ผิด ผิดที่ตรงไหน?
ผิดที่เซียวเฉวียนรื้อคดีเก่าออกมา ผิดที่กัดเขาไม่ปล่อยอย่างไรเล่า!
คิดก็คิดเช่นนี้แล้ว ทว่าว่านโหลวกลับมิกล้ากล่าวออกไปอยู่เหมือนกัน
เซียวเฉวียนอ่านความไม่ยินยอมในดวงตาของเขาออก
"ว่านโหลว ในปีนั้นท่านใส่ร้ายป้ายสีแปดขุนนางฝ่ายบุ๊น บัดนี้แปดตระกูลถูกกวาดล้างจนหมดแล้ว ท่านคิดว่าตนเองมิได้มีความผิด?"
ดวงตาของเซียวเฉวียนเย็นยะเยือกทันที ล้วงเอาป้ายรายชื่อหนึ่งออกมา ตัวอักษรเขียนเอาไว้ด้วยโลหิต "หานเกิง บุตรชายสามบุตรีหนึ่ง เสียชีวิตตรงชายแดนที่รัฐมู่อวิ๋น"
"หลี่เฉา ฝาแฝดชาย ถือกำเนิดได้สามเดือน ยังอยู่ในผ้าอ้อม ป่วยตายที่รัฐไป๋ลู่"
"หลู่ซานชิว ยังมิได้ให้กำเนิดบุตร บิดามารดาเป็นโรคซึมเศร้าจนตาย"
"ซูฮวา บุตรีห้าคนร่อนเร่เป็นโสเภณี ถูกดูแคลนอย่างถึงที่สุด ภายในครึ่งปีทุกคนต่างก็แขวนคอตายไปตาม ๆ กัน"
"ฟางอวิ๋น ทั้งครอบครัวมีทั้งหมดเจ็ดคน อดอยากร่อนเร่อยู่ที่รัฐไป๋ลู่ ตายจากการปล้นและการสังหารอย่างโหดเหี้ยมของจอมยุทธ์"
"ถังอันหมิน เหรินโจว ข่งเฉิงเย่ พวกเขาพึ่งจะสอบเข้ารับราชการเสร็จ พึ่งจะเข้ามาในราชสำนักเป็นขุนนาง ทว่ากลับโดนป้ายสีของท่านกับพระชายาว่าน ถูกเนรเทศไปที่เกาะจูเสินอย่างน่าอนาถ ชายชาตรีอายุอานามยังน้อย พละกำลังมหาศาล อยู่มิสู้ตาย"
"คนในตระกูลของพวกเขาถูกโจมตีอย่างหนัก ทั้งก็ยอมรับสารพัดคำสบประมาททั้งใต้หล้ามิได้อีกต่อไปแล้วเช่นเดียวกัน สามตระกูลยี่สิบห้าคน ท้ายที่สุดก็นัดกันฆ่าตัวตายที่นอกพระตำหนัก"
"สิ่งเหล่านี้น่ะ! ท่านล้วนหลงลืมไปแล้วหรือ?"
ทุกคำทุกประโยคของเซียวเฉวียน ภายในหัวใจล้วนมีโลหิตไหลริน! ช่างเป็นคดีที่น่าอนาถ! น่าอนาถเหนือคำบรรยายที่สุดในโลกมนุษย์แล้ว!
ในปีนั้นแปดขุนนางฝ่ายบุ๊นกับตระกูลเซียวและตระกูลฉินต่างก็ดีต่อกัน ทุกคนล้วนเป็นผู้ที่จงรักภักดีและดำรงตำแหน่งขุนนางด้วยความตงฉิน สองมือพวกเขาสะอาด ขยันทำการเพื่อประชาชน ภักดีต่อองค์เหนือหัวเพียงผู้เดียวไม่มีสอง
แต่ผลสุดท้ายกลับมีจุดจบที่ตกต่ำและน่าเศร้าเช่นนี้
อรหันต์ทั้งแปดถูกเนรเทศไปที่เกาะจูเสิน ทั้งก็ไม่ทราบว่าคนในตระกูลของตนเองน่าเวทนามากเช่นนั้น ทั้งก็ไม่ทราบว่าหลังจากที่พวกเขาถูกเนรเทศแล้ว คนในตระกูลกลับค่อย ๆ ตายไปตาม ๆ กันจนหมดสิ้น
พวกเขาใช้ชีวิตอย่างเอาตัวรอดไปวัน ๆ บนเกาะจูเสิน มีชีวิตกันอย่างหวาดกลัวอย่างไร้เทียบเทียม ล้วนเป็นเพราะว่าในหัวใจมีความคิดอยู่อย่างหนึ่ง คิดว่าหากมีชีวิตอยู่ถึงวันนั้นก็จะสามารถพบบิดามารดาทั้งสองคน ภริยาที่รักใคร่และบุตรชายบุตรสาวของตนเองได้!
หากทั้งแปดคนผู้นี้ทราบว่าคนในตระกูลของตนเองตายอย่างน่าอนาถไปตั้งนานแล้วละก็ เกรงว่าก็คงจะฆ่าตัวตายบนเกาะจูเสินไปตั้งนานแล้ว
หากมิได้เป็นเพราะว่าเซียวเฉวียนเกิดความผิดพลาดอย่างมิได้ตั้งใจขึ้นจนถูกเนรเทศไปที่นั่น คดีวันไหว้พระจันทร์นี้ก็คงจะไม่มีวันได้ถูกรื้อกลับมา!
"ท่านว่าท่านผิดที่ตรงไหนหรือ?"
เซียวเฉวียนก้าวไปทางด้านหน้าทีละก้าว "คนอื่นมิอาจล่วงรู้ แต่ตัวท่านนั้นรู้อยู่แก่ใจ ท่านคิดว่าโทษมหันต์ที่ได้กระทำไป การที่มันผ่านไปยี่สิบปีแล้วก็จะผ่านไปได้อย่างไร้กังวลอย่างนั้นหรือ?"
แสงในดวงตาของเขาส่องประกายรุนแรง กำลังจ้องมองว่านโหลว "ขอเพียงแค่ข้าเซียวเฉวียนยังอยู่ พวกท่านผู้ที่เคยทำร้ายพี่น้องชิงหยวนของข้ามาก่อน ข้าจะไม่ละเว้นเลยแม้แต่ผู้เดียว!"
"ไม่ว่าจะผ่านไปหนึ่งปี สามปี สิบปีหรือว่ากี่สิบปี! ขอเพียงแค่ข้าเซียวเฉวียนยังคงมีชีวิตอยู่! พวกท่านน่ะ ข้าจะไม่ละเว้นเลยแม้แต่ผู้เดียว!"
คำพูดของเซียวเฉวียนราวกับว่าเป็นค้อนแห่งความทรงจำหนัก ๆ ทุบเข้าไปที่หัวใจที่แสนหวาดหวั่นของว่านโหลวอย่างต่อเนื่อง
"ยอมรับโทษ" เซียวเฉวียนก้มศีรษะลงต่ำ สบตามองว่านโหลวที่อยู่ฟุบตัวอยู่บนเก้าอี้ไม้ "คำพูดทุกอย่างที่เคยพูดออกมาจากปาก การลงนาม การอนุมัติ"
"หากขาดไปหนึ่งขั้นตอน ข้าก็จะ..." เซียวเฉวียนเลิกคิ้วทันที "สับนิ้วมือของบุตรสาวและหลานสาวของท่านทีละนิ้ว ๆ"
"เจ้ากล้ารึ!" ว่านโหลวบันดาลโทสะจนคลั่งแล้ว "หลานสาวข้าคือผู้บริสุทธิ์นะ!"
"ใครบ้างมิใช่ผู้บริสุทธิ์!" เซียวเฉวียนส่งเสียงคำรามสั่นหนึ่งเสียงทันที "เช่นนั้นแปดขุนนางฝ่ายบุ๊นเหล่านั้นมิใช่ผู้บริสุทธิ์หรือ? คนในตระกูลของพวกเขามิใช่ผู้บริสุทธิ์หรือ? บุตรชายและบุตรสาวอายุน้อยของพวกเขาเหล่านั้นมิใช่ผู้บริสุทธิ์หรือ? บิดามารดามิใช่ผู้บริสุทธิ์หรือ?"
ความเย็นยะเยือกในสายตาของเซียวเฉวียน เย็นจนทำให้ว่านโหลวแข็งค้าง
"เจ้าอยากที่จะเรียกร้องคืนความยุติธรรม" ว่านโหลวหัวเราะฮี่ ๆ หนึ่งเสียง "เว่ยเจียนกั๋วจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!"
ว่านโหลวอดทนต่อความเจ็บปวดที่บั้นท้ายอย่างอวดดี กำหมัดเอาไว้อยู่ "เจ้าอย่างนึกกว่าเจ้ามีองครักษ์อย่างไป๋ฉี่คนเหล่านั้นอยู่แล้วจะเป็นการเหนือกว่าผู้อื่น พละกำลังของชาวยุทธ์แท้ พวกเจ้าจะต้องดับสลายไม่เหลือชิ้นดี!"
"ฮ่า ๆ ๆ!" เซียวเฉวียนเงยศีรษะขึ้น ส่งเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งหนึ่งเสียง หัวร่อจนก้นบึ้งหัวใจของว่านโหลวเย็นยะเยือกไปทั้งหมดทันที "เจ้าหัวเราะกระไร! มีกระไรน่าขำขัน! เจ้าสมควรที่จะหวาดหวั่น! เจ้าสมควรที่จะคุกเข่าร้องขอชีวิต!"
ความเยือกเย็นในนัยน์ตาของเซียวเฉวียนเย็นเหยียบอย่างไร้เทียบเทียม "เรียกร้องคืนความยุติธรรม? ชาวยุทธ์แท้? ว่านโหลว ท่านหรือไปแล้วหรือว่าข้าเซียวเฉวียนเป็นใคร?"
เป็นใคร?
ว่านโหลวชะงักนิ่งไปทันที
เป็นใคร? ว่านโหลวคิดไปคิดมา ในตอนนั้นเองถึงมีปฏิกิริยาตอบกลับมาแล้ว เซียวเฉวียนคือประมุขแห่งชิงหยวน เป็นพระราชบุตรเขย เป็นผู้ที่พึ่งสร้างความดีความชอบในสงครามมา
เซียวเฉวียนสะบัดชายเสื้อหนึ่งหน สีหน้าเย็นชาไร้เทียบเทียม "ข้าเซียวเฉวียน บัดนี้เป็นขุนนางระดับสี่ผู้องอาจแห่งต้าเว่ย!"
ระดับสี่...
ในท้ายที่สุดว่านโหลวก็หลุดออกจากภวังค์แล้ว!
ขุนนางข้าราชการระดับสี่ขึ้นไปในต้าเว่ย หากสังหารผู้มีระดับต่ำกว่าลงมาก็มิต้องรับผิดชอบ!
ว่านโหลตกตะลึงเป็นการใหญ่ เดิมเซียวเฉวียนมิจำเป็นต้องให้เขายอมรับโทษ มิจำเป็นต้องใช้หลักฐาน!
เซียวเฉวียนสามารถสังหารเขาทันทีเลยก็ได้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...