ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 481

สรุปบท บทที่ 481 คิดว่าตัวเองคือ: ซูเปอร์ลูกเขย

ตอน บทที่ 481 คิดว่าตัวเองคือ จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 481 คิดว่าตัวเองคือ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เซียวเฉวียนลงจากม้า ศิษย์ชิงหยวนพากันคุกเข่าบนพื้น “ขอคารวะประมุขแห่งชิงหยวน”

เซียวเฉวียนตะลึงงัน ยังไม่ไสติ

เขาจ้องเขม็ง คนที่คุกเข่าล้วนแต่เป็นลูกหลานที่มาจากครอบครัวขุนนางทั้งนั้น

พวกเขาแต่งกายด้วยเสื้อผ้าเรียบง่าย แต่กลับดูสะอาดสะอ้าน มีบุคลิกภาพที่ดี

ดูออกว่าการกลับมาครั้งนี้ของเซียวเฉวียน พวกเขาดีใจมาก

ท่ามกลางฝูงชนที่มาต้อนรับเซียวเฉวียนไม่มีใครไม่ใช่ลูกหลานจากครอบครัวขุนนาง กระทั่งไม่มีใครที่มีสถานะดีกว่าแต่อย่างใด

เซียวเฉวียนเข้าใจว่ามีหลายคนไม่ยอมรับเขา เขาเข้าใจ ทุกอย่างต้องใช้ศักยภาพมาอธิบาย

“ลุกขึ้นเถอะ”

เซียวเฉวียนรีบยกมือขึ้น “ต่อไปไม่ต้องคุกเข่าให้ข้าแล้ว แค่น้อมคำนับก็พอแล้ว”

“แม้ว่าข้าจะเป็นประมุขแห่งชิงหยวน แต่ก็เป็นครูฝึกของชิงหยวนเช่นกัน ความรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ในบรรดาพวกเจ้าก็ต้องมีคนที่เป็นครูได้ ต่อไปเราจะก้าวหน้าไปด้วยกัน”

พอลูกหลานจากครอบครัวขุนนางเหล่านี้ได้ยิน แม้ว่าจะรู้มาบ้างว่าเซียวเฉวียนเป็นคนหัวรั้น ไม่เกรงกลัวสิ่งใด และแม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับผู้ยิ่งใหญ่ในจวนฉิน เขาก็ไม่เกรงกลัว คนผู้นี้กลับถ่อมตัวเช่นนี้?

“แยกย้ายเถอะ กลับไปเรียนกันได้แล้ว” เมื่อพวกเขาได้สติ เซียวเฉวียนก็เข้ามาในห้องหนังสือชิงหยวน เขามีรูปร่างแข็งแรง ไม่นานก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

“ว้าว อำนาจแห่งสรวงสวรรค์”

บางคนทอดถอนใจ ได้ยินไม่สู้เห็นกับตา ร่างกายของเซียวเฉวียนไม่ได้ดูมีพลังเหมือนกับปัญญาชนต้าเว่ย

เหล่าลูกหลานจากครอบครัวขุนนางต่างชมไม่หยุด เซียวเฉวียนกลายเป็นแบบอย่างของพวกเขา วันหนึ่งพวกเขาหวังว่าตัวเองจะกลายเป็นเซียวเฉวียนคนที่สอง

ห้องหนังสือแห่งชิงหยวน ประตูใหญ่ยังคงปิดสนิท

ที่นี่คือลานกว้างของปัญญาชน เซียวเฉวียนเข้ามาพักที่นี่ ทำในสิ่งที่เหวินฮั่นทำเมื่อก่อน ‘จงทำงานหนัก สอนความรู้แก่ผู้อื่น’

เมื่อเซียวเฉวียนเปิดประตู ต้นดอกท้อที่ขุดโดยเซียวเฉวียนและเว่ยชิงกำลังออกดอกบานสะพรั่ง

ทุกสิ่งทุกอย่างยังเปลี่ยนแปลงไปตามผลของมัน

เซียวเฉวียนเดินเข้าไปในลานกว้าง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เขาคือนายท่านแห่งชิงหยวน

นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เซียวเฉวียนจะเป็นคนที่มีสถานะมีตำแหน่งโดยแท้จริง

ในราชสำนัก หากฮ่องเต้ไม่มีอำนาจ พวกสิงสาราสัตว์ก็พากันยึดอำนาจกันหมด

ในชิงหยวน เซียวเฉวียนคือประมุข

สูงส่ง

ไม่เป็นสองรองใคร

“ใต้เท้าเซียว ท่านกลับมาแล้ว”

เซียวเฉวียนย่างเข้าไปลานกว้าง เฉาสิงจือก็เข้ามา

วันที่เซียวเฉวียนถูกเนรเทศ เฉาสิงจือดูแลชิงหยวนตลอด วันนี้เพื่อส่งมอบให้เซียวเฉวียนจัดการต่อ

แม้ว่าชิงหยวนจะกว้างขวาง แต่ศิษย์ก็ล้วนแต่เป็นลูกหลานขุนนางทั้งนั้น คนไม่มาก เรื่องก็ไม่เยอะ

ตอนนี้จำนวนของศิษย์ชิงหยวนมากกว่าเมื่อก่อนเป็นสิบเท่า เฉาสิงจือต้องจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ไม่เว้นแต่ละวัน จนหัวโตไปหมดแล้ว แม้แต่เรื่องในราชสำนักก็ยังไม่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนเพียงนี้

ตอนนี้เซียวเฉวียนกลับมารับช่วงต่อแล้ว เขาดีใจมาก จึงรีบคืนชิงหยวนให้เซียวเฉวียน

เมื่อก่อนห้องหนังสือชิงหยวนเป็นงานที่ดี เพราะศิษย์ต่างก็เป็นลูกหลานจากครอบครัวขุนนาง ค่าเรียนสูง ตะเกียงน้ำมันในห้องหนังสือก็มีมากมาย

ตอนนี้อย่าว่าแต่จะไม่เก็บค่าเรียนเลย ยังต้องจ่ายเงินออกไปอีกด้วย แม้ว่าเงินก้อนนี้จะเป็นของเซียวเฉวียน ไม่ใช่เงินของครูฝึกคนอื่น แต่พอไม่มีผลประโยชน์ เหล่าครูฝึกก็ไม่พอใจ ต่างก่อวินาศกรรมทุกประเภท

เฉาสิงจือคือหนึ่งในขุนนางเก้าตำแหน่ง ตั้งแต่อยู่ในราชสำนักมาหลายปียังไม่เคยเจอเรื่องที่จัดการยากเช่นนี้มาก่อน มีเงินจะทำอะไรก็ได้ แต่พอไม่มีเงิน ก็ยากจนบัญชาอะไรไม่ได้

เรื่องราวมากมายที่เฉาสิงจือปฏิบัติต่อชิงหยวนล้วนแต่มีใจแต่ไม่มีแรง

ดังนั้นแม้ว่าเซียวเฉวียนจะมีตำแหน่ง แต่ตำแหน่งข้าราชการเป็นงานที่ลำบากเงินตอบแทนน้อย ผู้คนจำนวนมากหัวเราะเยาะกับการกลับมาชิงหยวนของเซียวเฉวียน แม้แต่เสื้อผ้าก็แทบไม่มีใส่

เฉาสิงจือมอบเอกสารใส่มือของเซียวเฉวียน หลังจากทักทายอย่างเกรงใจแล้ว ก็หันหลังเตรียมจากไป

“ข้าชงชาไว้ ใต้ท้าเฉาค่อย ๆ พูดเถอะ”

เดิมทีเฉาสิงจือบอกว่าไว้คราวหน้า แต่พอได้ยินว่าเซียวเฉวียนชงชา ก็รีบตอบตกลงทันที “ได้”

ชาของเซียวเฉวียนมีชื่อเสียงมาก

คนที่ได้ดื่มชาของเซียวเฉวียนมีไม่เยอะนัก นอกจากอี้กุยและปีศาจกวีแล้ว ก็มีแค่แขกของหอปี๋เซิ่ง เซียวเฉวียนจะไปโรงเหล้าบางครั้ง ยามอารมณ์ดีก็จะชงชาให้แขกดื่ม

คนที่ได้ดื่มชาของเซียวเฉวียน ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าดี กระปรี้กระแปร่า กลิ่นหอมกรุ่น ยากลืมเลือน

ถึงอย่างไรตอนนี้ต้าเว่ยก็ทำโจ๊กชาเป็นประเพณีอยู่แล้ว ย่อมมีกลิ่นหอมแปลก ๆ ของชาหลายหลายรูปแบบ รสชาติก็ชวนให้สดชื่น

เฉาสิงจือเป็นคนที่รักในการดื่มชามาก ไม่ชอบโรงเหล้าในหอปี๋เซิ่ง แต่ก็ได้ยินฝีมือในการชงชาของเซียวเฉวียนมาบ้าง เซียวเฉวียนยุ่งมาก พูดได้ว่าน่าอนาถมาก ไม่ใช่พราะต้องรับโทษ ระหว่างทางที่ต้องรับโทษ เฉาสิงจือไม่มีโอกาสสักนิดเดียว

เป็นอย่างที่คาดคิดไว้ เขาเป็นคนที่ไม่กินในสิ่งที่ไม่แน่ใจ

เซียวเฉวียนเห็นเขายอมอยู่ต่อจึงคลี่ยิ้ม “เชิญ”

“เชิญ” เฉาสิงจือคลี่ยิ้ม เขาไม่เหมือนกับอาวุโสของเซียวเฉวียน แต่เป็นเพื่อน

นอกลานกว้าง จ้าวซิ่นจูงเจ้าหมาป่าตัวหนึ่งออกมารอเซียวเฉวียน

พอได้ยินว่าเซียวเฉวียนเพิ่งกลับมา จ้าวซิ่นก็ตรงมาทันที

เขามาถามเซียวเฉวียน เขาถามว่าทำไมเซียวเฉวียนถึงต้องฆ่าพ่อของเขา”

“กรร” !

หมาป่าสงเสียงขู่คำราม จ้าวซิ่นลำพองใจมาก ตอนนี้เซียวเฉวียนลำพองใจ เซียวเฉวียนนั่งตัวสั่นงันงก

เขาให้เซียวเฉวียนไม่กล้าเข้ามาในชิงหยวนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปถ้าเป็นแบบนั้น เขาจะเป็นประมุขของชิงหยวนทำไม

พอคิดได้ จ้าวซิ่นก็ยิ้มอย่างลำพองใจ วันนี้เขาจ้าวซิ่นจะหักเซียวเฉวียนเป็นท่อนให้ได้

“ไปกันเถอะ! เราเข้าไปกันเถอะ!” จ้าวซิ่นไม่รู้ไปเอาความมั่นหน้ามาจากไหน ถึงได้เตะเซียวเฉวียนออกจากลานกว้าง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย