ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 501

สรุปบท บทที่ 501 อักษรขีดสุดท้าย: ซูเปอร์ลูกเขย

บทที่ 501 อักษรขีดสุดท้าย – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย

ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 501 อักษรขีดสุดท้าย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“พวกเจ้าทำไมทอดทิ้งเจ้านายของข้า!”

พอเสียงคำรามของไป่ฉีซึ่งคุกเข่าอยู่ดังขึ้น พลังอาฆาตกระเพื่อม ก้อนหินดินทรายปลิวว่อน พายุลมแรงกดดันจนเหมิงเอ้าถอยตัวไป!

”ไป่ฉี!”

เหมิงเอ้าตกใจ เกิดอะไรขึ้น! ทอดทิ้ง? ใครทอดทิ้ง?

หรือว่าเจ้านายตกอยู่ในอันตราย?

แต่ทำไมเขาไม่รู้สึกอะไรเลย?

"ดาบจิงหุน! มานี่!"

ไป่ฉีลั่นคำสั่ง ดาบจิงหุนทั้งหมดของผู้อารักขาที่อยู่ในจวนเซียวถูกไป่ฉีเรียกมาหมด!

แม้แต่ดาบของเหมิงเอ้าก็ไม่เว้น!

ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆดำครึ้ม ท้องฟ้าเดิมทีมีแสงแดดเจิดจ้าในฤดูร้อน ทันใดนั้นมีเมฆดำมืดมารวมกลุ่มกัน

"เกิดอะไรขึ้น!"

เจ้าสิบหกนำเจ้าหนึ่งถึงเจ้าสิบวิ่งมาหา เมื่อตะกี้ดาบจิงหุนที่อยู่ในมือของพวกเขาจู่ๆ ถูกชักออกไป บินไปสู่สถานที่แห่งเดียวกันอย่างรวดเร็ว พวกเขาจึงรีบไล่ตามมันถึงนี่!

พอมาถึง พวกเขาถึงกับช็อก!

ดาบจิงหุนทั้งสิบสองเล่มของบรรดาผู้อารักขาไม่ได้ถืออยู่ในมือของไป่ฉี แต่บินวนเวียนอยู่รอบๆ ตัวไป่ฉี

แรงอาฆาตของไป่ฉีนั้นทรงพลังมากจนเขาสามารถควบคุมวิถีและทิศทางของดาบจิงหุนทุกเล่มได้อย่างแม่นยำ!

ดาบจิงหุนสิบสองเล่ม เหมือนวงกลมสามมิติ ห้อยอยู่เหนือตัวไป่ฉี!

แรงอาฆาตนั้นเข้มข้นมากถึงขนาดที่พวกของเจ้าสิบหกซึ่งไม่ได้มารวมอยู่ใกล้กัน ผิวหนังโดนบาดจนเจ็บจากขอบของแรงอาฆาตนั้น!

”ไป่ฉี! นี่ เจ้ากำลังทำอะไรอยู่!”

เจ้าสิบหกผู้รับผิดชอบความปลอดภัยของจวนเซียวคำรามเสียงดัง

ไป่ฉีที่กำลังคุกเข่าและมือจับหน้าอกค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ทุกการเคลื่อนไหวมีพลังอย่างมาก ซึ่งเห็นได้ที่กล้ามเนื้อของเขาอยู่ในสภาพที่ดีเยี่ยม

เขาหันศีรษะกลับมาอย่างแผ่วเบา ทำให้เหมิงเอ้าและเจ้าสิบหกถอยหลังหนึ่งก้าวด้วยความตกใจ

ดวงตาทั้งคู่ของไป่ฉีเป็นสีแดงเลือด แรงอาฆาตกระเพื่อม ในดวงตาของเขาไม่เห็นมีอารมณ์แม้แต่นิด ไม่มีแสงประกายแม้แต่น้อย!

ยิ่งไปกว่านั้น มีรอยสัญลักษณ์สีแดงเลือดปรากฏขึ้นระหว่างคิ้วของเขา!

สีแดงเลือดเข้มสุดๆ!

เหมิงเอ้าตกตะลึง "ไป่ ไป่...... ฉี?"

ไป่ฉีดูเหมือนจะไม่ได้ยินอะไรอย่างแปลกๆ ยืนเงียบๆ ตรงที่เดิม เหมือนกำลังคอยให้คนมาเรียกอยู่ตลอดเวลา

ดวงตาสีแดงเลือดคู่นั้นเต็มไปด้วยความโกรธเคืองและความเคียดแค้น ในตานั้นเป็นทะเลเพลิงของนรก

”ไป่ฉี!” เหมิงเอ้าตะโกนอย่างเป็นห่วง

ไป่ฉียืนนิ่งเฉยๆ ไม่โต้ตอบใดๆ

แต่ทุกคนก็ตกใจแล้ว

ไป่ฉีเป็นเหมือนเทพเจ้าแห่งสงครามร่างสูงสงบเงียบ ดาบจิงหุนหมุนไปมาเหนือตัวเขา กลิ่นอาฆาตโชยมากระทบหน้า เหมือนกำลังเป่าแตรดังขึ้นเพื่อให้ออกไปฆ่ารบกัน

แต่เขาดูกำลังรออะไรอยู่

กำลังรออะไรอยู่หรือ

ที่พระราชวัง

"ทำไมมาบีบบังคับถึงขนาดนี้"

ชิงหลงคำรามและยืนขวางหน้าประตูของตำหนักฉางหมิง!

องครักษ์และเจ้าหน้าที่เอี๋ยนกวนที่อยู่ด้านนอกมาชนประตูตำหนักอย่างบ้าคลั่ง "เซียวเฉวียน! ออกมา!"

”ออกมาเร็วเข้า!”

“เจ้ามีสิทธิอะไรที่จะอยู่ในนั้น!”

“นี่มาลบหลู่หน้าตาของโอรสสวรรค์แท้ๆ!”

ชิงหลงถือดาบอันคมกริบในมือ สร้างสิ่งกำบังขึ้นภายในตำหนัก! เพื่อพยายามสกัดกั้นการโจมตีของพวกนั้น!

ผู้เฒ่าแห่งภูเขาคุนหลุนเคยเตือนชิงหลงอย่างเคร่งขรึมว่าเนื่องจากการมีอยู่ของตราประทับจูเสิน ห้ามมิให้มีจิตใจก่อกบฏอย่างเด็ดขาด

หากชาวคุนหลุนมีจิตใจคิดก่อการกบฏ ตราประทับจูเสินจะปราบปรามชาวคุนหลุน กรณีขนานเบา เส้นเอ็นหลอดเลือดขาดสิ้น ไร้ยารักษา พิการไปตลอดชีวิต กรณีขนานหนักก็ถึงแก่ชีวิต!

เขาไม่สามารถสังหารหมู่เจ้าหน้าที่ของต้าเว่ยได้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นกบฏ!

ดังนั้น ชิงหลงจึงทำได้เพียงอยู่ในท่าทีระวังตัวเองและการป้องกัน พยายามซื้อเวลามากขึ้นให้กับเย่าเหล่าและเซียวเฉวียน!

แต่ว่า เขาใกล้จะขวางไม่อยู่แล้ว!

เพราะเจ้าหน้าที่เอี๋ยนกวนสองร้อยคนต่างเรียกผู้อารักขาของตัวเองออกมาชนิดที่คาดไม่ถึง!

ดังนั้น กำลังต่อสู้ที่เพิ่มขึ้นมหาศาลของพวกผู้อารักขาและองครักษ์จึงเข้าชนประตูตำหนักอย่างบ้าคลั่ง ไทเฮาและแม่ฉินเฝ้ามองอย่างเย็นชา เศษไม้เหนือประตูร่วงลงมาแล้ว อีกสักครู่ ประตูคงถูกกระแทกพังจนเปิดออก !

แต่มือของผู้มีอำนาจก็ไม่ปล่อยเขาไป

หลังจากที่ข่งเฉิงเย่ถูกเนรเทศ พ่อและแม่บุญธรรมของเขาต้องทนทุกข์ทรมานจากความโศกเศร้าและเสียชีวิตด้วยภาวะซึมเศร้า คู่หมั้นของเขาหมดที่พึ่งทางใจจึงเดินทางข้ามภูเขาและแม่น้ำโดยหวังว่าจะพบคู่หมั้นที่รักของเธอบนเกาะจูเสิน แต่เธอก็เจ็บป่วยเสียชีวิตในระหว่างทาง

เซียวเฉวียนน้ำตาซึม เขาไม่เข้าใจ เขาชำระล้างความอยุติธรรมแทนข่งเฉินเย่นั้นผิดตรงไหน?

เหตุใดตราประทับจูเสินจึงมาตอบโต้เขา!

หรือว่าตราประทับจูเสินนั้นเหมือนกับตราประทับเหวินอิ้นของราชวงศ์ มีไว้ปกป้องแต่ผู้มีอำนาจของต้าเว่ย?

ฮ่า! ตอบโต้?

เซียวเฉวียนน้ำตาซึม ด้วยความเจ็บปวดในร่างกายอย่างรุนแรง ทั้งรู้สึกเสียใจกับทั้งแปดคนนี้ เขายืนหยัดไม่ปล่อยให้น้ำตาต้องร่วงสู่พื้น ถูกต้อง เขาจะไม่ให้น้ำตาร่วงลงพื้น!

ถ้าจะให้ร่วง ต้องเป็นน้ำตาของผู้รวยมีอำนาจโน่น!

ถ้าจะร้องไห้! ต้องเป็นผู้รวยมีอำนาจโน่น!

“พู่กันจินหลุนเฉียนคุน......จงฟังคำสั่ง!” เซียวเฉวียนตัวสั่นเทา มือกำพู่กันเฉียนคุน โต้สวนตราประทับจูเสินพลังมโหฬารที่มองไม่เห็น ท่องบทกวีด้วยเสียงสั่นเทา “เขาเขียวมีบุญฝังพลภักดิ์ เหล็กขาวไฉนฝืนหล่อคนเลว!”

นี่คือบทโคลงคู่หนึ่งของจีน เป็นการประเมินคุณค่าที่เหมาะสมที่สุดถึง เยว่เฟย ขุนนางจงรักภักดี และ ฉินฮุ่ย ขุนนางทรยศชั่วร้ายในประวัติศาสตร์

ความหมายของโคลงคู่คือ เขาเขียวมีบุญวาสนาจริงๆ ที่มีกระดูกของขุนนางผู้จงรักภักดีชื่อเยว่เฟยได้มาฝังอยู่ แต่เหล็กขาวไปทำผิดอะไรมากลับต้องถูกนำไปหล่อทำเป็นรูปปั้นของขุนนางผู้ประจบประแจงชั่วร้ายอย่างฉินฮุ่ย

เซียวเฉวียนก็เช่นเดียวกับคนรุ่นหลังของจีน รู้ดีว่าข่งเฉิงเย่และพวกมีสภาพดั่งเช่นเยว่เฟย ล้วนเสียชีวิตเพราะถูกใส่ความ เซียวเฉวียนกำลังจะบอกวิญญาณที่ตายแล้วเหล่านี้ว่า ชาวต้าเว่ยจะมีสายตาที่ขาวสว่างอย่างแน่นอน

พู่กันเฉียนคุนเรืองแสงสีแดงสว่าง มือที่สั่นเทาของเซียวเฉวียนก็เขียนไปทีละขีด!

เขาเจ็บปวดจนขากรรไกรสั่นระริก "เฉิงเย่...... ข้าเป็นเจ้าของของชิงหยวน ข้ารู้ว่าเจ้าภักดีต่อจักรพรรดิและมีความรักชาติ วันนี้มาสะสางคืนความยุติธรรมให้เจ้า! ขอบคุณ...... ขอบคุณสำหรับผลงานที่คืนความสงบให้เมืองไป๋ลู่ จงสู่สุคติเทอญ!” สาธุ!”

มือของเซียวเฉวียนสั่นอย่างบ้าคลั่ง ขีดหนึ่ง ขีดหนึ่ง ข่ง...... เฉิง......

"แป๊ก!"

พู่กันเฉียนคุนซึ่งกำลังส่งเสียงปริร้าวอยู่ ส่งเสียงดังยิ่งขึ้น

เซียวเฉวีนกัดฟัน ไม่ยอมให้ข้าเขียนเหรอ?

ข้ายิ่งจะเขียน!

เขาจับพู่กันเฉียนคุนไว้แนบแน่น อดทนความเจ็บปวดสาหัสที่เกือบจะทำให้เขาหมดสติ เขียนขีดสุดท้ายของตัวว่า "เย่" จนเสร็จ!

ขีดสุดท้าย!

เย่าเหล่าดีใจ ดี! ดี! ดี!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย