“เซียวเฉวียน!เจ้าออกมาเดี๋ยวนี้นะ!ออกมา!”
จ้าวซิ่นจูงสุนัขออกมา แล้วปล่อยให้มันสร้างปัญหาในลานกว้าง มีหลายคนอยากเข้าไปขวางแต่ก็ไม่กล้า
ทุกคนรู้จักนิสัยของจ้าวซิ่นดี เขารักสันโดษมาก
พ่อของเขาเพิ่งตายไป ดูจากเหตุการณ์นี้ จ้าวซิ่นอาจจะกลายเป็นคนวิกลจริต ใครเล่าจะกล้าเข้าไปยุ่งกับเขา
“ใต้เท้าเซียว คงไม่ได้กลัวจ้าวซิ่นหรอกนะ”
เฉาสิงจือกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “เขาและเว่ยเป่ยเป็นสหายกัน”
เสือและหมาป่าอยู่ร่วมกันได้ เซียวเฉวียนคงล่วงเกินไม่ได้
พอเปลี่ยนเป็นประโยคนี้ เซียวเฉวียนก็ล่วงเกินไม่ได้
คาดไม่ถึงว่าเซียวเฉวียนจะยังไม่วางใจ “เขาและเว่ยเป่ยไม่ได้มีปัญหากัน ข้าและเว่ยอวี๋เป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน สถานะของเว่ยอวี๋ไม่น่าเคารพเทียบเท่าเว่ยเป่ยหรือ?”
“ใครไม่มีญาติเชื้อพระวงศ์เป็นสหายบ้าง?”
อีกอย่างเว่ยอวี๋ท่านอ๋องผู้นี้ก็เหมือนกับเซียวเฉวียน เป็นคนฮวาเซี่ย
ต่อให้เซียวเฉวียนจะให้เว่ยอวี๋ไปกินอุจจาระ เว่ยอวี๋ก็จะไม่มีการพูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง
เซียวเฉวียนเชื่อมั่นในตัวเองเพียงนี้ เฉาสิงจือไม่รู้ว่าจะโต้กลับอย่างไร
“ข้าไม่กิน....”เวลานี้เอง เว่ยอวี๋ได้ชะโงกหน้าออกไป จากนั้นก็โพล่งด้วยท่าทีน่าสงสารว่า “ไม่กินได้ไหม?”
เฉาสิงจือตะลึงงัน รีบทำความเคารพทันที “ข้าน้อยขอคารวะท่านอ๋อง”
“สวัสดี” เว่ยอวี๋คลี่ยิ้ม จากนั้นก็หันไปมองเซียวเฉวียนด้วยท่าทีน่าสงสารต่อ “ความเป็นพี่น้องระหว่างเรา ทำไมจะต้องแสดงออกด้วยการกินอุจจาระด้วย ไม่กินได้ไหม....”
“ก็แค่อุปมาอุปไมย” พอโพล่งในสิ่งที่เกี่ยวกับการเรียนออกไป เซียวเฉวียนแทบอยากตบกะบาลหมอนี้ให้รู้แล้วรู้รอด ดูสิงว่าในสมองของเว่ยอวี๋มีอะไรบ้าง
“อ่อ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง ที่แท้ก็เรียกว่าอุปมาอุปไมยนี่เอง ...อ่า ข้าเข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว”
เว่ยอวี๋เช็ดเหงื่อเย็น กระทั่งดีใจขึ้นมา
เซียวเฉวียนโกรธจนสูดลมหายใจเย็น เซียวเฉวียนให้เว่ยอวี๋ไปเป็นผู้ช่วยของชิงหยวน เพราะเว่ยอวี๋บอกว่าระดับภาษาของเขาอยู่ในระดับมัธยมต้น แต่ดูจากตอนนี้แล้ว เกรงว่าแม้แต่มัธยมต้นก็ยังสู้ไม่ได้
การให้คนอย่างเว่ยอวี๋มาเป็นอาจารย์ เป็นการเข้าใจอย่างมหันต์
“เจ้าอย่าสอนภาษาสิ เจ้าดูแลก็พอ” เซียวเฉวียนรีบเปลี่ยนความคิด
เว่ยอวี๋ไม่พอใจมาก “ทำไม? ข้ามีความสามารถถึงเพียงนี้ สอนคนโบราณเหล่านี้ได้เหลือเฟือ”
“เฮ้!” เซียวเฉวียนทนไม่ไหวอีกต่อไป ถ่มน้ำลายใส่เว่ยอวี๋อย่างมั่นใจ “สถานการณ์ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง”
“จะยังมีอะไรอีก จ้าวซิ่นรนหาที่ตายเอง เจ้าไม่ไปงานศพของเจ้าตัว เจ้าตัวคิดว่าเจ้าคือครอบครัว....สำหรับคำคำนั้น ฆ่าฆาตรกร วันนี้เขามาแก้แค้นให้ผู้เป็นพ่อของเขาแล้ว”
“แก้แค้น....” เซียวเฉวียนกล่าวอย่างจนปัญญา
“อ่า ๆ ใช่ มาแก้แค้น”
เฉาสิงจือเท้าคาง คนอื่นมักบอกว่าพระอนุชาของฮ่องเต้ไม่เก่งวิชาการ ดูท่าจะจริง”
“เขาจะออกไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น สุนัขตัวนั้นโหดเหี้ยมเกินไป” ท่าทางของเว่ยอวี๋ดูเป็นห่วง เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว “เช่นนั้นเจ้าเข้ามาได้อย่างไร?”
“ข้าให้ไป๋ฉีพาข้าลอยเข้ามา ฮ่า ๆ” เว่ยอวี๋ยิ้มเยาะ
ประโยคนี้ได้เข้าหูของเซียวเฉวียนและเว่ยอวี๋เต็ม ๆ ซึ่งเป็นประโยคที่แสนจะธรรมดามาก
แต่พอเฉาสิงจือได้ยิน กลับดูตื่นตกใจ
ว่าไงนะ? เว่ยอวี๋เรียกผู้อารักขาของเซียวเฉวียนหรือ?
แล้วเซียวเฉวียนไม่โกรธ?
ไป๋ฉีก็เชื่อฟังด้วย?
เฉาสิงจือรู้ที่ไหนกัน เดิมทีเซียวเฉวียนก็ให้อิสระกับไป่ฉีและเหมิงเอ้าโดยสมบูรณ์
หลังจากที่เซียวเฉวียนกลับมาจากเกาะจูเสิน ยะงประทานอำนาจให้กับเหล่าผู้อารักขาอีกด้วย
ไป๋ฉีนั้นแตกต่างจากผู้อารักขาคนอื่น ผู้อานักขาต้องเชื่อฟังเจ้านาย แต่ไป๋ฉีกลับต่อต้านผู้เป็นนาย
บางเรื่องที่ทำหรือในช่วงที่กำลังเผชิญหน้ากับอันตรายบางอย่าง ไป๋ฉีจะตัดสินใจเอง เลือกจะสู้หรือไม่สู้ ฆ่าหรือไม่ฆ่า โดยไม่จำเป็นต้องรอเซียวเฉวียน
เซียวเฉวียนกำไหนดหนทางให้พวกเขา ในตอนที่คนข้างกายของเซียวเฉวียนต้องการความช่วยเหลือ ภายในขอบเขตความสามารถของพวกเขา พวกเขาเลือกที่จะช่วยหรือไม่ช่วยได้
ดังนั้นอย่าว่าแต่ไปฉีพาเว่ยอวี๋ลอยเข้ามาเลย ต่อให้เว่ยอวี๋ให้ไป๋ฉีทำร้ายจ้าวซิ่น ไป๋ฉีก็ลงมืออยู่ดี
แทนที่จะบอกว่าเซียวเฉวียนเป็นเจ้านายของพวกเขาสู้ไม่พูดดีกว่า ผู้อารักขายังเหมือนสหายและพี่น้องยิ่งกว่า ซึ่งเขาไม่ใช่ทาสในสายตาผู้อื่น
“อีกอย่างเจ้าไม่ต้องออกไป” เว่ยอวี๋ยิ้มลำพองใจ “ข้าอุ้มเซี่ยวเฟิงเข้ามา ให้มันกัดหมาป่าของจ้าวซิ่น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...