ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 492

ผิด ผิดที่ตรงไหน?

ผิดที่เซียวเฉวียนรื้อคดีเก่าออกมา ผิดที่กัดเขาไม่ปล่อยอย่างไรเล่า!

คิดก็คิดเช่นนี้แล้ว ทว่าว่านโหลวกลับมิกล้ากล่าวออกไปอยู่เหมือนกัน

เซียวเฉวียนอ่านความไม่ยินยอมในดวงตาของเขาออก

"ว่านโหลว ในปีนั้นท่านใส่ร้ายป้ายสีแปดขุนนางฝ่ายบุ๊น บัดนี้แปดตระกูลถูกกวาดล้างจนหมดแล้ว ท่านคิดว่าตนเองมิได้มีความผิด?"

ดวงตาของเซียวเฉวียนเย็นยะเยือกทันที ล้วงเอาป้ายรายชื่อหนึ่งออกมา ตัวอักษรเขียนเอาไว้ด้วยโลหิต "หานเกิง บุตรชายสามบุตรีหนึ่ง เสียชีวิตตรงชายแดนที่รัฐมู่อวิ๋น"

"หลี่เฉา ฝาแฝดชาย ถือกำเนิดได้สามเดือน ยังอยู่ในผ้าอ้อม ป่วยตายที่รัฐไป๋ลู่"

"หลู่ซานชิว ยังมิได้ให้กำเนิดบุตร บิดามารดาเป็นโรคซึมเศร้าจนตาย"

"ซูฮวา บุตรีห้าคนร่อนเร่เป็นโสเภณี ถูกดูแคลนอย่างถึงที่สุด ภายในครึ่งปีทุกคนต่างก็แขวนคอตายไปตาม ๆ กัน"

"ฟางอวิ๋น ทั้งครอบครัวมีทั้งหมดเจ็ดคน อดอยากร่อนเร่อยู่ที่รัฐไป๋ลู่ ตายจากการปล้นและการสังหารอย่างโหดเหี้ยมของจอมยุทธ์"

"ถังอันหมิน เหรินโจว ข่งเฉิงเย่ พวกเขาพึ่งจะสอบเข้ารับราชการเสร็จ พึ่งจะเข้ามาในราชสำนักเป็นขุนนาง ทว่ากลับโดนป้ายสีของท่านกับพระชายาว่าน ถูกเนรเทศไปที่เกาะจูเสินอย่างน่าอนาถ ชายชาตรีอายุอานามยังน้อย พละกำลังมหาศาล อยู่มิสู้ตาย"

"คนในตระกูลของพวกเขาถูกโจมตีอย่างหนัก ทั้งก็ยอมรับสารพัดคำสบประมาททั้งใต้หล้ามิได้อีกต่อไปแล้วเช่นเดียวกัน สามตระกูลยี่สิบห้าคน ท้ายที่สุดก็นัดกันฆ่าตัวตายที่นอกพระตำหนัก"

"สิ่งเหล่านี้น่ะ! ท่านล้วนหลงลืมไปแล้วหรือ?"

ทุกคำทุกประโยคของเซียวเฉวียน ภายในหัวใจล้วนมีโลหิตไหลริน! ช่างเป็นคดีที่น่าอนาถ! น่าอนาถเหนือคำบรรยายที่สุดในโลกมนุษย์แล้ว!

ในปีนั้นแปดขุนนางฝ่ายบุ๊นกับตระกูลเซียวและตระกูลฉินต่างก็ดีต่อกัน ทุกคนล้วนเป็นผู้ที่จงรักภักดีและดำรงตำแหน่งขุนนางด้วยความตงฉิน สองมือพวกเขาสะอาด ขยันทำการเพื่อประชาชน ภักดีต่อองค์เหนือหัวเพียงผู้เดียวไม่มีสอง

แต่ผลสุดท้ายกลับมีจุดจบที่ตกต่ำและน่าเศร้าเช่นนี้

อรหันต์ทั้งแปดถูกเนรเทศไปที่เกาะจูเสิน ทั้งก็ไม่ทราบว่าคนในตระกูลของตนเองน่าเวทนามากเช่นนั้น ทั้งก็ไม่ทราบว่าหลังจากที่พวกเขาถูกเนรเทศแล้ว คนในตระกูลกลับค่อย ๆ ตายไปตาม ๆ กันจนหมดสิ้น

พวกเขาใช้ชีวิตอย่างเอาตัวรอดไปวัน ๆ บนเกาะจูเสิน มีชีวิตกันอย่างหวาดกลัวอย่างไร้เทียบเทียม ล้วนเป็นเพราะว่าในหัวใจมีความคิดอยู่อย่างหนึ่ง คิดว่าหากมีชีวิตอยู่ถึงวันนั้นก็จะสามารถพบบิดามารดาทั้งสองคน ภริยาที่รักใคร่และบุตรชายบุตรสาวของตนเองได้!

หากทั้งแปดคนผู้นี้ทราบว่าคนในตระกูลของตนเองตายอย่างน่าอนาถไปตั้งนานแล้วละก็ เกรงว่าก็คงจะฆ่าตัวตายบนเกาะจูเสินไปตั้งนานแล้ว

หากมิได้เป็นเพราะว่าเซียวเฉวียนเกิดความผิดพลาดอย่างมิได้ตั้งใจขึ้นจนถูกเนรเทศไปที่นั่น คดีวันไหว้พระจันทร์นี้ก็คงจะไม่มีวันได้ถูกรื้อกลับมา!

"ท่านว่าท่านผิดที่ตรงไหนหรือ?"

