ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 496

สรุปบท บทที่ 496 ภูมิใจในการกระทำ: ซูเปอร์ลูกเขย

อ่านสรุป บทที่ 496 ภูมิใจในการกระทำ จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

บทที่ บทที่ 496 ภูมิใจในการกระทำ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ข่ง...

ทันทีที่เซียวเฉวียนยกมือขึ้นและเขียนขีดที่หนึ่ง ความเจ็บปวดทวีคูณเหมือนคลื่นลูกใหญ่ก็ซัดเข้ามา!

เดิมทีเป็นหุบเขาน้ำแข็งเพียงหนึ่งชั้น ตอนนี้เป็นหุบเขาน้ำแข็งสองชั้นไปเสียแล้ว มันเข้าโจมตีขนาบข้างทั้งหน้าและหลัง บีบเสียจนจิตวิญญาณของเซียวเฉวียนแทบแตกสลาย

“โอ้ย!”

เสียงร้องคร่ำครวญของเซียวเฉวียน ดังกังวานขึ้นอีกครั้งในพระราชวังฉางหมิง

เหล่าหมอหลวงก้มหัวลงอย่างหวาดกลัวและรู้สึกผิด เซียวเฉวียนเจ็บปวดเช่นนี้ พวกเขาก็หมดทางในการรักษาแล้วจริง ๆ พวกเขาไม่รู้เลยว่าสาเหตุของโรคที่เซียวเฉวียนเป็นอยู่ที่ใด

“เหตุใดแพทย์ทหารของตระกูลฉินยังไม่มาอีก!”

ฮ่องเต้ขมวดคิ้วแน่น ขณะนั้นขันทีผู้น้อยคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน รีบเสียจนใบหน้าแดงจรดใบหู “ฝ่าบาท ขันทีหม่าส่งนกพิราบส่งข่าวมา บอกว่าองค์หญิงใหญ่ไม่ยอมให้แพทย์ทหารมาพะยะค่ะ!”

“อะไรนะ?” สายตาของฮ่องเต้มีประกายไฟออกมา เขารู้ดีว่าตระกูลฉินปฏิบัติต่อเซียวเฉวียนไม่ดีอย่างมาก

แต่ในวันนี้เซียวเฉวียนไม่ใช่นายท่านของจวนฉินอีกแล้ว เช่นนั้นความบาดหมางระหว่างเซียวเฉวียนและตระกูลฉินก็คลี่คลายลงหมดแล้ว

ตอนนี้ไม่ใช่อดีตนายท่านจวนฉินที่ต้องการแพทย์ทหาร แต่เป็นฮ่องเต้ที่สั่งให้แพทย์ทหารตระกูลฉินมารักษาเซียวเฉวียน!

ทว่า แม่ฉินเอาแต่ใจตนเช่นนี้ ถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งขององค์ฮ่องเต้อย่างโจ่งแจ้ง!

“ข้ามอบตราคำสั่งให้ขันทีหม่าแล้วมิใช่หรือ? เสด็จพี่ไม่เห็นตราคำสั่งหรืออย่างไร!”

ใบหน้าที่อ่อนเยาว์ของฮ่องเต้ เผยให้เห็นความน่าเกรงขามของจักรพรรดิ ราวกับมังกรแผลงฤทธิ์ ขันทีน้อยตกใจกลัวเสียจนตัวสั่น “ทูล ทูลฝ่าบาท องค์หญิงใหญ่เห็นตราคำสั่งแล้วพะยะค่ะ แต่ว่า...”

แต่ว่า นางก็แค่ไม่ยอม

เหล่าหมอหลวงที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ยิน ต่างก็รู้สึกเสียใจไม่น้อย ชีวิตของเซียวเฉวียนแขวนอยู่บนเส้นด้าย แต่ตระกูลฉินกลับไม่สนใจไยดี!

เมื่อก่อน ชาวบ้านมากมายต่างเล่าลือกันว่าจวนฉินปฏิบัติต่อเซียวเฉวียนอย่างใจจืดใจดำ แต่ผู้มีอำนาจบารมีและเหล่าขุนนางต่างก็ไม่เชื่อ

เพราะตระกูลฉินเป็นสิ่งที่ใหญ่มหึมา ภาพลักษณ์ของมันสูงส่งและมีแต่ด้านดีมาโดยตลอด เหล่าขุนนางและผู้มีอำนาจบารมีต่างไม่เชื่อว่า ตระกูลฉินจะทำเรื่องเช่นนั้นกับบุคลอื่นได้ และนึกไม่ถึงเลยว่า จะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ!

จุ๊ ๆ ๆ ดูท่าว่าการหย่าของท่านหญิงและเซียวเฉวียน ไม่เพียงเป็นแค่ความประสงค์ของท่านหญิง แต่เซียวเฉวียนก็ต้องการหย่าเช่นกัน

ท้ายที่สุด ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง เขาไม่ต้องการที่จะมีชีวิตที่ไร้ประโยชน์ ภายใต้การดูแลของผู้อื่น

แม้ว่าตอนนี้เซียวเฉวียนจะมีความสามารถอยู่บ้าง และมีความดีความชอบจากการชนะสงคราม แต่ก็เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น มิได้มีรากไม้ใหญ่หยั่งลึกเฉกเช่นตระกูลฉิน เมื่อพบปัญหา ก็ยังต้องขอความช่วยเหลือจากตระกูลฉินมิใช่หรือ?

แพทย์ทหารผู้นี้ฟังเพียงคำสั่งของคนตระกูลฉิน ได้ยินว่าเขาเป็นผู้ที่มีฝีมือการรักษาระดับเซียน และมีอายุมากแล้ว

สามปีก่อน องค์หญิงใหญ่มีบุญคุณต่อแพทย์ทหารผู้นี้ในสนามรบ ดังนั้นเขาจึงเชื่อฟังนางอย่างสุดจิตสุดใจ และได้ติดตามจวนฉินมาตลอด

วิชาการแพทย์ของเขาดีเยี่ยม เขาอยู่ในกองทัพมาเนิ่นนาน จึงรักษาให้เพียงเหล่าทหารเท่านั้น และไม่เคยรักษาให้คนนอกเลย

หากมีทหารผู้น้อยได้รับบาดเจ็บ เขาแทบไม่เคยยื่นมือมารักษา ทำเพียงส่งต่อให้แพทย์ทหารผู้อื่นทำการรักษาต่อไป

เซียวเฉวียนและตระกูลฉินไร้ไมตรีต่อกันเช่นนี้ แพทย์ทหารผู้นี้จะมาหรือไม่ไม่ใช่ประเด็น หากมาแล้วจะยอมรักษาให้หรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องเช่นกัน

ช่างน่าเวทนา เซียวเฉวียนน่าเวทนาเสียจริง ชีวิตคนสำคัญเท่าฟ้า ผู้เป็นหมอต้องมีใจเมตตา เหล่าหมอหลวงต่างร้อนใจอย่างมาก

แต่ตระกูลฉินกลับไม่สนใจไยดี ดูท่าว่าจะเป็นคนใจร้ายไส้ระกำจริง ๆ เมื่อข่าวนี้ล่วงรู้ไปถึงหมอหลวง ตอนนี้จึงทำได้เพียงมองดูเหตุการณ์และไม่ได้พูดสิ่งใด

ในใจฮ่องเต้ที่รู้สึกโกรธอย่างมาก “ผู้ใดก็ได้ ร่างราชโองการ!”

“ข้าจะไปมอบราชโองการด้วยตัวเอง!”

ฮ่องเต้ไม่เชื่อว่าหากมีราชโองการอันศักดิ์สิทธิ์อยู่ ตระกูลฉินจะยังไม่ยอมปล่อยคนออกมา!

เขาเชื่อว่า เพียงท่านพ่อได้รับรู้เรื่องนี้ จักต้องมาเกลี้ยกล่อมท่านแม่เป็นแน่

ทว่าฉินหนานไม่มีแม้แต่ทางออกที่จะส่งคนออกไป เพราะถูกแม่ฉินขวางเอาไว้ นางโกรธอย่างที่สุด ฉินหนานลูกเวรจอมหักหลัง ถูกเซียวเฉวียนเกลี้ยกล่อมให้หลงจนไร้สติไปแล้วจริง ๆ!

ขันทีหม่าเห็นนางดื้อด้านเช่นนี้ จึงพูดขึ้นด้วยความจริงจัง “องค์หญิงใหญ่ โปรดอภัยที่บ่าวทำเกินกว่าเหตุ แต่ฝ่าบาทได้ออกคำสั่งแล้ว หากท่านยังคงทำเช่นนี้เกรงว่าจะไม่สมควร”

“ตอนนี้คุณชายฉินเฟิงกำลังฝึกหนักอยู่ที่รัฐไป๋ลู่ สักวันก็ต้องกลับมา เหตุใดท่านจึงคิดว่าเซียวเฉวียนไม่ให้เขากลับมา?”

“ชีวิตใต้เท้าเซียวแขวนอยู่บนเส้นด้าย บ่าวขอวิงวอนให้องค์หญิงใหญ่มีพระเมตตาด้วย!”

ขันทีหม่าร้องขอ แม่ฉินไม่สะทกสะท้าน

“ขันทีหม่า ในเมื่อว่าเจ้าก็รู้ว่าเจ้าทำเกินกว่าเหตุ อะไรควรมิควรพูดออกมา” แม่ฉินพูดอย่างเย็นชา “เจ้าควรหรือมิควรที่จะสั่งสอนองค์หญิงใหญ่ เจ้าไม่รู้งั้นหรือ?”

“…” ขันทีหม่าถูกนางใช้ฐานะบีบเสียจนพูดไม่ออก “บ่าวรู้ความผิดพะยะค่ะ”

“เหอะ”

แม่ฉินภูมิใจในสิ่งที่ทำ นี่ เกรงว่าเซียวเฉวียนจะภูมิใจในตัวเองเร็วไปหน่อย เขาคงไม่คิดว่าจะมีคราวที่ต้องร้องขอจวนฉินสินะ

วันพระไม่ได้มีหนเดียว วันนี้ถึงทีของตระกูลข้าเสียแล้ว

เซียวเฉวียน หากองค์หญิงเช่นข้าไม่ยอม เจ้าก็นอนรอความตายเสียเถอะ!

เจ้าคิดว่าได้เป็นราชบุตรเขย ได้เป็นเจ้าแห่งชิงหยวนก็จะลำพองงั้นรึ? สายตาแม่ฉินไร้ความสดใส นางนั่งอย่างสง่างาม เพื่อรอให้ท่านแม่ของเซียวเฉวียนมาขอร้องนางราวกับสุนัขตัวหนึ่งฮ่า ๆ ๆ

“รายงาน!”

ขณะนี้ ขันทีน้อยคนหนึ่งขี่ม้าเข้ามา “ขันทีหม่า! ฝ่าบาทประกาศให้ท่านกลับวังได้! พระองค์ทูลว่าไม่จำเป็นแล้ว แพทย์ทหารได้มุ่งหน้าไปยังพระราชวังแล้ว!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย