สรุปตอน บทที่ 493 คืนความยุติธรรม – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
ตอน บทที่ 493 คืนความยุติธรรม ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเห็นใบหน้าที่ภาคภูมิใจของว่านโหลว ดูเหมือนว่าคนประเภทนี้จะชอบรังแกคนที่อ่อนแอ
หากใครที่จิตใจดีมีเมตตา ว่านโหลวจะกลั่นแกล้งคนคนนั้นให้ตายอย่างแน่นอน
เซียวเฉวียนก้มลงและกระซิบข้างหูด้วยเสียงเบามากจนมีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้ยิน "ข้าคือผู้สังหารตระกูลซ่ง"
หลังจากพูดแล้วเซียวเฉวียนก็ยืดตัวขึ้น ราวกับพยายมจ้องมอง
ประโยคนี้ทําให้อัครเสนาบดีจูตัวสั่น
ตอนนี้ว่านโหลวก็เป็นเช่นเดียวกัน
ทุกคนในฝ่ายของเว่ยเจียนกั๋วคิดว่าการสังหารตระกูลของซ่งจือนั้นทําอย่างลับๆโดยตระกูลฉิน อาจจะเป็นฉินเซิงหรือฉินเฟิงทำ
ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นเซียวเฉวียน อดีตนายท่านจวนฉิน!
ไม่ จะเป็นไปได้อย่างไร!
เซียวเฉวียนกล้าดีอย่างไร?
แม้ว่าเซียวเฉวียนจะละเว้นเด็กและคนแก่ของจวนซ่ง แต่ชายหนุ่มเหล่านั้นก็เสียชีวิตอย่างน่าสลดและไม่เหลือไว้แม้แต่คนเดียว นี่เป็นครั้งแรกที่ทุกคนเห็นว่าตระกูลฉินนั้นโหดเหี้ยมมาก
ไม่น่าล่ะ...
ไม่แปลกใจที่จวนซ่งถูกสังหารและไม่เหมือนกับวิธีการของตระกูลฉิน
ปรากฏว่าคนทำก็คือเซียวเฉวียน!
เมื่อก่อนตอนที่เซียวเฉวียนยังเป็นนายท่านจวนฉิน ว่านโหลวไม่เคนเชื่อว่าเด็กน้อยผู้นี้จะกล้าหาญและมีความสามารถเช่นนี้
แต่ตอนนี้เซียวเฉวียนต่างจากสิ่งที่เขาเคยเป็นและไม่มีอะไรเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
เขาเป็นคนแรกที่ได้กลับมาหลังจากถูกเนรเทศ
ยิ่งกว่านั้นเขาเป็นคนซื่อตรงมีคุณธรรมและประสบความสําเร็จในการทหาร
ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ต้องพูดถึงเรื่องเซียวเฉวียนฆ่าตระกูลซ่ง ว่านโหลวกลอกตา ถ้าการตายของอัครเสนาบดีจูเกี่ยวข้องกับเซียวเฉวียน ว่านโหลวก็จะเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัยเลย!
แมวตาบอดตีหนูตาย และว่านโหลวก็เดาถูก
เซียวเฉวียนคนนี้ที่อยู่ตรงหน้า เขาเป็นคนสังหารอัครเสนาบดีจูและทําให้กลายเป็นอุบัติเหตุ
แต่สายเกินไปแล้วที่ว่านโหลวจะหาข้อพิสูจน์
เขาตื่นตระหนกจริงๆ และการป้องกันทางจิตใจก็ถูกเซียวเฉวียนกำจัดออกไปอย่างสมบูรณ์
เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เซียวเฉวียนจะโจมตีหลานสาวของเขาอย่างแน่นอน
"ข้า! ข้า! "
ว่านโหลวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หันตัวแล้วกลิ้งเก้าอี้ลงกับพื้น เขาคุกเข่าต่อฮ่องเต้ "ฝ่าบาท หม่อมฉันยอมรับผิดแล้ว!"
"หม่อนฉันยอมแล้ว!"
"หม่อนฉันยอมรับผิด!"
ว่านโหลวหลั่งน้ำตา "หม่อนฉันยอม...หม่อมฉันยอมรับผิด! "
น้ำตาและน้ำมูกของเขาไหล ทําให้เขารู้สึกราวกับว่าเขารู้สึกผิด
"ฝ่าบาท! หม่อมฉันผิดที่ทํางานให้กับเสือตัวร้าย!"
"หม่อมฉันมีความผิดฐานใส่ร้ายแปดคนในคดีเทศกาลไหว้พระจันทร์!"
"หม่อมฉันสารภาพผิด! หม่อมฉันยอมรับผิดแล้ว!"
"หม่อมฉันขอร้องให้พระองค์ไว้ชีวิตหลานสาวของกระหม่อม นางบริสุทธิ์! หม่อมฉัน
ยอมรับโทษทุกประการ!"
ฮ่องเต้เลิกคิ้วและสั่งขุนนางที่นั่งอยู่ด้านข้าง "เขียนคําสารภาพของเขาและลงนาม!"
ว่านโหลวตัวสั่นและเล่าเรื่องทั้งหมดในปีนั้น สิ่งที่เขาพูดไม่แตกต่างจากข้อมูลที่เซียวเฉวียนสืบเจอ
หลังจากกองทัพทั้งหมดของตระกูลเซียวถูกทําลาย ฝ่ายเว่ยเจียนกั๋วได้กำจัดคนของตระกูลเซียวทั้งหมดเพื่อป้องกันไม่ให้ตระกูลเซียวฟื้นคืนอีกครั้ง
ทั้งแปดคนนี้เป็นขุนนางที่ดีที่สุดของตระกูลเซียว
เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู พวกเขาถูกเนรเทศ คนอื่นที่เหลือก็ไม่ได้โง่ จึงแยกตัวออกจากตระกูลเซียว ทำให้ทั้งตระกูลเหลือแค่เด็กกำพร้าและหญิงม่าย
ส่วนคดีเทศกาลไหว้พระจันทร์ได้รับความร่วมมือจากว่านโหลวและลูกสาวของเขาว่านเฟยช่วยกันประสานนอกประสานใน
เพียงแต่ว่านโหลวพูดในรายละเอียดที่มากขึ้น รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องก็พูดออกมาอย่างชัดเจน
ขุนนางชั้นผู้น้อยที่บันทึกคําสารภาพเล่มนี้อย่างตั้งใจ ยิ่งเขียนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น น่าโกรธยิ่งนัก!
ขุนนางชั้นผู้น้อยเหล่านี้เคยได้ยินเกี่ยวกับคดีเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่ทําให้เกิดความฮือฮาในต้าเว่ย พวกเขาทั้งตกใจและอึดอัด
เมื่อได้ยินว่านโหลวสารภาพ มือของขุนนางผู้น้อยก็สั่น
เซียวเฉวียนจะทนฟังได้อย่างไร? เขากําหมัดแน่นฟังทุกคําพูดของว่านโหลว และหัวใจของเขาก็มีเลือดสูบฉีด
หลังจากเขียนข้อกล่าวหาแล้ว ว่านโหลวก็ลงนามและประทับตราอย่างเรียบร้อย
ฮ่องเต้มองดูและขมวดคิ้ว "เอาล่ะ ใครก็ได้ นำตัวไป!"
เมื่อได้ยินเสียงเรียกของเซียวเฉวียน พู่กันจินหลุนเฉียนคุนมาพร้อมกับแสงสีแดง
"ใครก็ได้ เตรียมกระดาษขาวให้ใต้เท้าเซียว!"
ฮ่องเต้โบกมือและขันทีหม่าเตรียมกระดาษข่าวอย่างดีทันที
เซียวเฉวียนถือพู่กันจินหลุนเฉียนคุนชุบด้วยเลือดของว่านโหลวและจดชื่อของคนทั้งแปดด้วยความเคร่งขรึมที่หาที่เปรียบมิได้
หานเกิง หลี่เฉา หลู่ซานชิว ซูฮวา
แสงในดวงตาของเซียวเฉวียนนั้นสว่างและมืด พู่กันก็ทรงพลังมากขึ้นเรื่อยๆ
ทันใดนั้นพู่กันจินหลุนเฉียนคุนก็สั่นสะเทือน
เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว เกิดอะไรขึ้น?
เซียวเฉวียนกําพู่กันและเขียนต่อไปเรื่อยๆ ฟางอวิ๋น
จู่ๆพู่กันก็ระเบิดและขาดออกจากกัน "ฟู่..."
ทันใดนั้นมือของเซียวเฉวียนก็ชา หัวใจของเขาเริ่มเต้นอย่างดุเดือด
"ใต้เท้าเซียว ท่านเป็นอะไรหรือไม่" เมื่อเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเขา ขันทีหม่าก็ถามด้วยความเป็นห่วงทันที
ตอนนี้ใบหน้าของเซียวเฉวียนซีดมากจนน่ากลัว
"ท่านพี่?" องค์หญิงต้าถงรีบก้าวไปข้างหน้า นางเหลือบมองเลือดสีแดงเข้มที่เขียนบนกระดาษสีขาว "อย่าเขียน หยุดเขียน"
ไม่ได้ นี่เป็นกฎที่ของชิงหยวน
นี่คือกฎท่านอาจารย์ตั้งไว้
มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ของขุนนางทั้งแปดในชิงหยวน
หากในชิงหยวนพวกเขากลายเป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว ในต้าเว่ย ในใจของทุกคน พวกเขาก็จะกลายเป็นผู้บริสุทธิ์เช่นกัน
มือของเซียวเฉวียนสั่นเทา ถัง...อัน...หมิน หลังจากเขียนตัวสุดท้ายของชื่อ เขาก็เจ็บหน้าอกอย่างฉับพลัน เซียวเฉวียนคํารามด้วยความโกรธ "อ๊า!"
ทันใดนั้นเสียงคํารามก็ดังขึ้นและสั่นสะเทือนไปทั่วห้องโถง
"ใต้เท้าเซียว!"
"ท่านพี่!"
ทุกคนอุทานเสียงดังเพราะศีรษะของเซียวเฉวียนมีเลือดไหลออกมา!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...