เซียวเฉวียนก้าวไปทางด้านหน้าทีละก้าว "คนอื่นมิอาจล่วงรู้ แต่ตัวท่านนั้นรู้อยู่แก่ใจ ท่านคิดว่าโทษมหันต์ที่ได้กระทำไป การที่มันผ่านไปยี่สิบปีแล้วก็จะผ่านไปได้อย่างไร้กังวลอย่างนั้นหรือ?"

แสงในดวงตาของเขาส่องประกายรุนแรง กำลังจ้องมองว่านโหลว "ขอเพียงแค่ข้าเซียวเฉวียนยังอยู่ พวกท่านผู้ที่เคยทำร้ายพี่น้องชิงหยวนของข้ามาก่อน ข้าจะไม่ละเว้นเลยแม้แต่ผู้เดียว!"

"ไม่ว่าจะผ่านไปหนึ่งปี สามปี สิบปีหรือว่ากี่สิบปี! ขอเพียงแค่ข้าเซียวเฉวียนยังคงมีชีวิตอยู่! พวกท่านน่ะ ข้าจะไม่ละเว้นเลยแม้แต่ผู้เดียว!"

คำพูดของเซียวเฉวียนราวกับว่าเป็นค้อนแห่งความทรงจำหนัก ๆ ทุบเข้าไปที่หัวใจที่แสนหวาดหวั่นของว่านโหลวอย่างต่อเนื่อง

"ยอมรับโทษ" เซียวเฉวียนก้มศีรษะลงต่ำ สบตามองว่านโหลวที่อยู่ฟุบตัวอยู่บนเก้าอี้ไม้ "คำพูดทุกอย่างที่เคยพูดออกมาจากปาก การลงนาม การอนุมัติ"

"หากขาดไปหนึ่งขั้นตอน ข้าก็จะ..." เซียวเฉวียนเลิกคิ้วทันที "สับนิ้วมือของบุตรสาวและหลานสาวของท่านทีละนิ้ว ๆ"

"เจ้ากล้ารึ!" ว่านโหลวบันดาลโทสะจนคลั่งแล้ว "หลานสาวข้าคือผู้บริสุทธิ์นะ!"

"ใครบ้างมิใช่ผู้บริสุทธิ์!" เซียวเฉวียนส่งเสียงคำรามสั่นหนึ่งเสียงทันที "เช่นนั้นแปดขุนนางฝ่ายบุ๊นเหล่านั้นมิใช่ผู้บริสุทธิ์หรือ? คนในตระกูลของพวกเขามิใช่ผู้บริสุทธิ์หรือ? บุตรชายและบุตรสาวอายุน้อยของพวกเขาเหล่านั้นมิใช่ผู้บริสุทธิ์หรือ? บิดามารดามิใช่ผู้บริสุทธิ์หรือ?"

ความเย็นยะเยือกในสายตาของเซียวเฉวียน เย็นจนทำให้ว่านโหลวแข็งค้าง

"เจ้าอยากที่จะเรียกร้องคืนความยุติธรรม" ว่านโหลวหัวเราะฮี่ ๆ หนึ่งเสียง "เว่ยเจียนกั๋วจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!"

ว่านโหลวอดทนต่อความเจ็บปวดที่บั้นท้ายอย่างอวดดี กำหมัดเอาไว้อยู่ "เจ้าอย่างนึกกว่าเจ้ามีองครักษ์อย่างไป๋ฉี่คนเหล่านั้นอยู่แล้วจะเป็นการเหนือกว่าผู้อื่น พละกำลังของชาวยุทธ์แท้ พวกเจ้าจะต้องดับสลายไม่เหลือชิ้นดี!"

"ฮ่า ๆ ๆ!" เซียวเฉวียนเงยศีรษะขึ้น ส่งเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งหนึ่งเสียง หัวร่อจนก้นบึ้งหัวใจของว่านโหลวเย็นยะเยือกไปทั้งหมดทันที "เจ้าหัวเราะกระไร! มีกระไรน่าขำขัน! เจ้าสมควรที่จะหวาดหวั่น! เจ้าสมควรที่จะคุกเข่าร้องขอชีวิต!"

ความเยือกเย็นในนัยน์ตาของเซียวเฉวียนเย็นเหยียบอย่างไร้เทียบเทียม "เรียกร้องคืนความยุติธรรม? ชาวยุทธ์แท้? ว่านโหลว ท่านหรือไปแล้วหรือว่าข้าเซียวเฉวียนเป็นใคร?"

เป็นใคร?

ว่านโหลวชะงักนิ่งไปทันที

เป็นใคร? ว่านโหลวคิดไปคิดมา ในตอนนั้นเองถึงมีปฏิกิริยาตอบกลับมาแล้ว เซียวเฉวียนคือประมุขแห่งชิงหยวน เป็นพระราชบุตรเขย เป็นผู้ที่พึ่งสร้างความดีความชอบในสงครามมา

เซียวเฉวียนสะบัดชายเสื้อหนึ่งหน สีหน้าเย็นชาไร้เทียบเทียม "ข้าเซียวเฉวียน บัดนี้เป็นขุนนางระดับสี่ผู้องอาจแห่งต้าเว่ย!"

ระดับสี่...

ในท้ายที่สุดว่านโหลวก็หลุดออกจากภวังค์แล้ว!

ขุนนางข้าราชการระดับสี่ขึ้นไปในต้าเว่ย หากสังหารผู้มีระดับต่ำกว่าลงมาก็มิต้องรับผิดชอบ!

ว่านโหลตกตะลึงเป็นการใหญ่ เดิมเซียวเฉวียนมิจำเป็นต้องให้เขายอมรับโทษ มิจำเป็นต้องใช้หลักฐาน!

เซียวเฉวียนสามารถสังหารเขาทันทีเลยก็ได้!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย