จวนเซียว
เสียงหัวเราะสนุกสนานดังขึ้นระลอกหนึ่ง
แม่เซียวจัดงานเฉลิมฉลองให้กับการกลับมาอย่างปลอดภัยของบุตรชายและลูกสะใภ้ และยังเฉลิมฉลองให้กับการเลื่อนขั้นของเซียวเฉวียนโดยเฉพาะด้วย
อี้กุยและโย่วควนก็ถูกเชิญมาด้วยเช่นกัน นั่งจิบเหล้ากินเนื้ออยู่ท่ามกลางงานเลี้ยง เพลิดเพลินดี
เว่ยอวี๋และต่งจัวนายและบ่าวไม่มีการแบ่งแยกชนชั้น ดื่มเหล้าเมามายได้เต็มที่
องค์หญิงนั่งอยู่ข้างเซียวเฉวียน หลังจากกลับมาจากกวีสมุทรและพักผ่อนได้สองสามวัน กำลังวังชาของนางก็ฟื้นฟูขึ้นมากทีเดียว
เพียงแต่เรื่องที่นางตกลงไปในบ่อ นางนึกอย่างไรก็นึกไม่ออก จำได้ว่าหลังจากที่ตกลงไปในบ่อแล้ว ก็ไปโผล่ที่ไหนสักที่
แต่ตอนนั้นนางยังสะลืมสะลือ มองอะไรก็ไม่ชัด
นางบอกลักษณะของสถานที่แห่งนั้นกับเซียวเฉวียน เขาจึงช่วยปลอบประโลมนางว่านั้นเป็นแค่ภาพลวงตา
ทุกคนพากันยิ้มแย้ม ดีใจที่เซียวเฉวียนมีสิทธิ์ครอบครองรัฐไป๋ลู่ครึ่งหนึ่ง มันคือความมั่งคั่ง เทียบเท่ากับเจ้าครองนคร
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจวนเซียวนับว่ามีอำนาจสูงสุด
เซียวเฉวียนดีใจมาก และใช่ เราต้องพัฒนาการเพาะปลูกพริกไทย!ปลูกยี่หร่า!ปลูกเครื่องเทศ!
ปลูกมันให้เต็มทุ่งกว้างและภูเขาไปเลย
เช่นนี้อาหารของเซียวเฉวียนก็ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นแล้ว
“แต่พรุ่งนี้เจ้าต้องไปดำรงตำแหน่งที่ชิงหยวน เป็นผู้นำทุกเรื่องของชิงหยวน” แม่เซียวทั้งดีใจทั้งกังวล “เส้นทางนี้มันไม่ง่ายเลยนะ”
ได้ยินว่าจ้าวซิ่นบุตรชายคนรองของจ้าวจินไหลมารายงานตัวเป็นนักศึกษา และรอเซียวเฉวียนอยู่ที่ชิงหยวน
จ้าวซิ่นเป็นคนเลี้ยงหมาป่า จะทำอะไรเขาได้ เขามีเซี่ยวเฟิงอยู่
“เซี่ยวเฟิง เจ้าว่าไหม” เซียวเฉวียนก้มหน้ามอง เซี่ยวเฟิงกำลังแทะเนื้ออย่างเอร็ดอร่อยเหมือนลูกหมาตัวหนึ่ง ไม่สนใจเขาสักนิด
“ช่วงนี้เซียวเฟิงไม่ค่อยมีแรงสักเท่าไหร่” นัยน์ตาของชิงหลงเปล่งประกาย กระทั่งพบกับความไม่ชอบมาพากลของเซี่ยวเฟิง “มักจะหดหู่บ่อย ๆ”
“ต้องคิดถึงแม่เสือกแน่ ๆ” เว่ยอวี๋หัวเราะ ฮ่า ๆ ทำลายบรรยากาศตึงเครียดของชิงหลงไปสิ้นเชิง
ทุกคนพากันหัวเราะ ฮ่า ๆ จากนั้นก็ดื่มกินกันต่อ
เซียวเฉวียนได้รับการเปลี่ยนแปลงมาจากกวีสมุทร เมื่อกวีสมุทรถูกทำลาย มันก็ต้องมีปฏิกิริยาตอบสนองบ้าง คาดว่าน่าจะอารมณ์ไม่ดี
ถึงอย่างรังเก่าก็ไม่มีแล้ว ใครจะดีใจเล่า?
เซียวเฉวียนลูบศีรษะของมัน “อารมร์ไม่ดี ก็กินเยอะ ๆ”
“กรร....” เซี่ยวเฟิงอ้าปากกว้าง ‘เอาอีก ๆ’
เซียวเฉวียนโยนผักสดให้มัน มันก็กินอย่างอิ่มหนำสำราญ
“โอ๊ะ ไม่เลือกอาหารด้วย?” เว่ยอวี๋เลิกคิ้วสูง “เมื่อก่อนบอกว่ามันเชื่องยากไม่ใช่เหรอ? ไม่ใช่เนื้อไหล่หมูไม่กิน ไม่ใช่น้ำแร่ไม่ดื่มไม่ใช่เหรอ?”
“คาดว่าครั้งที่แล้วเจ้านายคงไม่ได้พามันไปเกาะจูเสินด้วย แต่กลับพาสุนัขสีเหลืองตัวน้อยไปแทน มันคิดว่าเจ้านายไม่ต้องการมันแล้ว ตอนนี้ก็เลยเชื่องขึ้นมาเสียอย่างนั้น” ไป๋ฉีเอ่ยเช่นนี้ นัยน์ตาของเซียวเฉวียนก็เปล่งประกาย เซี่ยวเฟิงตัวนี้เข้าใจภาษามนุษย์
“รีบกินเถอะ ไม่อย่างนั้นอาหารเย็นชืดหมด”
แม่เซียวเอ่ยเตือน ทุกคนจึงไม่เกรงใจ
สิบหกไม่ได้กินของอร่อย ๆ เลยเมื่อครั้งอยู่บนเกาะจูเสิน เขาสวบทุกอย่างตรงหน้าอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครสนใจว่าเขาจะกินมูมมามเพียงใด ยังคงคีบขาไก่และเนื้อให้เขาอย่างต่อเนื่อง
ครั้งนี้ แม่ไป๋ที่ไม่ค่อยปรากฏตัวนักได้เข้าร่วมมื้ออาหารในครั้งนี้ด้วย
ในตอนที่เซียวเฉวียนไปยกอาหารจากในครัว แม่ไป๋เดินตามอยู่ด้านหลังของขา “ใต้เท้าเซียว”
แม่ของไป๋ฉีเกิดมามีร่างกายที่อ่อนแอมาก นิสัยใจคอก็อ่อนโยน ใบหน้าซีดเผือดจนมองเห็นได้ชัดเจน แต่ถึงอย่างไรก็ยังเป็นผู้ใหญ่ที่งดงามเสมอ
“ฮูหยินไป๋ ท่านมีธุระอะไร?”
“ใต้เท้าเซียว” แม่ไป๋ทำความเคารพ และหยุดชะงัก คล้ายกับกำลังรวบรวมความกล้า “ข้าอยากถามท่านสักเรื่อง....”
นางยังไม่ทันเอ่ยปาก เซียวเฉวียนรู้ว่านางกำลังจะถามสิ่งใด “ฮูหยินไป๋เชิญถาม”
“ท่านอยู่บนเกาะจูเสิน เคยเจอคนที่ชื่อเว่ยอวี๋....”
เป็นอย่างที่คาดคิดไว้จริง ๆ เป็นอย่างที่เซียวเฉวียนคาดคิดไว้จริง ๆ
“เคยเจอขอรับ”
เซียวเฉวียนลังเลครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่อยากโกหกนาง จึงเล่าเรื่องการตายของเว่ยอวี๋อย่างตรงไปตรงมา
“ขอโทษที่ยามนั้นข้าอยู่ในสนามรบ ไม่ทราบว่าฉินซูโหรวจะ...”
เซียวเฉวียนอยากจะอธิบาย แต่นัยน์ตาของแม่ไป๋แดงก่ำ นางยกมือโบกไปมา “ช่างเถอะ มันคือชะตากรรมของเขา”
“และเป็นชะตากรรมของข้า...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...