บทที่ 498 ความผิดพลาดอย่างมหันต์ – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย
ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 498 ความผิดพลาดอย่างมหันต์ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ณ พระราชวัง
เย่าเหล่าเหงื่อไหลพลั่ก เข็มเงินในมือแทงเข้าที่หัวของเซียวเฉวียนราวกับเม่น เซียวเฉวียนเจ็บปวดจนแยกเขี้ยวยิงฟันออกมา ด้วยเข็มที่ทิ่มเต็มศีรษะของเขา ทำให้เขาหายใจหอบแฮก ๆ “ท่าน ท่านหมอ ท่านจัดการได้หรือไม่?”
หากทำไม่ได้ เช่นนั้นก็เอาไม้มาตีเขาให้สลบเสียเถอะ ยังดีเสียกว่าเจ็บปวดราวกับมีลูกศรนับพันแทงทะลุหัวใจในตอนนี้
ในตอนนั้นเอง ผู้คนทั้งหมดต่างพากันถอยออกไปหมดแล้ว ฮ่องเต้และเหล่าหมอหลวงต่างก็ออกจากพระราชวังฉางหมิงจนหมด
ในพระราชวังเหลือเพียงชิงหลง เย่าเหล่าและเซียวเฉวียน นั่นเป็นเพราะเย่าเหล่าบอกว่า ตอนนี้อาการของเซียวเฉวียนอันตรายมาก ไม่ควรให้มีผู้คนมากมายคอยห้อมล้อม ดังนั้นฮ่องเต้จึงทรงนำคนอื่น ๆ ถอยออกไปอย่างเด็ดขาด
เพื่อขุนนางเพียงผู้เดียว ฮ่องเต้กลับยอมถอยออกจากพระราชวัง นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เหล่าหมอหลวงต่างพากันแอบอิจฉาอยู่ในใจ ในกลุ่มของพวกเขามีบางคนอยู่กับฮ่องเต้มานานหลายปี ไม่เคยพบว่าฮ่องเต้ทรงดีต่อใครในพวกเขาได้เช่นนี้อีกแล้ว
เซียวเฉวียนเป็นคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ในราชสำนัก แต่สามารถได้รับความรักและความชื่มชมเช่นนี้จากฮ่องเต้ พวกเขาแทบอดไม่ได้ที่อยากจะเป็นคนป่วยเสียเอง
พวกเขาเพ้อฝันมากไปเสียแล้ว หากผู้ที่ล้มป่วยคือพวกเขาละก็ ฮ่องเต้ก็จะมีคำสั่งอีกอย่างแน่นอน ฮ่องเต้จักต้องโบกมือเพื่อบอกว่า : แบกออกไป เอาไปรักษาซะ
“เย่าเหล่า เป็นอย่างไรบ้าง?”
ชิงหลงถามอย่างเป็นกังวลใจ เซียวเฉวียนป่วยหนัก และผนึกจูเสินก็แตกเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย นี่จะต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่
เซียวเฉวียนเริ่มจากการก่อไฟครั้งแรกบนเกาะจูเสิน ตอนนี้ก็สามารถทำให้ผนึกจูเสินเกิดการเปลี่ยนแปลงได้อีก เช่นนั้นเขาต้องสามารถทำลายผนึกจูเสินได้อย่างแน่นอน การกดขี่ชาวเทือกเขาคุนหลุนและทาสคุนหลุนในทุก ๆ รุ่นจะต้องถูกกำจัดให้สิ้นซาก
ดังนั้น เซียวเฉวียนจะเป็นอะไรไปไม่ได้
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ชิงหลงจะต้องช่วยชีวิตเขาให้ได้!
“เจ้าชาย” เย่าเหล่าเช็ดเหงื่อที่ไหลพลั่ก “ข้าตรวจชีพจรและวิเคราะห์โรคของเขาแล้ว มีความเห็นตรงกับหมอหลวงของต้าเว่ย ดูจากสัญญาณชีพของใต้เท้าเซียว เลือดลมปราณไหลเวียนดีขอรับ ใต้เท้าเซียวไม่เพียงแต่ไม่ป่วย แต่ร่างกายก็แข็งแรงมากอีกด้วย”
“พวกเจ้ามันเป็นหมอไร้ฝีมือ…” เซียวเฉวียนที่ปวดหัวจนแทบระเบิด อดไม่ได้ที่จะพูดแซะออกมา เขาเจ็บปวดเจียนตายอยู่รอมร่อ แต่หมอพวกนี้กลับพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ว้าว เจ้าแข็งแรงจังเลย
เย่าเหล่าตกใจจนมือไม้สั่นเทิ้ม หมอ หมอไร้ฝีมืองั้นหรือ? ผู้เฒ่าท่านนี้โกรธกระหืดกระหอบ
ขึ้นมาเล็กน้อย ผู้คนต่างพูดว่าเขาเป็นเซียนหมอ แต่เซียวเฉวียนกลับเปรียบเทียบเขากับหมอไร้ฝีมือไม่มีความรู้ความสามารถ!
หากไม่มีชิงหลงซึ่งเป็นเจ้าชายอยู่ด้วย เย่าเหล่าคงหันหลังเดินออกไปแล้ว
ทว่าเย่าเหล่าถูกต่อว่าจนไร้คำจะพูดต่อ อย่างไรซะ เขาก็ตรวจไม่เจอสิ่งใดอยู่แล้ว...
เย่าเหล่าเคยได้ยินชื่อเสียงของเซียวเฉวียนอยู่บ้าง รู้ว่าเขาเป็นนายท่านที่ไม่เป็นที่ชื่นชอบที่สุดในเมืองหลวง แม้จะมีความรู้และความสามารถ แต่แม่ฉินบอกว่า คนผู้นี้ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย
วันนี้หากเขาไม่เห็นแก่หน้าเจ้าชาย คนที่นิสัยอย่างเซียวเฉวียน อย่าว่าแต่ตรวจชีพจรให้เขาเลย แค่โดนมือเซียวเฉวียนเพียงเล็กน้อย เขาก็ไม่ยินดี
“เจ้าชาย ท่านเพิ่งเข้ามาในเมืองหลวง เกรงว่าท่านจะไม่รู้ว่าบุคคลผู้นี้มีนิสัยแย่นัก เหตุใดท่านจึงต้องลำบากมาช่วยชีวิตเขาด้วยเล่า? หากเพื่อต้องการหาผู้ที่มีความสามารถ ต้าเว่ยขาดคนแบบไหนกัน” เย่าเหล่าพูดด้วยน้ำเสียงที่รังเกียจ และพูดจริงจังมากขึ้นในทุก ๆ ประโยค “เซียวเฉวียนผู้นี้ชอบสร้างสถานการณ์ขู่ขวัญตบตาเป็นที่สุด ท่านอย่าให้เขาหลอกลวงท่านได้นะขอรับ”
เนื่องจากแม่ฉินมักจับผิดในทุกการกระทำของเซียวเฉวียน ภาพลักษณ์ของเซียวเฉวียนในสายตาของเย่าเหล่า จึงแย่มากเสียจนไม่อาจรับได้
ให้ตายเถอะ? แม้เซียวเฉวียนจะเจ็บปวดอย่างมากจากการพยายามฝืนยกร่างขึ้น แต่ก็ไม่อาจเป็นอุปสรรคในการกลอกตามองบนให้แก่เย่าเหล่า เขาเป็นเช่นนี้แล้ว มิหนำซ้ำยังต้องถูกหมอผู้หนึ่งพูดจาเยาะเย้ยฉีกหน้า ความมีเมตตาของหมออยู่ที่ใดกัน?
ชีวิตนี้ของเซียวเฉวียน ไม่ว่าเวลาใดก็ไม่เคยขาดคนดูถูกดูแคลนเลยจริง ๆ
“เย่าเหล่า!” ชิงหลงขมวดคิ้วแน่น เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจในสิ่งที่เย่าเหล่าพูด “เจ้าเห็นในมือของเขาหรือไม่?”
ในมืองั้นรึ?
เย่าเหล่าเลื่อนสายตาไปมอง
ตั้งแต่เขาเข้ามา เซียวเฉวียนพยายามฝืนพยุงร่างกายของเขาไว้ครึ่งหนึ่ง และร่างกายของเขาก็สั่นคลอนไปทั่วทั้งตัว แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังถือพู่กันไว้ในมือ
ด้านหน้าของเขาวางกระดาษแผ่นหนึ่งไว้ ด้านบนกระดาษมีชื่อที่ยังเขียนไม่เสร็จ
จึงสามารถมองออกว่า เซียวเฉวียนพยายามที่จะยกมือขึ้น เพื่อเขียนชื่อนั้นให้เสร็จจนได้
เย่าเหล่ารู้ดีว่าตอนนี้เขาเจ็บปวดมากเพียงใด จักต้องเหมือนกับมีศรนับพันแทงเข้าที่หัวใจ และมีหุบเขาลูกใหญ่บีบทับไว้ ร่างกายของเขารู้สึกราวกับว่ากำลังจะถูกบดขยี้
สิ่งนี้มากพอที่จะพิสูจน์ได้ว่า สิ่งที่คุมขังชาวคุนหลุนมารุ่นต่อรุ่นเริ่มคลี่คลายลงแล้ว
“อะไรนะ?” เย่าเหล่าขนลุกไปทั่วทั้งตัว จู่ ๆ วันนี้เขาก็รู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อย กลางหน้าอกก็ร้อนรุ่มขึ้นมา คิดนึกว่าเป็นเพราะอากาศที่ร้อนอบอ้าว นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเพราะผนึกจูเสิน!
ชิงหลงกดเสียงพูดต่ำลง “ผนึกจูเสินที่ผนึกชาวคุนหลุนไว้ จักต้องมีสักวันที่แตกสลายเพราะเซียวเฉวียน! ดังนั้นเย่าเหล่า ตอนนี้เจ้ารู้แล้วหรือไม่ว่าเซียวเฉวียนสำคัญเพียงใด? ไม่สามารถรักษาเหมือนบุคคลทั่วไปได้ เจ้ารีบหาทางรักษาเสียเถอะ!”
เย่าเหล่าหนาวสะท้านไปทั้งตัว ไม่แปลกที่เจ้าชายให้ความสำคัญกับเซียวเฉวียนเช่นนี้ พูดว่าเซียวเฉวียนคือพระผู้ช่วยให้รอดของชาวคุนหลุนก็ไม่มากเกินไป!
และเมื่อครู่ เขากลับทำกิริยาจาบจ้วง!
เขาก้มหัวลงต่อหน้าเซียวเฉวียน “เจ้าชาย ขออภัยด้วย! ข้าผิดไปแล้ว! ผิดพลาดอย่างมหันต์!”
“ไม่เป็นไร แต่ว่า...”
“ข้าว่า… พวกท่านเลิกคุยกันก่อนได้หรือไม่? พวกเราทำการรักษาก่อน ดีหรือไม่?”
เซียวเฉวียนไม่อาจทนไหวแล้วจริง ๆ เขามองพวกเขาคุยกัน ตอบรับกันไปมาคนละประโยคสองประโยค ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดพระเอกในละครจึงต้องตาย ก็เพราะเพื่อนพวกนี้มัวแต่คุยกันอยู่ไงเล่า!
“อ้อ ๆ ๆ!” เย่าเหล่าเปลี่ยนท่าทีที่มีเมื่อครู่ “ใต้เท้าเซียว พวกเราทำการตรวจวินิจฉัยโรคตามหลักแพทย์จีนโบราณกันใหม่นะขอรับ ใต้เท้าเซียว รบกวนท่านนึกให้ละเอียดถี่ถ้วนว่า ท่านเริ่มมีอาการเมื่อใด? กินอะไรเข้าไป หรือทำอะไรบ้างขอรับ?”
เขาเรียกว่าท่านไม่หยุดปาก เรียกจนเซียวเฉวียนไม่ชินขึ้นมาเสียอย่างนั้น ทว่าตอนนี้เขาไม่สามารถโกรธคนผู้นี้ได้ เพราะยังต้องขอร้องให้เขาช่วยชีวิตอยู่
“เป็น เป็นเพราะมัน”
เซียวเฉวียนชี้ เขาชี้ไปยังชื่อที่เขียนด้วยเลือดของว่านโหลว
“ข้าขอดูหน่อย” เย่าเหล่าเริ่มใช้ทุกเสี้ยววินาทีในการวิเคราะห์สาเหตุ
ในขณะนั้นเอง มีเสียงดังโวยวายมาจากด้านนอก มีผู้ที่ต้องการเอาชีวิตของเซียวเฉวียน
ผู้คนกลุ่มนั้นตำหนิเสียงสูง “ฝ่าบาท! เซียวเฉวียนเป็นเพียงขุนนางระดับสี่ในราชสำนัก! จักให้อยู่ลำพังในพระราชวังฉางหมิงได้อย่างไร!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...