายของมันก็ถูกภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิขังไว้เสียแล้ว
แม้เซียวเฉวียนจะได้ครอบครองอาวุธอย่างพู่กันเฉียนคุนและภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิ แต่ยังไม่ได้เรียนรู้วิธีใช้มันอย่างเป็นระบบ จึงปล่อยเซี่ยวเฟิงออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
เซี่ยวเฟิงถูกทำร้ายทุกวันขณะที่อยู่ในจวนเจียนกั๋ว ตัวมันเองก็คิดถึงเจ้าของอย่างมาก แต่กลับถูกภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิขังไว้ในทันทีที่กลับมา มิหนำซ้ำยังขังมันอย่างบ้าระห่ำ
เมื่อออกมาได้มันจึงชูคอขึ้น และคำรามจนเกิดลมกรรโลกแรง! ระบายความขุ่นเคืองในหลายวันที่ผ่านมา!
“โฮก ๆ ๆ ๆ!”
หากเซียวเฉวียนเจ็บเพียงแต่ระดับเจ็ด เช่นนั้นฉินซูโหรวจะรู้สึกเจ็บถึงระดับสิบ!
คนสองคนที่มีพันธะโลหิต จะต้องร่วมเป็นร่วมตายด้วยกัน เชื่อมสายโลหิตไปนานเท่านาน!
เซียวเฉวียนเป็นเจ้าของกวีสมุทรคุนหลุนโดยชอบธรรม เดิมทีก็มีร่างกายที่แข็งแรงกำยำ ความเจ็บปวดเช่นนี้สำหรับเซียวเฉวียน แม้ว่าจะทรมานแต่ก็พอรับได้
ดังนั้นเขาจึงไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า เพื่อไม่ให้ผู้อื่นรู้ว่าเขาและฉินซูโหรวเจ็บปวดเหมือนกัน
ถือว่าเหมิงเอ้าค่อนข้างฉลาดและรู้วิธีในการช่วยเขาปิดบังเรื่องนี้ แต่กระถางดอกไม้ตกใส่เช่นนี้เซียวเฉวียนก็แอบเวียนหัวตาลายเช่นกัน
ดังนั้นฉินซูโหรวที่ร่างกายสูงส่งเปราะบาง จักทนไหวได้อย่างไร?
นางกุมหัวที่เจ็บปวดราวกับมันจะระเบิด ปวดเสียจนลงไปนอนดิ้นบนพื้น!
ในขณะนั้นเอง มีดวงตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องเหตุการณ์นี้อยู่
ชิงหลงรู้สึกว่ามีคนภายนอกกำลังแอบมอง เขาโบกมือและบางสิ่งที่เป็นเสมือนฉากกั้นก็ปิดลงช้า ๆ
ด้านหน้าของฉินหลัง จู่ ๆ ก็เหลือเพียงความว่างเปล่าและมีเพียงสีขาวโพลน เขามองไม่เห็นสิ่งใดเลย
“ผู้ใดกล้าลอบเข้ามาในจวนเซียว! หากยังไม่ไป หลังจากจบเรื่องนี้ ข้าจะตามไปเก็บเจ้า!”
เสียงของชิงหลงราวกับเสียงที่มาจากสวรรค์ ฉินหลังตกใจสะดุ้งโหยง
เขาหายตัวแวบรีบหนีออกจากจวนเซียว
ชิงหลงที่แสนเก่งกาจ! ฉินหลังอำพรางตัวขนาดนี้แล้ว เขายังสามารถรับรู้ได้อีก!
ทว่าชาวคุนหลุนที่เก่งกาจเช่นนี้ เหตุใดจึงเลือกมาพักแรมที่จวนเซียว?
เซียวเฉวียนมีแผนการอะไร?
ฉินหลังรู้สึกประหลาดใจ ที่แท้ผู้ที่มาจากเทือกเขาคุนหลุนไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ
แต่ว่าเมื่อครู่ฉินซูโหรวเจ็บปวดจนต้องลงไปนอนดิ้นที่พื้น ด้วยอากัปกิริยาที่ไม่น่าดู แต่เซียวเฉวียนนิ่งสงบไม่สะทกสะท้าน ฉินหลังไม่มีทางไม่เชื่อ เซียวเฉวียนมีความเด็ดเดี่ยวที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ และสามารถทนต่อความเจ็บปวดสาหัสได้โดยไม่ขยับเลย
ดูท่าแล้วเซียวเฉวียนยังไม่ได้สัมผัสกวีสมุทรคุนหลุนจริง ๆ
สงครามรัฐไป๋ลู่ เซียวเฉวียนเพียงออกหัวคิดการวางแผนสงคราม นอกจากนั้นก็ไม่มีคุณงามความดีใดเลย
ดีสิ ฉินหลังยิ่งอย่างภูมิใจ เช่นนั้นเขาก็วางใจได้ เซียวเฉวียนก็มีเพียงปัญญาในการออกความคิดการทำสงครามเท่านั้น
เซียวเฉวียน ไม่มีสิ่งใดให้ต้องกลัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...